ผู้หญิง...รักจริงหรือแค่เห็นแก่ตัว???

เรื่องมันมีอยู่ว่า มีพนักงานเข้าใหม่มาเป็นลูกน้องผมผู้ชายนะ 2 วันแรกก็ทำงานดีมาก แต่พอวันที่ 3 ก็ขอลาครึ่งวัน วันที่ 4 ลาเต็มวันเลย โดยไม่โทรมาบอกก่อนด้วย วันที่ 5 มาทำงานแต่มาแบบเดี๋ยวโทรศัพท์เดี๋ยวโทรศัพท์ไม่ได้งานเลย (ร้านที่ผมทำงานเป็นร้านอาหารนะครับ เข้างานเป็นกะ) วันที่ 6 ลาอีก ผมก็ไม่ไหวแหละเรียกคุยเลย แทนชื่อน้องเขาว่า เอ ละกันนะ

ผม:เอ แบบนี้พี่ไม่เอาแล้วนะ ทำงานยังไม่ครบอาทิตย์แต่ทำตัวแบบนี้ เอาว่ามาเราเป็นอะไร อยากทำงานที่นี่จริงๆเปล่า?

เอ : พี่ผมขอโทษ ผมอยากทำงานจริงๆนะ แต่ปัญหาผมเยอะจริงๆ ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ผม: พี่ไม่เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าจะเล่าให้ฟังถึงปัญหาได้ก็ดี แต่ถ้าไม่เล่าพี่ก็ตัดสินใจเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกไม่ได้ ต้องให้เราออกแล้วล่ะ

เอ: ผมไม่รู้ว่าพี่จะเชื่อมั้ย ปัญหาคือแฟนผมครับ เขาขี้หึง ขี้ระแวง ขี้สงสัย

ผม: ก็ไม่เห็นแปลก แฟนพี่ก็เป็นเหมือนกัน

เอ: แฟนผมต้องให้โทรหาตลอด ตลอดนี้คือว่างต้องโทร โดยไม่แคร์ว่าผมจะทำงานอยู่ พอบอกว่าทำงานอยู่ก็คิดว่าผมคุยกับผู้หญิงอื่น ไม่ให้ผมเล่นเฟสบุ๊คเพราะกลัวผมมีคนอื่น เลิกงานต้องโทรหาทันทีว่ากลับกี่โมง โทรศัพท์ผมก็เช็คตลอด พอมีเบอร์แปลกๆก็โวยวายหาเรื่องทะเลาะ เบอร์พี่ผมยังไม่ได้เมมชื่อไว้ พี่โทรไปตามผมวันที่ผมไม่มาทำงานนั่นแหละ เป็นเรื่องใหญ่โตเลยครับ เขาอยากไปไหนก็ต้องให้ผมไปเป็นเพื่อนเพราะเขาเดินทางเองไม่ค่อยเป็น ขึ้นลงรถไม่ถูก นั่นคือเหตุผมที่ผมขอลาพี่กะทันหัน งานเก่าที่ผมต้องออกมาก็เพราะแฟนผมเหมือนกัน งานเก่าผมเลิกงานเที่ยงคืนบ่อยๆ ผมทะเลาะกับแฟนตลอดเพราะไม่มีเวลาโทรหา เลิกงานก็เหนื่อยถึงห้องก็อยากนอน ทะเลาะกันจนผมต้องยอมออกจากงานทั้งที่ งานดี เงินก็ดี แต่เพื่อจะไม่ทะเลาะกัน...
..................................................................................................................................................................................................
ผมคิดในใจว่าคบแล้วไม่มีความสุขแล้วจะคบทำไม ทำไมไม่มีใครขอเลิกกับใครไปนะ หรือทะเลาะทุกครั้งก็ขอเลิกทุกครั้งหรือเปล่า  ผู้หญิงแบบนี้เขารักจริง หวงจริงหรือแค่เห็นแก่ตัว ไม่อยากเสียใจโดยถูกแฟนสวมเขามีคนอื่นแล้วกลัวเสียหน้าแค่นั้นหรือเปล่า ถ้ารักจริงเขาไม่เห็นหรือไงว่าผู้ชายยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อจะไม่ต้องทะเลาะกัน
..................................................................................................................................................................................................
ผม: มีใครบอกเลิกใครหรือเปล่า เราไม่ได้อยู่บ้านหรือห้องเดี๋ยวกันใช่มั้ย เราเคยทำอะไรผิดต่อแฟนเป็นปมในใจแฟนหรือเปล่า เราคบกันมานานเท่าไร วางแผนอนาคตกันหรือยัง ตอนคบกันแรกๆเลยแฟนเราเป็นแบบนี้เลยหรือเปล่า ผมรัวคำถามที่สงสัยเป็นชุด

เอ: ผมรู้ว่าเรารักกันครับ ไม่มีใครบอกเลิกใครครับ ทั้งที่ทะเลาะกันบ่อยๆ บ้างครั้งก็รุนแรงมากแต่ไม่มีใครบอกเลิกใครครับ ไม่ได้อยู่ด้วยกันครับ ผมอยู่กับพ่อแม่ แฟนอยู่ห้องกับเพื่อนเขา วันหยุดเราถึงมาเจอกันอยู่ด้วยกันที่บ้านผม พ่อแม่ผมรับรู้แต่ยังไม่ยอมให้แฟนย้ายมาอยู่กับผม ผมไม่เคยทำอะไรผิดต่อแฟนผมนะตั้งแต่คบกันมา 1 ปี 7 เดือนครับ ตอนคบกันแรกๆเขาก็หึงผมนะ แต่ช่วงหลังๆดูรุนแรงเหมือนกับว่าเขาต้องการให้ผมอยู่ใกล้ๆเขาตลอดเวลา เวลาอยู่ด้วยกันไม่เคยเกิดปัญหาหรือทะเลาะกันเลย แต่พอห่างกันต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกันตลอดโดยแฟนผมจะจินตนาการเรื่องร้ายๆให้เกิดแบบผมกำลังคุยกับคนอื่น ผมแอบมีคนอื่น มีผู้หญิงอื่นมาแอบคุยกับผม อะไรแบบเนี้ยครับ ผมอธิบาย ผมทำตัว ผมทำทุกอย่างเพื่อให้เขารับรู้ว่าผมไม่มีใคร ผมมีเขาคนเดียว แต่ทำไมเขาไม่เชื่อใจผมและทำให้เรื่องมันเกิดตลอดเลยครับ.............................

ผม: เฮ้อ.....พี่ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินชีวิตคู่ของใครนะ เอาเป็๋นว่าปัญหาเรา เราก็แก้เองนะ แต่เราไม่มาทำงานหรือทำงานให้พี่ไม่เต็มที่มันเป็นปัญหาพี่แหละ ถ้าอาทิตย์หน้าเราแก้ปัญหาเราไม่ได้ พี่จะแก้ปัญหาพี่โดย ไม่ต้องมีปัญหาของเราในร้านพี่อีก เข้าใจตรงกันนะ

ก็เลยเป็นคำถามครับว่า.....ผู้หญิงแบบนี้เขารักจริงหรือแค่เขาเห็นแก่ตัวครับ?????  ผมว่าคนรักต้องดูแลกัน ทั้งร่างกายและจิตใจ แบบนี้แสดงว่าผู้หญิงเขาเอาแต่ให้ร่างกายและจิตใจตัวเองมีความสุขแต่ไม่สนใจแฟนเขาเลยนะครับ แต่เขาก็คบกันมาตั้ง 1 ปี 7 เดือนแสดงว่าเขาก็รักกันจริงๆหรือเปล่า ถ้าปัญหาจะเยอะอย่างนั้นคงเลิกกันไปแล้ว แล้วคบกันไปต่อมันมีความสุขตรงไหน ปัญหาของน้องคนนี้ควรแก้ยังไง โดยไม่ต้องทะเลาะกันอีกแล้วไม่ต้องเลิกกันด้วยครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ ยาวเลย....อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่