สวัสดีค่ะ วันนี้อ้อจะมารีวิวทริปนอธเทิร์นไอร์แลนด์นะคะ
ก่อนอื่นก็ต้องแนะนำก่อนว่าอะไรคือนอธเทิร์นไอแลนด์แล้วมันอยู่ส่วนไหนของโลกนะ
Northern Ireland เป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษค่ะ แต่จะอยู่ในส่วนบริเวณที่เป็นเกาะไอร์แลนด์ ตามภาพเลยจ้า
การเดินทางนะคะ พวกเราแก๊งสามสาวออกเดินทางจากสนามบินนิวคาสเซิล โดย Easyjet ค่ะ
คนที่นี่เดินทางกันทุกเส้นทางจริงๆ ทางเครื่องบินก็เต็มทุกที่นั่งเลยจ้า
การเดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศของที่นี่ก็อนุญาตให้เราพกแครี่ออนได้ 1 ใบ ไม่มีการชั่งน้ำหนัก
ถ้ามีกระเป๋าใหญ่ก็สามารถโหลดได้แต่ว่าต้องเสียตังเพิ่มนะคะ
ของเราจองไปกลับและมีกระเป๋าเดินทางใหญ่ จ่ายเงินต่อคนตกอยู่คนละ ประมาณ 2500 บาทเท่านั้น ถูกมากก
สำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางก็แค่ 40 นาทีเองค่ะ ไวสุดๆเลย
วันแรกเราพักกันที่ ibis hotel ในตัวเมือง Belfast ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากใจกลางตัวเมือง
สภาพห้องวันแรก อิอิ
ทางโรงแรมใจดีมากค่ะ ให้เราเช็คอินได้ตั้งแต่ 11 โมงเลย
โดยปกติแล้วที่นี่จะเริ่มให้เช็คอินตอนบ่ายสอง และเชคเอาท์ตั้งแต่ 10 โมงเช้า
จากนั้นเราก็ทำการสำรวจตัวเมืองเบลฟาสกันเลยค่ะ
และแล้วเราก็ไม่รู้จะไปไหนกันต่อดี เพราะเหมือนจะไม่มีอะไร เลยเดินไปถาม Information และตัดสินใจไปสวนสัตว์กัน 555+
จริงๆ ทริปของเราเน้นไปเที่ยวแถบเหนือๆของเกาะซึ่งจะรีวิวตามมาในลำดับต่อไปจ้าา
ในวันนี้เรายังไม่มีรถ การเดินทางไปสวนสัตว์ซึ่งไกลออกไปจึงต้องพึ่งบริการรถเมล์ค่ะ
แต่ดูเหมือนรถคันนี้จะเป็นของเรา ว่างเชียววว
ถึงสวนสัตว์แล้วค้าบบ ขอถ่ายกะป้ายหน่อย อิอิ
ที่นี่เราต้องเสียค่าเข้าด้วยค่ะ แต่เป็นนักเรียนสามารถใช้ส่วนลดได้นะ
แต่อยากจะบอกว่า ไม่ค่อยคุ้มกะเงินที่จ่ายเลย สวนสัตว์ดูแห้งแล้งมาก ดูทรุดโทรมไม่น่าเยี่ยมชมเลย...
จขกท และสาวๆ เลยเดินชิวๆ ไม่ค่อยมีอะไรให้ถ่ายรูปเลย วันแรกก็แอบเบื่อนิดหน่อย
แต่ไฮไลท์อยู่ที่ ร้านอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อมากกก ของเบลฟาส
เพราะว่าหอยอร่อยมากเลยฮ่ะ
ชื่อร้าน Mourne Seafood Bar ต้องไปรอคิวด้วยค่ะ เป็นร้านเล็กๆ ดูภายนอกไม่หรูหรา แต่อาหารหรูหรามากเลย
ตอนเข้าไปนั่งในร้านแบตกล้องหมด เลยได้มาแค่นี้
เมนูแซลม่อนอร่อยมากค่ะ เซ็ตนี้ค่าเสียหายน่าจะประมาณ 13 ปอนด์ ถ้าจำไม่ผิด
แล้วก็จบทริปวันแรก เข้านอน...ราตรีสวัส ท่านผู้ชม
จากนั้นวันที่ 2 เราก็ได้รถมาแล้วววววว เย่เย่
ทุกคนในทริปขับรถเป็นกันหมดเลยค่ะ แต่มีคนเดียวที่มีใบขับขี่สากล
เพื่อนสาวของเราก็เลยต้องอาสาเป็นผู้รับผิดชอบตลอดทริปเลย หุหุ
เราเริ่มมื้อเช้ากันอย่างง่ายและไว ใกล้ๆที่รับรถ
เสร็จภาระกิจการกิน ก็ไปรับรถกับบริษัท Sixt ที่เราได้ทำการจองออนไลน์แต่มาจ่ายตังค์ตอนรับรถ
ค่ารถที่เราจ่ายไปหารกัน 4 คนตกคนละ 25 ปอนด์ ซึ่งรวมค่าน้ำมันแล้วนะคะ ถือว่าพอรับได้เลยกับระยะเวลา 2 วัน
และนี่คือรถของเราค้าบบบ
แต่ด้วยความที่เราไม่ได้วางแผนทริป ไม่ได้ลองใช้ GPS กันมาก่อน ปัญหาจึงเกิดค่ะ
เราเสียเวลาในการฝึกใช้ GPS นานมาก และกลับรถหลงทางไปมาอยู่เป็นชั่วโมง
จากนั้นเราก็ โอเค ใช้เซนส์ก่อนละกัน ไปทางนี้ๆๆๆ 555 นึกแล้วก็ตลกมาก
แต่สุดท้าย GPS ก็ใช้ได้ อิอิ
สถานที่แรกที่เราไปชื่อว่า Carrick-a-Rede Rope Bridge สวยงามมากกกกก แต่ก็แอบเหม็นขี้นกไปหน่อย
ที่มาของชื่อน่าจะมาจากสะพานแขวนอันนี้
จากนั้นเราก็ขับรถไปในเมืองที่ชื่อว่า Bushmills และหาของสดกิน
ลำดับต่อไป เราก็แวะไปเยี่ยมสะพานยักษ์แปดเหลี่ยม (ชื่อตั้งเอง - -'') หรือ Giant's Causeway อันนี้เป็น World heritage ด้วยนะคะ
ค่าเข้าก็ 15 ปอนด์มั้ง ไม่มีส่วนลดด้วย แต่ก็สวยกว่าไปสวนสัตว์ ฮ่าๆๆ
ที่นี่จะมีลักษณะเด่นตรงที่หินแต่ละก้อนจะเป็นรูปแปดเหลี่ยม ดูแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเองตามธรรมชาติ
ขอแชะภาพร่วมหน่อย เป็นที่ระทึกว่าชั้นมาแล้วนะ ไม่มาอีกนะ 5555+
จากนั้นเราก็ต้องอำลาทางเดินยักษ์ ไปยังเมืองต่อไป Portrush...
เดี๋ยวเราขอหาปั๊มน้ำมันก่อนเนอะ เดี๋ยวค่อยเดินทางกันต่อนะคะ
ขอเชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย...
ขับรถเที่ยว Northern Ireland กันนน!!!
ก่อนอื่นก็ต้องแนะนำก่อนว่าอะไรคือนอธเทิร์นไอแลนด์แล้วมันอยู่ส่วนไหนของโลกนะ
Northern Ireland เป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษค่ะ แต่จะอยู่ในส่วนบริเวณที่เป็นเกาะไอร์แลนด์ ตามภาพเลยจ้า
การเดินทางนะคะ พวกเราแก๊งสามสาวออกเดินทางจากสนามบินนิวคาสเซิล โดย Easyjet ค่ะ
คนที่นี่เดินทางกันทุกเส้นทางจริงๆ ทางเครื่องบินก็เต็มทุกที่นั่งเลยจ้า
การเดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศของที่นี่ก็อนุญาตให้เราพกแครี่ออนได้ 1 ใบ ไม่มีการชั่งน้ำหนัก
ถ้ามีกระเป๋าใหญ่ก็สามารถโหลดได้แต่ว่าต้องเสียตังเพิ่มนะคะ
ของเราจองไปกลับและมีกระเป๋าเดินทางใหญ่ จ่ายเงินต่อคนตกอยู่คนละ ประมาณ 2500 บาทเท่านั้น ถูกมากก
สำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางก็แค่ 40 นาทีเองค่ะ ไวสุดๆเลย
วันแรกเราพักกันที่ ibis hotel ในตัวเมือง Belfast ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากใจกลางตัวเมือง
สภาพห้องวันแรก อิอิ
ทางโรงแรมใจดีมากค่ะ ให้เราเช็คอินได้ตั้งแต่ 11 โมงเลย
โดยปกติแล้วที่นี่จะเริ่มให้เช็คอินตอนบ่ายสอง และเชคเอาท์ตั้งแต่ 10 โมงเช้า
จากนั้นเราก็ทำการสำรวจตัวเมืองเบลฟาสกันเลยค่ะ
และแล้วเราก็ไม่รู้จะไปไหนกันต่อดี เพราะเหมือนจะไม่มีอะไร เลยเดินไปถาม Information และตัดสินใจไปสวนสัตว์กัน 555+
จริงๆ ทริปของเราเน้นไปเที่ยวแถบเหนือๆของเกาะซึ่งจะรีวิวตามมาในลำดับต่อไปจ้าา
ในวันนี้เรายังไม่มีรถ การเดินทางไปสวนสัตว์ซึ่งไกลออกไปจึงต้องพึ่งบริการรถเมล์ค่ะ
แต่ดูเหมือนรถคันนี้จะเป็นของเรา ว่างเชียววว
ถึงสวนสัตว์แล้วค้าบบ ขอถ่ายกะป้ายหน่อย อิอิ
ที่นี่เราต้องเสียค่าเข้าด้วยค่ะ แต่เป็นนักเรียนสามารถใช้ส่วนลดได้นะ
แต่อยากจะบอกว่า ไม่ค่อยคุ้มกะเงินที่จ่ายเลย สวนสัตว์ดูแห้งแล้งมาก ดูทรุดโทรมไม่น่าเยี่ยมชมเลย...
จขกท และสาวๆ เลยเดินชิวๆ ไม่ค่อยมีอะไรให้ถ่ายรูปเลย วันแรกก็แอบเบื่อนิดหน่อย
แต่ไฮไลท์อยู่ที่ ร้านอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อมากกก ของเบลฟาส
เพราะว่าหอยอร่อยมากเลยฮ่ะ
ชื่อร้าน Mourne Seafood Bar ต้องไปรอคิวด้วยค่ะ เป็นร้านเล็กๆ ดูภายนอกไม่หรูหรา แต่อาหารหรูหรามากเลย
ตอนเข้าไปนั่งในร้านแบตกล้องหมด เลยได้มาแค่นี้
เมนูแซลม่อนอร่อยมากค่ะ เซ็ตนี้ค่าเสียหายน่าจะประมาณ 13 ปอนด์ ถ้าจำไม่ผิด
แล้วก็จบทริปวันแรก เข้านอน...ราตรีสวัส ท่านผู้ชม
จากนั้นวันที่ 2 เราก็ได้รถมาแล้วววววว เย่เย่
ทุกคนในทริปขับรถเป็นกันหมดเลยค่ะ แต่มีคนเดียวที่มีใบขับขี่สากล
เพื่อนสาวของเราก็เลยต้องอาสาเป็นผู้รับผิดชอบตลอดทริปเลย หุหุ
เราเริ่มมื้อเช้ากันอย่างง่ายและไว ใกล้ๆที่รับรถ
เสร็จภาระกิจการกิน ก็ไปรับรถกับบริษัท Sixt ที่เราได้ทำการจองออนไลน์แต่มาจ่ายตังค์ตอนรับรถ
ค่ารถที่เราจ่ายไปหารกัน 4 คนตกคนละ 25 ปอนด์ ซึ่งรวมค่าน้ำมันแล้วนะคะ ถือว่าพอรับได้เลยกับระยะเวลา 2 วัน
และนี่คือรถของเราค้าบบบ
แต่ด้วยความที่เราไม่ได้วางแผนทริป ไม่ได้ลองใช้ GPS กันมาก่อน ปัญหาจึงเกิดค่ะ
เราเสียเวลาในการฝึกใช้ GPS นานมาก และกลับรถหลงทางไปมาอยู่เป็นชั่วโมง
จากนั้นเราก็ โอเค ใช้เซนส์ก่อนละกัน ไปทางนี้ๆๆๆ 555 นึกแล้วก็ตลกมาก
แต่สุดท้าย GPS ก็ใช้ได้ อิอิ
สถานที่แรกที่เราไปชื่อว่า Carrick-a-Rede Rope Bridge สวยงามมากกกกก แต่ก็แอบเหม็นขี้นกไปหน่อย
ที่มาของชื่อน่าจะมาจากสะพานแขวนอันนี้
จากนั้นเราก็ขับรถไปในเมืองที่ชื่อว่า Bushmills และหาของสดกิน
ลำดับต่อไป เราก็แวะไปเยี่ยมสะพานยักษ์แปดเหลี่ยม (ชื่อตั้งเอง - -'') หรือ Giant's Causeway อันนี้เป็น World heritage ด้วยนะคะ
ค่าเข้าก็ 15 ปอนด์มั้ง ไม่มีส่วนลดด้วย แต่ก็สวยกว่าไปสวนสัตว์ ฮ่าๆๆ
ที่นี่จะมีลักษณะเด่นตรงที่หินแต่ละก้อนจะเป็นรูปแปดเหลี่ยม ดูแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเองตามธรรมชาติ
ขอแชะภาพร่วมหน่อย เป็นที่ระทึกว่าชั้นมาแล้วนะ ไม่มาอีกนะ 5555+
จากนั้นเราก็ต้องอำลาทางเดินยักษ์ ไปยังเมืองต่อไป Portrush...
เดี๋ยวเราขอหาปั๊มน้ำมันก่อนเนอะ เดี๋ยวค่อยเดินทางกันต่อนะคะ
ขอเชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย...