คือผมเองก็เป็นนักกีฬาทีมชาติคนหนึ่งนะครับ เคยมีประสพการณ์ไปแข่งขันกีฬาต่างประเทศอยู่หลายครั้งเหมือนกัน
อยากจะพูดถึงข้อสังเกตุที่นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ถูกทำร้ายร่างกายโดยโค้ช (ตามที่เขาว่า) เหตุเพราะแข่งแพ้ เนื่องจากว่า เข้าสนามแข่งขันล่าช้า อาจเพราะมีความเข้าใจผิดเรื่องตารางเวลาคู่แข่งขัน ทำให้ไม่มีเวลาอบอุ่นร่างกายหรือเตรียมตัวที่ดีมากพอ ส่งผลให้ไม่พร้อมเมื่อเข้าสนาม ทำให้แพ้ไป
ที่ผมจะพูดถึงคงไม่ใช่เรื่องว่า การโดนลงโทษด้วยการชกต่อย มันสมควรหรือไม่
แต่อยากจะพูดเรื่องกรณีที่นักกีฬาเข้าสนามแข่งขันช้า
จริงๆแล้ว ในการแข่งขันกีฬาระดับใหญ่ๆ (ทีมชาติน่าจะใหญ่เอาการอยู่) โค้ชหรือผู้ฝึกสอนหรือผู้จัดการทีม จะต้องมีหน้าที่ในการดูแลเวลา เช็คเวลาแข่งให้กับนักกีฬา และแจ้งให้กับนักกีฬาทราบ รวมถึงดูแล ติดตามให้นักกีฬาเตรียมตัว เตรียมความพร้อมในการเข้าสนามให้ทันตามตารางเวลาแข่ง หากเวลาแข่งมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเร็วขึ้น หรือช้าลง ก็เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของโค้ช ผู้ฝึกสอน หรือเจ้าหน้าที่ในทีม ในการแจ้งให้นักกีฬารับรู้
เพราะนักกีฬานั้นควรจะมีเรื่องให้คิด ให้กังวลใจอยู่ในหัวให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมไปถึงเรื่องตารางเวลาแข่งขัน ตามปกติแล้ว นักกีฬาไม่ควรมานั่งกังวลว่า เราแข่งกี่โมงนะ คู่ที่แข่งอยู่ใกล้เสร็จหรือยัง ทำไมช้าจัง ทำไมเร็วจัง เวลามีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า คือเรื่องเช็คตารางเวลาการแข่งขัน มันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ในทีม ไม่คนใดก็คนหนึ่ง ในการติดตามตารางเวลาและดูแลให้นักกีฬาแต่ละคนเตรียมตัวและเข้าแข่งขันได้ตรงเวลา ตามหลักแล้ว ควรจะมีคนหนึ่งที่มีหน้าที่เช็คว่านักกีฬาพร้อมมั้ย เช่น "เตรียมตัวเลย เราอาจจะแข่งเร็วก่อนกำหนด" หรือ "พักก่อน ไม่ต้องรีบ ตารางการแข่งขันเลื่อนออกไป" หรือ "อีก 30 นาที แข่ง วอร์มร่างกายได้แล้ว"
นักกีฬาบางคนที่กังวลเรื่องเวลามาก กลัวเข้าสนามไม่ทัน ชอบมาก่อนการแข่งล่วงหน้าเป็นชั่วโมงๆก็มี เพื่อความสบายใจ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ถ้ามาเร็วแล้วสบายใจกว่าก็ควรมา
นักกีฬาบางคน ไม่ชอบเข้าสนามเร็วก็มี เพราะถ้ามานั่งเฉยๆหน้าสนาม นั่งรอนานๆ แล้วจิตใจมันจะคิดฟุ้งซ่าน นักกีฬาบางคนจึงสบายใจกว่าที่มาถึงสนามแข่งแค่พอทันเวลา ถึงปุ๊ป มีเวลาพอเตรียมตัว แล้วแข่งเลย มั่นใจกว่า ก็ไม่ผิดอีกเหมือนกัน
แน่นอนว่านักกีฬาแต่ละคนก็ควรจะรู้ตารางเวลาคร่าวๆในการแข่งขันของตนเอง และรู้ว่าควรเข้าสนามเมื่อไร เตรียมตัวตอนกี่โมง แต่ในการแข่งขันจริง เวลาแข่งก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเร็วขึ้น หรือช้าลง เปลี่ยนรอบแข่งบ้าง อุปกรณ์ในสนามพังบ้าง หรือมีความเข้าใจผิดในการสื่อสารระหว่างผู้จัดการแข่งเองก็มี นักกีฬาทีมชาติหลายๆคน ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ภาษาต่างประเทศอาจจะไม่ดีพอ รวมถึง Format การจัดการแข่งขันในต่างประเทศอาจมีความแตกต่างจากการจัดการแข่งขันในประเทศอยู่หลายจุด ตรงนี้ ก็อาจเป็นเหตุให้เกิดการเข้าใจผิดในเรื่องของตารางเวลาการแข่งขันได้
ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า กรณีที่นักเทควันโดทีมชาติไทย เข้าสนามแข่งขันล่าช้า ทำไมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่ในทีมคนไหนดูแลตรงนี้เลยหรอ เช่น ถ้าใกล้เวลาในการเตรียมตัวนักกีฬาแล้ว ก็ควรจะมีคนไปเช็คได้แล้วว่านักกีฬาอยู่ตรงไหน พร้อมหรือยัง
จากมุมมองของนักกีฬาทีมชาติคนหนึ่ง ถึงกรณีนักเทควันโดทีมชาติไทย เข้าสนามแข่งล่าช้า
อยากจะพูดถึงข้อสังเกตุที่นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ถูกทำร้ายร่างกายโดยโค้ช (ตามที่เขาว่า) เหตุเพราะแข่งแพ้ เนื่องจากว่า เข้าสนามแข่งขันล่าช้า อาจเพราะมีความเข้าใจผิดเรื่องตารางเวลาคู่แข่งขัน ทำให้ไม่มีเวลาอบอุ่นร่างกายหรือเตรียมตัวที่ดีมากพอ ส่งผลให้ไม่พร้อมเมื่อเข้าสนาม ทำให้แพ้ไป
ที่ผมจะพูดถึงคงไม่ใช่เรื่องว่า การโดนลงโทษด้วยการชกต่อย มันสมควรหรือไม่
แต่อยากจะพูดเรื่องกรณีที่นักกีฬาเข้าสนามแข่งขันช้า
จริงๆแล้ว ในการแข่งขันกีฬาระดับใหญ่ๆ (ทีมชาติน่าจะใหญ่เอาการอยู่) โค้ชหรือผู้ฝึกสอนหรือผู้จัดการทีม จะต้องมีหน้าที่ในการดูแลเวลา เช็คเวลาแข่งให้กับนักกีฬา และแจ้งให้กับนักกีฬาทราบ รวมถึงดูแล ติดตามให้นักกีฬาเตรียมตัว เตรียมความพร้อมในการเข้าสนามให้ทันตามตารางเวลาแข่ง หากเวลาแข่งมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเร็วขึ้น หรือช้าลง ก็เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของโค้ช ผู้ฝึกสอน หรือเจ้าหน้าที่ในทีม ในการแจ้งให้นักกีฬารับรู้
เพราะนักกีฬานั้นควรจะมีเรื่องให้คิด ให้กังวลใจอยู่ในหัวให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมไปถึงเรื่องตารางเวลาแข่งขัน ตามปกติแล้ว นักกีฬาไม่ควรมานั่งกังวลว่า เราแข่งกี่โมงนะ คู่ที่แข่งอยู่ใกล้เสร็จหรือยัง ทำไมช้าจัง ทำไมเร็วจัง เวลามีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า คือเรื่องเช็คตารางเวลาการแข่งขัน มันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ในทีม ไม่คนใดก็คนหนึ่ง ในการติดตามตารางเวลาและดูแลให้นักกีฬาแต่ละคนเตรียมตัวและเข้าแข่งขันได้ตรงเวลา ตามหลักแล้ว ควรจะมีคนหนึ่งที่มีหน้าที่เช็คว่านักกีฬาพร้อมมั้ย เช่น "เตรียมตัวเลย เราอาจจะแข่งเร็วก่อนกำหนด" หรือ "พักก่อน ไม่ต้องรีบ ตารางการแข่งขันเลื่อนออกไป" หรือ "อีก 30 นาที แข่ง วอร์มร่างกายได้แล้ว"
นักกีฬาบางคนที่กังวลเรื่องเวลามาก กลัวเข้าสนามไม่ทัน ชอบมาก่อนการแข่งล่วงหน้าเป็นชั่วโมงๆก็มี เพื่อความสบายใจ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ถ้ามาเร็วแล้วสบายใจกว่าก็ควรมา
นักกีฬาบางคน ไม่ชอบเข้าสนามเร็วก็มี เพราะถ้ามานั่งเฉยๆหน้าสนาม นั่งรอนานๆ แล้วจิตใจมันจะคิดฟุ้งซ่าน นักกีฬาบางคนจึงสบายใจกว่าที่มาถึงสนามแข่งแค่พอทันเวลา ถึงปุ๊ป มีเวลาพอเตรียมตัว แล้วแข่งเลย มั่นใจกว่า ก็ไม่ผิดอีกเหมือนกัน
แน่นอนว่านักกีฬาแต่ละคนก็ควรจะรู้ตารางเวลาคร่าวๆในการแข่งขันของตนเอง และรู้ว่าควรเข้าสนามเมื่อไร เตรียมตัวตอนกี่โมง แต่ในการแข่งขันจริง เวลาแข่งก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเร็วขึ้น หรือช้าลง เปลี่ยนรอบแข่งบ้าง อุปกรณ์ในสนามพังบ้าง หรือมีความเข้าใจผิดในการสื่อสารระหว่างผู้จัดการแข่งเองก็มี นักกีฬาทีมชาติหลายๆคน ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ภาษาต่างประเทศอาจจะไม่ดีพอ รวมถึง Format การจัดการแข่งขันในต่างประเทศอาจมีความแตกต่างจากการจัดการแข่งขันในประเทศอยู่หลายจุด ตรงนี้ ก็อาจเป็นเหตุให้เกิดการเข้าใจผิดในเรื่องของตารางเวลาการแข่งขันได้
ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า กรณีที่นักเทควันโดทีมชาติไทย เข้าสนามแข่งขันล่าช้า ทำไมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่ในทีมคนไหนดูแลตรงนี้เลยหรอ เช่น ถ้าใกล้เวลาในการเตรียมตัวนักกีฬาแล้ว ก็ควรจะมีคนไปเช็คได้แล้วว่านักกีฬาอยู่ตรงไหน พร้อมหรือยัง