สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
นี่ครับ แสบสุด ไม่มีอะไรหน้าด้านไปกว่านี้แล้ว
9 ก.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่มีการจัดพิธีมอบดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีที่ได้เร่งดำเนินการสอบสวนกระทั่งทราบความจริงว่า นายวันชัย แสงขาว คือฆาตกรที่ลงมือข่มขืน “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปีบนขบวนรถไฟสาย “สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ” ที่ “น้องแก้ม” นั่งรถมาในขบวนนี้ พร้อมโยนร่างของ “น้องแก้ม” ออกมาจากรถไฟ รวมทั้งกรณีที่เร่งค้นหาศพ “น้องแก้ม” กระทั่งพบเมื่อรุ่งเช้าวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
พี่สาวคนหนึ่งของ “น้องแก้ม” ได้เดินร้องไห้ออกมาจากห้องรับรอง และโผเข้ากอดญาติ พร้อมกับพูดว่า “นั่นน้องสาวหนูทั้งคน ตำรวจพูดโกหกทั้งหมดเลย และไม่ได้ช่วยอะไรเลย พี่ชายหนูเป็นคนไปตามหาจนเจอ
Cr. http://www.naewna.com/local/111827
-------------------------------------------------------------------------------------------
แถมให้อีกอันครับ...... แบบนี้ยังมีหน้าจะหลอกสังคมเอาหน้าได้อีก...
ฉาวอีกแล้ววงการสีกากี หลังญาติ "น้องแก้ม" โวยตำรวจลากแม่ "น้องแก้ม" จัดฉากแถลงข่าวขอบคุณตำรวจช่วยคลี่คลายคดีออกสื่อ ชี้ตั้งแต่เกิดเหตุตำรวจไม่ได้ช่วยติดตามหา "น้องแก้ม"หลังหายไปครบ 24 ชั่วโมง แต่เป็นมูลนิธิสว่างฯ ปราณบุรีที่ช่วยติดตามค้นหาจนพบร่าง "น้องแก้ม" ภายใน 4 ชั่วโมง
วันนี้ (9 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางลักขณา ทองพัฒน์ อายุ 48 ปี มารดาพร้อม พ.ต.อ.คึกฤทธิ์ พิทักษ์จำนงค์ ผกก.ฝ่ายอำนวยการ กองอุทธรณ์ สำนักงานข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา พร้อมครอบครัวของ"น้องแก้ม" เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ถูกนายวันชัย แสงขาว ลูกจ้างการรถไฟข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตบนรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กทม.แล้วโยนร่างทิ้งลงมาข้างทางรถไฟ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ามอบดอกไม้ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจรถไฟ ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจกก.ดส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาคดีดังกล่าวได้โดยเร็ว โดยมีพล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นตัวแทนรับมอบ จากนั้น พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นตัวแทนของศูนย์เยียวยาเหยื่ออาชญากรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มอบเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับมารดาของน้องแก้ม ซึ่งการมอบในครั้งนี้ เป็นไปตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544
พล.ต.อ. เอก กล่าวว่า ตนยืนยันว่าหลังเกิดเหตุดังกล่าวตำรวจได้รับแจ้ง และดำเนินการช่วยเหลือการค้นหาร่างของน้องแก้มอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเตรียมปรับแก้ข้อกำหนดในการรับแจ้งความคนหาย ที่จากเดิมจะต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงนั้น ถึงจะสามารถแจ้งความได้ โดยจะเร่งปรับเปลี่ยนให้แจ้งความได้ทันที และกำชับพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งให้รีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน
ส่วนการปรับแก้อัตราโทษ ในคดีข่มขืนกระทำชำเราให้สูงขึ้นนั้น รองผบ.ตร. กล่าวว่า จำเป็นต้องให้ผู้มีที่ส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งตำรวจเป็นเพียงผู้บังคับใช้กฎหมาย และรวบรวมพยานหลักฐานในการส่งสำนวนต่อพนักงานอัยการเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศขณะที่มอบดอกไม้แสดงความขอบคุณตำรวจนั้น ญาติส่วนหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจ และเดินออกจากห้องรับรองตั้งแต่แรก ซึ่งขณะที่ญาติได้มีการกล่าวขอบคุณตำรวจนั้น พี่สาวคนหนึ่ง ได้แสดงสีหน้าอย่างชัดเจน ในการรับมอบเงิน โดยก่อนหน้านี้ได้มีกระแสข่าวจากกลุ่มญาติของน้องแก้ม ที่ได้แสดงความรู้สึกไม่พอใจผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ถึงการทำงานของตำรวจที่ไม่ช่วยดำเนินการในการค้นหาร่างน้องแก้มอย่างเต็มที่ ซึ่งคืนวันที่พบร่างของน้องแก้มเป็นเพียงญาติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เป็นผู้ช่วยกันค้นหาเท่านั้น โดยพี่สาวของน้องแก้มได้เดินร้องไห้ออกมาจากห้องรับรอง และโผเข้ากอดญาติ พร้อมกับพูดว่า “นั่นน้องสาวหนูทั้งคน ตำรวจพูดโกหกทั้งหมดเลย และไม่ได้ช่วยอะไรเลย พี่ชายหนูเป็นคนไปตามหาจนเจอ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการแชร์ข้อความการให้สัมภาษณ์ของญาติน้องแก้มต่อสื่อมวลชนรายการทีวีช่องหนึ่งว่า "การเดินทางมาครั้งนี้คุณแม่ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นการมาเพื่อกล่าวขอบคุณตำรวจ เพราะทีแรกได้รับแจ้งว่าให้มารับเงินเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ เท่านั้น แต่พอมาถึงที่นี่กลับถูกทางตำรวจให้ท่องสคริปต์เพื่อที่จะกล่าวขอบคุณตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งจริงๆแล้วคุณแม่ไม่ต้องการท่อง เพราะในช่วง2วันแรกของการติดตามหาน้องแก้มตำรวจไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือมากนัก ทำให้ทางญาติต้องติดต่อมูลนิธิสว่างฯปราณบุรี ให้มาช่วยติดตามหาน้องแก้มพร้อมกับญาติๆ จนเจอร่างน้องแก้มภายในเวลา 4 ชั่วโมง
"วันนี้จริงๆแล้วแม่ควรจะต้องได้พักผ่อน เพราะไม่ได้หลับได้นอนกันมา 3 วันแล้ว น้องอยู่ที่วัด แม่ก็อยากไปนั่งเฝ้าน้อง สวดมนต์ให้น้อง แต่ทางตำรวจต้องการไปรับตัวแม่มา เพียงเพื่อให้มาขอบคุณที่นี่ แค่นี้หรือครับ ตำรวจต้องการแค่นี้ใช่มั้ย.."ญาติคนดังกล่าวระบุ และว่า ตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งแรกที่ปราณบุรี ยังไม่เห็นใครได้แสดงความขอบคุณกลุ่มคนที่สมควรได้รับคำขอบคุณจริงๆก็คือเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างฯปราณบุรี ที่ลงพื้นที่ตามหาร่างน้องแก้มอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ตำรวจจัดฉากให้ครอบครัวมาขอบคุณได้เก่งมาก
Cr. http://ict.in.th/63321
9 ก.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่มีการจัดพิธีมอบดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีที่ได้เร่งดำเนินการสอบสวนกระทั่งทราบความจริงว่า นายวันชัย แสงขาว คือฆาตกรที่ลงมือข่มขืน “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปีบนขบวนรถไฟสาย “สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ” ที่ “น้องแก้ม” นั่งรถมาในขบวนนี้ พร้อมโยนร่างของ “น้องแก้ม” ออกมาจากรถไฟ รวมทั้งกรณีที่เร่งค้นหาศพ “น้องแก้ม” กระทั่งพบเมื่อรุ่งเช้าวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
พี่สาวคนหนึ่งของ “น้องแก้ม” ได้เดินร้องไห้ออกมาจากห้องรับรอง และโผเข้ากอดญาติ พร้อมกับพูดว่า “นั่นน้องสาวหนูทั้งคน ตำรวจพูดโกหกทั้งหมดเลย และไม่ได้ช่วยอะไรเลย พี่ชายหนูเป็นคนไปตามหาจนเจอ
Cr. http://www.naewna.com/local/111827
-------------------------------------------------------------------------------------------
แถมให้อีกอันครับ...... แบบนี้ยังมีหน้าจะหลอกสังคมเอาหน้าได้อีก...
ฉาวอีกแล้ววงการสีกากี หลังญาติ "น้องแก้ม" โวยตำรวจลากแม่ "น้องแก้ม" จัดฉากแถลงข่าวขอบคุณตำรวจช่วยคลี่คลายคดีออกสื่อ ชี้ตั้งแต่เกิดเหตุตำรวจไม่ได้ช่วยติดตามหา "น้องแก้ม"หลังหายไปครบ 24 ชั่วโมง แต่เป็นมูลนิธิสว่างฯ ปราณบุรีที่ช่วยติดตามค้นหาจนพบร่าง "น้องแก้ม" ภายใน 4 ชั่วโมง
วันนี้ (9 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางลักขณา ทองพัฒน์ อายุ 48 ปี มารดาพร้อม พ.ต.อ.คึกฤทธิ์ พิทักษ์จำนงค์ ผกก.ฝ่ายอำนวยการ กองอุทธรณ์ สำนักงานข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา พร้อมครอบครัวของ"น้องแก้ม" เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ถูกนายวันชัย แสงขาว ลูกจ้างการรถไฟข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตบนรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กทม.แล้วโยนร่างทิ้งลงมาข้างทางรถไฟ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ามอบดอกไม้ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจรถไฟ ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจกก.ดส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาคดีดังกล่าวได้โดยเร็ว โดยมีพล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นตัวแทนรับมอบ จากนั้น พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นตัวแทนของศูนย์เยียวยาเหยื่ออาชญากรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มอบเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับมารดาของน้องแก้ม ซึ่งการมอบในครั้งนี้ เป็นไปตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544
พล.ต.อ. เอก กล่าวว่า ตนยืนยันว่าหลังเกิดเหตุดังกล่าวตำรวจได้รับแจ้ง และดำเนินการช่วยเหลือการค้นหาร่างของน้องแก้มอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเตรียมปรับแก้ข้อกำหนดในการรับแจ้งความคนหาย ที่จากเดิมจะต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงนั้น ถึงจะสามารถแจ้งความได้ โดยจะเร่งปรับเปลี่ยนให้แจ้งความได้ทันที และกำชับพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งให้รีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน
ส่วนการปรับแก้อัตราโทษ ในคดีข่มขืนกระทำชำเราให้สูงขึ้นนั้น รองผบ.ตร. กล่าวว่า จำเป็นต้องให้ผู้มีที่ส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งตำรวจเป็นเพียงผู้บังคับใช้กฎหมาย และรวบรวมพยานหลักฐานในการส่งสำนวนต่อพนักงานอัยการเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศขณะที่มอบดอกไม้แสดงความขอบคุณตำรวจนั้น ญาติส่วนหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจ และเดินออกจากห้องรับรองตั้งแต่แรก ซึ่งขณะที่ญาติได้มีการกล่าวขอบคุณตำรวจนั้น พี่สาวคนหนึ่ง ได้แสดงสีหน้าอย่างชัดเจน ในการรับมอบเงิน โดยก่อนหน้านี้ได้มีกระแสข่าวจากกลุ่มญาติของน้องแก้ม ที่ได้แสดงความรู้สึกไม่พอใจผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ถึงการทำงานของตำรวจที่ไม่ช่วยดำเนินการในการค้นหาร่างน้องแก้มอย่างเต็มที่ ซึ่งคืนวันที่พบร่างของน้องแก้มเป็นเพียงญาติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เป็นผู้ช่วยกันค้นหาเท่านั้น โดยพี่สาวของน้องแก้มได้เดินร้องไห้ออกมาจากห้องรับรอง และโผเข้ากอดญาติ พร้อมกับพูดว่า “นั่นน้องสาวหนูทั้งคน ตำรวจพูดโกหกทั้งหมดเลย และไม่ได้ช่วยอะไรเลย พี่ชายหนูเป็นคนไปตามหาจนเจอ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการแชร์ข้อความการให้สัมภาษณ์ของญาติน้องแก้มต่อสื่อมวลชนรายการทีวีช่องหนึ่งว่า "การเดินทางมาครั้งนี้คุณแม่ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นการมาเพื่อกล่าวขอบคุณตำรวจ เพราะทีแรกได้รับแจ้งว่าให้มารับเงินเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ เท่านั้น แต่พอมาถึงที่นี่กลับถูกทางตำรวจให้ท่องสคริปต์เพื่อที่จะกล่าวขอบคุณตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งจริงๆแล้วคุณแม่ไม่ต้องการท่อง เพราะในช่วง2วันแรกของการติดตามหาน้องแก้มตำรวจไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือมากนัก ทำให้ทางญาติต้องติดต่อมูลนิธิสว่างฯปราณบุรี ให้มาช่วยติดตามหาน้องแก้มพร้อมกับญาติๆ จนเจอร่างน้องแก้มภายในเวลา 4 ชั่วโมง
"วันนี้จริงๆแล้วแม่ควรจะต้องได้พักผ่อน เพราะไม่ได้หลับได้นอนกันมา 3 วันแล้ว น้องอยู่ที่วัด แม่ก็อยากไปนั่งเฝ้าน้อง สวดมนต์ให้น้อง แต่ทางตำรวจต้องการไปรับตัวแม่มา เพียงเพื่อให้มาขอบคุณที่นี่ แค่นี้หรือครับ ตำรวจต้องการแค่นี้ใช่มั้ย.."ญาติคนดังกล่าวระบุ และว่า ตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งแรกที่ปราณบุรี ยังไม่เห็นใครได้แสดงความขอบคุณกลุ่มคนที่สมควรได้รับคำขอบคุณจริงๆก็คือเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างฯปราณบุรี ที่ลงพื้นที่ตามหาร่างน้องแก้มอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ตำรวจจัดฉากให้ครอบครัวมาขอบคุณได้เก่งมาก
Cr. http://ict.in.th/63321
ความคิดเห็นที่ 41
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ก็ไม่รู้จะเป็นไปหรือเปล่า แต่ก็อยากจะเล่า
ประมาณปีที่แล้ว น้องที่รู้จักกันเจอคดีรับซื้อของโจรโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ตำรวจสน.นึงในกทม.เรียกให้ไปพบ
และบอกจะปิดคดีให้ ให้ได้เท่าไหร่ มีเรียกเจ้าทุกข์มาด้วย แต่เจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่องเพราะรู้ว่าน้องไม่ได้ทำจริง และของมันโดนขโมยไปหลายปีมากแล้ว
แต่ตำรวจไม่ยอม บอกว่าได้รับแจ้งแล้วจากบริษัทผลิตคอม ที่เจ้าทุกข์เคยแจ้งหายไว้ ต้องมีการดำเนินคดี จึงเรียกเงินเพื่อปิดคดี น้องเราต้องยอมจ่ายให้ไปจำนวนหนึ่ง แต่ทางตำรวจบอกว่า ที่ให้มาไม่พอแบ่งกัน น้อยเกินไป เอิ่มมมม มีอึ้ง
แต่ทางน้องเค้ายืนยันว่ามีเท่านี้จริงๆ ทางตำรวจจึงยอมรับไป และให้จ่ายให้เจ้าทุกข์ 2,000 ตอนออกมาจากสน. เจ้าทุกข์ก็เอาเงินมาคืน บอกว่าไม่เอา (จำนวนที่จ่ายให้ตำรวจ 5หลักนะคะ)
นี่คือตำรวจไทยที่ทำให้เราและหลายๆคนอึ้ง และไม่หวังพึ่งจริง
ปล. ไม่รู้เล่าแบบนี้จะโดนอะไรรึเปล่า แต่อยากแชร์ประสบการณ์ตรง
ประมาณปีที่แล้ว น้องที่รู้จักกันเจอคดีรับซื้อของโจรโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ตำรวจสน.นึงในกทม.เรียกให้ไปพบ
และบอกจะปิดคดีให้ ให้ได้เท่าไหร่ มีเรียกเจ้าทุกข์มาด้วย แต่เจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่องเพราะรู้ว่าน้องไม่ได้ทำจริง และของมันโดนขโมยไปหลายปีมากแล้ว
แต่ตำรวจไม่ยอม บอกว่าได้รับแจ้งแล้วจากบริษัทผลิตคอม ที่เจ้าทุกข์เคยแจ้งหายไว้ ต้องมีการดำเนินคดี จึงเรียกเงินเพื่อปิดคดี น้องเราต้องยอมจ่ายให้ไปจำนวนหนึ่ง แต่ทางตำรวจบอกว่า ที่ให้มาไม่พอแบ่งกัน น้อยเกินไป เอิ่มมมม มีอึ้ง
แต่ทางน้องเค้ายืนยันว่ามีเท่านี้จริงๆ ทางตำรวจจึงยอมรับไป และให้จ่ายให้เจ้าทุกข์ 2,000 ตอนออกมาจากสน. เจ้าทุกข์ก็เอาเงินมาคืน บอกว่าไม่เอา (จำนวนที่จ่ายให้ตำรวจ 5หลักนะคะ)
นี่คือตำรวจไทยที่ทำให้เราและหลายๆคนอึ้ง และไม่หวังพึ่งจริง
ปล. ไม่รู้เล่าแบบนี้จะโดนอะไรรึเปล่า แต่อยากแชร์ประสบการณ์ตรง
ความคิดเห็นที่ 22
ถ้าเราพิมพ์อะไรออกไป เราจะโดนไหมนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนมา ไม่ได้จะกล่าวหาว่าจะเป็นตำรวจทุกคน แต่เพียงเท่าที่เห็น และเคยเห็นมามันช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน....
ปล. หวังว่าที่เราเขียนมาทั้งหมด จะไม่ทำให้ตำรวจดีๆ ต้องเสียกำลังใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนมา ไม่ได้จะกล่าวหาว่าจะเป็นตำรวจทุกคน แต่เพียงเท่าที่เห็น และเคยเห็นมามันช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน....
ปล. หวังว่าที่เราเขียนมาทั้งหมด จะไม่ทำให้ตำรวจดีๆ ต้องเสียกำลังใจ
แสดงความคิดเห็น
ความจริงที่สังคมควรรู้จากปากพี่ชายน้องแก้ม.....
ความจริงที่สังคมควรรู้จากปากพี่ชายน้องแก้ม
ก่อนสังคมจะพิพากษาอย่างเข้าใจผิด!
วานนี้ได้นั่งคุยกับพี่ชายน้องแก้มเหยื่อที่ถูกพนักงานรถไฟฆ่าข่มขืน
มีบางอย่างที่คุยกันนอกรอบ พี่ชายเขาไม่ได้คิดโกรธเจ้าหน้าที่การรถไฟ!
เพราะมันเป็นความเลวเฉพาะบุคคล!
แต่ที่เขาเจ็บที่สุดคือตำรวจ! บางประโยคขอถ่ายทอดให้ฟังตรงนี้
" น้องผมหายเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟดีมากช่วยกันตรวจเช็ค ทุกวัน
ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกสถานี
แต่ตำรวจที่ยศใหญ่ๆกับห้ามพวกผมพูดอะไร
พอโทรไปถามว่าค้นถึงไหนแล้ว ก็บอกว่าทำอยู่แล้วตะคอก
ก่อนวางหู ไม่เคยแม้แต่โทรมาถาม...พวกผมจะค้นหาน้อง
ก็ไม่ร่วมมือ บอกเดี๋ยวเช้าตรวจให้!
น้องผมหายสองวัน มีแต่เจ้าที่รถไฟหัวหน้าสถานีพาผมช่วยหาน้องตลอด
ที่เจ็บที่สุดคือ. ตอนค้นหาร่างน้องแก้ม
ตามทางรถไฟ. ดึก มืด น่ากลัวมาก ตำรวจไม่มา!
มีแต่กู้ภัย และเจ้าที่รถไฟ ลุยป่าข้างทางมีแค่นั้น
ผมโทรหาตำรวจ ก็บอกว่าดูอยู่แล้วก็วางหูเหมือนเคย!
พวกผมต้องค้นหาศพน้องแต่...
พวกคุณตำรวจมาออกข่าวว่ามีคนเห็นน้องผมไปกับผู้ชาย!
พี่ครับหัวอกคนเป็นญาติจะเจ็บขนาดไหน!
ตอนผมเจอศพน้อง ตำรวจทำอะไรรู้ไหมครับ!
เขามานั่งแถลงข่าว!
แต่กู้ภัยที่ช่วยผมมาตลอดและเจ้าหน้าที่รถไฟ กลายเป็นหมา!
ผมไม่เกลียดตำรวจแต่ผมเจ็บ..."
นี่คือความจริงที่คิดว่าสังคมควรได้รู้ครับ
เบื้องหลังชีวิตน้องแก้ม คนทำผิดต้องรับโทษ
แต่คนทำดีไม่ควรถูกรุมประนาม
คนไม่ลงแรงไม่จริงใจ ไม่ควรกลายเป็นฮีโร่!
cr:https://www.facebook.com/phutinn
ปล. กระทู้นี้ไม่รู้พอที่จะมีโอกาสเป็นกระทู้แนะนำได้หรือเปล่า เพราะใจจริงอยากให้เป็น เพื่อให้ทุกคนที่ได้อ่านได้รับทราบข้อมูลบางอย่างที่สื่ออาจไม่ได้นำเสนอ