ไม่ลงรูปนะครับเพราะขี้เกียจ อยากดูรูปลองค้นกระทู้เก่าๆ หรือ Google ดูนะครับ รับรองมีรูปของสถานที่ที่ผมพูดถึงเยอะแยะเลย
หยุด 3 วัน อาสฬหะ พาเมียกับหมาไปเที่ยวอำเภอไทรโยคมาครับ หมาเพศเมีย น้ำหนัก 13 โล เป็นหมาวัด นิสัยเรียบร้อยมาก ไม่เห่า ไม่กัด ซนนิดหน่อย ขี้กลัวนิดๆ
ที่พัก
พักที่หาดบ้านดินรีสอร์ทครับ จากตัวเมืองกาญจน์ขับรถไปก็ประมาณ 30-40 นาทีครับ ทางไปถ้ำกระแซ (ห่างจากตัวสะพานแค่ 8 โลเอง)
ผมได้บ้านพักเรือนไม้ A105 ราคา 1,600 บาทต่อคืน บวกค่าหมาอีก 200 บาทตลอดทริป โอนเงินมัดจำล่วงหน้า 50% ห้องสภาพโทรมในระดับนึง คือยังอยู๋ในสภาพที่ผมรับได้ แต่เนื่องจากเรามีหมาไปด้วย และการท่องเที่ยวในประเทศที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับหมาอย่างประเทศไทยเรานี้ไม่ค่อยมีตัวเลือกมากนัก ถ้าผมมากับเมียแค่สองคนก็จะไม่พักที่นี่แน่นอนครับ
สภาพห้องพัก บ้านพักเป็นบ้านไม้แผ่นๆ มาประกอบติดกัน มีช่องตรงนั้นตรงนี้บ้างพอสมควรแต่ก็ไม่มีแมลงเข้ามาอย่างที่เราคิด ห้องค่อนข้างเล็กมากแต่เราใช้แค่นอนก็เลยไม่คิดอะไรมาก และหมาเราเป็นหมาไทยรูปร่างสเลนเดอร์ ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องที่นอน ที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือห้องมืดมาก ห้องมีหน้าต่างรอบด้านแต่ผมไม่ชอบเปิดม่านเอาไว้ให้ใครมาเห็นเราจู๋จี๋กัน ก็เลยปิดม่านไว้ตลอดเวลา ไฟในห้องไม่ค่อยสว่างเท่าที่ควร แอร์เย็นถึงเย็นมาก ตกใส่เตียงนอนตรงๆ เลย รีโมทพัง ปรับอุณหภูมิหรือตั้งเวลาไม่ได้ ดึกๆ ต้องตื่นมาปิดเพราะโคตรหนาว ตู้เย็นเล็กๆ ใช้ได้ดี ห้องน้ำมีน้ำอุ่น แต่ก็เช่นเดียวกับห้อง คือห้องน้ำเล็ก แคบ และมืด
ห้องพักที่นี่มีหลายแบบ มีเรือนไม้ที่ผมพัก มีแบบคล้ายๆ จะเป็นบ้านดิน มีบ้านทำเหมือนถ้ำ มีบ้านแบบโมเดิร์น ลองเข้าไปดูในเว็บเขาก็ได้ ออกแบบได้ประหลาดมาก คือไม่มีอะไรเข้ากันเลย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา เพียงแค่มันดูแปลกๆ เท่านั้นเอง
ที่ผมเลือกมาพักที่นี่ (ทั้งๆ ที่ดูจากเว็บก็พอจะเดาได้ว่าจะเป็นที่พักประมาณนี้) เพราะเขามีชายหาดติดริมแม่น้ำแควน้อยและลงเล่นน้ำได้ เราชอบมาก หมาก็ชอบมาก เล่นน้ำกันทั้งวัน บริเวณรีสอร์ทก็กว้างขวางดี ปล่อยหมาวิ่งเล่นได้สบาย ไม่มีรถวิ่งพลุกล่าน ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับหมา มีหมาจรจัดเดินเข้าๆ ออกๆ อยู๋ตัวนึง เห็บตรึม แต่ผมเช็คหมาทุกวันก็ไม่เห็นว่ามีติดเห็บมา บรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ทค่อนข้างเงียบสงบ มีต้นไม้เยอะดี ร่มรื่นดีมาก นกเยอะมาก ถือเป็นจุดแข็งของรีสอร์ทนี้
ข้อควรระวังในการเล่นน้ำในแม่น้ำแควน้อยคือ มีวังน้ำวนอยู่ค่อนข้างใกล้กับหาด เพราะงั้นแนะนำอย่างแรงให้ใส่ชูชีพของทางรีสอร์ทไว้ตลอดเวลาจะดีกว่า ตรงหัวหาดน้ำจะไหลไปคนละทางกัน หาดฝั่งนึงน้ำจะไหลไปทางต้นน้ำ อีกฝั่งไหลไปทางปลายน้ำ ความแรงและความลึกของน้ำแต่ละวันไม่ค่อยเท่ากัน แล้วแต่เขื่อนจะปล่อยน้ำมามากน้อยแค่ไหน น้ำแรงใช้ได้ ถ้าหมาคุณชอบเล่นน้ำ ควรมีชูชีพให้หมาใส่และไม่ควรปล่อยสายจูง
บริการถือว่าโอเค พนักงานเอาใจใส่ดี ยิ้มแย้ม เวลาเขาเห็นว่ามีแขกลงไปเล่นน้ำ เขาจะวอให้พนักงานไปนั่งเฝ้า (อยู่ห่างๆ) และพนักงานจะย้ำให้ใส่ชูชีพเสมอ รวมไปถึงชี้จุดอันตรายที่ไม่ควรว่ายเข้าใกล้ด้วย ขอชมว่ารอบคอบดีมาก
อาหารเช้าที่นี่รวมไปในค่าห้องแล้ว คุณภาพอยู่ในระดับกินกันหิว ขนมปังขาว ไส้กรอกสีชมพูๆ แฮมชมพูๆ เนยมาเจอรีน ข้าวผัดโอเค ข้าวต้มโอเค ส่วนอาหารมื้ออื่นๆ นั้น รสชาติถือว่าใช้ได้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารง่ายๆ ไม่มีตัวเลือกมากนัก แต่รสชาติดีทีเดียว ราคาก็ตกจานละร้อยกว่าบาท แนะนำให้สั่งล่วงหน้า ระบุเวลาที่จะกินด้วย เพราะตอนผมไปถึงวันแรกประมาณบ่ายโมง เราสั่งอาหารที่ล๊อบบี้ พนักงานบอกว่าได้ช้าหน่อยนะ...ช้าไปชั่วโมงนึงเลยทีเดียว ดูทรงแล้วเหมือนโทรสั่งจากที่อื่นมาส่ง อาจเป็นเพราะวันทีไ่ปถึง (วันศุกร์) แขกยังไม่เยอะ เลยไม่เอาแม่ครัวมาทำงาน...หรือเปล่าก็ไม่รู้ อันนี้เดาเอาล้วนๆ แต่มื้อเย็นผมสั่งล่วงหน้ากับพนักงานที่ล๊อบบี้ ก็ได้อาหารตรงเวลาและรสชาติโอเคเลย
ที่พักค่อนข้างอยู่ไกลจากร้านอาหารอื่นพอสมควร แต่ก็มี 2-3 ร้านที่อยู่ในระยะ 10 กิโล พอขับรถไปได้ไม่ไกลมาก
ร้านอาหาร
ที่อยู่ใกล้หน่อยและบรรยากาศดีคือครัวชมสะพาน เป็นของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ขับไปตามป้ายบอกทางไปถ้ำกระแซ ร้านนี้อยู่สุดทางเลย บรรยาากศดีทีเดียว ติดริมน้ำแควน้อย แต่ผมไม่ได้กินที่นี่เนื่องจากเขาไม่รับหมา
อีกร้านคือครัวกาญฯ สาขาไทรโยค เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้านนี้รับหมาหรือไม่ พอดีเราขับรถผ่านและเห็นเบอร์โทรศัทพ์ เลยลองโทรไปถามดู ปรากฏว่าเขารับหมา เจ้าของร้านเลี้ยงหมาเหมือนกัน เราไปทานมื้อเย็น บรรยากาศไม่มีอะไรมาก สะอาด บริการโอเค เมนูแนะนำของทาร้านคือ 2 in 1 เป็นตับทอดกระเทียมกับหมูพริกไทยดำ มาพร้อมกับสลัด ราคา 275 บาท ผมคิดว่าแพงไปหน่อยกับคุณภาพที่ได้ สลัดธรรมดามาก หมูพริกไทยดำค่อนข้างจะจัดพริกไทยดำไปหน่อย อีกจานที่สั่งคือต้มแซ่บกระดูกอ่อน อร่อยใช้ได้ น้ำมะนาวน้ำผึ้งรสแหลมมาก โดยรวมๆ ถือว่าเป็นร้านที่โอเค ปานกลาง
ร้านในอำเภอเมืองที่เราได้แวะไปคือ ร้านคีรีธารา อยู่เลยจากสะพานข้ามแม่น้ำแควมาหน่อยเดียว บรรยากาศดี ติดริมน้ำแควเลย มองเห็นสะพานด้วย ตอนกลางคืนน่าจะวิวดีแต่เราไปตอนกลางวัน ร้านนี้เราก็ไม่รู้ว่ารับหมาหรือเปล่าเหมือนกัน และก็ใช้วิธีโทรไปถามเหมือนกัน ผมบอกน้ำหนักและความสูงของหมาไป พนักงานที่รับโทรศัพท์เหมือนจะไม่แน่ใจนักว่าเจ้าของจะให้เข้าไหม ก็เลยพาหมาไปให้ดูที่หน้าร้านเลย เขาอนุญาตให้หมาเข้าได้ แต่เราก็ไม่ได้โต๊ะที่ดีมากนัก สั่งอาหารมา 3 อย่าง ไก่ผัดเม็ด ข้าวอบสัปปะรด และกระทงทอง สำหรับเราอาหารถือว่ายังไม่ผ่านเท่าไหร่ ไก่ผัดเม็ดค่อนข้างแห้งและจืด ไส้กระทงทองเละไปหน่อยและจืดเช่นกัน เรารู้สึกว่าร้านขายบรรยากาศมากกว่า
ที่เที่ยว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว อย่างที่ทุกคนคงพอรู้และเดาได้ คนเยอะล้านแปดมาก หมาไม่สนุก เราก็ไม่สนุก หาที่จอดก็ลำบากพอสมควรเพราะเป็นวันหยุดยาว คนมากันเยอะมาก
พิพิธภัณฑ์สงครามโลกที่อยู่ใกล้ๆ กับสะพานให้หมาเข้าได้ครับ ตอนแรกเราก็ไม่กะว่าจะเข้าได้หรอกครับ แต่ผมลองเดินไปถามลุงกับป้าเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่ขายตั๋วอยู่ แกสงสารหมาและเห็นว่าหมาเราก็ไม่ได้ตัวใหญ่มาก ก็เลยอนุญาตให้เราเอาหมาเข้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร แต่ก็ขอให้รักษาความสะอาดและจูงหมาไว้ตลอดเวลาด้วย
น้ำตกไทรโยคน้อย ไม่อนุญาตให้หมา "เดิน" นะครับ ถ้าจะเอาหมาเข้าไปต้องอุ้มไว้ แต่หมาเราหนัก 13 โล ครั้นจะอุ้มไว้ตลอดเวลาคงไม่สนุก เราเลยกลับ
มีแค่นี้ล่ะครับ ขอจบการรีวิวหมาๆ เพียงเท่านี้
รีวิวหมาๆ : พาน้องหมาเที่ยวกาญจน์ + ไทรโยค (ไม่มีรูปนะครับ)
หยุด 3 วัน อาสฬหะ พาเมียกับหมาไปเที่ยวอำเภอไทรโยคมาครับ หมาเพศเมีย น้ำหนัก 13 โล เป็นหมาวัด นิสัยเรียบร้อยมาก ไม่เห่า ไม่กัด ซนนิดหน่อย ขี้กลัวนิดๆ
ที่พัก
พักที่หาดบ้านดินรีสอร์ทครับ จากตัวเมืองกาญจน์ขับรถไปก็ประมาณ 30-40 นาทีครับ ทางไปถ้ำกระแซ (ห่างจากตัวสะพานแค่ 8 โลเอง)
ผมได้บ้านพักเรือนไม้ A105 ราคา 1,600 บาทต่อคืน บวกค่าหมาอีก 200 บาทตลอดทริป โอนเงินมัดจำล่วงหน้า 50% ห้องสภาพโทรมในระดับนึง คือยังอยู๋ในสภาพที่ผมรับได้ แต่เนื่องจากเรามีหมาไปด้วย และการท่องเที่ยวในประเทศที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับหมาอย่างประเทศไทยเรานี้ไม่ค่อยมีตัวเลือกมากนัก ถ้าผมมากับเมียแค่สองคนก็จะไม่พักที่นี่แน่นอนครับ
สภาพห้องพัก บ้านพักเป็นบ้านไม้แผ่นๆ มาประกอบติดกัน มีช่องตรงนั้นตรงนี้บ้างพอสมควรแต่ก็ไม่มีแมลงเข้ามาอย่างที่เราคิด ห้องค่อนข้างเล็กมากแต่เราใช้แค่นอนก็เลยไม่คิดอะไรมาก และหมาเราเป็นหมาไทยรูปร่างสเลนเดอร์ ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องที่นอน ที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือห้องมืดมาก ห้องมีหน้าต่างรอบด้านแต่ผมไม่ชอบเปิดม่านเอาไว้ให้ใครมาเห็นเราจู๋จี๋กัน ก็เลยปิดม่านไว้ตลอดเวลา ไฟในห้องไม่ค่อยสว่างเท่าที่ควร แอร์เย็นถึงเย็นมาก ตกใส่เตียงนอนตรงๆ เลย รีโมทพัง ปรับอุณหภูมิหรือตั้งเวลาไม่ได้ ดึกๆ ต้องตื่นมาปิดเพราะโคตรหนาว ตู้เย็นเล็กๆ ใช้ได้ดี ห้องน้ำมีน้ำอุ่น แต่ก็เช่นเดียวกับห้อง คือห้องน้ำเล็ก แคบ และมืด
ห้องพักที่นี่มีหลายแบบ มีเรือนไม้ที่ผมพัก มีแบบคล้ายๆ จะเป็นบ้านดิน มีบ้านทำเหมือนถ้ำ มีบ้านแบบโมเดิร์น ลองเข้าไปดูในเว็บเขาก็ได้ ออกแบบได้ประหลาดมาก คือไม่มีอะไรเข้ากันเลย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา เพียงแค่มันดูแปลกๆ เท่านั้นเอง
ที่ผมเลือกมาพักที่นี่ (ทั้งๆ ที่ดูจากเว็บก็พอจะเดาได้ว่าจะเป็นที่พักประมาณนี้) เพราะเขามีชายหาดติดริมแม่น้ำแควน้อยและลงเล่นน้ำได้ เราชอบมาก หมาก็ชอบมาก เล่นน้ำกันทั้งวัน บริเวณรีสอร์ทก็กว้างขวางดี ปล่อยหมาวิ่งเล่นได้สบาย ไม่มีรถวิ่งพลุกล่าน ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับหมา มีหมาจรจัดเดินเข้าๆ ออกๆ อยู๋ตัวนึง เห็บตรึม แต่ผมเช็คหมาทุกวันก็ไม่เห็นว่ามีติดเห็บมา บรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ทค่อนข้างเงียบสงบ มีต้นไม้เยอะดี ร่มรื่นดีมาก นกเยอะมาก ถือเป็นจุดแข็งของรีสอร์ทนี้
ข้อควรระวังในการเล่นน้ำในแม่น้ำแควน้อยคือ มีวังน้ำวนอยู่ค่อนข้างใกล้กับหาด เพราะงั้นแนะนำอย่างแรงให้ใส่ชูชีพของทางรีสอร์ทไว้ตลอดเวลาจะดีกว่า ตรงหัวหาดน้ำจะไหลไปคนละทางกัน หาดฝั่งนึงน้ำจะไหลไปทางต้นน้ำ อีกฝั่งไหลไปทางปลายน้ำ ความแรงและความลึกของน้ำแต่ละวันไม่ค่อยเท่ากัน แล้วแต่เขื่อนจะปล่อยน้ำมามากน้อยแค่ไหน น้ำแรงใช้ได้ ถ้าหมาคุณชอบเล่นน้ำ ควรมีชูชีพให้หมาใส่และไม่ควรปล่อยสายจูง
บริการถือว่าโอเค พนักงานเอาใจใส่ดี ยิ้มแย้ม เวลาเขาเห็นว่ามีแขกลงไปเล่นน้ำ เขาจะวอให้พนักงานไปนั่งเฝ้า (อยู่ห่างๆ) และพนักงานจะย้ำให้ใส่ชูชีพเสมอ รวมไปถึงชี้จุดอันตรายที่ไม่ควรว่ายเข้าใกล้ด้วย ขอชมว่ารอบคอบดีมาก
อาหารเช้าที่นี่รวมไปในค่าห้องแล้ว คุณภาพอยู่ในระดับกินกันหิว ขนมปังขาว ไส้กรอกสีชมพูๆ แฮมชมพูๆ เนยมาเจอรีน ข้าวผัดโอเค ข้าวต้มโอเค ส่วนอาหารมื้ออื่นๆ นั้น รสชาติถือว่าใช้ได้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารง่ายๆ ไม่มีตัวเลือกมากนัก แต่รสชาติดีทีเดียว ราคาก็ตกจานละร้อยกว่าบาท แนะนำให้สั่งล่วงหน้า ระบุเวลาที่จะกินด้วย เพราะตอนผมไปถึงวันแรกประมาณบ่ายโมง เราสั่งอาหารที่ล๊อบบี้ พนักงานบอกว่าได้ช้าหน่อยนะ...ช้าไปชั่วโมงนึงเลยทีเดียว ดูทรงแล้วเหมือนโทรสั่งจากที่อื่นมาส่ง อาจเป็นเพราะวันทีไ่ปถึง (วันศุกร์) แขกยังไม่เยอะ เลยไม่เอาแม่ครัวมาทำงาน...หรือเปล่าก็ไม่รู้ อันนี้เดาเอาล้วนๆ แต่มื้อเย็นผมสั่งล่วงหน้ากับพนักงานที่ล๊อบบี้ ก็ได้อาหารตรงเวลาและรสชาติโอเคเลย
ที่พักค่อนข้างอยู่ไกลจากร้านอาหารอื่นพอสมควร แต่ก็มี 2-3 ร้านที่อยู่ในระยะ 10 กิโล พอขับรถไปได้ไม่ไกลมาก
ร้านอาหาร
ที่อยู่ใกล้หน่อยและบรรยากาศดีคือครัวชมสะพาน เป็นของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ขับไปตามป้ายบอกทางไปถ้ำกระแซ ร้านนี้อยู่สุดทางเลย บรรยาากศดีทีเดียว ติดริมน้ำแควน้อย แต่ผมไม่ได้กินที่นี่เนื่องจากเขาไม่รับหมา
อีกร้านคือครัวกาญฯ สาขาไทรโยค เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้านนี้รับหมาหรือไม่ พอดีเราขับรถผ่านและเห็นเบอร์โทรศัทพ์ เลยลองโทรไปถามดู ปรากฏว่าเขารับหมา เจ้าของร้านเลี้ยงหมาเหมือนกัน เราไปทานมื้อเย็น บรรยากาศไม่มีอะไรมาก สะอาด บริการโอเค เมนูแนะนำของทาร้านคือ 2 in 1 เป็นตับทอดกระเทียมกับหมูพริกไทยดำ มาพร้อมกับสลัด ราคา 275 บาท ผมคิดว่าแพงไปหน่อยกับคุณภาพที่ได้ สลัดธรรมดามาก หมูพริกไทยดำค่อนข้างจะจัดพริกไทยดำไปหน่อย อีกจานที่สั่งคือต้มแซ่บกระดูกอ่อน อร่อยใช้ได้ น้ำมะนาวน้ำผึ้งรสแหลมมาก โดยรวมๆ ถือว่าเป็นร้านที่โอเค ปานกลาง
ร้านในอำเภอเมืองที่เราได้แวะไปคือ ร้านคีรีธารา อยู่เลยจากสะพานข้ามแม่น้ำแควมาหน่อยเดียว บรรยากาศดี ติดริมน้ำแควเลย มองเห็นสะพานด้วย ตอนกลางคืนน่าจะวิวดีแต่เราไปตอนกลางวัน ร้านนี้เราก็ไม่รู้ว่ารับหมาหรือเปล่าเหมือนกัน และก็ใช้วิธีโทรไปถามเหมือนกัน ผมบอกน้ำหนักและความสูงของหมาไป พนักงานที่รับโทรศัพท์เหมือนจะไม่แน่ใจนักว่าเจ้าของจะให้เข้าไหม ก็เลยพาหมาไปให้ดูที่หน้าร้านเลย เขาอนุญาตให้หมาเข้าได้ แต่เราก็ไม่ได้โต๊ะที่ดีมากนัก สั่งอาหารมา 3 อย่าง ไก่ผัดเม็ด ข้าวอบสัปปะรด และกระทงทอง สำหรับเราอาหารถือว่ายังไม่ผ่านเท่าไหร่ ไก่ผัดเม็ดค่อนข้างแห้งและจืด ไส้กระทงทองเละไปหน่อยและจืดเช่นกัน เรารู้สึกว่าร้านขายบรรยากาศมากกว่า
ที่เที่ยว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว อย่างที่ทุกคนคงพอรู้และเดาได้ คนเยอะล้านแปดมาก หมาไม่สนุก เราก็ไม่สนุก หาที่จอดก็ลำบากพอสมควรเพราะเป็นวันหยุดยาว คนมากันเยอะมาก
พิพิธภัณฑ์สงครามโลกที่อยู่ใกล้ๆ กับสะพานให้หมาเข้าได้ครับ ตอนแรกเราก็ไม่กะว่าจะเข้าได้หรอกครับ แต่ผมลองเดินไปถามลุงกับป้าเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่ขายตั๋วอยู่ แกสงสารหมาและเห็นว่าหมาเราก็ไม่ได้ตัวใหญ่มาก ก็เลยอนุญาตให้เราเอาหมาเข้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร แต่ก็ขอให้รักษาความสะอาดและจูงหมาไว้ตลอดเวลาด้วย
น้ำตกไทรโยคน้อย ไม่อนุญาตให้หมา "เดิน" นะครับ ถ้าจะเอาหมาเข้าไปต้องอุ้มไว้ แต่หมาเราหนัก 13 โล ครั้นจะอุ้มไว้ตลอดเวลาคงไม่สนุก เราเลยกลับ
มีแค่นี้ล่ะครับ ขอจบการรีวิวหมาๆ เพียงเท่านี้