ฟังคลิปนี้แล้วทำให้เห็นมุมที่ว่า จะเป็นการยุยง ปลุกปั้นในสมาคมเทควันโดซะละมั้ง
เพราะโค็ชเชทำงานได้ดีตลอด จึงไม่มีโอกาสให้คนอื่นได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าโค็ชเลย
หัวหน้าโค้ชรับเงินแค่หกหมื่น ผู้ช่วยได้คนละ 2 หมื่น มีเงินบำรุงอีก 15,000 รวมไม่ถึง 40,000 บาท
แต่ถ้าหัวหน้าโค็ชไม่ใช่ โค็ชเช แต่เป็นคนอื่น? ใครได้ประโยชน์ ?
น่าสนใจว่า หัวหน้าโค็ชมีสิทธิ์ของบ จัดงบ บริหารงบ ด้วยหรือป่าว? (ผมเดาว่ามี ไม่มากก็น้อย อยู่ที่การจัดโปรแกรมฝึกซ้อมและอื่นๆ) ถ้ามี ก็คงมีคนอยากได้ตำแหน่งนี้ และก็คงมีหลายคน ที่อยากให้คนอื่นได้ตำแหน่งนี้ เม็ดเงินจะได้กระเด็นกระดอนออกมาบ้าง ดูตัวอย่าง มีโค็ช ตั้ง 3 คนลาออก ปี 56 แสดงว่า เงินมันไม่พอใช้ ไม่ได้กล่าวหาว่าโค็ชที่ลาออกนะครับ แต่ละคนก็ต้องกินต้องใช้ เมื่อสมาคมตั้งเงินเดือนที่ไม่เหมาะสม คนทำงานก็ทำด้วยความสุขไม่ได้ ส่วนคนที่หาประโยชน์ก็อาจจะพยายามใช้ประเด็นนี้มาหาพวกเพื่อขับไล่โค็ชเช
ตัวอย่างการ มโนเอง เช่น ถ้าโค็ชเชไปแล้วมีใครสักคนได้เป็นโค็ชคนใหม่ จะมีเงินสนับสนุนให้คนอื่นๆ เพิ่มขึ้น อาจจะตัดมาจากงบที่ โค็ชเชอาจจะ เคยใช้จ่ายอย่างระมัดระวังให้เกิดประโยชน์สูงสุด จนไม่มีใครได้ประโยชน์ก็เป็นได้
สรุปคราวๆก็ประมาณ
1. น้องก้อยทำผิดโดนลงโทษ (เหมือนบอลที่ กลิ้งๆมาหลุ่นๆเข้าตีน ไอคนที่รอเตะก็สับไกซิครับ โอกาสฟรีๆ) ก็ยุน้องก้อยซะเลย อาจจะบอกว่ามีคนสนับสนุนเยอะ
2. น้องก้อยผู้มีอีโก้สูงอย่างแรง ก็ใส่ไข่ แต่งแต้มสีสรร เล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ที่รักลูกมากๆฟัง ก็ทนไม่ได้ เรื่องเลยปะทุ ส่วนไอคนใส่ไฟก็รอดู ลุ้นว่าจะได้ประโยชน์อะไรไหม ถ้าไม่ได้ ก็ไม่เดือดร้อนเพราะ คนที่เดือนร้อน คือเด็กที่ไม่มีการคิดไตรตร่องให้ดี เลยถูกใช้เป็นเครื่องมือการเมืองในสมาคม ฟรีๆด้วยนะ
3. โค้ชเชไม่แน่ใจกระแส ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ก็รอดูข่าวที่เกาหลีก่อน แต่ถ้ากลับมาต่อไปนี้ก็คงจ้องอยู่แบบหวาดๆ ระแวงๆ จะโดนเสียบ ไม่รู้ใครมิตรใครศัตรู จะอยู่ได้นานแค่ไหน ยังดีที่มีลูกศิษย์ดีๆเยอะคอยสนับสนุน
4. ไอคนที่รอเสียบก็ได้บทเรียนว่าครั้งหน้าต้องรุนแรงกว่านี้ หรือไม่ก็ต้องทำให้เกิดบ่อยๆ ทำลายชื่อเสียงมันไปช้า เพราะคนรักโค้ชเชมีเยอะ ต้องค่อยๆเเซะ
5.พวกที่เป็น อีกา รอเศษเดนผลประโยชน์ก็คงเริ่มลังเล ว่าได้เนื้อก็ไม่เต็มที่ แต่ถ้าโดนแฉนี้ซวยเหมือนอีน้องก้อยแน่ๆ
6. ทุกคนได้บทเรียนกันไป แต่ถ้าประเทศไทยยังไร้ระเบียบ ยังเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองเป็นสำคัญ ขาดจิตวิญญาณแบบพวกที่แพ้สมคราม(ญี่ปุ่น) ประเทศที่เคยอดอยากและล้าหลัง (เกาหลีใต้) เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา และกับทุกวงการ
ตราบใดที่มีการแซงคิว มีตัวอย่างการทิ้งขยะลงพื้นในที่สาธรณะอย่างไม่อาย การฝ่าไฟแดงเพราะไม่มีคนเห็น การกระทำที่เราคิดว่าไม่สำคัญเหล่านี้ เป็นเครื่องบ่มเพราะและเป็นตัวอย่างความมักง่ายให้คนรุ่นต่อๆไปคิดว่า ไม่เป็นไรหรอกเรื่องเล็กแค่นี้ ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรหรอก ประเทศไทยก็ไม่เป็นไรหรอก ที่จะเป็นประเทศกำลังพัฒนามาตลอดและยังไม่พัฒนาเสียที ก็เพราะคำว่าไม่เป็นไรหรอก นิดเดียวเอง นี้แหละ
บอกเลยแก้ไม่ได้หรอก แม่พิมพ์(ผู้ใหญ่มักง่ายในประเทศไทยประมาณ 99% มโน% เอง ) ยังไม่ดี ขนมที่อบออกมาก็ต้องเละเทะตามแม่พิมพ์อยู่ดี
ถ้าคุณไม่ยอมรับ ลองไปถามคนญี่ปุ่นดูซัก 10 คน ว่ามีใครเคยแซงคิว และเขาทำบ่อยแค่ไหนตั้งแต่เกิดมา ลองเทียบกับคนไทยดู แล้วจะรู้ว่าคุณภาพความมักง่ายมันต่างกันแค่ไหน
ปล ฝากถึงพ่อ-แม่น้องก้อยนิดนึง
หวังว่าพวกคุณจะเป็นตัวอย่างของพ่อแม่ที่รักลูกแบบผิดๆ ให้คนอื่นๆได้เรียนรู้ เพื่อได้เกิดประโยชน์ในอนาคต
คุณได้ทำลายสิ่งเดียวที่ลูกสาวคุณเก่งที่สุดและทุ่มเทที่สุดลงไปเพราะคำว่า "รัก" ในความหมายของคุณเอง
คุณเชื่อลูกโดยขาดการไตร่ตร่อง คุณทำตามอารมณ์โดยไม่คิดถึงอนาคตลูก
คุณไม่ได้ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะคุณเป็นชาวบ้านที่ เลี้ยงลูกเพียงเพราะคำว่า "รัก" ที่คุณคิดว่าเข้าใจถูกต้อง
คุณจะได้เรียนรู้มากขึ้นกับสิ่งที่คุณทำลงไป และหวังว่าจะเป็นบทเรียนที่ดีเพียงพอจะทำให้คำว่า "รักลูกของพวกคุณเปลี่ยนไป"
ในเวลาที่พวกคุณเหลืออีกไม่กี่สิบปี ขอให้คุณได้ใช้คำว่ารักลูกของคุณ ได้ถูกต้องเสียที
ด้วยความหวังดี
เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่อง มโนเรื่อยเปื่อย ก็แล้วแต่ใจว่าอยากเชื่ออะไรกัน เชิญตามสะดวกดาย ราตรีสวัสดิ์
Note 1: โพสต์ครั้งแรกเมื่อคืนเกือบตีหนึ่ง อันนี้ ขอลองรีโพสใหม่ครับ ผิดกฏหรือป่าวไม่รู้ เสียดายอุตสาห์เขียนกว่าจะเสร็จก็ตี 1 ล่ะ
ลิงค์เก่า
http://www.ppantip.com/topic/32338335
มโนเองว่า เรื่องน้องก้อย สงสัยจะการเมืองในสมาคมเทควันโดซะละมั้ง ?
ฟังคลิปนี้แล้วทำให้เห็นมุมที่ว่า จะเป็นการยุยง ปลุกปั้นในสมาคมเทควันโดซะละมั้ง
เพราะโค็ชเชทำงานได้ดีตลอด จึงไม่มีโอกาสให้คนอื่นได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าโค็ชเลย
หัวหน้าโค้ชรับเงินแค่หกหมื่น ผู้ช่วยได้คนละ 2 หมื่น มีเงินบำรุงอีก 15,000 รวมไม่ถึง 40,000 บาท
แต่ถ้าหัวหน้าโค็ชไม่ใช่ โค็ชเช แต่เป็นคนอื่น? ใครได้ประโยชน์ ?
น่าสนใจว่า หัวหน้าโค็ชมีสิทธิ์ของบ จัดงบ บริหารงบ ด้วยหรือป่าว? (ผมเดาว่ามี ไม่มากก็น้อย อยู่ที่การจัดโปรแกรมฝึกซ้อมและอื่นๆ) ถ้ามี ก็คงมีคนอยากได้ตำแหน่งนี้ และก็คงมีหลายคน ที่อยากให้คนอื่นได้ตำแหน่งนี้ เม็ดเงินจะได้กระเด็นกระดอนออกมาบ้าง ดูตัวอย่าง มีโค็ช ตั้ง 3 คนลาออก ปี 56 แสดงว่า เงินมันไม่พอใช้ ไม่ได้กล่าวหาว่าโค็ชที่ลาออกนะครับ แต่ละคนก็ต้องกินต้องใช้ เมื่อสมาคมตั้งเงินเดือนที่ไม่เหมาะสม คนทำงานก็ทำด้วยความสุขไม่ได้ ส่วนคนที่หาประโยชน์ก็อาจจะพยายามใช้ประเด็นนี้มาหาพวกเพื่อขับไล่โค็ชเช
ตัวอย่างการ มโนเอง เช่น ถ้าโค็ชเชไปแล้วมีใครสักคนได้เป็นโค็ชคนใหม่ จะมีเงินสนับสนุนให้คนอื่นๆ เพิ่มขึ้น อาจจะตัดมาจากงบที่ โค็ชเชอาจจะ เคยใช้จ่ายอย่างระมัดระวังให้เกิดประโยชน์สูงสุด จนไม่มีใครได้ประโยชน์ก็เป็นได้
สรุปคราวๆก็ประมาณ
1. น้องก้อยทำผิดโดนลงโทษ (เหมือนบอลที่ กลิ้งๆมาหลุ่นๆเข้าตีน ไอคนที่รอเตะก็สับไกซิครับ โอกาสฟรีๆ) ก็ยุน้องก้อยซะเลย อาจจะบอกว่ามีคนสนับสนุนเยอะ
2. น้องก้อยผู้มีอีโก้สูงอย่างแรง ก็ใส่ไข่ แต่งแต้มสีสรร เล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ที่รักลูกมากๆฟัง ก็ทนไม่ได้ เรื่องเลยปะทุ ส่วนไอคนใส่ไฟก็รอดู ลุ้นว่าจะได้ประโยชน์อะไรไหม ถ้าไม่ได้ ก็ไม่เดือดร้อนเพราะ คนที่เดือนร้อน คือเด็กที่ไม่มีการคิดไตรตร่องให้ดี เลยถูกใช้เป็นเครื่องมือการเมืองในสมาคม ฟรีๆด้วยนะ
3. โค้ชเชไม่แน่ใจกระแส ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ก็รอดูข่าวที่เกาหลีก่อน แต่ถ้ากลับมาต่อไปนี้ก็คงจ้องอยู่แบบหวาดๆ ระแวงๆ จะโดนเสียบ ไม่รู้ใครมิตรใครศัตรู จะอยู่ได้นานแค่ไหน ยังดีที่มีลูกศิษย์ดีๆเยอะคอยสนับสนุน
4. ไอคนที่รอเสียบก็ได้บทเรียนว่าครั้งหน้าต้องรุนแรงกว่านี้ หรือไม่ก็ต้องทำให้เกิดบ่อยๆ ทำลายชื่อเสียงมันไปช้า เพราะคนรักโค้ชเชมีเยอะ ต้องค่อยๆเเซะ
5.พวกที่เป็น อีกา รอเศษเดนผลประโยชน์ก็คงเริ่มลังเล ว่าได้เนื้อก็ไม่เต็มที่ แต่ถ้าโดนแฉนี้ซวยเหมือนอีน้องก้อยแน่ๆ
6. ทุกคนได้บทเรียนกันไป แต่ถ้าประเทศไทยยังไร้ระเบียบ ยังเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองเป็นสำคัญ ขาดจิตวิญญาณแบบพวกที่แพ้สมคราม(ญี่ปุ่น) ประเทศที่เคยอดอยากและล้าหลัง (เกาหลีใต้) เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา และกับทุกวงการ
ตราบใดที่มีการแซงคิว มีตัวอย่างการทิ้งขยะลงพื้นในที่สาธรณะอย่างไม่อาย การฝ่าไฟแดงเพราะไม่มีคนเห็น การกระทำที่เราคิดว่าไม่สำคัญเหล่านี้ เป็นเครื่องบ่มเพราะและเป็นตัวอย่างความมักง่ายให้คนรุ่นต่อๆไปคิดว่า ไม่เป็นไรหรอกเรื่องเล็กแค่นี้ ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรหรอก ประเทศไทยก็ไม่เป็นไรหรอก ที่จะเป็นประเทศกำลังพัฒนามาตลอดและยังไม่พัฒนาเสียที ก็เพราะคำว่าไม่เป็นไรหรอก นิดเดียวเอง นี้แหละ
บอกเลยแก้ไม่ได้หรอก แม่พิมพ์(ผู้ใหญ่มักง่ายในประเทศไทยประมาณ 99% มโน% เอง ) ยังไม่ดี ขนมที่อบออกมาก็ต้องเละเทะตามแม่พิมพ์อยู่ดี
ถ้าคุณไม่ยอมรับ ลองไปถามคนญี่ปุ่นดูซัก 10 คน ว่ามีใครเคยแซงคิว และเขาทำบ่อยแค่ไหนตั้งแต่เกิดมา ลองเทียบกับคนไทยดู แล้วจะรู้ว่าคุณภาพความมักง่ายมันต่างกันแค่ไหน
ปล ฝากถึงพ่อ-แม่น้องก้อยนิดนึง
หวังว่าพวกคุณจะเป็นตัวอย่างของพ่อแม่ที่รักลูกแบบผิดๆ ให้คนอื่นๆได้เรียนรู้ เพื่อได้เกิดประโยชน์ในอนาคต
คุณได้ทำลายสิ่งเดียวที่ลูกสาวคุณเก่งที่สุดและทุ่มเทที่สุดลงไปเพราะคำว่า "รัก" ในความหมายของคุณเอง
คุณเชื่อลูกโดยขาดการไตร่ตร่อง คุณทำตามอารมณ์โดยไม่คิดถึงอนาคตลูก
คุณไม่ได้ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะคุณเป็นชาวบ้านที่ เลี้ยงลูกเพียงเพราะคำว่า "รัก" ที่คุณคิดว่าเข้าใจถูกต้อง
คุณจะได้เรียนรู้มากขึ้นกับสิ่งที่คุณทำลงไป และหวังว่าจะเป็นบทเรียนที่ดีเพียงพอจะทำให้คำว่า "รักลูกของพวกคุณเปลี่ยนไป"
ในเวลาที่พวกคุณเหลืออีกไม่กี่สิบปี ขอให้คุณได้ใช้คำว่ารักลูกของคุณ ได้ถูกต้องเสียที
ด้วยความหวังดี
เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่อง มโนเรื่อยเปื่อย ก็แล้วแต่ใจว่าอยากเชื่ออะไรกัน เชิญตามสะดวกดาย ราตรีสวัสดิ์
Note 1: โพสต์ครั้งแรกเมื่อคืนเกือบตีหนึ่ง อันนี้ ขอลองรีโพสใหม่ครับ ผิดกฏหรือป่าวไม่รู้ เสียดายอุตสาห์เขียนกว่าจะเสร็จก็ตี 1 ล่ะ
ลิงค์เก่า http://www.ppantip.com/topic/32338335