ออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้จะมาดิสเครดิตหรืออะไร เพราะถ้าดูเผินๆแล้วหนังมันไม่ได้มีอะไรเหมือนกันขนาดนั้น
แค่พอนั่งดูแล้วคิดตาม มันให้ความรู้สึกเหมือนกับได้ดูภาคสองของเรื่อง "กวน มึน โฮ" ที่เป็นเวอร์ชั่นคู่ขนาน ซึ่งมันดีนะครับ ไม่ใช่ไม่ดี
ทั้งแนวคิดการนำเสนอ มุมมองของเรื่อง และอะไรอีกหลายๆอย่าง ผมว่ามันเป็นหนังที่สามารถใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Hello Stranger : Teacher’s Diary" ก็ได้
ก็อย่างที่บอกไปตอนต้นนั่นแหละครับว่าหนังสองเรื่องนี้ถ้ามองเผินๆในมุมของเนื้อเรื่องหลัก มันแทบจะไม่เหมือนกันเลย เรื่องนึงเป็นเรื่องของคนสองคนไปเที่ยวด้วยกันที่เกาหลี ในขณะที่อีกเรื่องเป็นเรื่องของครูสองคนที่สอนอยู่โรงเรียนเดียวกัน
แต่ถ้าผมจะบอกว่า เรื่องกวนมึนโฮ เป็นเรื่องของคนสองคนที่เจอหน้ากันแทบจะตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้จักชื่อกันเลย แต่คิดถึงวิทยาเป็นเรื่องของคนสองคนที่รู้จักชื่อกันแต่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย และคนสองคนนั้นก็รักกันทั้งสองเรื่อง
..เริ่มจะเห็นความคล้ายกันของทั้งสองเรื่องนี้มั้ยครับ?
ผมถึงได้บอกว่า "เหมือนทั้งสองเรื่องเป็นโลกคู่ขนานของกันและกัน" คือคู่นึงไม่รู้จักชื่อกัน แต่รักกันจากการเจอหน้ากัน เที่ยวด้วยกัน ส่วนอีกคู่รู้จักชื่อกันแล้ว แต่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย แต่ก็รักกัน และคิดถึงกันผ่านตัวอักษรในสมุดไดอารี่
นอกจากนี้ทั้งสองเรื่องยังพูดถึงการต้องเจอกับสิ่งใหม่เหมือนกัน กวนมึนโฮ เป็นการไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรก นางเอกรู้เรื่องเกาหลีมาบ้าง พระเอกไม่รู้เรื่องอะไรเลย
คิดถึงวิทยาก็คือการเดินทางไปเป็นครูที่โรงเรียนเรือนแพครั้งแรกเหมือนกัน ครูแอนเป็นครูมาก่อน ถึงถูกย้ายมาแบบกระทันหัน แต่ก็มีวิญญาณของความเป็นครู รู้ว่าจะรับมือยังไง แต่ครูสองเพิ่งมาเป็นครู แค่สอนเด็กยังสอนไม่เป็น
และจุดที่ทำให้คนสองคนเริ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกันมันก็เริ่มจากคนนึงรู้ อีกคนไม่รู้นี่แหละ ในกวนมึนโฮ พระเอกขอตามนางเอกไปเที่ยวด้วย เพราะตัวเองไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเกาหลีเลย ภาษาอังกฤษก็ห่วย ดังนั้นการท่องเที่ยวในต่างประเทศของพระเอกจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก นางเอกจึงต้องปล่อยเลยตามเลย ทำให้ทั้งสองคนเริ่มรู้จักกัน เรียนรู้นิสัยกัน แม้ว่าทั้งคู่จะไม่รู้จักชื่อจริงๆของกันและกันก็ตาม
เช่นเดียวกันกับคิดถึงวิทยา ครูแอนซึ่งเป็นครูมาก่อน ก็เริ่มจะปรับตัวตามสถานการณ์ เริ่มทำความรู้จักกับเด็กๆ ในขณะเดียวกันก็เขียนบันทึกลงไดอารี่ไปด้วย ทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องงาน เพราะในโรงเรียนที่ห่างไกลขนาดนั้นไม่มีทั้งไฟฟ้า ไม่มีทั้งอินเตอร์เน็ต วันดีคืนดีถึงจะมีสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปีนึงมีวันดีคืนดีกี่วัน ฮ่าๆๆ ดังนั้นการเขียนบันทึกจึงเป็นการคลายเหงาได้ดีที่สุดสำหรับครูแอน และครูสองก็ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ครูแอนเขียนไว้มาปรับใช้กับการสอนเด็กๆ รวมถึงปรับตัวให้อยู่ที่นั่นให้ได้ด้วย และครูสองก็เริ่มประทับใจครูแอนจากตรงนั้น ครูแอนก็เช่นกัน พอมาเห็นไดอารี่ของตัวเองที่ครูสองเขียนเติมไว้ก็เริ่มรู้สึกดีๆกับครูสองเช่นเดียวกัน แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เคยเจอหน้ากันเลยสักครั้ง
จุดที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องก็คล้ายกันอีก คือเป็นเรื่องของแฟนเก่ากลับมาขอคืนดี ในกวนมึนโฮ ทั้งคู่เกือบจะ Happy Ending กันอยู่แล้ว อยู่ดีๆ "ก้อย" แฟนเก่าพระเอกก็โผล่มา ทำให้นางเอกต้องเป็นฝ่ายเดินจากไป ส่วนคิดถึงวิทยา แฟนเก่าครูแอนก็กลับมา ในวันที่ครูแอนจะได้เจอหน้าครูสองอยู่แล้ว
และสิ่งที่ทำให้พระเอกจากกวนมึนโฮ และครูแอนจากคิดถึงวิทยา ได้ถามใจตัวเองว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการใครกันแน่ ก็จะมีสิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนคีย์เวิร์ดให้ทั้งสองคนได้ฉุกคิด ในกวนมึนโฮจะเป็น "ชิพ" ที่พระเอกเคยได้มาตอนไปเล่นพนันกับนางเอกที่เกาหลี ส่วนคิดถึงวิทยาเป็น "รถไฟ" ซึ่งเป็นสิ่งที่ครูสองเคยเขียนเล่าไว้ในไดอารี่เรื่องวิธีการสอนเด็กของเค้า
ฉากจบก็ยังเหมือนกัน คือ ในกวนมึนโฮ จากที่ไม่รู้จักชื่อกันมาทั้งเรื่อง ฉากจบก็เป็นฉากบอกชื่อซะ ส่วนคิดถึงวิทยา จากที่ไม่เจอหน้ากันมาทั้งเรื่อง ฉากจบก็เป็นฉากเจอหน้ากันซะ แล้วก็ตัดจบ ให้คนดูไปคิดต่อว่าเรื่องของทั้งสองคู่จะเป็นยังไงต่อ
และถ้าจะมองให้ละเอียดกว่านั้น สองเรื่องนี้ยังมีความเหมือนกันอีกหลายอย่าง เช่นเพลงหลักของเรื่องมาจากวง 25 hours เหมือนกัน
นักแสดงรับเชิญก็เป็นระดับพระเอกนางเอกอันดับต้นๆจากช่องเจ็ดทั้งคู่ คือจุ๋ย วรัทยา(ในตอนที่เล่นเรื่องกวนมึนโฮ) และเวียร์ ศุกลวัฒน์
หรือพระเอกนางเอก ก็มีลักษณะเหมือนกันอีก คือ คนนึงเป็นนักแสดงที่เล่นหนังมาบ้างแล้ว อีกคนเป็นนักแสดงที่เพิ่งเล่นเรื่องแรก
หรือแม้แต่เรื่องโลเกชั่น เพราะทั้งสองเรื่องถ่ายภาพวิวของสถานที่นั้นๆออกมาได้สวยจนอยากไปเห็นวิวนั้นด้วยตาตัวเองซักครั้ง
มันอาจจะเป็นความบังเอิญ หรือจงใจ หรืออะไรก็ตาม เพราะหนังสองเรื่องนี้ก็มาจากค่ายเดียวกัน ดังนั้นถ้าบอกว่าเค้าจงใจใส่ให้เป็น Gimmick มันก็ไม่น่าจะแปลกอะไร
แต่ที่ผมอยากจะสื่อคือ ได้นั่งดูคิดถึงวิทยาแล้วยังกะได้ดูกวนมึนโฮภาคสอง ที่ไม่ได้เป็นภาคสองแบบเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกัน แต่เป็นภาคสองแบบแนวคิดการดำเนินเรื่องเหมือนกัน หรือสถานการณ์บางอย่างคล้ายกัน
ซึ่งผมชอบทั้งคู่นะครับ ทั้งกวนมึนโฮ และคิดถึงวิทยา ผมว่าตัวหนังมันก็มีดีในแบบของมัน ที่ไม่ไปดูคิดถึงวิทยาในโรงเพราะนึกว่าบี้กับพลอยจะแสดงโอเวอร์จนน่ารำคาญ แต่ก็ไม่ ทั้งสองคนทำหน้าที่ได้ดี และเหนือสิ่งอื่นใด ผมว่าเค้าถ่ายภาพเขื่อนออกมาได้สวยมากจริงๆ แค่ดูภาพเฉยๆก็เพลินแล้ว บรรยากาศน่าไปตั้งแคมป์นอนเล่นซักคืนสองคืน
เพิ่งได้ดู "คิดถึงวิทยา" อยู่ดีๆก็คิดถึงเรื่อง "กวน มึน โฮ" ขึ้นมา [เหมาะสำหรับคนที่ดูแล้วทั้งสองเรื่อง]
แค่พอนั่งดูแล้วคิดตาม มันให้ความรู้สึกเหมือนกับได้ดูภาคสองของเรื่อง "กวน มึน โฮ" ที่เป็นเวอร์ชั่นคู่ขนาน ซึ่งมันดีนะครับ ไม่ใช่ไม่ดี
ทั้งแนวคิดการนำเสนอ มุมมองของเรื่อง และอะไรอีกหลายๆอย่าง ผมว่ามันเป็นหนังที่สามารถใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Hello Stranger : Teacher’s Diary" ก็ได้
ก็อย่างที่บอกไปตอนต้นนั่นแหละครับว่าหนังสองเรื่องนี้ถ้ามองเผินๆในมุมของเนื้อเรื่องหลัก มันแทบจะไม่เหมือนกันเลย เรื่องนึงเป็นเรื่องของคนสองคนไปเที่ยวด้วยกันที่เกาหลี ในขณะที่อีกเรื่องเป็นเรื่องของครูสองคนที่สอนอยู่โรงเรียนเดียวกัน
แต่ถ้าผมจะบอกว่า เรื่องกวนมึนโฮ เป็นเรื่องของคนสองคนที่เจอหน้ากันแทบจะตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้จักชื่อกันเลย แต่คิดถึงวิทยาเป็นเรื่องของคนสองคนที่รู้จักชื่อกันแต่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย และคนสองคนนั้นก็รักกันทั้งสองเรื่อง
..เริ่มจะเห็นความคล้ายกันของทั้งสองเรื่องนี้มั้ยครับ?
ผมถึงได้บอกว่า "เหมือนทั้งสองเรื่องเป็นโลกคู่ขนานของกันและกัน" คือคู่นึงไม่รู้จักชื่อกัน แต่รักกันจากการเจอหน้ากัน เที่ยวด้วยกัน ส่วนอีกคู่รู้จักชื่อกันแล้ว แต่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย แต่ก็รักกัน และคิดถึงกันผ่านตัวอักษรในสมุดไดอารี่
นอกจากนี้ทั้งสองเรื่องยังพูดถึงการต้องเจอกับสิ่งใหม่เหมือนกัน กวนมึนโฮ เป็นการไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรก นางเอกรู้เรื่องเกาหลีมาบ้าง พระเอกไม่รู้เรื่องอะไรเลย
คิดถึงวิทยาก็คือการเดินทางไปเป็นครูที่โรงเรียนเรือนแพครั้งแรกเหมือนกัน ครูแอนเป็นครูมาก่อน ถึงถูกย้ายมาแบบกระทันหัน แต่ก็มีวิญญาณของความเป็นครู รู้ว่าจะรับมือยังไง แต่ครูสองเพิ่งมาเป็นครู แค่สอนเด็กยังสอนไม่เป็น
และจุดที่ทำให้คนสองคนเริ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกันมันก็เริ่มจากคนนึงรู้ อีกคนไม่รู้นี่แหละ ในกวนมึนโฮ พระเอกขอตามนางเอกไปเที่ยวด้วย เพราะตัวเองไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเกาหลีเลย ภาษาอังกฤษก็ห่วย ดังนั้นการท่องเที่ยวในต่างประเทศของพระเอกจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก นางเอกจึงต้องปล่อยเลยตามเลย ทำให้ทั้งสองคนเริ่มรู้จักกัน เรียนรู้นิสัยกัน แม้ว่าทั้งคู่จะไม่รู้จักชื่อจริงๆของกันและกันก็ตาม
เช่นเดียวกันกับคิดถึงวิทยา ครูแอนซึ่งเป็นครูมาก่อน ก็เริ่มจะปรับตัวตามสถานการณ์ เริ่มทำความรู้จักกับเด็กๆ ในขณะเดียวกันก็เขียนบันทึกลงไดอารี่ไปด้วย ทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องงาน เพราะในโรงเรียนที่ห่างไกลขนาดนั้นไม่มีทั้งไฟฟ้า ไม่มีทั้งอินเตอร์เน็ต วันดีคืนดีถึงจะมีสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปีนึงมีวันดีคืนดีกี่วัน ฮ่าๆๆ ดังนั้นการเขียนบันทึกจึงเป็นการคลายเหงาได้ดีที่สุดสำหรับครูแอน และครูสองก็ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ครูแอนเขียนไว้มาปรับใช้กับการสอนเด็กๆ รวมถึงปรับตัวให้อยู่ที่นั่นให้ได้ด้วย และครูสองก็เริ่มประทับใจครูแอนจากตรงนั้น ครูแอนก็เช่นกัน พอมาเห็นไดอารี่ของตัวเองที่ครูสองเขียนเติมไว้ก็เริ่มรู้สึกดีๆกับครูสองเช่นเดียวกัน แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เคยเจอหน้ากันเลยสักครั้ง
จุดที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องก็คล้ายกันอีก คือเป็นเรื่องของแฟนเก่ากลับมาขอคืนดี ในกวนมึนโฮ ทั้งคู่เกือบจะ Happy Ending กันอยู่แล้ว อยู่ดีๆ "ก้อย" แฟนเก่าพระเอกก็โผล่มา ทำให้นางเอกต้องเป็นฝ่ายเดินจากไป ส่วนคิดถึงวิทยา แฟนเก่าครูแอนก็กลับมา ในวันที่ครูแอนจะได้เจอหน้าครูสองอยู่แล้ว
และสิ่งที่ทำให้พระเอกจากกวนมึนโฮ และครูแอนจากคิดถึงวิทยา ได้ถามใจตัวเองว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการใครกันแน่ ก็จะมีสิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนคีย์เวิร์ดให้ทั้งสองคนได้ฉุกคิด ในกวนมึนโฮจะเป็น "ชิพ" ที่พระเอกเคยได้มาตอนไปเล่นพนันกับนางเอกที่เกาหลี ส่วนคิดถึงวิทยาเป็น "รถไฟ" ซึ่งเป็นสิ่งที่ครูสองเคยเขียนเล่าไว้ในไดอารี่เรื่องวิธีการสอนเด็กของเค้า
ฉากจบก็ยังเหมือนกัน คือ ในกวนมึนโฮ จากที่ไม่รู้จักชื่อกันมาทั้งเรื่อง ฉากจบก็เป็นฉากบอกชื่อซะ ส่วนคิดถึงวิทยา จากที่ไม่เจอหน้ากันมาทั้งเรื่อง ฉากจบก็เป็นฉากเจอหน้ากันซะ แล้วก็ตัดจบ ให้คนดูไปคิดต่อว่าเรื่องของทั้งสองคู่จะเป็นยังไงต่อ
และถ้าจะมองให้ละเอียดกว่านั้น สองเรื่องนี้ยังมีความเหมือนกันอีกหลายอย่าง เช่นเพลงหลักของเรื่องมาจากวง 25 hours เหมือนกัน
นักแสดงรับเชิญก็เป็นระดับพระเอกนางเอกอันดับต้นๆจากช่องเจ็ดทั้งคู่ คือจุ๋ย วรัทยา(ในตอนที่เล่นเรื่องกวนมึนโฮ) และเวียร์ ศุกลวัฒน์
หรือพระเอกนางเอก ก็มีลักษณะเหมือนกันอีก คือ คนนึงเป็นนักแสดงที่เล่นหนังมาบ้างแล้ว อีกคนเป็นนักแสดงที่เพิ่งเล่นเรื่องแรก
หรือแม้แต่เรื่องโลเกชั่น เพราะทั้งสองเรื่องถ่ายภาพวิวของสถานที่นั้นๆออกมาได้สวยจนอยากไปเห็นวิวนั้นด้วยตาตัวเองซักครั้ง
มันอาจจะเป็นความบังเอิญ หรือจงใจ หรืออะไรก็ตาม เพราะหนังสองเรื่องนี้ก็มาจากค่ายเดียวกัน ดังนั้นถ้าบอกว่าเค้าจงใจใส่ให้เป็น Gimmick มันก็ไม่น่าจะแปลกอะไร
แต่ที่ผมอยากจะสื่อคือ ได้นั่งดูคิดถึงวิทยาแล้วยังกะได้ดูกวนมึนโฮภาคสอง ที่ไม่ได้เป็นภาคสองแบบเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกัน แต่เป็นภาคสองแบบแนวคิดการดำเนินเรื่องเหมือนกัน หรือสถานการณ์บางอย่างคล้ายกัน
ซึ่งผมชอบทั้งคู่นะครับ ทั้งกวนมึนโฮ และคิดถึงวิทยา ผมว่าตัวหนังมันก็มีดีในแบบของมัน ที่ไม่ไปดูคิดถึงวิทยาในโรงเพราะนึกว่าบี้กับพลอยจะแสดงโอเวอร์จนน่ารำคาญ แต่ก็ไม่ ทั้งสองคนทำหน้าที่ได้ดี และเหนือสิ่งอื่นใด ผมว่าเค้าถ่ายภาพเขื่อนออกมาได้สวยมากจริงๆ แค่ดูภาพเฉยๆก็เพลินแล้ว บรรยากาศน่าไปตั้งแคมป์นอนเล่นซักคืนสองคืน