ทำไมปลั๊กหัวโตถึงมีแค่ 2 ขา เว้นขาสายดินไว้เป็นรู เพื่ออะไรคะ

เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ซื้อมา หัวปลั๊กมักเป็นแบบ 2 ขา และมีรูสำหรับขาสายดิน
สอบถามคนขายว่าทำไมไม่มีขาสายดิน แล้วทำไว้ทำไม? หรือมีขาสายดินขายต่างหาก ? ..ไม่มีผู้ขายคนใดตอบได้ บอกแต่เพียงว่าไม่ทราบ เขาทำมาแบบนี้ และไม่เคยเห็นขาสายดินแยกขาย
ที่บ้านเต้าปลั๊กไฟที่ฝังในกำแพง เดินสายดินไว้ทั้งหมด แต่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ เนื่องจากหัวปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่มีแค่ 2 ขา 1 รู
โดยเฉเพาะไมโครเวฟจะมีไฟรั่วที่ตัวตู้อยู่เสมอ ..เผลอเป็นดูด ถึงแม้จะใช้ปลั๊กพ่วงอย่าดี และปิดสวิชแล้ว

คะ..เล่ามายาว อยากทราบว่า เขาเว้นขาสายดินไว้เพื่ออะไรคะ  และมีขาสายดินแยกขายไหมคะ และจะหาซื้อได้ที่ไหน (ไปมาหลายที่แล้วก็หาไม่ได้...มีแต่คนขายแนะนำให้ซื้อปลั๊กต่อ 2 เป็น 3 ซึ่งไม่เวิคเลย เพราะเทอะทะ และสิ้นเปลือง)

หากไม่มีขาสายดินแยกขาย จะมีวิธีดัดแปลงใช้อะไรเป็นขาสายดินเสียบเข้าไปแทนได้ไหมคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31




เอารูปมาให้ดูก่อน เดี๋ยวอธิบายตาม..

ทวนคำถามก่อน...ทำไมปลั๊กหัวโตถึงมีแค่ 2 ขา เว้นขาสายดินไว้เป็นรู เพื่ออะไรคะ???

ประการแรก ที่ปลั๊กตัวโต เพราะเป็นการออกแบบตามระบบมาตรฐานทางยุโรป ที่เวลาการใช้งาน เราใช้มือในการจับถือเพื่อความสะดวก จับมั่นคงกว่าปลั๊กตัวเล็กๆ

ประการสอง มีแค่สองขา เพราะระบบไฟฟ้าตามหลักสากลทางยุโรป ออกแบบไว้เช่นนั้น โดยมีขาหนึ่งเป็น L และอีกขาหนึ่งเป็น N เพื่อให้ครบวงจรไฟฟ้าในการทำงาน

ประการสาม ที่เว้นสายดินไว้เป็นรูไว้ เพราะในประเทศแถบยุโรปเอง ยุคแรกๆ มีการถกเถียงกัน ว่าทำไมไม่ออกแบบมีสามขา ไปเลย ขาหนึ่งไฟ ขาหนึ่งสายศูนย์ และอีกขาหนึ่งสายดิน

การออกแบบ แตกเป็นสองสาย...
สายแรก มองว่า การใช้งานก็แค่เสียบสายให้ตรงรูไปก็จบแล้ว  ไม่เห็นจะต้องทำเพียงแค่สองขาเลย ทำสามขาก็หมดเรื่อง..

สายสอง (ละเอียดอ่อน) มองเรื่องความปลอดภัยในชีวิตเป็นสำคัญครับ การที่มีสองขา เพื่อ ป้องกันการสับสนในการเสียบ เกิดมีใครสักคน ฝืนเสียบผิดโดยเอาขาไฟไปเสียบรูศูนย์ ก็จะช๊อตได้ (เคยมีกรณีเกิดขึ้นจริงเมื่อ ช่วงสี่สิบกว่าปีก่อน เหตูเพราะตัวปลั๊กชำรุด) ผลผู้เสียบตาย ดังนั้น ฝ่ายนี้จึงตัดสินใจที่จะออกแบบให้มีเพียงสองขาเท่านั้นครับ และตัวเต้ารับต้องมีลักษณะเป็น หลุมด้วย เพื่อป้องกันการสัมผัสจากผู้ใช้งานทุกกรณี แม้นว่าจะมือเปียกก็ตาม ก็จะไม่สามารถสัมผัสกับขาโลหะได้โดยเด็ดขาด

เกร็ด.....(เสริม)
ในโลกมีระบบไฟฟ้า หลายขนาด มีทั้ง แรงดัน 90, 100, 110, 120, 130, 200, 220, 230, 240...... (เมืองไทย ใช้ 220) ผู้ออกแบบสมัยแรกๆ กำหนดไว้ขนาดของตัวปลั๊กบ่งบอกถึงแรงดันไฟฟ้าได้ ในเบื้องตัน ที่ต้องขาใหญ่เพราะเนื่องจาก แรงดันไฟฟ้าสูงกว่า จึงต้องมีหน้าสัมผัสทางไฟฟ้าที่มากกว่า แม้นว่ากระแสไฟฟ้าจะน้อยกว่าก็ตาม แรงดันยิ่งมาก ยิ่งต้องใช้พื้นที่ผิวยิ่งมากในการกระจายประจุไฟฟ้า (ใครที่เรียนไฟฟ้าฯ คงทราบดี) ส่วนกระแสไฟฟ้านั้นอาศัยความหน่าแน่นของวัสดุครับ ยิ่งหนาแน่นมากยิ่งสามารถส่งถ่ายอิเล็กตรอนได้ง่าย...

สำหรับประเทศไทยในยุคสมัย รัชกาลที่ ๔ ถึง ๖ เราเคยใช้ระบบไฟฟ้าตามระบบมาตรฐานยุโรปมาก่อนนะครับ มีสายดิน และปลั๊กเป็นหลุมด้วย แต่ช่วงก่อนสงครามโลก เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ อเมริกา มีการเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าจาก 230v ไปใช้ 100/110v ในช่วงนั้น สังเกตุพวกเครื่องเสียงโบราณๆ ได้ ล้วนใช้ไฟ 100/110v ทั้งนั้น จึงทำให้ อุปกรณ์โดยส่วนใหญ่ ไปอิงมาตรฐานทาง อเมริกาเสียมาก...

ครั้งหลังสงครามโลกจบลง มีการเปลี่ยนแปลงกลับมาใช้ ระบบไฟฟ้า 220v เนื่องจาก เครื่องใช้ไฟฟ้ายุคนี้ เน้นใช้ไฟ 220v/240v เป็นหลัก แต่อุปกรณ์ต่างๆ ต้นทาง ยังใช้งานแบบ 100/110v อยู่ จนกระทั่ง...

ราวๆ ปี พศ.2496-98 มีการกำหนดมาตรฐานทางไฟฟ้าขึ้นในช่วงนั้น โดยผู้ที่เกี่ยงข้องมาตรฐานสองฝ่าย สจพ. และ จุฬาฯ ซึ่งทาง สจพ.ยื่นระบบมาตรฐานตามฝั่งยุโรปแบบเต็มตัว ส่วนทางจุฬาฯ กำหนดให้ใช้ เพียงอุปกรณ์บางส่วน และไม่ต้องมีระบบสายดิน แน่นอนช่วงหลังสงคราม เศรษกิจไม่ได้ดีนัก ดังนั้น มาตรฐานยุคนั้นจึงได้ยึดเอาตามที่เราเห็นๆ อย่างมาก แบบทุกวันนี้

แม้นว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ได้มีการเพิ่มเติมเรื่องการติดตั้งระบบสายดินขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่ไม่ได้ กำหนดมาตรฐานตัวเต้ารับ และเต้าเสียบ ยังคงปล่อยไว้ตามเดิม.. จวบจนปัจจุบัน...



เกร็ดย่อย...
เต้ารับแบบมาตรฐานยุโรป มีขายในเมืองไทยนะครับ แม้นกระทั่งสายไฟฟ้า แบบมีสายดิน (VAF 2.5/1.5) ฯลฯ เพียงแต่ผู้ที่จะเลือกใช้ มักศึกษามาบ้าง หรือมีความรู้ในระบบไฟฟ้ามาในระดับหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว

ที่มาตรฐานยุโรปสูงกว่าทางฝั่ง อเมริกา เพราะเน้นเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคล เป็นหลักในการออกแบบทางวิศวกรรม...

ปล...ที่บ้านผม ออกแบบและเดินระบบไฟฟ้าเองทั้งหมด โดยอิงมาตรฐานยุโรป ที่เห็นในรูปเป็นชั้นสองนะครับ (มีตู้ควบคุมทุกชั้น) ซึ่งระบบแบบนี้ มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ระบบทั่วไปเกือบ สองเท่าครึ่ง... แค่สายไฟฟ้าก็ต่างกันเกินเท่าครึ่งแล้วครับ...

ความคิดเห็นที่ 9
ไปหาอแดปเตอร์มาใส่ก็ใช้ได้แล้วค่ะ มีขายตามห้างทั่วไป

home โปร ทุกสาขา 85.- บาท **









** ปล. เครดิตภาพจาก http://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=384720
ความคิดเห็นที่ 3
ไว้ใช้กับปลั๊ก สองอันตรงกลาง



วิธีแก้ ถ้าไม่เปลี่ยนปลั๊ก ก็เปลี่ยนเต้ารับ
ไม่ก็เดินสายดินไมโครเวฟโดยตรงไปเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่