เนื่องด้วยคดีของน้องเเก้มซึ่งได้ถูกฆ่าข่มขืนบนรถไฟจนเกิดเป็นกระเเสสังคมอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์เป็นประเด็นสำคัญในการรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอให้โทษของการข่มขืนมีโทษถึงประหารชีวิต จึงทำให้ผมเกิดความสงสัยว่า กฎหมายนี่คิดขึ้นมาโดยไตร่ตรองกันดีเเล้วหรือยังรวมถึงตัวบุคคลที่กำลังล่ารายชื่อเพื่อที่จะร่างกฎหมายนี้ซึ่งผมก็ทำการหยิบเอาประเด็นหลักๆในความคิดผมเเต่ละด้านมาดูนะครับ กรณีที่1 ผ่านร่างกฎหมายนี้ -ข้อดี 1)ลดปัญหาทำให้เกิดความกลัวต่อการกระทำผิด 2)ปกป้องหลักสิธิเด็กเเละสตรี -ข้อเสีย 1)เป็นการกระทำที่ผิดต่อสิทธิมนุษยชนของผู้กระทำผิดหรือเปล่า? 2)อาจเป็นการทำให้เหตุการเลวร้ายขึ้นหรือเปล่า=>จากข่มขืนธรรมดากลายเป็นข่มขืนเเล้วฆ่าเพื่อปิดบังคดี 3)หากมีฝ่ายหนึ่งมาเเจ้งความเท็จโดยไม่มีหลักฐานโดนที่ตัวผู้ถูกกล่าวหาไม่มีความผิด_จะมีใครรับผิดชอบต่อชีวิตเขาล่ะจะมีใครออกกฎหมายให้ฟ้องประหารชีวิตกลับได้หรือไม่...เเน่นอนว่าไม่มีทางเป็นไปได้ 4)ถ้าคุณกำลังเรียกร้องสิทธิของเด็กเเละสตรีก็ควรที่จะคำนึงด้วยว่าอีกฝ่ายเขาก็มีสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน ข่มขืนเเต่ไม่ได้ฆ่า=ประหารชีวิตเลยอย่างงั้นหรืออย่างน้อยเขาก็ไม่ไดฆ่าเเล้วจะไปฆ่าเขา? 5)ประชาธิปไตยไม่ใช่การรวมกลุ่มกันตั้งศาลเตี้ยนะครับ กรณีที่2 หาคำตอบเอาเองเเล้วกันครับว่าถ่าร่างกฎหมายนี้ผ่านร่าง โดยที่ไม่มีการพิจาณาทบทวนเเก้ไขอะไรเลยนั้นความเป็นธรรมในเเผ่นดินไทยนี้หายไปไหน เเล้วก็ฝากไปถึงผู้ที่กำลังสนับสนุนร่างกฎหมายนี้นะครับว่าพวกคุณได้ทบทวนสิ่งต่างๆทั้งหมดเเล้วหรือยัง ไม่ใช่ปล่อยให้กระเเสของสังคมออนไลน์พาไปโดยไม่คิดทั้ง2ด้านก่อนนะครับมิเช่นนั้นปัญหาที่จะตามมาอาจจะหนักเกินที่จะเเก้ไขครับ
กฎหมายข่มขืน=ประหาร คุณคิดทั้ง2ด้านเเล้วหรือยัง