“ฟุตบอลทีมชาติไทย คงได้ไปฟุตบอลบอลโลก หากฟุตบอลโลกกำหนดให้ชาติสมาชิกทั้งหมดสามารถเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายได้โดยไม่ต้องแข่งคัดเลือก”
หากวลีนี้เป็นจริงก็เป็นสิ่งบงชี้ว่า คนไทยบางส่วนไม่พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อจะแข่งขันสู่ความเป็นเลิศ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พอใจแค่การได้เหรียญทองซีเกมส์ ซึ่งหลังๆใช่ว่าจะได้ทุกครั้ง ที่อดีตไทยเคยเหนือกว่าชาติอื่นๆในอาเซียน แต่วันนี้ พบเจอกับชาติไหนก็ล้วนแต่ต้องลุ้นเหนื่อย หากถามสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร? ก็คงได้แต่ตอบว่า บอลไทยและคนไทยชอบย่ำอยู่กับที่ ในขณะที่ชาติอื่นก้าวหน้าขึ้นตลอดเวลา จนตามเราทันและคงจะแซงเราไปในอีกไม่ช้า ส่วนเรื่องจะไปบอลโลก มันเป็นวลีของพวกเพ้อเจ้อพร่ำพูดโดยไม่ดูศักยภาพของชาติตัวเอง
“บอลไทย ไปมวยโลก”
วลีนี้คงคุ้นหูคนไทย ที่แซววงการฟุตบอลไทยกันแบบขำๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันมีความจริงของลักษณะนิสัยคนไทยที่น่าตกใจซ่อนอยู่ในคำๆนี้ ฟุตบอลในประเทศไทยเป็นกีฬาที่แข่งขันภายใต้กฎกติกาสากล ที่นานาอารยประเทศล้วนแข่งขันกันภายใต้กฎกติกาเดียวกัน แต่ความจริงที่ปรากฏในฟุตบอลอาชีพในบ้านเราคือ มีการทะเลาะต่อยตี ของนักกีฬาและผู้ชมอยู่บ่อยครั้ง ไล่กระทืบกรรมการก็หลายหน ชักปืนขู่ก็เคยมี แฟนบอลรุมล้อมกรอบไม่ให้กรรมการออกจากสนามก็หลายครั้ง หากถามว่าพฤติกรรมแบบนั้นแปลว่าอะไร? ก็คงได้แต่ตอบว่าคนไทยบางส่วนมีนิสัยไม่ยอมรับกติกา คิดแต่จะเอาชนะอย่างเดียว โดยไม่สนความถูกต้องเป็นธรรม
“หากไม่มีบังยี ป่านนี้ไทยได้ไปบอลโลกแล้ว”
วลีนี้พุ่งโจมตีการทำงานของนายกสมาคมฟุตบอลไทยตอนนี้โดยตรง ซึ่งบอกตรงๆ ผมเองก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับวลีนี้ เพราะลักษณะของ “บังยี” ก็คล้ายๆบรรดาผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเรา คือยึดติดกับอำนาจโดยไม่มองความสามารถตัวเอง นายกสมาคมฟุตบอลไทยบริหารงานมากี่สิบปี มีผลงานแค่ไหน อันดับโลกของทีมชาติไทยจากหลักสิบ เขยิบมาเป็นหลักร้อยในปัจจุบันใช่ผลงานหรือเปล่า? พิจารณาตัวเองเป็นไหม?
หลายท่านอาจสงสัย ห้องนี้มันห้องการเมืองมาพูดเรื่องฟุตบอลทำไม ก็คงต้องบอกว่า ไม่ว่าฟุตบอลหรือการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็สะท้อนถึงลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่น่าตกใจของคนไทยบางส่วนในประเทศนี้
: ฟุตบอลไทยย่ำอยู่กับที่เพราะไม่พัฒนาตัวเอง
การเมืองไทยก็ย่ำอยู่กับที่โดยการปฏิวัติซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่ก้าวหน้าสักที
: ฟุตบอลไทยไม่เคารพกติกา นักกีฬาหรือแฟนบอลตีกันประจำ การเมืองไทยก็ไม่เคารพกติกา
ผลการเลือกตั้งจะเป็นยังไงก็ไม่สน ถ้าไม่ใช่คนที่ตัวเลือกยังไงก็ไม่ยอมรับ ไม่ว่านักการเมืองหรือกองเชียร์ ยกพวกมาประท้วงกันได้เสมอขอให้มีคำสั่ง
: ฟุตบอลมีคนยึดติดอำนาจ จนถ่วงความเจริญของบอลไทยไว้ การเมืองก็มีพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่
เสพติดอำนาจจนทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งถ่วงความเจริญประเทศไทย อย่างพรรคปชป
ถ้ามองให้ดี ในวลีประชดประชันวงการฟุตบอล ก็มีความจริงที่น่าตกใจของประเทศนี้ซ่อนอยู่
พระรองตลอดกาล
วลีประชดประชันฟุตบอลไทย ?หรือความจริงทางการเมืองที่น่าตกใจของประเทศไทย
หากวลีนี้เป็นจริงก็เป็นสิ่งบงชี้ว่า คนไทยบางส่วนไม่พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อจะแข่งขันสู่ความเป็นเลิศ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พอใจแค่การได้เหรียญทองซีเกมส์ ซึ่งหลังๆใช่ว่าจะได้ทุกครั้ง ที่อดีตไทยเคยเหนือกว่าชาติอื่นๆในอาเซียน แต่วันนี้ พบเจอกับชาติไหนก็ล้วนแต่ต้องลุ้นเหนื่อย หากถามสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร? ก็คงได้แต่ตอบว่า บอลไทยและคนไทยชอบย่ำอยู่กับที่ ในขณะที่ชาติอื่นก้าวหน้าขึ้นตลอดเวลา จนตามเราทันและคงจะแซงเราไปในอีกไม่ช้า ส่วนเรื่องจะไปบอลโลก มันเป็นวลีของพวกเพ้อเจ้อพร่ำพูดโดยไม่ดูศักยภาพของชาติตัวเอง
“บอลไทย ไปมวยโลก”
วลีนี้คงคุ้นหูคนไทย ที่แซววงการฟุตบอลไทยกันแบบขำๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันมีความจริงของลักษณะนิสัยคนไทยที่น่าตกใจซ่อนอยู่ในคำๆนี้ ฟุตบอลในประเทศไทยเป็นกีฬาที่แข่งขันภายใต้กฎกติกาสากล ที่นานาอารยประเทศล้วนแข่งขันกันภายใต้กฎกติกาเดียวกัน แต่ความจริงที่ปรากฏในฟุตบอลอาชีพในบ้านเราคือ มีการทะเลาะต่อยตี ของนักกีฬาและผู้ชมอยู่บ่อยครั้ง ไล่กระทืบกรรมการก็หลายหน ชักปืนขู่ก็เคยมี แฟนบอลรุมล้อมกรอบไม่ให้กรรมการออกจากสนามก็หลายครั้ง หากถามว่าพฤติกรรมแบบนั้นแปลว่าอะไร? ก็คงได้แต่ตอบว่าคนไทยบางส่วนมีนิสัยไม่ยอมรับกติกา คิดแต่จะเอาชนะอย่างเดียว โดยไม่สนความถูกต้องเป็นธรรม
“หากไม่มีบังยี ป่านนี้ไทยได้ไปบอลโลกแล้ว”
วลีนี้พุ่งโจมตีการทำงานของนายกสมาคมฟุตบอลไทยตอนนี้โดยตรง ซึ่งบอกตรงๆ ผมเองก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับวลีนี้ เพราะลักษณะของ “บังยี” ก็คล้ายๆบรรดาผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเรา คือยึดติดกับอำนาจโดยไม่มองความสามารถตัวเอง นายกสมาคมฟุตบอลไทยบริหารงานมากี่สิบปี มีผลงานแค่ไหน อันดับโลกของทีมชาติไทยจากหลักสิบ เขยิบมาเป็นหลักร้อยในปัจจุบันใช่ผลงานหรือเปล่า? พิจารณาตัวเองเป็นไหม?
หลายท่านอาจสงสัย ห้องนี้มันห้องการเมืองมาพูดเรื่องฟุตบอลทำไม ก็คงต้องบอกว่า ไม่ว่าฟุตบอลหรือการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็สะท้อนถึงลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่น่าตกใจของคนไทยบางส่วนในประเทศนี้
: ฟุตบอลไทยย่ำอยู่กับที่เพราะไม่พัฒนาตัวเอง การเมืองไทยก็ย่ำอยู่กับที่โดยการปฏิวัติซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่ก้าวหน้าสักที
: ฟุตบอลไทยไม่เคารพกติกา นักกีฬาหรือแฟนบอลตีกันประจำ การเมืองไทยก็ไม่เคารพกติกา ผลการเลือกตั้งจะเป็นยังไงก็ไม่สน ถ้าไม่ใช่คนที่ตัวเลือกยังไงก็ไม่ยอมรับ ไม่ว่านักการเมืองหรือกองเชียร์ ยกพวกมาประท้วงกันได้เสมอขอให้มีคำสั่ง
: ฟุตบอลมีคนยึดติดอำนาจ จนถ่วงความเจริญของบอลไทยไว้ การเมืองก็มีพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่เสพติดอำนาจจนทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งถ่วงความเจริญประเทศไทย อย่างพรรคปชป
ถ้ามองให้ดี ในวลีประชดประชันวงการฟุตบอล ก็มีความจริงที่น่าตกใจของประเทศนี้ซ่อนอยู่
พระรองตลอดกาล