เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมเยือนและท่องเทียวที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีกครั้ง การเดินทางไปคราวนี้นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินจากการท่องเที่ยวแล้วผมยังได้ข้อคิดทางธุรกิจที่น่าสนใจบางประการ ดังนั้นในบทนี้ผมขอเขียนถึงเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางธุรกิจที่ผมเห็นว่าน่าสนใจ เลยนำมาเขียนเล่าสู่กันฟังครับ ...
1. จังหวะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ย้อนกลับไปเมื่อราว 5 ปีก่อน ... ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่
“หัวหิน” เป็นครั้งแรก ... จำได้ว่าระหว่างเส้นทาง ชะอำ-หัวหิน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรมากมาย ... ที่สะดุดตาและจำได้ก็คงเป็น ห้างสรรพสินค้าที่ชื่อ HuaHin Market Village เพราะแปลกตา นอกจากนั้นที่จำได้ก็คงเป็น พระราชวังเก่า และ ทะเล ... 5 ปีผ่านไปสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมกลับไปเยือนหัวหินอีกครั้ง ... ผมแทบจำภาพเก่าๆของหัวหินไม่ได้เลย เพราะ ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะ
“โครงการอสังหาริมทรัพย์”
จากหลากหลายเหตุปัจจัยส่งผลให้ ทำเลชะอำ-หัวหิน ตลอดเส้นทางในวันนี้ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเป็นมากมาก คอนโดมิเนี่ยมแทบทุกระดับธรรมดาจนถึงสุดหรู บ้านพักตากอากาศมีหลายหลายอารมณ์ให้เลือกสรร และ อีกมากมายหลากหลายโครงการ การมาหัวหินครั้งนี้ได้ตอกย้ำแนวคิดบางประการ ... “การจับจังหวะการลงทุน” ... ถ้าท่านใดมีสายตาที่แหลมคมเก็บที่ดิน ชะอำ-หัวหิน ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ผมเชื่อว่าวันนี้มีหลายๆท่านที่ มีกำไรเป็นกอบเป็นกำเพราะราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์โตแบบก้าวกระโดดไปหลายเท่าตัวจากเมื่อ 5 ปีก่อน!!!
การเติบโตลักษณะนี้เกิดขึ้นเสมอๆ ... เมื่อใดที่ผมเจอทำเลเกิดใหม่แบบนี้ผมมักจะนึกถึงเรื่องราวเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่อง “คุณพ่อของเพื่อนผมท่านหนึ่ง” ท่านมีสายตามแหลมคมและใจถึงมาก ... เมื่อหลายสิบปีก่อนท่านนั่งฟังข่าวและนั่งพิจารณาแผนเศรษฐกิจ(ไม่แน่ใจว่าฉบับที่เท่าไหร่) เนื้อความประมาณว่าจะผลักดันให้ชลบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรมระดับประเทศ ... ท่านอพยพย้ายถิ่นฐานขายที่ขายทางเพื่อมาปักหลักทำมาหากิน “นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชลบุรี” ในสมัยที่ท่านย้ายมานั้นต้องเรียกได้ว่ายังไม่เจริญเลย นิคมอุตสาหกรรมฯพึ่งเริ่มต้น มีแต่ฝุ่น ดินแห้งๆและที่โล่งๆ แต่ท่านก็ใจถึงที่ย้านมาซื้อที่ดินหลายบางส่วนและเปิดร้านซ่อมเครื่องจักรเล็กๆ เพื่อรับงานซ่อมในอนาคต ... หลายสิบปีผ่านไป ราคาที่ดินเหล่านั้นเพิ่มไปหลายสิบเท่า ที่ดินของท่านตอนนี้ถ้าขายก็คงรับหลักร้อยล้าน!!!! ... และยังไม่นับอีกสารพัดกิจการที่ท่านทำ!!!!
2. ตลาดเก๋ๆจากโมเดลธุรกิจเจ๋งๆ
ถ้าถามผมว่าการมาหัวหินครั้งนี้ ผมประทับสถานที่ใดมากที่สุด ... ผมขอตอบดังๆว่า
“CICADA Market” หรือ
“ตลาดจักจั่น” นั่นเอง!!!
ผมมองว่า ตลาดนัด หรือ ถนนคนเดิน หรือแม้แต่ คอมมูนิตี้มอลล์เองก็ดีเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์รูปแบบหนึ่ง การที่จะทำให้ตลาดเหล่านี้ประสบความสำเร็จดึงผู้ค้าและลูกค้ามาได้ต้องไม่ธรรมดา ดังเช่นตลาดจักจั่นแห่งนี้ เมื่อความคิดสร้างสรรค์ถูกใส่ลงไปในการทำธุรกิจ ตลาดแห่งนี้จึงให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
ต้องบอกว่าสุดครับสำหรับตลาดนี้ เพราะ ตลาดแห่งนี้มีเสน่ห์มาก!!! เพราะนอกจากจะขายสินค้าทั่วไปแล้วยังเป็นแหล่งแสดงงานและซื้อขายงานศิลปะด้วย ... ตลาดนี้มี พื้นที่ขายรูปวาด ภาพถ่าย พื้นที่ชมโรงละคร เต้นรำ ค้าขายงานทำมือ กิจกรรมเปิดหมวกต่างๆ หรือ แม้แต่การแสดงดนตรี ทั้งหมดถูกจัดขึ้นท่ามกลางแมกไม้อายุกว่าร้อยปี … จึงทำให้ยามค่ำคืนของตลาดจักจั่นเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าทั้งไทยและเทศจำนวนมากที่มาซึมซับบรรยากาศสุดรื่นรมย์ที่ตลาดแห่งนี้ ... เนื้อที่ตลาดเพียง 10 กว่าไร่แต่จัดสรรบริหารพื้นที่ได้อย่างงดงามและลุ่มลึก … ทั้งการบริหารจัดการการใช้พื้นที่ร่วมกัน สัดส่วนโซนจัดแสดงที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงสินค้าที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ... ในแง่ของการทำธุรกิจ ในความคิดผมตลาดนี้เป็นตลาดที่เจ๋งมากๆตลาดหนึ่งของเมืองไทย!!! ...
ผมขอคารวะเจ้าของและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดแห่งนี้ด้วยใจ เพราะ สิ่งที่ตลาดนี้มอบให้ผมนอกจากความประทับใจแล้ว ยังทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาว่า
“นักธุรกิจตาถึงและมือทอง” เขาทำกันเช่นไร ... ขอบคุณมากครับ ... “CICADA Market” หรือ “ตลาดจักจั่น” ถ้าใครยังไม่เคยต้องไปครับ ส่วนผมเองก็คงต้องหาเวลาไปอีกในเร็วๆนี้แน่นอน!!!!
บรรยากาศสบายๆกับการแสดงดนตรีในสวน @ ตลาดจักจั่นครับ
3. ปัจจัยที่ทำให้ร้านนี้ขายดี
ข้อคิดทางธุรกิจข้อสุดท้ายของลงลึกมาถึงกิจการเล็กๆ รายย่อยๆ กันบ้าง ... ในระหว่างการเดินชมตลาด CICADA Market นั้นผมสะดุดตาเป็นพิเศษกับร้านค้าร้านหนึ่ง ร้านนี้คนมุงเยอะๆทั้งชาวไทยและต่างชาติ ผมก็เลยไปมุงกับเขาด้วย ... เป็นร้านขายเสื้อปักลายแฮนเมครูปลักษณ์เก๋ๆครับ จากป้ายมีโปรโมชั่นพิเศษถ้าซื้อเสื้อเด็กปักชื่อฟรีด้วย ... จากการสอบถามสนนราคาไม่แพง ผ้าเนื้อดี งานมีเอกลักษณ์ ... ภรรยาผมเองยังอุกหนุน 1 ตัวไปให้ลูกสาวตัวน้อย ... สักปักชื่อเด็กด้วยสรุปรอ 3 คิว (เกือบ 10 ตัว) โอ้ววว ขายดีนะเนี่ย
ทำไมร้านนี้ถึงขายดี ... ผมมองว่าหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ร้านนี้ให้ค้าขายดี คือ
“ถูกสถานที่”
ทำกิจการการค้าให้เหมาะสมกับสถานที่ เช่น ดังในกรณีนี้ CICADA Market เป็นตลาดกึ่งๆงานศิลป์ ลูกค้าหรือผู้คนที่มามาเดินชมย่อมมีความรู้สึกร่วมกับบรรยากาศสวน เดินชมงานศิลป์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นงานเสื้อแฮนเมคแบบนี้จึงเป็นที่สนใจ สอดรับกับ ราคา เนื้อผ้า และ งานที่มีเอกลักษณ์ จึงทำให้ร้านนี้ขายดี ในทางกลับกันร้านค้าเสื้อผ้าธรรมดาที่ไม่มีเอกลักษณ์กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าใด
สินค้าดีมีคุณภาพ ประกอบกิจการได้ถูก ที่ถูกเวลา ก็ย่อมขายดิบขายดีเป็นธรรมดา!!!
นี่เป็นข้อคิดทางธุรกิจเล็กๆน้อยๆ 3 ประการที่ผมเก็บมาฝากจากหัวหินครับ หวังว่าทุกๆท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้บ้าง
ขอให้ทุกๆท่านโชคดีค้าขายร่ำรวยนะครับ
…[^_^]…
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.
-สามารถติดตามอ่านเรื่องราวงานเขียนของผมได้ในบล็อกนี้นะครับ ... http://goo.gl/aE4zV
แถมท้ายบทครับ เป็นบทความเก่าๆที่ผมเคยเขียนไว้ครับ เนื้อหาเกี่ยวกับการทำกิจการการค้าครับ สนใจตามลิงค์เลยนะครับ
นำเสนอ 3 ไอเดีย : เงินน้อยๆก็ทำธุรกิจได้!!!http://goo.gl/X64AqI
นำเสนอ 2 ไอเดีย : ของกินน่าขายในตลาดนัด http://goo.gl/eUuBsl
ข้อคิดเห็น 3 ประการ สำหรับผู้ที่จะไป “ตลาดโรงเกลือ” http://goo.gl/8LiuS
ข้อคิดเห็น 4 ประการ สำหรับผู้ที่จะไป “ตลาดสำเพ็ง” http://goo.gl/j9ok0X
[เล่าสู่กันฟัง] 3 ข้อคิดทางธุรกิจ จากเมืองตากอากาศชื่อดัง ... หัวหิน
1. จังหวะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ย้อนกลับไปเมื่อราว 5 ปีก่อน ... ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่ “หัวหิน” เป็นครั้งแรก ... จำได้ว่าระหว่างเส้นทาง ชะอำ-หัวหิน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรมากมาย ... ที่สะดุดตาและจำได้ก็คงเป็น ห้างสรรพสินค้าที่ชื่อ HuaHin Market Village เพราะแปลกตา นอกจากนั้นที่จำได้ก็คงเป็น พระราชวังเก่า และ ทะเล ... 5 ปีผ่านไปสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมกลับไปเยือนหัวหินอีกครั้ง ... ผมแทบจำภาพเก่าๆของหัวหินไม่ได้เลย เพราะ ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะ “โครงการอสังหาริมทรัพย์”
จากหลากหลายเหตุปัจจัยส่งผลให้ ทำเลชะอำ-หัวหิน ตลอดเส้นทางในวันนี้ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเป็นมากมาก คอนโดมิเนี่ยมแทบทุกระดับธรรมดาจนถึงสุดหรู บ้านพักตากอากาศมีหลายหลายอารมณ์ให้เลือกสรร และ อีกมากมายหลากหลายโครงการ การมาหัวหินครั้งนี้ได้ตอกย้ำแนวคิดบางประการ ... “การจับจังหวะการลงทุน” ... ถ้าท่านใดมีสายตาที่แหลมคมเก็บที่ดิน ชะอำ-หัวหิน ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ผมเชื่อว่าวันนี้มีหลายๆท่านที่ มีกำไรเป็นกอบเป็นกำเพราะราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์โตแบบก้าวกระโดดไปหลายเท่าตัวจากเมื่อ 5 ปีก่อน!!!
การเติบโตลักษณะนี้เกิดขึ้นเสมอๆ ... เมื่อใดที่ผมเจอทำเลเกิดใหม่แบบนี้ผมมักจะนึกถึงเรื่องราวเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่อง “คุณพ่อของเพื่อนผมท่านหนึ่ง” ท่านมีสายตามแหลมคมและใจถึงมาก ... เมื่อหลายสิบปีก่อนท่านนั่งฟังข่าวและนั่งพิจารณาแผนเศรษฐกิจ(ไม่แน่ใจว่าฉบับที่เท่าไหร่) เนื้อความประมาณว่าจะผลักดันให้ชลบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรมระดับประเทศ ... ท่านอพยพย้ายถิ่นฐานขายที่ขายทางเพื่อมาปักหลักทำมาหากิน “นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชลบุรี” ในสมัยที่ท่านย้ายมานั้นต้องเรียกได้ว่ายังไม่เจริญเลย นิคมอุตสาหกรรมฯพึ่งเริ่มต้น มีแต่ฝุ่น ดินแห้งๆและที่โล่งๆ แต่ท่านก็ใจถึงที่ย้านมาซื้อที่ดินหลายบางส่วนและเปิดร้านซ่อมเครื่องจักรเล็กๆ เพื่อรับงานซ่อมในอนาคต ... หลายสิบปีผ่านไป ราคาที่ดินเหล่านั้นเพิ่มไปหลายสิบเท่า ที่ดินของท่านตอนนี้ถ้าขายก็คงรับหลักร้อยล้าน!!!! ... และยังไม่นับอีกสารพัดกิจการที่ท่านทำ!!!!
2. ตลาดเก๋ๆจากโมเดลธุรกิจเจ๋งๆ
ถ้าถามผมว่าการมาหัวหินครั้งนี้ ผมประทับสถานที่ใดมากที่สุด ... ผมขอตอบดังๆว่า “CICADA Market” หรือ “ตลาดจักจั่น” นั่นเอง!!!
ผมมองว่า ตลาดนัด หรือ ถนนคนเดิน หรือแม้แต่ คอมมูนิตี้มอลล์เองก็ดีเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์รูปแบบหนึ่ง การที่จะทำให้ตลาดเหล่านี้ประสบความสำเร็จดึงผู้ค้าและลูกค้ามาได้ต้องไม่ธรรมดา ดังเช่นตลาดจักจั่นแห่งนี้ เมื่อความคิดสร้างสรรค์ถูกใส่ลงไปในการทำธุรกิจ ตลาดแห่งนี้จึงให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
ต้องบอกว่าสุดครับสำหรับตลาดนี้ เพราะ ตลาดแห่งนี้มีเสน่ห์มาก!!! เพราะนอกจากจะขายสินค้าทั่วไปแล้วยังเป็นแหล่งแสดงงานและซื้อขายงานศิลปะด้วย ... ตลาดนี้มี พื้นที่ขายรูปวาด ภาพถ่าย พื้นที่ชมโรงละคร เต้นรำ ค้าขายงานทำมือ กิจกรรมเปิดหมวกต่างๆ หรือ แม้แต่การแสดงดนตรี ทั้งหมดถูกจัดขึ้นท่ามกลางแมกไม้อายุกว่าร้อยปี … จึงทำให้ยามค่ำคืนของตลาดจักจั่นเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าทั้งไทยและเทศจำนวนมากที่มาซึมซับบรรยากาศสุดรื่นรมย์ที่ตลาดแห่งนี้ ... เนื้อที่ตลาดเพียง 10 กว่าไร่แต่จัดสรรบริหารพื้นที่ได้อย่างงดงามและลุ่มลึก … ทั้งการบริหารจัดการการใช้พื้นที่ร่วมกัน สัดส่วนโซนจัดแสดงที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงสินค้าที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ... ในแง่ของการทำธุรกิจ ในความคิดผมตลาดนี้เป็นตลาดที่เจ๋งมากๆตลาดหนึ่งของเมืองไทย!!! ...
ผมขอคารวะเจ้าของและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดแห่งนี้ด้วยใจ เพราะ สิ่งที่ตลาดนี้มอบให้ผมนอกจากความประทับใจแล้ว ยังทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาว่า “นักธุรกิจตาถึงและมือทอง” เขาทำกันเช่นไร ... ขอบคุณมากครับ ... “CICADA Market” หรือ “ตลาดจักจั่น” ถ้าใครยังไม่เคยต้องไปครับ ส่วนผมเองก็คงต้องหาเวลาไปอีกในเร็วๆนี้แน่นอน!!!!
บรรยากาศสบายๆกับการแสดงดนตรีในสวน @ ตลาดจักจั่นครับ
3. ปัจจัยที่ทำให้ร้านนี้ขายดี
ข้อคิดทางธุรกิจข้อสุดท้ายของลงลึกมาถึงกิจการเล็กๆ รายย่อยๆ กันบ้าง ... ในระหว่างการเดินชมตลาด CICADA Market นั้นผมสะดุดตาเป็นพิเศษกับร้านค้าร้านหนึ่ง ร้านนี้คนมุงเยอะๆทั้งชาวไทยและต่างชาติ ผมก็เลยไปมุงกับเขาด้วย ... เป็นร้านขายเสื้อปักลายแฮนเมครูปลักษณ์เก๋ๆครับ จากป้ายมีโปรโมชั่นพิเศษถ้าซื้อเสื้อเด็กปักชื่อฟรีด้วย ... จากการสอบถามสนนราคาไม่แพง ผ้าเนื้อดี งานมีเอกลักษณ์ ... ภรรยาผมเองยังอุกหนุน 1 ตัวไปให้ลูกสาวตัวน้อย ... สักปักชื่อเด็กด้วยสรุปรอ 3 คิว (เกือบ 10 ตัว) โอ้ววว ขายดีนะเนี่ย
ทำไมร้านนี้ถึงขายดี ... ผมมองว่าหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ร้านนี้ให้ค้าขายดี คือ “ถูกสถานที่”
ทำกิจการการค้าให้เหมาะสมกับสถานที่ เช่น ดังในกรณีนี้ CICADA Market เป็นตลาดกึ่งๆงานศิลป์ ลูกค้าหรือผู้คนที่มามาเดินชมย่อมมีความรู้สึกร่วมกับบรรยากาศสวน เดินชมงานศิลป์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นงานเสื้อแฮนเมคแบบนี้จึงเป็นที่สนใจ สอดรับกับ ราคา เนื้อผ้า และ งานที่มีเอกลักษณ์ จึงทำให้ร้านนี้ขายดี ในทางกลับกันร้านค้าเสื้อผ้าธรรมดาที่ไม่มีเอกลักษณ์กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าใด
สินค้าดีมีคุณภาพ ประกอบกิจการได้ถูก ที่ถูกเวลา ก็ย่อมขายดิบขายดีเป็นธรรมดา!!!
นี่เป็นข้อคิดทางธุรกิจเล็กๆน้อยๆ 3 ประการที่ผมเก็บมาฝากจากหัวหินครับ หวังว่าทุกๆท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้บ้าง
ขอให้ทุกๆท่านโชคดีค้าขายร่ำรวยนะครับ
…[^_^]…
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้