เรื่องที่นำมาพูด มาบอกเล่า มันอาจจะไม่เกิดขึ้นกับสาวประเภทสองทุกคนเสมอไป เพราะบางคนอาจจะได้รับโอกาสดีๆ จากหลายๆ คนที่หยิบยื่นมาให้ค่ะ
ดิฉันเป็นสาวประเภทสอง หรือที่เรียกติดปากคนทั่วๆ ไป คือ กระเทย (ถ้าดิฉันได้ยินคำนี้จะรู้สึกน้อยใจในตัวเอง และจิตใจหดหู่มากๆ) ตั้งแต่เด็กๆ เรียนมาก็จะสนิจกับเพื่อนผู้หญิงเท่านั้น เพราะไม่กล้าเล่นกับพวกผู้ชาย พวกเค้าชอบเล่นแรงค่ะ ทุกครั้งที่มีกิจกรรมหรือการแข่งขันต่างๆ ครูก็จะเลือกเราเป็นตัวแทน เพราะเหมือนว่าเรามีพรสวรรค์ด้านนี้ติดตัวมา ไม่ว่าจะเป็น การวาดภาพ งานฝีมือ ฯลฯ เราก็จะได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เเต่เราก็ต้องยอมรับผลงานที่ทำออกมาและได้ใบประกาศ เป็น .. เด็กชาย..¥_¥
จนชีวิตเราก้าวข้ามมาถึงการดำเนินชีวิตในรั่วมหาวิทยาลัย ดิฉันก็เลือกที่จะไว้ผมยาว แต่งหญิง เทคยาคุม สรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาบำรุง เพื่อให้เราดูดี แต่มันก็ไม่ใช้ผลดีต่อตัวเราเสมอไป มันกลับมีผลร้ายที่คอยทิ่มแทงดิฉันตลอดเวลา คือ
1. เวลาจะเข้าเรียนก็กลัวอาจารย์ไม่ชอบสาวประเภทสอง กลัวโดนไล่ออกจากห้อง
2. เวลาสอบกลางภาค สอบปลายภาค ก็กลัวอาจารยฺที่คุมสอบจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องสอบ ดิฉันก็จะอายเพื่อน
3. เวลาเข้าไปเรียนในห้องก็กลัวเพื่อนที่นั่งข้างๆ รังเกลียดดิฉันที่ดิฉันเป็นกระเทย
และอีกเยอะแยะมากมายที่เข้ามาสุมอยู่ในหัวของดิฉัน
ดิฉันเลือกเรียนสายครู ดังนั้นจึงต้องมีการฝึกสอนในโรงเรียนต่างๆ มันจึงเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่ต้องคิดหนักว่าเราจะดำเนินชีวิตยังไงต่อไป รุ่นพี่บางคนก็ยอมตัดผม แต่งชายไปฝึกสอน รุ่นพี่บางคนก็ยอมใส่วิก แต่งชาย ไปสอนก็จะกลายเป็นตัวตลก เป็นสัตว์ประหลาดของนักเรียน และนักเรียนก็จะไม่ศัทธธาในตัวเรา ส่วนตัวของดิฉันได้เข้าไปสอนในโรงเรียนที่เค้าเข้าใจในตัวของดิฉัน เค้าจึงให้ดิฉันแต่หญิงไปสอนได้ มันจึงเป็นคนสุขที่เกิดขึ้นกับดิฉัน เพราะได้เป็นตัวของเราเอง สอนนักเรียนอย่างมีความสุขและเต็มที่ในช่วงการฝึกสอน
หลังจากที่ดิฉันจบมา ดิฉันก็ตั้งคำถามกับตัวของดิฉันเอง ว่า "ดิฉันจะไปประกอบอาชีพอะไร ???" ถ้าไปเป็นครู ข้าราชการครูมีเหรอที่จะให้สาวประเภทสองแต่งหญิงสอนในโรงเรียนได้ ถ้าให้ดิฉันตัดผม ดิฉันก็ไม่เอา เพราะดิฉันไม่ชอบเป็นเกย์ แต่คนที่แต่งตัวเป็นผู้ชายหรือเป็นเกย์เค้าก็มีอนาคตที่ดีสามารถทำงานได้เกือบทุกที่ แต่ให้ดิฉันเป็นแบบนั้นดิฉันก็ไม่เอาดีกว่า ดิฉันจึงหางาน สมัครงานไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครรับ ดิฉันจึงอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร สังคมรังเกลียดสาวประเภทสองขนาดนี้เลยเหรอ ถึงไม่มีใครยอมรับและให้โอกาศดิฉันเลย ดิฉันก็มองดูตัวของดิฉันเอง ดิฉันก็ไม่ได้น่ารังเกลียดอะไรเลย ตัวก็ไม่ได้ใหญ่ หุ่นก็เท่าๆ ผู้หญิง แต่ด้วยคำนำหน้าที่ติดมาด้วย ว่าเป็นกระเทย เค้าคงไม่อยากให้เข้ามาร่วมงานในบริษัทของเค้า เค้าคงกลัวบริษัทเค้าเสื่อมเสียเพราะกระเทย ถ้าสาวประเภทสองมันน่ารังเกลียดขนาดนี้ แต่ดิฉันก็ดีใจกับสาวประเภทสองที่เค้าได้รับโอกาสดีจากสังคม แต่สังคมไม่ลองมองย้อนกลับมาว่า มีสาวประเภทอีกกี่คนที่ไม่เคยได้รับโอกาสดีๆ แบบนั้นเลย ดิฉันแค่อยากทราบว่าเมื่อไหร่ สังคมจะเปิดโอกาสให้สาวประเภทสองมาแสดงความสามารถกับการทำงานที่เป็นงานของผู้หญิงได้บ้าง บางทีงานมันอาจจะออกมาดีกว่าอีก เพราะเรายอมทุ่มเทกับงานที่เราได้รับโอกาสในการทำงานนั้น ทุกวันนี้ดิฉันยังคิดอยู่ตลอดว่าดิฉันควรจะทำงานอะไรดี เพราะดิฉันติดอยู่ในกรอบเล็กๆ ที่สังคมขีดไว้ให้ยืนบนโลกแห่งนี้
ดิฉันขอขอบคุณที่ทุกท่านติดตามอ่านจนจบและดิฉันขอเป็นกำลังใจให้สาวประเภทสองทุกคนมีหน้าที่การงานที่ดี และได้รับการยอมรับจากสังคมที่ด้วยเถอะค่ะ อย่าตกนรกอย่างดิฉันเลยค่ะ เพราะดิฉันคงกำลังใจกรรมที่ติดตามดิฉันมาตังแต่เกิด ... ขอบคุณค่ะ
อยากรู้ว่าเกิดมาเป็นสาวประเภทสอง จะต้องมีกรรมติดมาด้วยเหรอ ..???
ดิฉันเป็นสาวประเภทสอง หรือที่เรียกติดปากคนทั่วๆ ไป คือ กระเทย (ถ้าดิฉันได้ยินคำนี้จะรู้สึกน้อยใจในตัวเอง และจิตใจหดหู่มากๆ) ตั้งแต่เด็กๆ เรียนมาก็จะสนิจกับเพื่อนผู้หญิงเท่านั้น เพราะไม่กล้าเล่นกับพวกผู้ชาย พวกเค้าชอบเล่นแรงค่ะ ทุกครั้งที่มีกิจกรรมหรือการแข่งขันต่างๆ ครูก็จะเลือกเราเป็นตัวแทน เพราะเหมือนว่าเรามีพรสวรรค์ด้านนี้ติดตัวมา ไม่ว่าจะเป็น การวาดภาพ งานฝีมือ ฯลฯ เราก็จะได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เเต่เราก็ต้องยอมรับผลงานที่ทำออกมาและได้ใบประกาศ เป็น .. เด็กชาย..¥_¥
จนชีวิตเราก้าวข้ามมาถึงการดำเนินชีวิตในรั่วมหาวิทยาลัย ดิฉันก็เลือกที่จะไว้ผมยาว แต่งหญิง เทคยาคุม สรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาบำรุง เพื่อให้เราดูดี แต่มันก็ไม่ใช้ผลดีต่อตัวเราเสมอไป มันกลับมีผลร้ายที่คอยทิ่มแทงดิฉันตลอดเวลา คือ
1. เวลาจะเข้าเรียนก็กลัวอาจารย์ไม่ชอบสาวประเภทสอง กลัวโดนไล่ออกจากห้อง
2. เวลาสอบกลางภาค สอบปลายภาค ก็กลัวอาจารยฺที่คุมสอบจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องสอบ ดิฉันก็จะอายเพื่อน
3. เวลาเข้าไปเรียนในห้องก็กลัวเพื่อนที่นั่งข้างๆ รังเกลียดดิฉันที่ดิฉันเป็นกระเทย
และอีกเยอะแยะมากมายที่เข้ามาสุมอยู่ในหัวของดิฉัน
ดิฉันเลือกเรียนสายครู ดังนั้นจึงต้องมีการฝึกสอนในโรงเรียนต่างๆ มันจึงเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่ต้องคิดหนักว่าเราจะดำเนินชีวิตยังไงต่อไป รุ่นพี่บางคนก็ยอมตัดผม แต่งชายไปฝึกสอน รุ่นพี่บางคนก็ยอมใส่วิก แต่งชาย ไปสอนก็จะกลายเป็นตัวตลก เป็นสัตว์ประหลาดของนักเรียน และนักเรียนก็จะไม่ศัทธธาในตัวเรา ส่วนตัวของดิฉันได้เข้าไปสอนในโรงเรียนที่เค้าเข้าใจในตัวของดิฉัน เค้าจึงให้ดิฉันแต่หญิงไปสอนได้ มันจึงเป็นคนสุขที่เกิดขึ้นกับดิฉัน เพราะได้เป็นตัวของเราเอง สอนนักเรียนอย่างมีความสุขและเต็มที่ในช่วงการฝึกสอน
หลังจากที่ดิฉันจบมา ดิฉันก็ตั้งคำถามกับตัวของดิฉันเอง ว่า "ดิฉันจะไปประกอบอาชีพอะไร ???" ถ้าไปเป็นครู ข้าราชการครูมีเหรอที่จะให้สาวประเภทสองแต่งหญิงสอนในโรงเรียนได้ ถ้าให้ดิฉันตัดผม ดิฉันก็ไม่เอา เพราะดิฉันไม่ชอบเป็นเกย์ แต่คนที่แต่งตัวเป็นผู้ชายหรือเป็นเกย์เค้าก็มีอนาคตที่ดีสามารถทำงานได้เกือบทุกที่ แต่ให้ดิฉันเป็นแบบนั้นดิฉันก็ไม่เอาดีกว่า ดิฉันจึงหางาน สมัครงานไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครรับ ดิฉันจึงอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร สังคมรังเกลียดสาวประเภทสองขนาดนี้เลยเหรอ ถึงไม่มีใครยอมรับและให้โอกาศดิฉันเลย ดิฉันก็มองดูตัวของดิฉันเอง ดิฉันก็ไม่ได้น่ารังเกลียดอะไรเลย ตัวก็ไม่ได้ใหญ่ หุ่นก็เท่าๆ ผู้หญิง แต่ด้วยคำนำหน้าที่ติดมาด้วย ว่าเป็นกระเทย เค้าคงไม่อยากให้เข้ามาร่วมงานในบริษัทของเค้า เค้าคงกลัวบริษัทเค้าเสื่อมเสียเพราะกระเทย ถ้าสาวประเภทสองมันน่ารังเกลียดขนาดนี้ แต่ดิฉันก็ดีใจกับสาวประเภทสองที่เค้าได้รับโอกาสดีจากสังคม แต่สังคมไม่ลองมองย้อนกลับมาว่า มีสาวประเภทอีกกี่คนที่ไม่เคยได้รับโอกาสดีๆ แบบนั้นเลย ดิฉันแค่อยากทราบว่าเมื่อไหร่ สังคมจะเปิดโอกาสให้สาวประเภทสองมาแสดงความสามารถกับการทำงานที่เป็นงานของผู้หญิงได้บ้าง บางทีงานมันอาจจะออกมาดีกว่าอีก เพราะเรายอมทุ่มเทกับงานที่เราได้รับโอกาสในการทำงานนั้น ทุกวันนี้ดิฉันยังคิดอยู่ตลอดว่าดิฉันควรจะทำงานอะไรดี เพราะดิฉันติดอยู่ในกรอบเล็กๆ ที่สังคมขีดไว้ให้ยืนบนโลกแห่งนี้
ดิฉันขอขอบคุณที่ทุกท่านติดตามอ่านจนจบและดิฉันขอเป็นกำลังใจให้สาวประเภทสองทุกคนมีหน้าที่การงานที่ดี และได้รับการยอมรับจากสังคมที่ด้วยเถอะค่ะ อย่าตกนรกอย่างดิฉันเลยค่ะ เพราะดิฉันคงกำลังใจกรรมที่ติดตามดิฉันมาตังแต่เกิด ... ขอบคุณค่ะ