หยุดยาวหลายวันที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปสิงคโปร์
กับjetstar โปรขากลับ 1บาท ได้ตั๋วไป-กลับมาในราคาที่รวมค่าโหลดกระเป๋าขากลับ15kg  3392บาท

ด้วยความที่ตอนจองตั๋ว ดูปฎิทินแบบรีบร้อน
จึงจอง11-13 ก.ค แล้วไม่รู้ว่าวันที่14 ก็หยุดนะ!!
TT พอรู้ว่า14 เค้าหยุดชดเชยกัน คือเราแบบอยากจะร้องไห้  แล้วเวลาที่จองขาไป ก็ไฟลท21.20 ถึงก็ตี1กว่าๆได้ ขากลับวันอาทิตย์ถ้าไม่เลือกโปร1บาท ค่าตั๋วก็จะแพงไปอีกก โปร1บาท ก็เป็นช่วงเวลา 10.40อีก เท่ากับเรา มีเวลาเที่ยว1วัน แถมมาดราม่า ไม่รู้ว่าวันที่14หยุด

จะเปลี่ยนตั๋วก็เท่ากับเหมือนซื้อใหม่
แงแง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปโลดดดดดดค่า

จองโรงแรม ไว้ที่ The POD - Boutique Capsule Hotel ในคืนวันเสาร์  เพราะกะถึงสนามบิน จะนั่งๆนอนๆ ที่สนามบินจนกว่า MRTจะเปิดในช่วงเช้า (แอบเห็นว่าใครๆเค้าก็นอนในสนามบินกัน). พอเอาเข้าจริงๆ ถึงสนามบินแล้วไม่อยากนั่งนอน ในสนามบิน แต่! ไม่ได้จองรร.คืนแรกไว้ จะทำยังไงดีน้าาา จะเข้าในเมืองยังไง?!

พอถึงวันที่ต้องเดินทาง
ระหว่างบนเครื่องบิน มีพี่คนไทย ขอยืมปากกา
ถ้าพี่เค้าไม่ขอยืมปากกา เราก็อาจจะได้นอนสนามบินก็เป็นไปได้ พอเครื่องแลนดิ้ง เราก็รีบถามพี่สองท่านนั้นเลย ว่าพี่พักที่ไหนคะ พี่เข้าเมืองยังไง เลยบอกพี่เค้า คือไม่ได้จองรร.คืนนี้ไว้อะพี่ เพราะตอนแรกกะจะนั่งๆนอนๆ สนามบิน พี่เค้าก็บอก เฮ้ยตอนแรกพี่ก็ว่าจะนอนสนามบิน แต่คงไม่ไหว พี่เลยเปลี่ยนใจจองมาคะ
พี่คะๆ งั้นขอไปด้วย ไปพักที่พี่จองมาได้ปะคะ
สรุปเราก็เดินตามพี่เค้าต้อยๆ ไปยังที่พัก น่านนนนนใจง่ายเนอะ ตามเค้าไปซะงั้น

เราเข้าเมืองกัน โดย Shuttle bus ราคาคนละ 9sgd เค้าส่งถึงหน้าโรงแรมเลยทีเดียว

ภายในShuttle bus



พวกเราไป woke home capsule hostel กันคะ โชคดีที่ยังมีแคปซุลว่าง ส่วน ราคานั้น คืนละ30 sgd และมีค่ามัดจำกุญแจ 30sgd

มาดูภาพ woke home capsule hostel กันคะ



ก็โอเคสำหรับเรานะคะ คือเราไม่เรื่องมากที่นอน นอนได้หมดและปลอดภัย
woke home เวลาจะขึ้นลงตึกจะต้องสแกนคีย์การ์ดก่อนกดชั้นทุกครั้ง ถือว่าปลอดภัย สบายหายห่วงเลยทีเดียว  เราได้นอนแคปซุลติดๆกับพี่2คนนั้นพอดีเลย  พวกจึงนัดกันช่วงเช้า เพื่อไปกินอาหารเช้า ที่ร้าน ya kun kaya toast
(น่านไงง ได้เพื่อนใหม่มาอีก2คน) ><"


กว่าจะได้นอน ก็ปาไปตี4  
ตื่นกัน6โมงครึ่ง รีบอาบน้ำแต่งตัว
ส่วนตัวเรา ก็เลยเช็คเอ้าท์เลยทีเดียว จะได้ไม่ต้องเดินกลับมาเอาเป้อีก

ระหว่างทางไปya kun kaya toast ถ่ายรูปสักหน่อย






ฝนตกด้วย แต่หยุดก่อน เลยไม่เปียก





กว่าจะเจอร้าน ya kun kaya toast เดินจนเมื่อย! จิงๆอยู่ใกล้นิดเดียว  











พอทานเสร็จแล้ว เราจึงแยกย้ายกันไป
พี่ๆเค้าจะไป วัดพระเขี้ยวแก้ว
ส่วนเราขอตัวไปเช็คอิน The POD Boutique Capsule Hotel จะได้เอาเป้ไปเก็บด้วย



The pod อยู่บ่าน bugis
เราว่า เกินไกลอยู่อะ จากmrt สถานีbugis ไปยังthe pod แต่โรงแรมก็หาได้ไม่อยากเลย

หน้าลอบบี้



เช็คอินเสร็จก็ยังไม่ได้เข้าพัก แต่ฝากกระเป๋าไว้ได้
เค้าบอกให้มาตอนบ่าย3นะ
เราจึงฝากกระเป๋าไว้ และรีบออกมาทันที เวลาก็ปาไป 10โมงครึ่งแล้ว วันนี้เป็นวันเดียวที่เราจะได้เที่ยว ไม่มีโปรแกรมอะไรเลย รู้แค่ว่า ต้องไปซื้อของที่ออชาร์ด และตอนเย็นไป มาริน่าเบย์  

ย่านbugis







ระหว่างไป orchard road



ได้ของมาเต็มไม้เต็มมือเป็นที่น่าพอใจ เป็นเวลาบ่าย3กว่าๆ เราจึงกลับมายังthe pod เอาของมาเก็บ และพักขาแป๊ปนึง

มาดูกันว่า ข้างใน the pod จะเป็นยังไง



เราได้นอนเตียงบน



  





ส่วนของห้องน้ำ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมชาย-หญิง





เราชอบโรงแรมนี้นะ แต่ว่าสำหรับเราคิดว่าเดินไกลจากmrt อะ แต่คนอื่นอาจจะว่าใกล้ก็ได้ 5555 แต่เราว่าไกล  ส่วนราคา อยู่ที่ 62sgd

พอ5โมงกว่าๆ เราก็ไป มาริน่าเบย์
เดินอีกแล้วววววว 5555 จากmrt marina bay ไป merlion โคตรๆไกลอะ 5555 คือเราเมื่อยจากเดินออชาร์ดมาแล้วมากๆ  เดินไปพักไป ทำไมคนเยอะมากมายขนาดนี้ คนมาตั้งกล้องถ่ายอะไรกันเยอะแยะเนี่ยยย คือเค้ามารอถ่ายงานอะไรไม่รู้ของประเทศสิงคโปร์ คนอย่างเยอะ มีจุดพุ มีการแสดง เรือรบ ประมาณนี้มั้ง มีเครื่องบิน บิน ผ่าน ห้อยธงชาติ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่างานอะไร ตรงกับวันเข้าพรรษาบ้านเราพอดี บางที อาจเป็นวันเข้าพรรษาบ้านเค้าก็ได้มั้ง แหะ แหะๆ  พูดมามากแล้ว มาดูรูปกันต่อ






นี่ไง มีฮ. บินผ่านด้วย




นี่ก็เรือรบรึป่าว ไม่แน่ใจ ขับผ่าน ยิงปังๆๆๆด้วยอะ


































ลืมลงย่าน ไชน่าทาวน์
เพิ่งช่วงเช้า ร้านยังเปิดไม่กี่ร้าน



คือเหนื่อยมาก เมื่อยมาก กลับถึง the pod 5ทุ่มพอดิบพอ จัดของ อาบน้ำ นอน ตื่นมาก็ต้องกลับแล้ว T T ใจตอนนั้นไม่อยากกลับเลย เจ็บใจนัก
คราวหน้าจะจำว่าให้ดูวันดีดี  

จบแล้วค่า ทุกคน เจอกันใหม่คราวหน้า
อย่าลืมนะคะ

อยากกินก็กิน ก่อนที่จะกินไม่ได้ อยากไปไหนก็ไปก่อนที่จะเดินไม่ไหว ).

โอเคนะค้าาา