สารภาพตามตรงว่า ผมเริ่มดูบอลช้ามากกกก แถมไม่ดูบอลลีคอีกต่างหาก - -"
ตอน 2010 ผมก็เพิ่งกลับจากแลกเปลี่ยน ตามงานที่โรงเรียน ไหนจะต้องเตรียมเอนท์อีก
ตอนนั้นก็ดูบ้าง ไม่ดูบ้าง เรียกว่าตามข่าวซะเป็นส่วนใหญ่
จนเวลาผ่านไป ผมได้รู้จักกับประเทศเยอรมัน แหล่งผลิตบุคคลากรทางวิศวกรรมอันตับต้นๆของโลก (เรียนวิศวะครับ)
ผมเลยสนใจในประเทศนี้มาตลอด ไปเรียนภาษาเยอรมันมา 1 คอร์ส (แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย ฮาาา)
บอลโลกคราวนี้ ผมอยู่ปี3 ขึ้น ปี4ละ ฝึกงานเสร็จช่วงนี้ทางมหาลับจะเลื่อนเปิดเทอมเป็นอาเซียนอีก
คราวนี้เลยได้ดูบอลเต็มตัว สมใจซักที และผมไม่ลังเลเลยที่จะให้ตัว และหัวใจกับทีมเยอรมัน
24 ปีที่รอคอย อาจดูไม่ค่อยมีผลกับผม
แต่นี่เป็นการดูบอลแบบเต็มตัวครั้งแรกของผม (ดูเกือบครบทุกแมตช์ มีตอนแบ่งกลุ่มที่ขาดไปเล็กน้อย)
และเป็นการแข่งขันที่ประทับใจมาก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ดูแบบ ดูแล้วจบๆไป ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่
จำได้ว่าตอน 2010 ดูแมตช์ท้ายๆ ยังไม่ลุ้นเท่ารอบ 8ทีม 16ทีม ของบอลโลก 2014 เลย
แต่ ผมชักจะเริ่มรักไอ้เจ้าเกมลูกกลมๆนี่แล้วแหละ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอขอบคุณผู้เล่นเยอรมันทั้งทีม ที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกนี้ได้
โดยเฉพาะ
พี่นอย นูเทลล่า ที่ทำให้เห็นว่า การเป็นโกล์ ไม่ใช่เก่งแค่รับลูก ซุปเปอร์เซฟ แต่ต้องอ่านเกม ตัดบอล เปิดบอล วางบอลเก่งด้วย
กัปปิตันน้อยลาห์ม เป็นคนที่หักภาพลักษณ์กัปตันทีมในการตูนญี่ปุ่นที่ผมอ่านมาซะหมด แถมด้วยนิสัย คุณงามความดีทั้งหลาย(อันนี้ขอบคุณเหล่าแม่บ้านที่ช่วยกรอกหูผมทุกแมตช์)
บอสบาสตี้ ที่โชว์ความมีน้ำใจนักกีฬา และความทุ่มเทให้กับทีม
น้ามิโร 'living legend' ที่โชว์ให้เห็นว่า อายุเป็นแค่ตัวเลข
ฉากที่น้ามิโรเปลี่ยนตัวออก แล้วให้เกิตเซ่ลงมาแทน ผมนี่ทั้งปรบมือ ทั้งยิ้ม น้ำตาซึมอยู่หน้าทีวีเลย
เพราะนี่คงเป็นนัดสุดท้าย ที่น่ามิโรจะเล่นให้กับทีมชาติ
ทำลายสถิติดาวซัลโวตลอดกาล และ ชูถ้วยแชมป์โลก มันเป็นการปิดฉากอาชีพนักเตะอย่างสวยงามที่สุดแล้วแหละผมว่า
นี่นั่งพิมพ์เฉยๆผมยังมีฉากนั้นเล่นซ้ำๆอยู่ในหัวตลอดเลย
เหมือนเป็นการส่งต่อ หน้าที่ให้เด็กรุ่นใหม่อย่างเกิตเซ่ สานต่อความยิ่งใหญ่ของอินทรีเหล็ก
ผมเชื่อเหลือเกินว่า นักเตะชุดนี้ ยังเล่นบอลโลกคราวหน้าได้แน่ๆ
และเด็กรุ่นใหม่ทั้งหลาย ก็จะถูกดันขึ้นมา
ทีมเยอรมันชุดนี้ เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ผมเชื่อว่า หากขัดเกลาเด็กรุ่นใหม่ เจียระไนอีกซักนิด
บอลยูโร 2016 หรือบอลโลก 2018 พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
หลังจากนี้ ผมคิดว่าบอลลีคผมก็อาจจะตามแต่ข่าวและยังไม่ดูต่อไป (อ่าว ปูเรื่องซะยาว 5555) หรืออาจจะดูก็เป็นได้ (เอาซักอย่าง -*- )
แต่ผมบอกได้เลยว่า ไม่เสียใจที่ฝากหัวใจไว้กับอินทรีเหล็ก
ปล. ฝากรูปกัปตันเรียกคะแนนแม่บ้านครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คัดมาจาก http://ppantip.com/topic/32324654/comment2 ครับเขียนไปเขียนมายาวซะเอามาตั้งทู้ดีกว่า
อนึ่ง ยาวไปนิส โทษทีครับ
อสอง เว่นเว้อเนอะ
ความในใจของผม กับทีมอินทรีเหล็ก
ตอน 2010 ผมก็เพิ่งกลับจากแลกเปลี่ยน ตามงานที่โรงเรียน ไหนจะต้องเตรียมเอนท์อีก
ตอนนั้นก็ดูบ้าง ไม่ดูบ้าง เรียกว่าตามข่าวซะเป็นส่วนใหญ่
จนเวลาผ่านไป ผมได้รู้จักกับประเทศเยอรมัน แหล่งผลิตบุคคลากรทางวิศวกรรมอันตับต้นๆของโลก (เรียนวิศวะครับ)
ผมเลยสนใจในประเทศนี้มาตลอด ไปเรียนภาษาเยอรมันมา 1 คอร์ส (แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย ฮาาา)
บอลโลกคราวนี้ ผมอยู่ปี3 ขึ้น ปี4ละ ฝึกงานเสร็จช่วงนี้ทางมหาลับจะเลื่อนเปิดเทอมเป็นอาเซียนอีก
คราวนี้เลยได้ดูบอลเต็มตัว สมใจซักที และผมไม่ลังเลเลยที่จะให้ตัว และหัวใจกับทีมเยอรมัน
24 ปีที่รอคอย อาจดูไม่ค่อยมีผลกับผม
แต่นี่เป็นการดูบอลแบบเต็มตัวครั้งแรกของผม (ดูเกือบครบทุกแมตช์ มีตอนแบ่งกลุ่มที่ขาดไปเล็กน้อย)
และเป็นการแข่งขันที่ประทับใจมาก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ดูแบบ ดูแล้วจบๆไป ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่
จำได้ว่าตอน 2010 ดูแมตช์ท้ายๆ ยังไม่ลุ้นเท่ารอบ 8ทีม 16ทีม ของบอลโลก 2014 เลย
แต่ ผมชักจะเริ่มรักไอ้เจ้าเกมลูกกลมๆนี่แล้วแหละ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอขอบคุณผู้เล่นเยอรมันทั้งทีม ที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกนี้ได้
โดยเฉพาะ
พี่นอย นูเทลล่า ที่ทำให้เห็นว่า การเป็นโกล์ ไม่ใช่เก่งแค่รับลูก ซุปเปอร์เซฟ แต่ต้องอ่านเกม ตัดบอล เปิดบอล วางบอลเก่งด้วย
กัปปิตันน้อยลาห์ม เป็นคนที่หักภาพลักษณ์กัปตันทีมในการตูนญี่ปุ่นที่ผมอ่านมาซะหมด แถมด้วยนิสัย คุณงามความดีทั้งหลาย(อันนี้ขอบคุณเหล่าแม่บ้านที่ช่วยกรอกหูผมทุกแมตช์)
บอสบาสตี้ ที่โชว์ความมีน้ำใจนักกีฬา และความทุ่มเทให้กับทีม
น้ามิโร 'living legend' ที่โชว์ให้เห็นว่า อายุเป็นแค่ตัวเลข
ฉากที่น้ามิโรเปลี่ยนตัวออก แล้วให้เกิตเซ่ลงมาแทน ผมนี่ทั้งปรบมือ ทั้งยิ้ม น้ำตาซึมอยู่หน้าทีวีเลย
เพราะนี่คงเป็นนัดสุดท้าย ที่น่ามิโรจะเล่นให้กับทีมชาติ
ทำลายสถิติดาวซัลโวตลอดกาล และ ชูถ้วยแชมป์โลก มันเป็นการปิดฉากอาชีพนักเตะอย่างสวยงามที่สุดแล้วแหละผมว่า
นี่นั่งพิมพ์เฉยๆผมยังมีฉากนั้นเล่นซ้ำๆอยู่ในหัวตลอดเลย
เหมือนเป็นการส่งต่อ หน้าที่ให้เด็กรุ่นใหม่อย่างเกิตเซ่ สานต่อความยิ่งใหญ่ของอินทรีเหล็ก
ผมเชื่อเหลือเกินว่า นักเตะชุดนี้ ยังเล่นบอลโลกคราวหน้าได้แน่ๆ
และเด็กรุ่นใหม่ทั้งหลาย ก็จะถูกดันขึ้นมา
ทีมเยอรมันชุดนี้ เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ผมเชื่อว่า หากขัดเกลาเด็กรุ่นใหม่ เจียระไนอีกซักนิด
บอลยูโร 2016 หรือบอลโลก 2018 พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
หลังจากนี้ ผมคิดว่าบอลลีคผมก็อาจจะตามแต่ข่าวและยังไม่ดูต่อไป (อ่าว ปูเรื่องซะยาว 5555) หรืออาจจะดูก็เป็นได้ (เอาซักอย่าง -*- )
แต่ผมบอกได้เลยว่า ไม่เสียใจที่ฝากหัวใจไว้กับอินทรีเหล็ก
ปล. ฝากรูปกัปตันเรียกคะแนนแม่บ้านครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อนึ่ง ยาวไปนิส โทษทีครับ
อสอง เว่นเว้อเนอะ