เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าของพ่อผมเองท่านเล่าให้ฟัง เรื่องมีอยู่ว่าตอนสมัยท่านเด็กๆท่านได้ตามพ่อแม่ไปงานศพที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง พอไปถึงพ่อกับแม่ก็ขึ้นไปบนบ้านท่านก็ตามขึ้นไปด้วย บ้านเป็นบ้านไม้ยกสูงมีใต้ถุนบ้านแบบบ้านสมัยก่อน บนบ้านคนเถ่าคนแก่ก็ได้ทำพิธีกรรมทางศาสนา มีอยู่ขั้นตอนหนึ่งก็คือเอาเงินยัดปากผีเพื่อผู้ตายจะได้มีเงินติดตัวไปตามความเชื่อ
ซึ่งมันก็มีเยอะจนมีบางเหรียญหล่นลงใต้ถุนบ้าน ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กไม่รู้อะไรพ่อก็ได้ชวนเพื่อนไปหาเก็บเหรียญใต้ถุนบ้าน และท่านก็ได้มาเหรียญหนึ่ง พอกลับมาบ้านท่านก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง ถึงตอนเย็นพ่อกับแม่ก็ได้ไปช่วยงานศพที่บ้านงานศพอีกครั้ง ปล่อยให้ท่านอยู่บ้านคนเดียว ด้วยความเป็นเด็กท่านก็กลัวเพราะอยู่บ้านคนเดียวจึงได้เข้านอนแต่หัวคํ่ารอพ่อแม่มาจากไปช่วยงานศพ หนึ่งทุ่มผ่านไป สองทุ่มผ่านไปพ่อก็ยังไม่กลับมา
จนกระทั้งมาถึงตอนสี่ทุ่ม หมู่บ้านเงียบสงัด ท่านนอนอยู่ในห้องนอนเงียบๆแต่ยังไม่หลับก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินชัาๆดัง ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ (เสียงรองเท้าแตะ) ด้วยความดีใจคิดว่าเป็นเสียงของพ่อแม่กลับมาท่านก็วิ่งออกไปด้วยความดีใจ พอวิ่งเข้าไปใกล้ๆเท่านั้นแหละครับท่านผู้ฟัง มันไม่ใช่เสียงพ่อกับแม่ แต่มันเป็นลุงคนที่เป็นศพนอนอยู่บนบ้านงานศพที่พ่อกับแม่ไปช่วยงาน แก่เดินเข้ามาหาพ่อ พ่อผมตกใจ ท่านก็รีบวิ่งเข้าบ้านนอนเอาผ้าห่มคลุมหัวหลับตา
ท่านเล่าว่าขนาดท่านหลับตาแล้วยังเห็นลุงคนนั้นทั้งๆที่หลับตาอยู่ ลุงคนนั้นแกก็ยังไม่ไปไหน เดินวนอ้อมตัวท่านพร้อมกับยิ้มนิดๆฟ้อนลำอยู่อย่างนั้น(แบบผีฟ้าภาคเหนือ) แล้วพูดว่า เอาของกูคืนมา เอาของกูคืนมา พ่อผมบอกว่าตอนนั้นท่านกลัวมากเลยนึกไม่ออกว่าเอาของอะไรมา พ่อผมท่านกลัวสุดขีดจนสลบไป พอตื่นขึ้นมาพ่อกับแม่ได้กลับมาจากงานศพแล้ว พ่อผมจึงเล่าเรื่องที่ท่านได้เข้าไปหาเงินใต้ถุนบ้านงานศพแล้วได้มาหนึ่งเหรียญ
และเจ้าของเงินก็ได้ตามมาทวงถึงที่บ้านให้พ่อกับแม่ท่านฟัง พ่อของท่านก็บอกว่าให้เอาไปคืนเขา หรือจะเก็บไว้ก็ได้ถ้าอยากเห็นแกมาหาอีก พอถึงวันรุ่งขึ้นพ่อผมก็ได้เอาเงินบาทนั้นไปคืน พร้อมกล่าวขอขมาที่ได้ล่วงเกิน หลังจากวันเผาเสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็ไม่เจอลุงแกอีกเลย
เอาของเขามา
ซึ่งมันก็มีเยอะจนมีบางเหรียญหล่นลงใต้ถุนบ้าน ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กไม่รู้อะไรพ่อก็ได้ชวนเพื่อนไปหาเก็บเหรียญใต้ถุนบ้าน และท่านก็ได้มาเหรียญหนึ่ง พอกลับมาบ้านท่านก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง ถึงตอนเย็นพ่อกับแม่ก็ได้ไปช่วยงานศพที่บ้านงานศพอีกครั้ง ปล่อยให้ท่านอยู่บ้านคนเดียว ด้วยความเป็นเด็กท่านก็กลัวเพราะอยู่บ้านคนเดียวจึงได้เข้านอนแต่หัวคํ่ารอพ่อแม่มาจากไปช่วยงานศพ หนึ่งทุ่มผ่านไป สองทุ่มผ่านไปพ่อก็ยังไม่กลับมา
จนกระทั้งมาถึงตอนสี่ทุ่ม หมู่บ้านเงียบสงัด ท่านนอนอยู่ในห้องนอนเงียบๆแต่ยังไม่หลับก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินชัาๆดัง ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ (เสียงรองเท้าแตะ) ด้วยความดีใจคิดว่าเป็นเสียงของพ่อแม่กลับมาท่านก็วิ่งออกไปด้วยความดีใจ พอวิ่งเข้าไปใกล้ๆเท่านั้นแหละครับท่านผู้ฟัง มันไม่ใช่เสียงพ่อกับแม่ แต่มันเป็นลุงคนที่เป็นศพนอนอยู่บนบ้านงานศพที่พ่อกับแม่ไปช่วยงาน แก่เดินเข้ามาหาพ่อ พ่อผมตกใจ ท่านก็รีบวิ่งเข้าบ้านนอนเอาผ้าห่มคลุมหัวหลับตา
ท่านเล่าว่าขนาดท่านหลับตาแล้วยังเห็นลุงคนนั้นทั้งๆที่หลับตาอยู่ ลุงคนนั้นแกก็ยังไม่ไปไหน เดินวนอ้อมตัวท่านพร้อมกับยิ้มนิดๆฟ้อนลำอยู่อย่างนั้น(แบบผีฟ้าภาคเหนือ) แล้วพูดว่า เอาของกูคืนมา เอาของกูคืนมา พ่อผมบอกว่าตอนนั้นท่านกลัวมากเลยนึกไม่ออกว่าเอาของอะไรมา พ่อผมท่านกลัวสุดขีดจนสลบไป พอตื่นขึ้นมาพ่อกับแม่ได้กลับมาจากงานศพแล้ว พ่อผมจึงเล่าเรื่องที่ท่านได้เข้าไปหาเงินใต้ถุนบ้านงานศพแล้วได้มาหนึ่งเหรียญ
และเจ้าของเงินก็ได้ตามมาทวงถึงที่บ้านให้พ่อกับแม่ท่านฟัง พ่อของท่านก็บอกว่าให้เอาไปคืนเขา หรือจะเก็บไว้ก็ได้ถ้าอยากเห็นแกมาหาอีก พอถึงวันรุ่งขึ้นพ่อผมก็ได้เอาเงินบาทนั้นไปคืน พร้อมกล่าวขอขมาที่ได้ล่วงเกิน หลังจากวันเผาเสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็ไม่เจอลุงแกอีกเลย