เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงไม่แต่งนะคะ ที่มาเล่า เพราะว่าเพิ่งเห็นข่าว กระเทยข่มขืนคนแก่ ประกอบกับมันก็เป็นความอึดอัดใจสำหรับเราอยู่เหมือนกัน ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย
เพราะตอนนี้ เราโดนคนรอบข้าง หาว่า "เรามันไม่ใช่เพื่อนแท้"
เริ่มเลยละกัน
เอ เป็นกระเทยค่ะ
เป็นเพื่อนเรามาตั้งแต่ ม.ต้น ก็ 13 ปี รวมปีนี้ (จริงๆ 12 เพราะว่า ปีนี้ก็ไม่ค่อยจะใช่เพื่อนกันแล้ว)
เอ เป็นผู้ชายที่หล่อค่ะ ชอบตัดผมทรงเกาหลีๆ ดูแลตัวเองยิ่งกว่าชะนีอย่างเราอีก ผมเผ้า เสื้อผ้า ครีมบำรุงผิว
ถึงขนาดเคยกินยาคุมให้มีหน้าอกเลยด้วยซ้ำ
เราเคยถามว่า รู้ตัวว่าเป็นกระเทยตอนไหน นางบอกว่า ตอนเด็กๆ ก็เล่นอยู่แต่กับเพื่อนผู้หญิงแล้ว
นางไม่ได้แต่งหญิง แต่ก็สะดุ้งสะดิ้ง ยิ่งทางวาจานี่เต็มเหนี่ยว มักจะมีคำประหลาดๆ มาพูดเสมอๆ ตามประสานาง
นางเป็นคนดีมาก เราสนิทกับนางกันจน นางแทบจะยกสำมะโนครัวมาอยู่บ้านเรา ตัวติดกันมาก สนิทกับเพื่อนเรา พี่เรา พ่อแม่เรา คนข้างบ้านเรา ร้านชำแถวบ้านเรา
เสาร์ อาทิตย์นางไม่เคยนอนบ้านตัวเอง
นางเองก็เรด้าดีมาก ไปไหนจะเล็งผู้ชายตลอดเวลา ส่วนเรานี่ไปไหนเล็งหาของแดรกกก่อนเลย
นางชอบหนุ่มตี๋ เซฟไว้ในมือถือเป็นล้านๆ รูปได้มั้งรวมทั้งรูปลี้ลับวาบหวามต่างๆ
นางเคยเล่าว่าเคยโดนล่วงล้ำอธิปไตยครั้งแรกตอนเข้าค่ายลูกเสือ ม.ต้น จำไม่ได้แล้วว่ามออะไร เล่าละเอียดจนแบบ เอ้อมึ้งงงงง...
อย่างที่บอกว่าเราสนิทกันมาก ใส่เสื้อตัวเดียวกันก็ยังมี มันเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ส่วนเราตัวอ้วน รสนิยม เราก็แมนๆ ก็เลยใกล้เคียงกันไปหมด
เราไปไหนก็ไปด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน
นอนกันบนเตียงเดียวกันนี่แหละ
ไม่ใช่เฉพาะนอนนอกบ้านนะ
เวลาอยู่ในบ้านก็นอนเตียงเดียวกัน บางทีนอนกันสามคนมี แม่เรา เรา แล้วก็เอ ด้วยซ้ำ
ก็สนิทกันขนาด
แม่เราเองก็มองเอว่าเป็นลูกสาวคนนึง
ส่วนเราเองก็มองมันว่า มันคือชะนีคนนึง
แม่เราตามประสาผู้ใหญ่โบราณ แม้จะรู้ว่ามันเป็นเทย แม่ก็เคยชวนมันบวชพระด้วยซ้ำ
เพราะว่าแม่จะได้บุญ เพราะว่าบ้านเราก็ไม่มีลูกชายแล้ว พี่เราเสียไปเมื่อหลายปีมาแล้ว
เรางี้เถียงแทนตัวเป็นเอ็นว่า เอมันบวชไม่ได้แม่ จิตใจมันเป็นผู้หญิง ติดแค่มันมีจูเท่านั้น
ภาพที่เรามองเอ คือมันเป็นผู้หญิงจริงๆ นิสัย อะไรทุกอย่าง
นางไม่ได้เรียนต่อ ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมแถวๆ บ้าน ก็ทำจนเป็นหัวหน้าแล้ว
นางก็ไม่ได้แอ๊บแมนที่ทำงาน (นางบอก) มีแอบชอบหนุ่มๆ ในโรงงานมาเล่าประจำ
จนเราชอบบอกว่า รสนิยมเมิงเนี่ยกุเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ
มีอยู่วันนึง มันตั้งรูปหน้าจอโทรศัพท์เป็นรูปผู้หญิงคนนึงที่ทำงาน
มันก็เคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับนางคนนี้
นางชื่อบี
เราก็ถามตามประสาคน
ๆ ว่า ทำไมต้องตั้งรูปอิคนนั้นด้วยวะ
เอก็บอกเราว่า "บียืมไปเล่น แล้วมันเปลี่ยน ลืมเปลี่ยนกลับ"
เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย ก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
วันนึงเอมันก็พูดเรื่องมันอยากจะไปทำงานที่ชลบุรี ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมซัมติง เพราะตำแหน่งมันจะได้เงินดีอะไรเทือกนั้น
เรา ไม่อยากให้มันไปหรอก แต่เราไม่ได้พูดอะไร ก็นิ่งๆ ทำเป็นไม่ใส่ใจ
ใครจะอยากให้ไป ถึงเราจะไม่ได้รักมันแบบชู้สาว แต่คือเราเป็นกันมากกว่าครอบครัว เป็นมากกว่าแฟนด้วยซ้ำ ขาดแค่ไม่ได้วู้ฮูกันเท่านั้น
บอกเลยว่าที่ผ่านมา เราไม่ได้มีแฟน แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าเราเหงาแต่อย่างใด ก็มีมันนี่แหละ
เนื่องด้วยมันก็สนิทกับพี่สาวเรามาก
วันนึงมันก็บอกพี่สาวเราว่า มันจะไปชลบุรีแล้วนะ โดยที่ไม่บอกเรา
เรามารู้ทีหลังเราก็งงมาก อะไรวะ สนิทกันขนาดนี้ จะไปทำไมไม่บอกกัน คืองงมาก
เราโกรธมากกกก มากที่สุด ทั้งที่เราสนิทกันมาเป็นสิบๆ ปี ผ่านอะไรกันมาร้อยแปด ไม่คิดจะบอกสักคำเลยหรอ
เราบล้อกไลน์ อันเฟรน อันฟอล ทุกอย่างทุกทาง ตามวิถีชะนี
เอา ตามใจ ไม่บอก ก็คงไม่ใช่เพื่อนกันแล้วล่ะ
แต่มันทำให้เราช็อกมากกว่าเห็น
เพื่อนเราอีกคนทำงานเซเว่น มันบอกเราว่า แม่เอมาบอกว่า "เอมันมีเมียแล้วนะ มันพากันไปทำงานที่ชลบุรี"
ได้ยินครั้งแรก เราหัวเราะข่อกเลยยย
อีกระเทยยย เมิงไปกับผู้ชาย แล้วโกหกแม่ว่ามีเมียหรือเนี่ยยย อีร้ายกาจจจจ
ไปๆ มาๆ พี่สาวเราบอกว่า มันไปกับบี (ผู้หญิงที่มันเคยตั้งเป็นวอลเปอร์)
เอิบบบบบบ
จริ๊ง?
พี่สาวเราเล่าอีกว่า บี หนีตาม เอ ไป
คำว่าหนีตาม หมายถึง หนี สามี และลูก อีก 2 คนไป เนื่องจาก สามี บวชพระอยู่ ก็เลยหนี
ส่วนลูก อยู่กับแม่สามี
เออ ส่วนนี้ก็น่าตกใจ
ตกใจจนไม่รู้จะตกใจเรื่องไหนก่อนแล้วเนี่ยยยยย อะไรเนี่ยยย
สรุปว่า ตอนนี้ หนีไปมีเมีย
พี่สาวเราบอกว่า บี เมาแล้วก็เลยวู้ฮู เอ ณ จุดนี้ จากที่เราสนิทกับเอมาก เวลามันทำอะไรผิดมันจะรับผิดเสมอ
เราคิดเอาเองว่า ที่มันมาถึงจุดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่ามันรู้สึกผิดที่ไปเจาะไข่เค็มบี ก็เลยอยากจะรับผิดชอบ
แต่เราก็ไม่เข้าใจบี ว่าคิดอะไรอยู่ เพราะไม่ได้สนิทกับบี ไม่เคยเจอกัน รู้จักเท่าที่เอเคยเล่าให้ฟังเท่านั้น
เอก็ติดต่อมาหาพี่เรา บอกว่าเราไม่ตอบไลน์ แน่สิกุบล็อก พี่สาวเราบอกว่า ตอนนี้เออยากมีลูกเป็นของตัวเอง
.....
กับชะนีบีไข่เค็มที่เคยมีลูกมาแล้ว 2 ซึ่งมีสามี ที่บวชอยู่
ล่าสุด แม่เราไปสระผมที่ร้าน เอกลับมาหาพ่อแม่มัน เจอแม่เรา แม่บอกว่า มันเปลี่ยนไปมาก ดูดำขึ้น ไว้หนวดเครา ซึ่งเราก็ไม่เห็น มันคงไม่กล้ามาบ้าน
แต่ตอนนี้ กลายเป็นทุกคนมองว่า เราไม่ใช่เพื่อนแท้นี่หว่า ทำไมไม่ยอมรับเพื่อนให้ได้ เพื่อนเป็นอะไรก็ต้องยอมรับได้สิ
ณ จุดนี้ ถ้าเพื่อนเราบอกเรา ว่าเออ ตอนนี้เริ่มมีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ เราไม่ใช่คนโง่ งี่เง่านะ เราก็คงจะทะยอยทำความเข้าใจมาบ้าง
ไม่ใช่แบบนี้อ่ะ
เราไม่ได้โกรธมันที่มันมีเมีย กลับมาเป็นผู้ชายหรืออะไร แต่เราโกรธที่ตัวเมิงก็รู้มาตั้งนานแล้ว ทำไมไม่คิดจะปรึกษา ไม่เคยคิดจะบอกเราอ่ะ
แสดงว่า เราในสายตามัน ก็ไม่ใช่เพื่อนแท้เหมือนกันแหละ
ณ เวลานี้คือ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเลย
เราก็ยังโกรธมันอยู่นะ แต่ก็โกรธกับคนรอบตัวที่พูดกับเราทำนองที่ว่า "เรา
ไม่เห็นเอเป็นเพื่อนแท้นี่หว่า"
ก็ลองมาเป็นเราดิ เป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วดันมารู้เป็นคนสุดท้าย
เป็นคนใกล้ตัวที่รู้คนสุดท้าย
ที่เล่ามานี่ ก็จะบอกแหละ ว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ นะ
เพื่อนกระเทยของคุณ อาจจะมีเมียเมื่อไหร่ก็ได้
ผู้ชายก็คงคือ ผู้ชายแหละ
แทกเรื่องเล่าสยองขวัญ เพราะมันสยองขวัญเราและกัน
กระเทยกลับใจมีจริงๆ ค่ะ
เพราะตอนนี้ เราโดนคนรอบข้าง หาว่า "เรามันไม่ใช่เพื่อนแท้"
เริ่มเลยละกัน
เอ เป็นกระเทยค่ะ
เป็นเพื่อนเรามาตั้งแต่ ม.ต้น ก็ 13 ปี รวมปีนี้ (จริงๆ 12 เพราะว่า ปีนี้ก็ไม่ค่อยจะใช่เพื่อนกันแล้ว)
เอ เป็นผู้ชายที่หล่อค่ะ ชอบตัดผมทรงเกาหลีๆ ดูแลตัวเองยิ่งกว่าชะนีอย่างเราอีก ผมเผ้า เสื้อผ้า ครีมบำรุงผิว
ถึงขนาดเคยกินยาคุมให้มีหน้าอกเลยด้วยซ้ำ
เราเคยถามว่า รู้ตัวว่าเป็นกระเทยตอนไหน นางบอกว่า ตอนเด็กๆ ก็เล่นอยู่แต่กับเพื่อนผู้หญิงแล้ว
นางไม่ได้แต่งหญิง แต่ก็สะดุ้งสะดิ้ง ยิ่งทางวาจานี่เต็มเหนี่ยว มักจะมีคำประหลาดๆ มาพูดเสมอๆ ตามประสานาง
นางเป็นคนดีมาก เราสนิทกับนางกันจน นางแทบจะยกสำมะโนครัวมาอยู่บ้านเรา ตัวติดกันมาก สนิทกับเพื่อนเรา พี่เรา พ่อแม่เรา คนข้างบ้านเรา ร้านชำแถวบ้านเรา
เสาร์ อาทิตย์นางไม่เคยนอนบ้านตัวเอง
นางเองก็เรด้าดีมาก ไปไหนจะเล็งผู้ชายตลอดเวลา ส่วนเรานี่ไปไหนเล็งหาของแดรกกก่อนเลย
นางชอบหนุ่มตี๋ เซฟไว้ในมือถือเป็นล้านๆ รูปได้มั้งรวมทั้งรูปลี้ลับวาบหวามต่างๆ
นางเคยเล่าว่าเคยโดนล่วงล้ำอธิปไตยครั้งแรกตอนเข้าค่ายลูกเสือ ม.ต้น จำไม่ได้แล้วว่ามออะไร เล่าละเอียดจนแบบ เอ้อมึ้งงงงง...
อย่างที่บอกว่าเราสนิทกันมาก ใส่เสื้อตัวเดียวกันก็ยังมี มันเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ส่วนเราตัวอ้วน รสนิยม เราก็แมนๆ ก็เลยใกล้เคียงกันไปหมด
เราไปไหนก็ไปด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน
นอนกันบนเตียงเดียวกันนี่แหละ
ไม่ใช่เฉพาะนอนนอกบ้านนะ
เวลาอยู่ในบ้านก็นอนเตียงเดียวกัน บางทีนอนกันสามคนมี แม่เรา เรา แล้วก็เอ ด้วยซ้ำ
ก็สนิทกันขนาด
แม่เราเองก็มองเอว่าเป็นลูกสาวคนนึง
ส่วนเราเองก็มองมันว่า มันคือชะนีคนนึง
แม่เราตามประสาผู้ใหญ่โบราณ แม้จะรู้ว่ามันเป็นเทย แม่ก็เคยชวนมันบวชพระด้วยซ้ำ
เพราะว่าแม่จะได้บุญ เพราะว่าบ้านเราก็ไม่มีลูกชายแล้ว พี่เราเสียไปเมื่อหลายปีมาแล้ว
เรางี้เถียงแทนตัวเป็นเอ็นว่า เอมันบวชไม่ได้แม่ จิตใจมันเป็นผู้หญิง ติดแค่มันมีจูเท่านั้น
ภาพที่เรามองเอ คือมันเป็นผู้หญิงจริงๆ นิสัย อะไรทุกอย่าง
นางไม่ได้เรียนต่อ ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมแถวๆ บ้าน ก็ทำจนเป็นหัวหน้าแล้ว
นางก็ไม่ได้แอ๊บแมนที่ทำงาน (นางบอก) มีแอบชอบหนุ่มๆ ในโรงงานมาเล่าประจำ
จนเราชอบบอกว่า รสนิยมเมิงเนี่ยกุเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ
มีอยู่วันนึง มันตั้งรูปหน้าจอโทรศัพท์เป็นรูปผู้หญิงคนนึงที่ทำงาน
มันก็เคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับนางคนนี้
นางชื่อบี
เราก็ถามตามประสาคนๆ ว่า ทำไมต้องตั้งรูปอิคนนั้นด้วยวะ
เอก็บอกเราว่า "บียืมไปเล่น แล้วมันเปลี่ยน ลืมเปลี่ยนกลับ"
เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย ก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
วันนึงเอมันก็พูดเรื่องมันอยากจะไปทำงานที่ชลบุรี ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมซัมติง เพราะตำแหน่งมันจะได้เงินดีอะไรเทือกนั้น
เรา ไม่อยากให้มันไปหรอก แต่เราไม่ได้พูดอะไร ก็นิ่งๆ ทำเป็นไม่ใส่ใจ
ใครจะอยากให้ไป ถึงเราจะไม่ได้รักมันแบบชู้สาว แต่คือเราเป็นกันมากกว่าครอบครัว เป็นมากกว่าแฟนด้วยซ้ำ ขาดแค่ไม่ได้วู้ฮูกันเท่านั้น
บอกเลยว่าที่ผ่านมา เราไม่ได้มีแฟน แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าเราเหงาแต่อย่างใด ก็มีมันนี่แหละ
เนื่องด้วยมันก็สนิทกับพี่สาวเรามาก
วันนึงมันก็บอกพี่สาวเราว่า มันจะไปชลบุรีแล้วนะ โดยที่ไม่บอกเรา
เรามารู้ทีหลังเราก็งงมาก อะไรวะ สนิทกันขนาดนี้ จะไปทำไมไม่บอกกัน คืองงมาก
เราโกรธมากกกก มากที่สุด ทั้งที่เราสนิทกันมาเป็นสิบๆ ปี ผ่านอะไรกันมาร้อยแปด ไม่คิดจะบอกสักคำเลยหรอ
เราบล้อกไลน์ อันเฟรน อันฟอล ทุกอย่างทุกทาง ตามวิถีชะนี
เอา ตามใจ ไม่บอก ก็คงไม่ใช่เพื่อนกันแล้วล่ะ
แต่มันทำให้เราช็อกมากกว่าเห็น
เพื่อนเราอีกคนทำงานเซเว่น มันบอกเราว่า แม่เอมาบอกว่า "เอมันมีเมียแล้วนะ มันพากันไปทำงานที่ชลบุรี"
ได้ยินครั้งแรก เราหัวเราะข่อกเลยยย
อีกระเทยยย เมิงไปกับผู้ชาย แล้วโกหกแม่ว่ามีเมียหรือเนี่ยยย อีร้ายกาจจจจ
ไปๆ มาๆ พี่สาวเราบอกว่า มันไปกับบี (ผู้หญิงที่มันเคยตั้งเป็นวอลเปอร์)
เอิบบบบบบ
จริ๊ง?
พี่สาวเราเล่าอีกว่า บี หนีตาม เอ ไป
คำว่าหนีตาม หมายถึง หนี สามี และลูก อีก 2 คนไป เนื่องจาก สามี บวชพระอยู่ ก็เลยหนี ส่วนลูก อยู่กับแม่สามี
เออ ส่วนนี้ก็น่าตกใจ
ตกใจจนไม่รู้จะตกใจเรื่องไหนก่อนแล้วเนี่ยยยยย อะไรเนี่ยยย
สรุปว่า ตอนนี้ หนีไปมีเมีย
พี่สาวเราบอกว่า บี เมาแล้วก็เลยวู้ฮู เอ ณ จุดนี้ จากที่เราสนิทกับเอมาก เวลามันทำอะไรผิดมันจะรับผิดเสมอ
เราคิดเอาเองว่า ที่มันมาถึงจุดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่ามันรู้สึกผิดที่ไปเจาะไข่เค็มบี ก็เลยอยากจะรับผิดชอบ
แต่เราก็ไม่เข้าใจบี ว่าคิดอะไรอยู่ เพราะไม่ได้สนิทกับบี ไม่เคยเจอกัน รู้จักเท่าที่เอเคยเล่าให้ฟังเท่านั้น
เอก็ติดต่อมาหาพี่เรา บอกว่าเราไม่ตอบไลน์ แน่สิกุบล็อก พี่สาวเราบอกว่า ตอนนี้เออยากมีลูกเป็นของตัวเอง
.....
กับชะนีบีไข่เค็มที่เคยมีลูกมาแล้ว 2 ซึ่งมีสามี ที่บวชอยู่
ล่าสุด แม่เราไปสระผมที่ร้าน เอกลับมาหาพ่อแม่มัน เจอแม่เรา แม่บอกว่า มันเปลี่ยนไปมาก ดูดำขึ้น ไว้หนวดเครา ซึ่งเราก็ไม่เห็น มันคงไม่กล้ามาบ้าน
แต่ตอนนี้ กลายเป็นทุกคนมองว่า เราไม่ใช่เพื่อนแท้นี่หว่า ทำไมไม่ยอมรับเพื่อนให้ได้ เพื่อนเป็นอะไรก็ต้องยอมรับได้สิ
ณ จุดนี้ ถ้าเพื่อนเราบอกเรา ว่าเออ ตอนนี้เริ่มมีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ เราไม่ใช่คนโง่ งี่เง่านะ เราก็คงจะทะยอยทำความเข้าใจมาบ้าง
ไม่ใช่แบบนี้อ่ะ
เราไม่ได้โกรธมันที่มันมีเมีย กลับมาเป็นผู้ชายหรืออะไร แต่เราโกรธที่ตัวเมิงก็รู้มาตั้งนานแล้ว ทำไมไม่คิดจะปรึกษา ไม่เคยคิดจะบอกเราอ่ะ
แสดงว่า เราในสายตามัน ก็ไม่ใช่เพื่อนแท้เหมือนกันแหละ
ณ เวลานี้คือ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเลย
เราก็ยังโกรธมันอยู่นะ แต่ก็โกรธกับคนรอบตัวที่พูดกับเราทำนองที่ว่า "เราไม่เห็นเอเป็นเพื่อนแท้นี่หว่า"
ก็ลองมาเป็นเราดิ เป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วดันมารู้เป็นคนสุดท้าย
เป็นคนใกล้ตัวที่รู้คนสุดท้าย
ที่เล่ามานี่ ก็จะบอกแหละ ว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ นะ
เพื่อนกระเทยของคุณ อาจจะมีเมียเมื่อไหร่ก็ได้
ผู้ชายก็คงคือ ผู้ชายแหละ
แทกเรื่องเล่าสยองขวัญ เพราะมันสยองขวัญเราและกัน