คือเพิ่งสมัครพันทิปค่ะ มีเรื่องอยากทราบความเห็นของเพื่อนๆ ที่นี่ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ขออนุญาตใช้ชื่อตัวละครและตัวเลขสมมตินะคะ จะได้คิดเลขง่ายๆ
เหตุการณ์นี้ผ่านมาสักพักแล้ว A และ B เป็นเพื่อนร่วมงานกัน รู้จักกันมาหลายปีแล้ว และมีโอกาสร่วมทริปไปต่างประเทศด้วยกัน เรื่องมีอยู่ว่า
- A และ B ต้องพักร่วมห้องพักโรงแรมด้วยกัน (เป็นผู้หญิงทั้งคู่)
- ทางโรงแรมมีการสมัครบัตรสมาชิก ซึ่งมีค่าใช้จ่าย เมื่อสมัครแล้วสามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทันที บัตรสมาชิกใช้ได้ตลอดชีพ และใช้ได้กับทุกสาขาของโรงแรมนี้ (มีทั่วประเทศ) บัตรสมาชิกระบุชื่อผู้ถือบัตรและต้องใช้ร่วมกับพาสปอร์ตยืนยันตัวตน
สมมติว่าค่าห้องราคาเต็ม 10,000 ค่าทำบัตรสมาชิก 500 หากมีบัตรสมาชิก ส่งผลให้ค่าห้องลดลงเหลือ 8,000 และเนื่องจากเป็นทริปแรกของทั้ง A และ B ยังไม่มีใครเคยทำบัตร และเมื่อพิจารณาดูแล้ว คิดว่าหากเสียเงินค่าทำบัตร คุ้มกว่าแน่นอน เพราะจะจ่ายเงินรวม 8,500 จึงเกิดบทสนทนานี้ขึ้นมา
A : คิดว่าจะมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่อีกมั้ย
B : (คิดซักพัก) อืม...ก็อยากมาอีกนะ ชอบประเทศนี้มากๆ แต่คงไม่ได้มาเร็วๆ นี้หรอก
A : เราคงไม่ได้มาแล้ว งั้นทำบัตรชื่อ B ละกันเผื่อได้ใช้อีก
B ก็เลยตกลงทำบัตรไป เพื่อจะได้รับส่วนลด โดยตอนจ่ายเงินค่าห้อง A ออกเงินทั้งหมดไปก่อน แล้วค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง ร่วมเงินที่จ่ายไป 8,500 แล้วพอถึงเวลาเคลียร์เงิน คำถามคือว่า เพื่อนๆ คิดว่า ควรเป็นแบบไหนถึงจะเหมาะสมคะ เราขอแบ่งเป็น 4 แบบที่คิดว่ามีโอกาสเกิดละกัน
แบบที่ 1 ไม่สมัครสมาชิก ค่าห้อง 10,000 ค่าห้องหาร 2 (*แบบนี้ยังไงก็ไม่เลือก เพราะจ่ายราคาเต็ม เอาไว้ดูเปรียบเทียบเฉยๆ)
A = 5,000
B = 5,000
แบบที่ 2 สมัครสมาชิกใช้ชื่อ B ค่าห้องลดเหลือ 8,000 (จาก 10,000) + ค่าสมาชิก 500 = 8,500
ทั้งหมดหาร 2
A = 4,250
B = 4,250
แบบที่ 3 สมัครสมาชิกใช้ชื่อ B ค่าห้องลดเหลือ 8,000 (จาก 10,000) + ค่าสมาชิก 500 = 8,500
ค่าสมาชิก B รับภาระ ค่าห้องหาร 2
A = 4,000
B = 4,500
แบบที่ 4 สมัครสมาชิกใช้ชื่อ B ค่าห้องลดเหลือ 8,000 (จาก 10,000) + ค่าสมาชิก 500 = 8,500
ค่าสมาชิก B รับภาระ ค่าห้องลดเฉพาะส่วนของ B
A = 5,000
B = 3,500
เรื่องจริงที่เกิดคือ A เป็นคนกดเครื่องคิดเลข และคิดเงิน โดยเกิดบทสนทนาดังนี้ (ตอนนั้นมี C เพื่อนผู้ชายอีกคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย)
A : B จ่ายมา 4,500 รวมค่าสมาชิก
B : ... (กำลังอึ้ง เพราะคิดว่าจะหาร 2 จ่ายเท่ากัน)
C : เฮ้ย...คิดอะไรมาก ก็หาร 2 ไปดิ
A : ไม่ได้ ก็บัตรเป็นชื่อ B ก็รับภาระไปสิ
B : อืม (ไม่ได้เถียงอะไร ทั้งที่ในใจคิดว่าจริงๆ ที่ตกลงทำบัตร เพราะจะได้ส่วนลด ส่วนเรื่องที่คิดว่าจะได้มาอีกก็ยังไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น แต่ก็ช่างมัน ไม่อยากมีประเด็น)
สรุปว่าเรื่องจริง เป็นแบบที่ 3 ค่ะ แต่ในความคิดของเรา เราว่าควรจะเป็นแบบที่ 2 นะ ถึงแม้บัตรจะเป็นของ B แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมีโอกาสได้ใช้อีกมั้ย เป็นเรื่องของอนาคตแท้ๆ (ต่างประเทศไม่ได้ไปบ่อย เป็นมนุษย์เงินเดือนค่ะ เก็บเงินหลายปีไปเที่ยวสักครั้ง) ค่าบัตรที่จ่ายไปก็เป็นส่วนลดสำหรับทั้งคู่ เพื่อนๆ ล่ะคิดว่าไง หรือเห็นว่าเหมาะสมแล้ว
ปล.ตัวเลขจริงๆ ก็มากกว่าที่เห็นนะคะ นี่อยากให้คำนวณง่ายๆ เรื่องก็ผ่านมาสักพัก B ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่เรายังแอบคาใจ อยากรู้ความเห็นเพื่อนๆ ขอบคุณค่ะ
่ส่วนลดใช้ด้วยกัน แล้วค่าบัตรควรเป็นภาระของใคร
เหตุการณ์นี้ผ่านมาสักพักแล้ว A และ B เป็นเพื่อนร่วมงานกัน รู้จักกันมาหลายปีแล้ว และมีโอกาสร่วมทริปไปต่างประเทศด้วยกัน เรื่องมีอยู่ว่า
- A และ B ต้องพักร่วมห้องพักโรงแรมด้วยกัน (เป็นผู้หญิงทั้งคู่)
- ทางโรงแรมมีการสมัครบัตรสมาชิก ซึ่งมีค่าใช้จ่าย เมื่อสมัครแล้วสามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทันที บัตรสมาชิกใช้ได้ตลอดชีพ และใช้ได้กับทุกสาขาของโรงแรมนี้ (มีทั่วประเทศ) บัตรสมาชิกระบุชื่อผู้ถือบัตรและต้องใช้ร่วมกับพาสปอร์ตยืนยันตัวตน
สมมติว่าค่าห้องราคาเต็ม 10,000 ค่าทำบัตรสมาชิก 500 หากมีบัตรสมาชิก ส่งผลให้ค่าห้องลดลงเหลือ 8,000 และเนื่องจากเป็นทริปแรกของทั้ง A และ B ยังไม่มีใครเคยทำบัตร และเมื่อพิจารณาดูแล้ว คิดว่าหากเสียเงินค่าทำบัตร คุ้มกว่าแน่นอน เพราะจะจ่ายเงินรวม 8,500 จึงเกิดบทสนทนานี้ขึ้นมา
A : คิดว่าจะมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่อีกมั้ย
B : (คิดซักพัก) อืม...ก็อยากมาอีกนะ ชอบประเทศนี้มากๆ แต่คงไม่ได้มาเร็วๆ นี้หรอก
A : เราคงไม่ได้มาแล้ว งั้นทำบัตรชื่อ B ละกันเผื่อได้ใช้อีก
B ก็เลยตกลงทำบัตรไป เพื่อจะได้รับส่วนลด โดยตอนจ่ายเงินค่าห้อง A ออกเงินทั้งหมดไปก่อน แล้วค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง ร่วมเงินที่จ่ายไป 8,500 แล้วพอถึงเวลาเคลียร์เงิน คำถามคือว่า เพื่อนๆ คิดว่า ควรเป็นแบบไหนถึงจะเหมาะสมคะ เราขอแบ่งเป็น 4 แบบที่คิดว่ามีโอกาสเกิดละกัน
แบบที่ 1 ไม่สมัครสมาชิก ค่าห้อง 10,000 ค่าห้องหาร 2 (*แบบนี้ยังไงก็ไม่เลือก เพราะจ่ายราคาเต็ม เอาไว้ดูเปรียบเทียบเฉยๆ)
A = 5,000
B = 5,000
แบบที่ 2 สมัครสมาชิกใช้ชื่อ B ค่าห้องลดเหลือ 8,000 (จาก 10,000) + ค่าสมาชิก 500 = 8,500
ทั้งหมดหาร 2
A = 4,250
B = 4,250
แบบที่ 3 สมัครสมาชิกใช้ชื่อ B ค่าห้องลดเหลือ 8,000 (จาก 10,000) + ค่าสมาชิก 500 = 8,500
ค่าสมาชิก B รับภาระ ค่าห้องหาร 2
A = 4,000
B = 4,500
แบบที่ 4 สมัครสมาชิกใช้ชื่อ B ค่าห้องลดเหลือ 8,000 (จาก 10,000) + ค่าสมาชิก 500 = 8,500
ค่าสมาชิก B รับภาระ ค่าห้องลดเฉพาะส่วนของ B
A = 5,000
B = 3,500
เรื่องจริงที่เกิดคือ A เป็นคนกดเครื่องคิดเลข และคิดเงิน โดยเกิดบทสนทนาดังนี้ (ตอนนั้นมี C เพื่อนผู้ชายอีกคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย)
A : B จ่ายมา 4,500 รวมค่าสมาชิก
B : ... (กำลังอึ้ง เพราะคิดว่าจะหาร 2 จ่ายเท่ากัน)
C : เฮ้ย...คิดอะไรมาก ก็หาร 2 ไปดิ
A : ไม่ได้ ก็บัตรเป็นชื่อ B ก็รับภาระไปสิ
B : อืม (ไม่ได้เถียงอะไร ทั้งที่ในใจคิดว่าจริงๆ ที่ตกลงทำบัตร เพราะจะได้ส่วนลด ส่วนเรื่องที่คิดว่าจะได้มาอีกก็ยังไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น แต่ก็ช่างมัน ไม่อยากมีประเด็น)
สรุปว่าเรื่องจริง เป็นแบบที่ 3 ค่ะ แต่ในความคิดของเรา เราว่าควรจะเป็นแบบที่ 2 นะ ถึงแม้บัตรจะเป็นของ B แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมีโอกาสได้ใช้อีกมั้ย เป็นเรื่องของอนาคตแท้ๆ (ต่างประเทศไม่ได้ไปบ่อย เป็นมนุษย์เงินเดือนค่ะ เก็บเงินหลายปีไปเที่ยวสักครั้ง) ค่าบัตรที่จ่ายไปก็เป็นส่วนลดสำหรับทั้งคู่ เพื่อนๆ ล่ะคิดว่าไง หรือเห็นว่าเหมาะสมแล้ว
ปล.ตัวเลขจริงๆ ก็มากกว่าที่เห็นนะคะ นี่อยากให้คำนวณง่ายๆ เรื่องก็ผ่านมาสักพัก B ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่เรายังแอบคาใจ อยากรู้ความเห็นเพื่อนๆ ขอบคุณค่ะ