ขอเริ่มเลยนะคะ
เราเป็นคนใช้เงินเก่งมาก อยากได้อะไรซื้อ ฟุ่มเฟือยทำตัวเหมือนลูกคุณหนู ทั้งๆที่พ่อแม่ ก็รับราชการธรรมดานะ เงินเดือนหมื่นนิดๆ จนจุดเปลี่ยนชีวิต มัน ก็มาถึง พ่อกับแม่เลิกกัน แน่นอน รายจ่ายเราก็ต้องลดลง ตอนนั้น ป.6 เริ่มคิดมาก เพราะมีอยู่ช่วงนึงบ้านเรา ไม่มีเงิน ถึงกับต้องไปกินข้าวบ้านยาย ภาพ ติดตา แม่ร้องไห้ หนี้สินที่บ้าน พะรุงพะรังไปหมด มันัทำให้เรา คิดจริงจังกับชีวิตมากขึ้น
พยายามหาเงิน แต่ด้วยความเป็นเด็ก จึงได้แค่ทำ บช รายรับรายจ่าย
เก็บ 20บาท 10บาท 5บาทตามประสา
พอขึ้น มัธยม รายจ่ายก็มากขึ้น
เริ่มตระหนัก ประกอบ กับตัวเองเรียนไม่เก่ง
เริ่มคิดถึงอนาคต จนเครียด ทำให้เป็นคนย้ำคิดย้ำทำอยู่เสมอ พอปิดเทอมช่วงนึง ได้ไปร้านหนังสือ เห็นหนังสือเล่มสีม่วง พ่อรวยสอนลูก เคยเห็นพ่ออ่าน คราวนี้เรามาอ่านบ้าง ธุรกิจ!!!!! ใช่ธุรกิจ จะทำให้เรามีเงินเพิ่ม ตอนนั้น ฟิลลิ่งดีมาก ช่วงนั้น เลย ลงทุน งัดเงินเก็บมา ซื้อ น้ำหอม มาขาย
เผงเลยค่ะ ขาดทุนย่อยยับ ไม่มีความรู้ ผสม ไม่เป็น ไม่ศึกษากลิ่น บลาๆๆ โอ้ย แทบร้องไห้ แต่ก็ยัง ไม่หมด ความพยายาม คราวนี้ขาย แคตตาลอก มิสทีน กับ เบิร์ด ซิลเวอร์ ยอดขายพุ่งมาก แต่สุดท้าย ก็ต้องเลิก เพราะ จัดระเบียบ เงิน ไม่ถูก ลืมเก็บบ้าง อะไรบ้าง จนขึ้น ม.3 อยู่ห้องธรรมดา
คาบว่างเยอะ รับจ้างทำการบ้าน!!! รายได้ ดีนะ อาทิตย์นึง 500-800 สุดท้ายก็ล่มอีก
ครูจับลายมือได้ หมดกัน พอขึ้น ม.4มาเรียนสายวิทย์ รายจ่าย เยอะกว่าเดิมอีก
ทำให้ชีวิตเรามีแบบแผน ทำบช รายรับจ่าย
แต่ก็มีเพื่อนมาพูดนะ ว่า ทำไปทำไม บ้าเหรอ มัธยมแล้วนะ ไม่ใช่ประถม เราก็...... ไม่รู้ไม่พูด จนตอนนี้ ม.5คิดมากอีกแล้ว ถ้าเอนท์ คณะแพทย์ เภสัช พวกนี้ ไม่ได้ตายชัวร์ บ้านก็ไม่มีสมบัติ
เลย พยายามหาเงิน ทำงานพิเศษ อะไรหลายอย่าง เราวางแผน อนาคต ไว้ว่าเรา จะทำธุรกิจ โดยที่ไม่ต้องกู้ธนาคาร
กลัวมาก จนแม่ถาม ว่า คิดมาก ไปรึเปล่า
TT เราว่าน่าจะจริง
ใครพอมีวิธีลดอาการคิดมาก หรือจริงจัง มากินไปบ้าง
เราจริงจังกับชีวิตมากไปหรือเปล่า?
เราเป็นคนใช้เงินเก่งมาก อยากได้อะไรซื้อ ฟุ่มเฟือยทำตัวเหมือนลูกคุณหนู ทั้งๆที่พ่อแม่ ก็รับราชการธรรมดานะ เงินเดือนหมื่นนิดๆ จนจุดเปลี่ยนชีวิต มัน ก็มาถึง พ่อกับแม่เลิกกัน แน่นอน รายจ่ายเราก็ต้องลดลง ตอนนั้น ป.6 เริ่มคิดมาก เพราะมีอยู่ช่วงนึงบ้านเรา ไม่มีเงิน ถึงกับต้องไปกินข้าวบ้านยาย ภาพ ติดตา แม่ร้องไห้ หนี้สินที่บ้าน พะรุงพะรังไปหมด มันัทำให้เรา คิดจริงจังกับชีวิตมากขึ้น
พยายามหาเงิน แต่ด้วยความเป็นเด็ก จึงได้แค่ทำ บช รายรับรายจ่าย
เก็บ 20บาท 10บาท 5บาทตามประสา
พอขึ้น มัธยม รายจ่ายก็มากขึ้น
เริ่มตระหนัก ประกอบ กับตัวเองเรียนไม่เก่ง
เริ่มคิดถึงอนาคต จนเครียด ทำให้เป็นคนย้ำคิดย้ำทำอยู่เสมอ พอปิดเทอมช่วงนึง ได้ไปร้านหนังสือ เห็นหนังสือเล่มสีม่วง พ่อรวยสอนลูก เคยเห็นพ่ออ่าน คราวนี้เรามาอ่านบ้าง ธุรกิจ!!!!! ใช่ธุรกิจ จะทำให้เรามีเงินเพิ่ม ตอนนั้น ฟิลลิ่งดีมาก ช่วงนั้น เลย ลงทุน งัดเงินเก็บมา ซื้อ น้ำหอม มาขาย
เผงเลยค่ะ ขาดทุนย่อยยับ ไม่มีความรู้ ผสม ไม่เป็น ไม่ศึกษากลิ่น บลาๆๆ โอ้ย แทบร้องไห้ แต่ก็ยัง ไม่หมด ความพยายาม คราวนี้ขาย แคตตาลอก มิสทีน กับ เบิร์ด ซิลเวอร์ ยอดขายพุ่งมาก แต่สุดท้าย ก็ต้องเลิก เพราะ จัดระเบียบ เงิน ไม่ถูก ลืมเก็บบ้าง อะไรบ้าง จนขึ้น ม.3 อยู่ห้องธรรมดา
คาบว่างเยอะ รับจ้างทำการบ้าน!!! รายได้ ดีนะ อาทิตย์นึง 500-800 สุดท้ายก็ล่มอีก
ครูจับลายมือได้ หมดกัน พอขึ้น ม.4มาเรียนสายวิทย์ รายจ่าย เยอะกว่าเดิมอีก
ทำให้ชีวิตเรามีแบบแผน ทำบช รายรับจ่าย
แต่ก็มีเพื่อนมาพูดนะ ว่า ทำไปทำไม บ้าเหรอ มัธยมแล้วนะ ไม่ใช่ประถม เราก็...... ไม่รู้ไม่พูด จนตอนนี้ ม.5คิดมากอีกแล้ว ถ้าเอนท์ คณะแพทย์ เภสัช พวกนี้ ไม่ได้ตายชัวร์ บ้านก็ไม่มีสมบัติ
เลย พยายามหาเงิน ทำงานพิเศษ อะไรหลายอย่าง เราวางแผน อนาคต ไว้ว่าเรา จะทำธุรกิจ โดยที่ไม่ต้องกู้ธนาคาร
กลัวมาก จนแม่ถาม ว่า คิดมาก ไปรึเปล่า
TT เราว่าน่าจะจริง
ใครพอมีวิธีลดอาการคิดมาก หรือจริงจัง มากินไปบ้าง