สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป เรามีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ
คือว่าน้องเรากำลังจะเข้ามหาลัย แล้วมันต้องมีการจองหอ ซึ่งจะมีหอในกำกับ (หอของเอกชน ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเอง เดือนนึงประมาณ 600-900 บาทต่อห้องนะค่ะ ห้องนึง 3 คนค่ะ )
และมีหอของมหาลัย (หอรัฐบาล ค่าหอถูกกว่าประมาณ 2000-3000 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ) ซึ่งหอทั้งสองนี้อยู่ในเขตมหาลัยทั้งคู่นะค่ะ
ทีนี้น้องเรานัดกับเพื่อนไว้ว่าจะจองหอในกำกับ (แต่บ้านเราค่อนข้างจะจนหน่อยนะค่ะ ) ซึ่งเราพยายามจะพูดทุกวิถีทางแล้วค่ะ น้องเราก็ยังดึงดันจะจองหอในกำกับอย่างเดียวเลย
น้องบอกว่านัดกับเพื่อนไว้ดิบดีแล้ว เราก็บอกไม่เป็นไร ค่อยบอกเพื่อนว่าจองหอนี้ไม่ทัน แล้วไปจองหอมหาลัยแทน
คือน้องเราเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยค่ะ ขนาดเราที่ว่าขี้เหนียวแล้ว อยู่หอของมหาลัยยังจ่ายไม่ค่อยพอเลย พ่อเราจะให้เดือนนึง 2000-3000 บาท แต่เรากู้ กยศ.ด้วยนะ ได้เดือนนึง 2200 บาท ตกเดือนนึงเราจะใช้เดือนล่ะประมาณ 4000-5000 บาท
เวลาเราไม่มีเงินแล้วบอกพ่อ บางทีพ่อก็บอกว่าไม่มี รออาทิตย์หน้า เราก็ยืมเงินเพื่อนค่ะ แล้วน้องเราจะเข่าหาลัยอีกคน เรากลัวพ่อเราจะส่งไม่ไหวค่ะ ก็อย่างที่บอก น้องเราจ่ายเงินแบบไม่คิดค่ะ
เราก็ฟุ่มเฟือยบ้างนะค่ะ แต่ไม่เท่าน้องค่ะ
เห้อออออ แล้วเราจะบอกน้องเราไงดี น้องก็รู้นะค่ะว่าสภาพที่บ้านเป็นยังไง
แต่พูดไปแล้วทำหน้าหงิกใส่ตลอดเลย
(อ้อ ลืมบอกค่ะ เราเคยอยู่หอพักในกำกับค่ะ ตอนปี 1 เลยรู้ว่าเป็นยังไง ตอนนี้เราอยู่หอของมหาลัยค่ะ น้องเราอาจจะคิดว่าทีเราทำไมยังเคยอยู่หอในกำกับได้อยู่เลย <พ่อเรากู้เงินมาจ่ายค่าเทอมกับค่าหอ ค่าชุด น.ศ. ให้เราค่ะ ตอนปี 1 เทอมแรก เทอม 2 เรากู้ค่าเทอม กยศ. แแล้วก็จ่ายค่าหอเองค่ะ> เข้าปี 1 ค่าใช้จ่ายเยอะใช่ไหมค่ะ ทั้งค่าหอ ค่าเทอม ค่าชุด ค่าข้าวของเครื่องใช้ที่หอ ค่ากิจกรรมอีก และเทอมนี้คาดว่าพ่อก็ต้องกู้อีกเหมือนเดิม )
หรือว่าเราเห็นแก่ตัวค่ะ ทีเราอยู่ได้ พอน้องจะอยู่บ้างเราไม่ให้อยู่ (ก็อย่างที่บอกไปค่ะเราเคยมีประสบการณ์มาแล้ว)
ช่วยด้วยค่ะ น้องเราไม่อยากอยู่หอของมหาลัย แต่จะอยู่หอของเอกชน (หอทั้ง 2 อยู่ในเขตมหาลัยค่ะ) (บ้านไม่ค่อยมีเงิน)
คือว่าน้องเรากำลังจะเข้ามหาลัย แล้วมันต้องมีการจองหอ ซึ่งจะมีหอในกำกับ (หอของเอกชน ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเอง เดือนนึงประมาณ 600-900 บาทต่อห้องนะค่ะ ห้องนึง 3 คนค่ะ )
และมีหอของมหาลัย (หอรัฐบาล ค่าหอถูกกว่าประมาณ 2000-3000 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ) ซึ่งหอทั้งสองนี้อยู่ในเขตมหาลัยทั้งคู่นะค่ะ
ทีนี้น้องเรานัดกับเพื่อนไว้ว่าจะจองหอในกำกับ (แต่บ้านเราค่อนข้างจะจนหน่อยนะค่ะ ) ซึ่งเราพยายามจะพูดทุกวิถีทางแล้วค่ะ น้องเราก็ยังดึงดันจะจองหอในกำกับอย่างเดียวเลย
น้องบอกว่านัดกับเพื่อนไว้ดิบดีแล้ว เราก็บอกไม่เป็นไร ค่อยบอกเพื่อนว่าจองหอนี้ไม่ทัน แล้วไปจองหอมหาลัยแทน
คือน้องเราเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยค่ะ ขนาดเราที่ว่าขี้เหนียวแล้ว อยู่หอของมหาลัยยังจ่ายไม่ค่อยพอเลย พ่อเราจะให้เดือนนึง 2000-3000 บาท แต่เรากู้ กยศ.ด้วยนะ ได้เดือนนึง 2200 บาท ตกเดือนนึงเราจะใช้เดือนล่ะประมาณ 4000-5000 บาท
เวลาเราไม่มีเงินแล้วบอกพ่อ บางทีพ่อก็บอกว่าไม่มี รออาทิตย์หน้า เราก็ยืมเงินเพื่อนค่ะ แล้วน้องเราจะเข่าหาลัยอีกคน เรากลัวพ่อเราจะส่งไม่ไหวค่ะ ก็อย่างที่บอก น้องเราจ่ายเงินแบบไม่คิดค่ะ เราก็ฟุ่มเฟือยบ้างนะค่ะ แต่ไม่เท่าน้องค่ะ
เห้อออออ แล้วเราจะบอกน้องเราไงดี น้องก็รู้นะค่ะว่าสภาพที่บ้านเป็นยังไง แต่พูดไปแล้วทำหน้าหงิกใส่ตลอดเลย
(อ้อ ลืมบอกค่ะ เราเคยอยู่หอพักในกำกับค่ะ ตอนปี 1 เลยรู้ว่าเป็นยังไง ตอนนี้เราอยู่หอของมหาลัยค่ะ น้องเราอาจจะคิดว่าทีเราทำไมยังเคยอยู่หอในกำกับได้อยู่เลย <พ่อเรากู้เงินมาจ่ายค่าเทอมกับค่าหอ ค่าชุด น.ศ. ให้เราค่ะ ตอนปี 1 เทอมแรก เทอม 2 เรากู้ค่าเทอม กยศ. แแล้วก็จ่ายค่าหอเองค่ะ> เข้าปี 1 ค่าใช้จ่ายเยอะใช่ไหมค่ะ ทั้งค่าหอ ค่าเทอม ค่าชุด ค่าข้าวของเครื่องใช้ที่หอ ค่ากิจกรรมอีก และเทอมนี้คาดว่าพ่อก็ต้องกู้อีกเหมือนเดิม )
หรือว่าเราเห็นแก่ตัวค่ะ ทีเราอยู่ได้ พอน้องจะอยู่บ้างเราไม่ให้อยู่ (ก็อย่างที่บอกไปค่ะเราเคยมีประสบการณ์มาแล้ว)