สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของดิฉัน จะว่าไปก็คือดิฉันสมัครสมาชิกเว็บพันทิปมาเพื่อเขียนเล่าประสบการณ์เรื่องนี้โดยเฉพาะ ไม่เคยมีสมาชิกสักที เคยแต่อ่านเรื่องราวต่างๆบนเว็บไซต์นี้อย่างเดียว ยังไงถ้าการจัดรูปแบบไม่สวยงาม ไม่น่าอ่าน หรือใช้คำพูดไม่ถูก ต้องขอโทษด้วยนะคะ
สิ่งที่ดิฉันเป็นอยู่ตอนนี้คือการไม่ออกไปไหน ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากอ้าปากพูดกับใครทั้งนั้น มันเจ็บนะคะ เจ็บมากที่คนที่เรารักและเคารพมาตลอด คนที่เชื่อใจที่สุด คนที่เราเรียกว่า
"พ่อ" มาทำกับเราแบบนี้
มาเริ่มกันเลยนะคะ พ่อของดิฉันปีนี้อายุ 60 ปีแล้ว ส่วนดิฉันอายุ 21 ปี มีพี่สาวหนึ่งคน ปีนี้เธออายุ 28 ปี ส่วนแม่ของดิฉันอายุได้ 58 ปีแล้วค่ะ พ่อของฉันก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่ติดตรงที่ท่านค่อนข้างอ้วน พ่อกับแม่มีหน้าที่ทางการงานที่ดีค่ะ ค่อนข้างเป็นที่เคารพและรู้จักในสังคมเพื่อนฝูง พ่อของดิฉันนั้นไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับแม่ค่ะ ดิฉันจำได้ว่าพ่อต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดตอนที่ดิฉันจบป.6 พ่อออกจากงานเก่าแล้วไปได้งานใหม่ที่จังหวัดลพบุรีน่ะค่ะ นี่คือสาเหตุที่พ่อบอกทุกคนเมื่อเกือบสิบปีก่อน แต่พ่อกลับมาบ้านทุกอาทิตย์นะคะ โดยจะมาตอนเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดยาว พ่อกับแม่ไม่ได้เลิกกันนะคะ ยังคงสถานะการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณทุ่มเศษๆ ขณะที่ดิฉันอยู่บ้านสองคนกับพ่อ พ่อได้เข้าไปอาบน้ำ โดยขณะนั้นโทรศัพท์ของพ่อก็ดังขึ้น พ่อก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วรับโทรศัพท์ พูดเพียงแค่ว่า
"เดี๋ยวคอลไลน์ไป เดี๋ยวคุยกันในไลน์" แล้วก็วางสายและเข้าไปอาบน้ำต่อ ขออธิบายนิดนึงนะคะ พ่อดิฉันมีโทรศัพท์ 3 เครื่อง แท็บเล็ตที่แม่ให้ยืมอีกหนึ่งเครื่อง โดยแท็บเล็ตไม่ได้ใส่ซิมการ์ดไว้ เนื่องจากคนมีอายุมักจะตั้งเสียงโทรศัพท์เวลาพูดไว้ดังสุด ทำให้ดิฉันซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลมาก พอจะได้ยินว่าคนที่โทรมาเป็นผู้หญิง หลังจากที่พ่อเข้าไปในห้องน้ำได้ไม่นานโทรศัพท์อีกเครื่อง เป็นสมาร์ทโฟนที่ซื้อมาใหม่เพื่อเล่นไลน์โดยเฉพาะก็ดังขึ้น เป็นเสียงเรียกเข้าของไลน์คอลค่ะ โดยโทรศัพท์เครื่องนี้พ่อของดิฉันจะเอาติดตัวไว้ตลอด แม้แต่เวลาเข้าห้องน้ำ พ่อของดิฉันก็กดรับค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นวีดีโอคอล เสียงของผู้โทรเข้าจึงออกมาทางลำโพงของโทรศัพท์อย่างชัดเจน ทำให้ดิฉันต้องเดินไปแอบฟังการสนทนาใกล้ๆ ดิฉันได้ยินเสียงผู้หญิงถามว่า
"เห็นมั้ยๆ" พ่อก็ตอบว่า
"เห็นๆ" พร้อมตอบว่า
"แปปนะ ไปเอาหูฟังก่อน" แล้วพ่อก็ออกมาจากห้องน้ำเพื่อมาหยิบหูฟังแล้วเข้าไปคุยต่อในห้องน้ำ หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่ทราบแล้วว่าเขาสองคนคุยอะไรกันบ้าง คุยกันได้ประมาณ 10 กว่านาทีค่ะ แม่ของดิฉันก็เข้าบ้านมา พ่อได้ยินเสียงแม่จึงรีบวางสายแล้วอาบน้ำต่อ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แน่นอนค่ะดิฉันสงสัยมากว่าใครโทรมา เพราะในเวลาขณะนั้น บวกกับการที่เป็นวันหยุดยาว (วันวิสาขบูชา+เข้าพรรษา) ไม่น่าจะมีคนโทรมาแล้วต้องคุยกันลับๆล่อๆแบบนั้น เพราะปกติเวลาพ่อคุยโทรศัพท์ก็จะคุยเสียงดัง และไม่เคยต้องแอบไปคุยแบบนั้น เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดนะคะที่ว่าพ่อนอกใจแม่ เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้วก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกตั้งแต่ตอนดิฉันยังไม่เกิด คาดว่าน่าจะราวๆ 25 ปีที่แล้ว (จากที่แม่เล่าให้ฟัง) และครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อตอนดิฉันอายุ 14 ปี โดยดิฉันเป็นคนจับได้เองว่าพ่อมีเมียน้อย แน่นอนค่ะ ดิฉันจดจำทุกเหตุการณ์ได้ดี เสมือนว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน...
ตอนดิฉันอายุ 14 ปี พ่อดิฉันก็เข้าไปอาบน้ำนี่แหละค่ะ โดยชาร์ตโทรศัพท์มือถือไว้ ดิฉันก็ไปเปิดเล่น ไปดูข้อความ พบว่ามีข้อความเสียงส่งมา จึงโทรไปฟังค่ะ ที่ดิฉันได้ยินทำให้ดิฉันตัวแข็ง ชา และรู้สึกหนาวไปจนถึงข้างใน เพราะเป็นเสียงเด็กผู้หญิงพูดว่า
"คืนนี้พ่อจะกลับบ้านไหม จะได้แง้มประตูไว้ให้" ดิฉันรีบไปถามแม่ทันทีค่ะ ว่าแบบนี้มันหมายความว่าอะไร แม่ดิฉันไม่รอช้า กดโทรศัพท์กลับไปเบอร์นั้นค่ะ โดยใช้เครื่องดิฉันโทรไป แล้วแกล้งทำเป็นว่าจะซื้อที่ ของพ่อดิฉัน ที่ปทุมธานี แล้วถามว่า
"นั่นภรรยาคุณ สมช... ใช่ไหมคะ" ผู้หญิงที่ปลายสายตอบกลับมาทันทีว่า
"ใช่ค่ะ" เท่านั้นแหละค่ะ ดิฉันร้องไห้ไม่หยุดเป็นเวลายาวนานถึงสองวัน
พอพ่อออกมาจากห้องน้ำ ดิฉันถามเลยค่ะว่า
"พ่อมีเมียน้อยใช่ไหม" พ่อดิฉันหน้าเสียเลยค่ะ แล้วพูดว่า
"เปล่านะ เอาเรื่องอะไรมาพูด" ดิฉันเลยบอกเรื่องข้อความเสียง พ่อก็ยังโกหกต่อว่า
"ที่ทำงานใครๆก็เรียกพ่อว่าป๋า เค้าเห็นพ่อมีอายุเลยเรียกแบบนั้น" ดิฉันเถียงกลับค่ะว่า
"แต่นี่เค้าเรียกว่าพ่อ ไม่ได้เรียกว่าป๋า" พ่อรีบพูดเลยค่ะว่า
"ก็นั่นแหละ ป๋ากับพ่อก็เหมือนกัน บางคนก็เรียกป๋า บางคนก็เรียกพ่อ" ดิฉันก็ถามต่อว่า
"แต่นั่นมันเสียงเด็กผู้หญิง แล้วทำไมต้องแง้มประตูไว้ให้ด้วย" เพิ่มเติมนิดนะคะ ข้อความเสียงนั้นได้ถูกส่งมาหลายวันแล้ว และก็ส่งมาในช่วงกลางคืนค่ะ พ่อดิฉันอ้ำอึ้งค่ะ แม่เลยเสริมเรื่องที่แม่โทรไปเมื่อกี้ แล้วแม่ก็กดโทรศัพท์โทรไปตอนนั้นเลยค่ะ พ่อเห็นเลยมาแย่งโทรศัพท์ไปแล้วกดวางสาย จากนั้นพ่อจึงยอมรับค่ะ ว่ามีเมียน้อยมาซักพักแล้ว แล้วก็มีอะไรกันด้วย พ่อดิฉันกล่าวหาว่าผู้หญิงคนนั้นเอาลูกสาวของเขามาเป็นตัวล่อพ่อให้ไปมีความสัมพันธ์กับพ่อ (เป็นคำพูดของผู้ชายเห็นแก่ตัว และไม่ยอมรับผิดค่ะ) โดยแม่ของดิฉันยื่นคำขาดว่าจะขอหย่า แต่จากนั้นดิฉันก็ไปขอร้องแม่ให้ให้โอกาสพ่ออีกครั้ง โดยที่ดิฉันไม่รู้เลย ว่าเรื่องแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีที่แล้ว โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้จบลงที่พ่อของดิฉันเลิกกับผู้หญิงคนนั้น พ่อเล่าว่าผู้หญิงคนนั้นได้โทรมาต่อว่าพ่อถึงที่ทำงานว่าทำแบบนี้ได้ยังไง (ดิฉันเดาว่าพ่อคงไปโกหกว่าไม่มีลูกเมีย หรือเลิกกับเมียแล้ว) จากนั้นเค้าสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
ถ้าถามว่าในตอนนั้นดิฉันรู้สึกอย่างไร บอกเลยค่ะ มันเจ็บปวดหัวใจมาก ตัวชา ทำอะไรไม่ถูก ปวดท้อง นอนไม่หลับ ดิฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจเท่าครั้งนั้นมาก่อน อกหักยังไม่เจ็บเท่านั้นเลย จำได้ว่าดิฉันร้องไห้ทั้งที่นั่งอยู่บนรถโรงเรียน ร้องไห้แม้แต่ตอนที่นั่งอยู่กับเพื่อน เป็นเวลาถึงสองวัน และในครั้งนี้ความรู้สึกนั้นก็กลับมาอีก แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อน คงเพราะดิฉันมีภูมิคุ้มกันแล้วมั้งคะ อ้อลืมเล่าค่ะ ว่าในครั้งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนดิฉันอายุ 14 นั้น ดิฉันไม่เคยรู้มาก่อนค่ะว่าพ่อก็เคยมีเมียน้อยอีกคนก่อนหน้านี้ โดยได้มารู้ทีหลังจากแม่ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นสองสามวันนั่นแหละค่ะ แม่ไม่เล่าอะไรมาก บอกแค่ว่า พ่อเราไม่ได้เพิ่งเคยนอกใจแม่นะ เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึงตอนพี่เราเด็กๆ ตอนที่เรายังไม่เกิด
ส่วนเรื่องในปัจจุบันที่เพิ่งเกิดขึ้น ดิฉันขอไปพักทำใจก่อนซักพักนะคะ แล้วจะมาเล่าต่อ เพราะขณะที่พิมพ์ไป มือดิฉันก็สั่นไป มันเสียใจน่ะค่ะ
ที่แท็กแม่บ้านต่างแดนเพราะเมียน้อยคนปัจจุบันคนนี้น่าจะอาศัยอยู่ที่นอร์เวย์ค่ะ เท่าที่สืบทราบมา
อยากระบาย!! เมียน้อยพ่อ เลิกกันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ตอนนี้กลับมาคบกันอีก
สิ่งที่ดิฉันเป็นอยู่ตอนนี้คือการไม่ออกไปไหน ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากอ้าปากพูดกับใครทั้งนั้น มันเจ็บนะคะ เจ็บมากที่คนที่เรารักและเคารพมาตลอด คนที่เชื่อใจที่สุด คนที่เราเรียกว่า "พ่อ" มาทำกับเราแบบนี้
มาเริ่มกันเลยนะคะ พ่อของดิฉันปีนี้อายุ 60 ปีแล้ว ส่วนดิฉันอายุ 21 ปี มีพี่สาวหนึ่งคน ปีนี้เธออายุ 28 ปี ส่วนแม่ของดิฉันอายุได้ 58 ปีแล้วค่ะ พ่อของฉันก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่ติดตรงที่ท่านค่อนข้างอ้วน พ่อกับแม่มีหน้าที่ทางการงานที่ดีค่ะ ค่อนข้างเป็นที่เคารพและรู้จักในสังคมเพื่อนฝูง พ่อของดิฉันนั้นไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับแม่ค่ะ ดิฉันจำได้ว่าพ่อต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดตอนที่ดิฉันจบป.6 พ่อออกจากงานเก่าแล้วไปได้งานใหม่ที่จังหวัดลพบุรีน่ะค่ะ นี่คือสาเหตุที่พ่อบอกทุกคนเมื่อเกือบสิบปีก่อน แต่พ่อกลับมาบ้านทุกอาทิตย์นะคะ โดยจะมาตอนเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดยาว พ่อกับแม่ไม่ได้เลิกกันนะคะ ยังคงสถานะการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณทุ่มเศษๆ ขณะที่ดิฉันอยู่บ้านสองคนกับพ่อ พ่อได้เข้าไปอาบน้ำ โดยขณะนั้นโทรศัพท์ของพ่อก็ดังขึ้น พ่อก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วรับโทรศัพท์ พูดเพียงแค่ว่า "เดี๋ยวคอลไลน์ไป เดี๋ยวคุยกันในไลน์" แล้วก็วางสายและเข้าไปอาบน้ำต่อ ขออธิบายนิดนึงนะคะ พ่อดิฉันมีโทรศัพท์ 3 เครื่อง แท็บเล็ตที่แม่ให้ยืมอีกหนึ่งเครื่อง โดยแท็บเล็ตไม่ได้ใส่ซิมการ์ดไว้ เนื่องจากคนมีอายุมักจะตั้งเสียงโทรศัพท์เวลาพูดไว้ดังสุด ทำให้ดิฉันซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลมาก พอจะได้ยินว่าคนที่โทรมาเป็นผู้หญิง หลังจากที่พ่อเข้าไปในห้องน้ำได้ไม่นานโทรศัพท์อีกเครื่อง เป็นสมาร์ทโฟนที่ซื้อมาใหม่เพื่อเล่นไลน์โดยเฉพาะก็ดังขึ้น เป็นเสียงเรียกเข้าของไลน์คอลค่ะ โดยโทรศัพท์เครื่องนี้พ่อของดิฉันจะเอาติดตัวไว้ตลอด แม้แต่เวลาเข้าห้องน้ำ พ่อของดิฉันก็กดรับค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นวีดีโอคอล เสียงของผู้โทรเข้าจึงออกมาทางลำโพงของโทรศัพท์อย่างชัดเจน ทำให้ดิฉันต้องเดินไปแอบฟังการสนทนาใกล้ๆ ดิฉันได้ยินเสียงผู้หญิงถามว่า "เห็นมั้ยๆ" พ่อก็ตอบว่า "เห็นๆ" พร้อมตอบว่า "แปปนะ ไปเอาหูฟังก่อน" แล้วพ่อก็ออกมาจากห้องน้ำเพื่อมาหยิบหูฟังแล้วเข้าไปคุยต่อในห้องน้ำ หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่ทราบแล้วว่าเขาสองคนคุยอะไรกันบ้าง คุยกันได้ประมาณ 10 กว่านาทีค่ะ แม่ของดิฉันก็เข้าบ้านมา พ่อได้ยินเสียงแม่จึงรีบวางสายแล้วอาบน้ำต่อ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แน่นอนค่ะดิฉันสงสัยมากว่าใครโทรมา เพราะในเวลาขณะนั้น บวกกับการที่เป็นวันหยุดยาว (วันวิสาขบูชา+เข้าพรรษา) ไม่น่าจะมีคนโทรมาแล้วต้องคุยกันลับๆล่อๆแบบนั้น เพราะปกติเวลาพ่อคุยโทรศัพท์ก็จะคุยเสียงดัง และไม่เคยต้องแอบไปคุยแบบนั้น เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดนะคะที่ว่าพ่อนอกใจแม่ เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้วก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกตั้งแต่ตอนดิฉันยังไม่เกิด คาดว่าน่าจะราวๆ 25 ปีที่แล้ว (จากที่แม่เล่าให้ฟัง) และครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อตอนดิฉันอายุ 14 ปี โดยดิฉันเป็นคนจับได้เองว่าพ่อมีเมียน้อย แน่นอนค่ะ ดิฉันจดจำทุกเหตุการณ์ได้ดี เสมือนว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน...
ตอนดิฉันอายุ 14 ปี พ่อดิฉันก็เข้าไปอาบน้ำนี่แหละค่ะ โดยชาร์ตโทรศัพท์มือถือไว้ ดิฉันก็ไปเปิดเล่น ไปดูข้อความ พบว่ามีข้อความเสียงส่งมา จึงโทรไปฟังค่ะ ที่ดิฉันได้ยินทำให้ดิฉันตัวแข็ง ชา และรู้สึกหนาวไปจนถึงข้างใน เพราะเป็นเสียงเด็กผู้หญิงพูดว่า "คืนนี้พ่อจะกลับบ้านไหม จะได้แง้มประตูไว้ให้" ดิฉันรีบไปถามแม่ทันทีค่ะ ว่าแบบนี้มันหมายความว่าอะไร แม่ดิฉันไม่รอช้า กดโทรศัพท์กลับไปเบอร์นั้นค่ะ โดยใช้เครื่องดิฉันโทรไป แล้วแกล้งทำเป็นว่าจะซื้อที่ ของพ่อดิฉัน ที่ปทุมธานี แล้วถามว่า "นั่นภรรยาคุณ สมช... ใช่ไหมคะ" ผู้หญิงที่ปลายสายตอบกลับมาทันทีว่า "ใช่ค่ะ" เท่านั้นแหละค่ะ ดิฉันร้องไห้ไม่หยุดเป็นเวลายาวนานถึงสองวัน
พอพ่อออกมาจากห้องน้ำ ดิฉันถามเลยค่ะว่า "พ่อมีเมียน้อยใช่ไหม" พ่อดิฉันหน้าเสียเลยค่ะ แล้วพูดว่า "เปล่านะ เอาเรื่องอะไรมาพูด" ดิฉันเลยบอกเรื่องข้อความเสียง พ่อก็ยังโกหกต่อว่า "ที่ทำงานใครๆก็เรียกพ่อว่าป๋า เค้าเห็นพ่อมีอายุเลยเรียกแบบนั้น" ดิฉันเถียงกลับค่ะว่า "แต่นี่เค้าเรียกว่าพ่อ ไม่ได้เรียกว่าป๋า" พ่อรีบพูดเลยค่ะว่า "ก็นั่นแหละ ป๋ากับพ่อก็เหมือนกัน บางคนก็เรียกป๋า บางคนก็เรียกพ่อ" ดิฉันก็ถามต่อว่า "แต่นั่นมันเสียงเด็กผู้หญิง แล้วทำไมต้องแง้มประตูไว้ให้ด้วย" เพิ่มเติมนิดนะคะ ข้อความเสียงนั้นได้ถูกส่งมาหลายวันแล้ว และก็ส่งมาในช่วงกลางคืนค่ะ พ่อดิฉันอ้ำอึ้งค่ะ แม่เลยเสริมเรื่องที่แม่โทรไปเมื่อกี้ แล้วแม่ก็กดโทรศัพท์โทรไปตอนนั้นเลยค่ะ พ่อเห็นเลยมาแย่งโทรศัพท์ไปแล้วกดวางสาย จากนั้นพ่อจึงยอมรับค่ะ ว่ามีเมียน้อยมาซักพักแล้ว แล้วก็มีอะไรกันด้วย พ่อดิฉันกล่าวหาว่าผู้หญิงคนนั้นเอาลูกสาวของเขามาเป็นตัวล่อพ่อให้ไปมีความสัมพันธ์กับพ่อ (เป็นคำพูดของผู้ชายเห็นแก่ตัว และไม่ยอมรับผิดค่ะ) โดยแม่ของดิฉันยื่นคำขาดว่าจะขอหย่า แต่จากนั้นดิฉันก็ไปขอร้องแม่ให้ให้โอกาสพ่ออีกครั้ง โดยที่ดิฉันไม่รู้เลย ว่าเรื่องแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีที่แล้ว โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้จบลงที่พ่อของดิฉันเลิกกับผู้หญิงคนนั้น พ่อเล่าว่าผู้หญิงคนนั้นได้โทรมาต่อว่าพ่อถึงที่ทำงานว่าทำแบบนี้ได้ยังไง (ดิฉันเดาว่าพ่อคงไปโกหกว่าไม่มีลูกเมีย หรือเลิกกับเมียแล้ว) จากนั้นเค้าสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
ถ้าถามว่าในตอนนั้นดิฉันรู้สึกอย่างไร บอกเลยค่ะ มันเจ็บปวดหัวใจมาก ตัวชา ทำอะไรไม่ถูก ปวดท้อง นอนไม่หลับ ดิฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจเท่าครั้งนั้นมาก่อน อกหักยังไม่เจ็บเท่านั้นเลย จำได้ว่าดิฉันร้องไห้ทั้งที่นั่งอยู่บนรถโรงเรียน ร้องไห้แม้แต่ตอนที่นั่งอยู่กับเพื่อน เป็นเวลาถึงสองวัน และในครั้งนี้ความรู้สึกนั้นก็กลับมาอีก แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อน คงเพราะดิฉันมีภูมิคุ้มกันแล้วมั้งคะ อ้อลืมเล่าค่ะ ว่าในครั้งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนดิฉันอายุ 14 นั้น ดิฉันไม่เคยรู้มาก่อนค่ะว่าพ่อก็เคยมีเมียน้อยอีกคนก่อนหน้านี้ โดยได้มารู้ทีหลังจากแม่ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นสองสามวันนั่นแหละค่ะ แม่ไม่เล่าอะไรมาก บอกแค่ว่า พ่อเราไม่ได้เพิ่งเคยนอกใจแม่นะ เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึงตอนพี่เราเด็กๆ ตอนที่เรายังไม่เกิด
ส่วนเรื่องในปัจจุบันที่เพิ่งเกิดขึ้น ดิฉันขอไปพักทำใจก่อนซักพักนะคะ แล้วจะมาเล่าต่อ เพราะขณะที่พิมพ์ไป มือดิฉันก็สั่นไป มันเสียใจน่ะค่ะ
ที่แท็กแม่บ้านต่างแดนเพราะเมียน้อยคนปัจจุบันคนนี้น่าจะอาศัยอยู่ที่นอร์เวย์ค่ะ เท่าที่สืบทราบมา