หรือชั้นขาดผู้ชายไม่ได้. ,, ขอโทษนะ ที่ชั้นมีชู้ 5 คน โดย1ปีที่ผ่านมาเธอไม่รุ้เลย

กระทู้สนทนา
ที่ตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ เพราะสงสัยว่าการกระทำของตนเอง คือการที่เราเป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้หรือ  อยากให้เป็นข้อเตือนสติทุกคน ว่าสุดท้าย การมีชู้. หรือการทรยศหักหลังคนที่คุณรัก. ต่อให้เค้าไม่รู้เรื่อง แต่มันจะเป็นตราบาปไปตลอดชีวิตของคุณ

(เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของผู้หญิงคนหนึ่ง คนนี้ ที่ทรมานเหลือเกินกับเรื่องแบบนี้ ดิฉันขอระบายหมดเปลือกค่ะ)
ดิฉันอายุ 24 ปีค่ะ ก็ไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ขาวๆ ตัวเล็กๆ และเรื่องที่จะเล่าต่อไปได้นี้เกิดตั้งแต่สองปีที่แล้วค่ะ เมื่อต้นปี 2555 ดิฉันเพิ่งเลิกกับแฟนค่ะ และได้รุ้จักผู้ขายคนหนึ่ง เราทำความรู้จัก และชอบพอกัน เค้าตรงเสปคดิฉันทุกอย่างค่ะ เราคุยกันซักพัก และตัดสินใจเป็นแฟนกันค่ะ ดิฉันยอมรับเลยค่ะ ว่ารักเค้ามาก รักและซื่อสัตย์เลยแหละค่ะ คือสามารถใช้คำนี้ได้เลย เพราะตลอดเวลาที่คบกันมีคนเข้ามาจีบตลอด แต่ดิฉันจะไม่สนค่ะ จะพูดกับทุกคนว่ามีแฟนแล้ว และรักแฟนมาก และจะไม่สนใจใครเลย ต่อให้จะหล่อ หรือ รวยแค่ไหนค่ะ. เห็นมั้ยคะ ว่ารักมากจริงๆ.   เราคบกันมาซักพักค่ะ ตอนแรกเรามีความสุขมาก แต่ผ่านไปซักพัก ปัญหาก็ตามมา นั่นคือ ปัญหาแฟนเก่าเค้าค่ะ. แฟนเก่าเค้าไม่ยอมจบ เราจับได้ว่าเค้ายังติดต่อกันอยุ่ ส่วนตัวแฟนเรา ก็ดูท่ายังอาลัยอาวรณ์ เราขอให้จบ ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก เค้าก็ยังไม่จบ จนเรายื่นคำขาดว่าถ้าไม่จบเราจะไปเอง เค้าเลยยอมเลิกคุยกัน. ละนี่ก้อเป็นปัญหาแรก และเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ตามมาหลังจากนี้ค่ะ.  ด้วยดิฉันเองเสียความรุ้สึกว่าเค้ายังรักแฟนเก่าอยุ่ เลยตัดพ้อ จนทะเลาะกันแรงขึ้น 1 ปีผ่านไป ปัญหาแบบนี้มีอยุ่ทุกวันค่ะ จนวันนึงเราจับได้อีก ว่าเค้าคุยกับผู้หญิงคนอื่นอีก 2-3 คน. เราจับได้ เพราะเราแอบอ่านไลน์ค่ะ. คือรุ้นะ ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าเราไม่ดู เราก็จะไม่รุ้อะไรเลย พอเราจับได้ เค้าก็บอกจะเลิกคุยค่ะ ดิฉันก็โอเค ให้อภัยค่ะ

แต่มันยังไม่จบแค่นั้นค่ะ. เราทะเลาะกันเรื่อยๆมา จนวันนึงดิฉันนึกยังไงไม่รุ้ ไปเปิดเฟสเค้าค่ะ (log in) ชื่อเค้า  จังหวะนั้นที่เห็นข้อความแชทในเฟสค่ะ น้ำตาไหลทันที เค้าคุยกับผู่หญิงคนอื่นอีกแล้วค่ะ คราวนี้เป็นกิ๊กชัวร์ ด้วยคำพูดคุยที่ทรมานใจแฟนอย่างดิฉันมาก เช่น กินข้าวด้วยนะคะคนดี. คิดถึงอ่ะ ขอกำลังใจหน่อย
ซึ่งคำพวกนี้ เค้าไม่เคยพูดกับชั้นเลยค่ะ. เพราะโดยนิสัยเค้า คือคนเงียบๆ ไม่โรแมนติก ไม่แสดงออก เฉยชามาก แต่เค้าอ้อนผู้หญิงคนนั้น. ดิฉันไม่รอช้าค่ะ แคปหน้าจอ ละถามทันที เค้าบอกว่าเป็นแค่รุ่นน้อง แต่ก็ยังแอบคุยตลอด หลายเดือนอ่ะค่ะ ถึงจะเลิกคุยจริงๆ

แต่ความสะเทือนใจไม่หมดแค่นี้ค่ะ หลังจากจบผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว. วันนั้นเป็นวันที่ดิฉันมาทำธุระข้างนอกค่ะ เพื่อนดิฉันคนนึงโทรมาบอกว่า นางเห็นแฟนดิฉันกับผู้หญิงคนนึงกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารหน้ามอค่ะ. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่แฟนดิฉันบอกว่า ขอเลื่อนนัดที่จะมาหาชั้นไปคุยกับอาจารย์ ดิฉันไม่รอช้าโทรหาทันที แล้วเค้าก็ตัดสาย จนเค้ารับสาย ดิฉันถามทันทีว่ามากินข้าวกับใคร เค้าบอกชื่อเพื่อนว่าเป็นผู้ชาย. แต่พอถามหนักเข้า เลยยอมบอกค่ะว่าเป็นผู้หญิง แต่เป็นน้องรุ้จักกัน ดิฉันจึงเค้นเอาชื่อ. คุยเป็นชั่วโมงไม่ยอมบอกค่ะ จนในที่สุด เค้าก็พูดความจริง ซึ่งทำให้ฉันล้มทั้งยืน ผู้หญิงที่เค้าพาไปกินข้าวด้วย และยอมรับว่าคุยกัน นั่นก็คือ "เพื่อนสนิทดิฉันเองค่ะ". และหลังจากนั้น ความศรัทธาในความรักของดิฉันหมดลงทันที  ดิฉันเลิกเชื่อในความสัตย์ซื่อ เลิกเชื่อในรัก แต่สุดท้ายเค้าก็มาง้อค่ะ. ซึ่งดิฉันใจอ่อนด้วยสิ. จนเค้าเลือกที่จะสาบานว่า เค้าจะไม่นอกใจอีกตลอดชีวิต เค้าจะรักและเทิดทูนดิฉันตลอดไป และเค้าก็ทำได้จริงๆค่ะ ตอนนี้เค้าเป็นคนดีมาก ดีจนชั้นละอายใจ เพราะหลังจากวันนั้น ดิฉันโกรธจนสาปแช่งเค้า ว่าขอให้เค้าได้แฟนที่เลว มีชู้ โดยที่ตัวเองไม่รุ่เลย. แต่ดิฉันลืมไปค่ะ ว่าดิฉันนี่เองที่ยังเป็นแฟนเค้าอยุ่  และคำสาปแช่งมันก้อย้อนเข้าตัวดิฉันค่ะ และหลังจากนี้ มันคือความอยาก ความเลว ของผู้หญิงคนนึงที่หมดศรัทธาในความรัก ผิดหวังในความซื่อสัตย์ ที่อยากระบายค่ะ  เดี๋ยวมาต่อนะคะ มันจะแซ่บมากจริงๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่