มือใหม่หัดเขียนกระทู้นะครับ แต่วันนี้มีแรงผลักดันให้ต้องลุกขึ้นมาเขียน เพื่อไม่ให้คนเอาเปรียบผู้บริโภคลอยนวล
สรุปสั้นๆคือ ผมถูก AKA Resorts รีดไถเงินค่า "วันหยุดยาว" โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า บอกแค่ตอน check-out ว่า ผมต้องจ่ายเพิ่ม 2000 บาทนะ และไม่ใช่ผมกลุ่มเดียวที่โดน!
เล่าแบบยาวๆก็คือว่า...... เอิ่ม เล่าเป็น time line ละกันเนอะ เพื่อความชัดเจน
1. ประมาณเดือน พ.ค. ผมซื้อคูปอง AKA Hua Hin 2-bedroom กับ Ensogo ไว้ ซึ่งก็เป็นแบบที่ไม่มีระบุว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มถ้าไปพักวันไหนช่วงไหน
2. หลังจากซื้อเสร็จผมก็รีบโทรจองเลย (ระบุด้วยว่าใช้ Ensogo) เพราะครอบครัวผมว่างกันแค่เสาร์อาทิตย์ เลยต้องรีบจองก่อนจะเต็ม ก็ปรากฎว่าเต็มไปทั้งมิถุนาเรียบร้อยแล้วจ้า เลยบอกเค้าว่าเอาเสาร์อาทิตย์ไหนก็ได้ที่เร็วที่สุด พนักงานก็บอกว่าได้วันที่ 12 ก.ค. ค่ะ ก็ ok ตกลงตามนั้น ไม่มีการพูดเรื่องวันหยุดยาวอะไรแต่อย่างใด (ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็น long weekend)
3. ต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา รู้จากน้องที่ออฟฟิตว่าวันศุกร์นี้หยุด ผมก็นึกในใจว่า 'เฮ้ย แล้วที่เราจองไป จะจองได้ป่าววะ!' เริ่มไม่ชัวร์ เลยโทรไปขอ confirm การจอง และระบุอีกครั้งว่าใช้ Ensogo นะ ก็ได้รับคำตอบอย่างดีว่าจองเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร
4. วันที่ 12 ก.ค. เราทั้งครอบครัวจึงขับรถฝ่าฝนเบาๆ ไปถึง AKA Hua Hin กันก่อนเที่ยงเล็กน้อย เพื่อไป Check-in เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ลงทะเบียนไว้ก่อนเพราะห้องยังไม่เสร็จ (เรามาเร็วไปเอง) ผมก็โอเค เซ็นๆ แล้วก็ออกไปหาอะไรกินกัน แล้วกลับมาบ่ายสอง บ้านพักก็พร้อมให้เราเข้าใช้เรียบร้อย ทุกอย่างดูราบรื่นดี
5. วันรุ่งขึ้น 13 ก.ค. (วันที่โพสเนี่ยแหละ) เป็นเวลา Check out คุณ Manager ของ AKA นามว่าบี (นามสมมุติ) ก็เดินมาบอกเราอย่างสุภาพว่า 'คุณผู้ชาย ต้องจ่ายค่า Long weekend เพิ่ม 2000 นะคะ' เท่านั้นแหละครับ ดราม่าเรื่องนี้ก็บังเกิด
บทสนทนาคร่าวๆตรงนี้มีประมาณนี้
คุณบี : คุณผู้ชาย ต้องจ่ายค่า Long weekend เพิ่ม 2000 นะคะ
ผม : เฮ้ย อะไรครับ มีค่า Long weekend ด้วยเหรอ ทำไมไม่มีใครบอกผมเลยหล่ะ
คุณบี : น้องเค้าน่าจะบอกคุณผู้ชายตอน Check in เมื่อวานแล้วนี่คะ
ผม : ไม่มีครับ ไม่มีใครบอกอะไรผมเลย เมื่อวานตอนผม Check in คุณบีก็อยู่นี่ (จำหน้าได้) ไม่มีใครบอกอะไรผมเรื่องนี้เลย แล้วที่สำคัญนะ ตอนผมจองห้อง ทำไมไม่บอกก่อนหล่ะครับว่าต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย
คุณบีก็อึ้งๆ และขอตัวหายไปสัก 10 นาที แล้วก็กลับมาคุยต่อว่า.....
คุณบี : ยังไงก็ต้องมีค่า Long weekend ตรงนี้ 2000 บาทค่ะ
แล้วคุณบีก็ยื่นใบคูปอง Ensogo ที่ผมเป็นคนพิมพ์มาให้เค้าตอน check in เอง เพื่อชี้ให้ดูว่าคูปองระบุว่าไม่สามารถใช้กับวันหยุดต่อเนื่องได้ตามรูป
ผม : ผมทราบดีครับว่าคูปองเขียนตรงนี้ไว้ และนี่คือสาเหตุที่ตอนต้นอาทิตย์ ผมโทรมาถามยืนยันกับทาง AKA อีกทีว่าที่ผมจองห้องไว้ ใช้ Ensogo ได้จริงๆเหรอ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าใช้ได้แน่นอน และไม่มีการพูดถึงการจ่ายเงินเพิ่มอะไรแต่อย่างใด!
คุณบีก็ dead air ไปชั่วขณะ แล้วก็งัดมุขเดิมมาใช้อีก
คุณบี : แต่น้องก็ได้บอกคุณไปตอน check in แล้วนี่คะว่าจะต้องมีการจ่ายเงินเพิ่ม
ผม : ไม่มีครับ ผมยืนยันได้ว่าไม่มีการสื่อสารอะไรเรื่องนี้เลยจนเมื่อสิบนาทีที่แล้วจากปากคุณเนี่ยแหละ น้องคนไหนเหรอครับที่บอกผม เอามาคุยตรงนี้เลยครับ ดูซิว่าน้องเค้ากล้ายืนยันต่อหน้าผมมั้ยว่าบอกผมแล้ว
(ในใจผมก็คิดไปด้วยว่า ต่อให้เมื่อวานบอกเรื่องนี้แล้วก็เหอะนะ มันใช่เหรอครับที่ให้คนขับรถมาจากกรุงเทพมาถึงหน้ารีสอร์ทแล้ว ค่อยบอกเค้าว่าเค้าต้องจ่ายเงินเพิ่มถึงจะพักได้เนี่ย มีรีสอร์ทประเทศไหนเค้าทำกันอย่างงี้!!!!!!)
คุณบี : น้องเค้าบอกว่าได้บอกเรื่องนี้ไว้กับคุณผู้หญิงอีกท่านนึงแล้วหน่ะค่ะ
ถึงจุดนี้ ผมฟันธงแล้วหล่ะว่าคุณบีเธอกุเรื่องขึ้นมาเอง เพราะอะไรหน่ะเหรอ ...... เพราะเมื่อวานผมออกจากรถมา check in แค่สองคน คือ ผม กับน้องชาย !!!!! (ผมให้พ่อกับแม่รอให้รถเพราะแม่ไม่ค่อยสบาย)
ผม : ไม่ใช่แล้วหล่ะคุณ เมื่อวานผมเป็นคนมา check in เอง คุณแม่ก็รออยู่ในรถ แล้วพนักงานของคุณไปบอกกับคุณผู้หญิงที่ไหนเหรอ ง่ายกว่ามั้ยครับถ้าคุณจะเอาพนักงานคนนั้นมาคุยกันเลยดีกว่าตอนนี้
คุณบี : พอดีพนักงานคนนั้นไม่ได้เข้ากะเช้าค่ะ (ตรึง! แล้วคุณไปคุยกับพนักงานคุณตอนไหนฟระ -- คิดในใจ)
ผมก็แสกนสายตามองดู พนักงานที่นั่งอยู่ตอนนี้ ก็ชุดเดียวกะตอน check in เมื่อวานเด๊ะๆ แต่ก็รำคาญที่จะเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้ต่อ
ผม : ประเด็นจริงๆคือ คุณไม่เคยบอกผมเลยว่ามีค่า "วันหยุดต่อเนื่อง" อะไรเนี่ย จนเมื่อสิบนาทีก่อน ซึ่งคุณมีโอกาศบอกผมได้หลายครั้งมากๆ ตั้งแต่ตอนผมจองห้อง ตอนผมโทรมายืนยันอีกรอบ จนถึงตอน check in เพราะฉะนั้น คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเก็บเงินลูกค้าแบบนี้นะ
คุณบี : เข้าใจค่ะ เป็นความผิดของทางเราเองที่ไม่ได้ชี้แจงก่อน เดี๋ยวบีจะขอสอบสวนพนักงานที่ไม่ได้แจ้งคุณลูกค้าเมื่อวานนี้ด้วยค่ะ แต่ยังไงทางโรงแรมก็ต้องชาร์จเงินจำนวนนี้ค่ะ บีไม่สามารถยกเลิกค่าใช้จ่ายนี้ให้ได้ค่ะ (งงๆ มึนๆ กับ Logic เธอนิดนึงตรงนี้ สรุปว่า รีสอร์ทผิด แต่ก็จะคิดตังค์นะคะ เข้าใจตรงกันนะ!)
จากนั้นก็มีบทสนทนาปะทะลอจิคกันอีกสักพักใหญ่ๆ จนแม่ผมต้องลงจากรถมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แขกห้องอื่นพอแอบได้ยินบนสนทนานี้ ก็มีคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งมาร่วมงงด้วย เพราะเค้าก็โดนชาร์จเหมือนกันเพราะใช้คูปอง Ensogo เหมือนกันเลย แต่เค้ามีพนักงานแจ้งตั้งแต่วัน check in เลย ซึ่งผมฟังแล้วก็เห็นใจแทน เพราะการมาพักผ่อนเค้าคงกร่อยไปตลอดเวลาที่พัก ด้วยอารมณ์ที่ว่า ขับรถมาตั้งไกล เพื่อมาถูก "มัดมือชก" ว่าต้องจ่ายเพิ่มนะเออ ไม่งั้นก็กลับบ้านไป! ซึ่งแขกคู่นั้นก็เลยต้องจำยอม จ่ายไป อย่างไม่มีทางเลือก
ตัวผมเองนั้นเป็นคนชอบเที่ยวรีสอร์ทสไตล์ Pool Villa และไปใช้บริการมาหลายยี่ห้อแล้วอย่างเช่น Anatara, Evason, Six Sense, Asara, etc. อาจจะมีเรื่องประทับใจบ้าง ไม่ประทับใจบ้าง แต่ AKA ครั้งนี้คือ "ที่สุด" จริงๆครับ ไม่เคยเจออะไรที่เสียความรู้สึกแบบนี้เลย ต่อให้เป็นโรงแรม 3 ดาวทั่วๆไป เค้ายังคิดกันได้ว่า ถ้าไม่ได้แจ้งลูกค้าไว้ก่อน อย่าหน้าด้านมาขอเก็บเงินเค้าเพิ่ม!
แน่นอนว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะพักรีสอร์ทเครือนี้ครับ และอยากเตือนเพื่อนๆ Pantip ไว้ให้เอาเรื่องของผมเป็นบทเรียนครับ และคิดให้ดีๆก่อนมาใช้บริการ เพราะคุณอาจจะโดนชาร์จค่า วันเกิด วันเผา วันพระ วันเนา วันอะไรก็ได้ ตามแต่ที่เค้าจะสรรหามาเพื่อเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง!
[CR] มินิรีวิว เตือนความไร้จรรยาบรรณของ AKA Resorts -- คุณอาจโดนเก็บเงินเพิ่มได้โดยไม่ต้องบอกให้ทราบล่วงหน้า
สรุปสั้นๆคือ ผมถูก AKA Resorts รีดไถเงินค่า "วันหยุดยาว" โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า บอกแค่ตอน check-out ว่า ผมต้องจ่ายเพิ่ม 2000 บาทนะ และไม่ใช่ผมกลุ่มเดียวที่โดน!
เล่าแบบยาวๆก็คือว่า...... เอิ่ม เล่าเป็น time line ละกันเนอะ เพื่อความชัดเจน
1. ประมาณเดือน พ.ค. ผมซื้อคูปอง AKA Hua Hin 2-bedroom กับ Ensogo ไว้ ซึ่งก็เป็นแบบที่ไม่มีระบุว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มถ้าไปพักวันไหนช่วงไหน
2. หลังจากซื้อเสร็จผมก็รีบโทรจองเลย (ระบุด้วยว่าใช้ Ensogo) เพราะครอบครัวผมว่างกันแค่เสาร์อาทิตย์ เลยต้องรีบจองก่อนจะเต็ม ก็ปรากฎว่าเต็มไปทั้งมิถุนาเรียบร้อยแล้วจ้า เลยบอกเค้าว่าเอาเสาร์อาทิตย์ไหนก็ได้ที่เร็วที่สุด พนักงานก็บอกว่าได้วันที่ 12 ก.ค. ค่ะ ก็ ok ตกลงตามนั้น ไม่มีการพูดเรื่องวันหยุดยาวอะไรแต่อย่างใด (ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็น long weekend)
3. ต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา รู้จากน้องที่ออฟฟิตว่าวันศุกร์นี้หยุด ผมก็นึกในใจว่า 'เฮ้ย แล้วที่เราจองไป จะจองได้ป่าววะ!' เริ่มไม่ชัวร์ เลยโทรไปขอ confirm การจอง และระบุอีกครั้งว่าใช้ Ensogo นะ ก็ได้รับคำตอบอย่างดีว่าจองเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร
4. วันที่ 12 ก.ค. เราทั้งครอบครัวจึงขับรถฝ่าฝนเบาๆ ไปถึง AKA Hua Hin กันก่อนเที่ยงเล็กน้อย เพื่อไป Check-in เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ลงทะเบียนไว้ก่อนเพราะห้องยังไม่เสร็จ (เรามาเร็วไปเอง) ผมก็โอเค เซ็นๆ แล้วก็ออกไปหาอะไรกินกัน แล้วกลับมาบ่ายสอง บ้านพักก็พร้อมให้เราเข้าใช้เรียบร้อย ทุกอย่างดูราบรื่นดี
5. วันรุ่งขึ้น 13 ก.ค. (วันที่โพสเนี่ยแหละ) เป็นเวลา Check out คุณ Manager ของ AKA นามว่าบี (นามสมมุติ) ก็เดินมาบอกเราอย่างสุภาพว่า 'คุณผู้ชาย ต้องจ่ายค่า Long weekend เพิ่ม 2000 นะคะ' เท่านั้นแหละครับ ดราม่าเรื่องนี้ก็บังเกิด
บทสนทนาคร่าวๆตรงนี้มีประมาณนี้
คุณบี : คุณผู้ชาย ต้องจ่ายค่า Long weekend เพิ่ม 2000 นะคะ
ผม : เฮ้ย อะไรครับ มีค่า Long weekend ด้วยเหรอ ทำไมไม่มีใครบอกผมเลยหล่ะ
คุณบี : น้องเค้าน่าจะบอกคุณผู้ชายตอน Check in เมื่อวานแล้วนี่คะ
ผม : ไม่มีครับ ไม่มีใครบอกอะไรผมเลย เมื่อวานตอนผม Check in คุณบีก็อยู่นี่ (จำหน้าได้) ไม่มีใครบอกอะไรผมเรื่องนี้เลย แล้วที่สำคัญนะ ตอนผมจองห้อง ทำไมไม่บอกก่อนหล่ะครับว่าต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย
คุณบีก็อึ้งๆ และขอตัวหายไปสัก 10 นาที แล้วก็กลับมาคุยต่อว่า.....
คุณบี : ยังไงก็ต้องมีค่า Long weekend ตรงนี้ 2000 บาทค่ะ
แล้วคุณบีก็ยื่นใบคูปอง Ensogo ที่ผมเป็นคนพิมพ์มาให้เค้าตอน check in เอง เพื่อชี้ให้ดูว่าคูปองระบุว่าไม่สามารถใช้กับวันหยุดต่อเนื่องได้ตามรูป
ผม : ผมทราบดีครับว่าคูปองเขียนตรงนี้ไว้ และนี่คือสาเหตุที่ตอนต้นอาทิตย์ ผมโทรมาถามยืนยันกับทาง AKA อีกทีว่าที่ผมจองห้องไว้ ใช้ Ensogo ได้จริงๆเหรอ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าใช้ได้แน่นอน และไม่มีการพูดถึงการจ่ายเงินเพิ่มอะไรแต่อย่างใด!
คุณบีก็ dead air ไปชั่วขณะ แล้วก็งัดมุขเดิมมาใช้อีก
คุณบี : แต่น้องก็ได้บอกคุณไปตอน check in แล้วนี่คะว่าจะต้องมีการจ่ายเงินเพิ่ม
ผม : ไม่มีครับ ผมยืนยันได้ว่าไม่มีการสื่อสารอะไรเรื่องนี้เลยจนเมื่อสิบนาทีที่แล้วจากปากคุณเนี่ยแหละ น้องคนไหนเหรอครับที่บอกผม เอามาคุยตรงนี้เลยครับ ดูซิว่าน้องเค้ากล้ายืนยันต่อหน้าผมมั้ยว่าบอกผมแล้ว
(ในใจผมก็คิดไปด้วยว่า ต่อให้เมื่อวานบอกเรื่องนี้แล้วก็เหอะนะ มันใช่เหรอครับที่ให้คนขับรถมาจากกรุงเทพมาถึงหน้ารีสอร์ทแล้ว ค่อยบอกเค้าว่าเค้าต้องจ่ายเงินเพิ่มถึงจะพักได้เนี่ย มีรีสอร์ทประเทศไหนเค้าทำกันอย่างงี้!!!!!!)
คุณบี : น้องเค้าบอกว่าได้บอกเรื่องนี้ไว้กับคุณผู้หญิงอีกท่านนึงแล้วหน่ะค่ะ
ถึงจุดนี้ ผมฟันธงแล้วหล่ะว่าคุณบีเธอกุเรื่องขึ้นมาเอง เพราะอะไรหน่ะเหรอ ...... เพราะเมื่อวานผมออกจากรถมา check in แค่สองคน คือ ผม กับน้องชาย !!!!! (ผมให้พ่อกับแม่รอให้รถเพราะแม่ไม่ค่อยสบาย)
ผม : ไม่ใช่แล้วหล่ะคุณ เมื่อวานผมเป็นคนมา check in เอง คุณแม่ก็รออยู่ในรถ แล้วพนักงานของคุณไปบอกกับคุณผู้หญิงที่ไหนเหรอ ง่ายกว่ามั้ยครับถ้าคุณจะเอาพนักงานคนนั้นมาคุยกันเลยดีกว่าตอนนี้
คุณบี : พอดีพนักงานคนนั้นไม่ได้เข้ากะเช้าค่ะ (ตรึง! แล้วคุณไปคุยกับพนักงานคุณตอนไหนฟระ -- คิดในใจ)
ผมก็แสกนสายตามองดู พนักงานที่นั่งอยู่ตอนนี้ ก็ชุดเดียวกะตอน check in เมื่อวานเด๊ะๆ แต่ก็รำคาญที่จะเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้ต่อ
ผม : ประเด็นจริงๆคือ คุณไม่เคยบอกผมเลยว่ามีค่า "วันหยุดต่อเนื่อง" อะไรเนี่ย จนเมื่อสิบนาทีก่อน ซึ่งคุณมีโอกาศบอกผมได้หลายครั้งมากๆ ตั้งแต่ตอนผมจองห้อง ตอนผมโทรมายืนยันอีกรอบ จนถึงตอน check in เพราะฉะนั้น คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเก็บเงินลูกค้าแบบนี้นะ
คุณบี : เข้าใจค่ะ เป็นความผิดของทางเราเองที่ไม่ได้ชี้แจงก่อน เดี๋ยวบีจะขอสอบสวนพนักงานที่ไม่ได้แจ้งคุณลูกค้าเมื่อวานนี้ด้วยค่ะ แต่ยังไงทางโรงแรมก็ต้องชาร์จเงินจำนวนนี้ค่ะ บีไม่สามารถยกเลิกค่าใช้จ่ายนี้ให้ได้ค่ะ (งงๆ มึนๆ กับ Logic เธอนิดนึงตรงนี้ สรุปว่า รีสอร์ทผิด แต่ก็จะคิดตังค์นะคะ เข้าใจตรงกันนะ!)
จากนั้นก็มีบทสนทนาปะทะลอจิคกันอีกสักพักใหญ่ๆ จนแม่ผมต้องลงจากรถมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แขกห้องอื่นพอแอบได้ยินบนสนทนานี้ ก็มีคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งมาร่วมงงด้วย เพราะเค้าก็โดนชาร์จเหมือนกันเพราะใช้คูปอง Ensogo เหมือนกันเลย แต่เค้ามีพนักงานแจ้งตั้งแต่วัน check in เลย ซึ่งผมฟังแล้วก็เห็นใจแทน เพราะการมาพักผ่อนเค้าคงกร่อยไปตลอดเวลาที่พัก ด้วยอารมณ์ที่ว่า ขับรถมาตั้งไกล เพื่อมาถูก "มัดมือชก" ว่าต้องจ่ายเพิ่มนะเออ ไม่งั้นก็กลับบ้านไป! ซึ่งแขกคู่นั้นก็เลยต้องจำยอม จ่ายไป อย่างไม่มีทางเลือก
ตัวผมเองนั้นเป็นคนชอบเที่ยวรีสอร์ทสไตล์ Pool Villa และไปใช้บริการมาหลายยี่ห้อแล้วอย่างเช่น Anatara, Evason, Six Sense, Asara, etc. อาจจะมีเรื่องประทับใจบ้าง ไม่ประทับใจบ้าง แต่ AKA ครั้งนี้คือ "ที่สุด" จริงๆครับ ไม่เคยเจออะไรที่เสียความรู้สึกแบบนี้เลย ต่อให้เป็นโรงแรม 3 ดาวทั่วๆไป เค้ายังคิดกันได้ว่า ถ้าไม่ได้แจ้งลูกค้าไว้ก่อน อย่าหน้าด้านมาขอเก็บเงินเค้าเพิ่ม!
แน่นอนว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะพักรีสอร์ทเครือนี้ครับ และอยากเตือนเพื่อนๆ Pantip ไว้ให้เอาเรื่องของผมเป็นบทเรียนครับ และคิดให้ดีๆก่อนมาใช้บริการ เพราะคุณอาจจะโดนชาร์จค่า วันเกิด วันเผา วันพระ วันเนา วันอะไรก็ได้ ตามแต่ที่เค้าจะสรรหามาเพื่อเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง!