สวัสดีค่ะ   วันนี้หนูก็ได้ฤกษ์งามยามดีม๊ากมากกก อะไรเอ่ยคือวันหยุดแล้วว่าง?? ต้องแต่งหน้าเล่น คือวันไปทำงานตื่นไม่ทัน แต่พอวันหยุดกลับอยากแต่งหน้าซะงั้น ไหนๆต้องแต่งหน้าเล่นแล้ว หนูเสียดายเครื่องสำอางค์ค่ะ หนูก็เลยมาทำ HOW TO ค่ะ ต้องขอขอบคุณ L’Oréal Paris Thailand มากๆนะคะ ที่ส่งมอบความสุขมาให้หนูลองเล่น แต่ด้วยความสัจจริง บางตัวหนูใช้เป็นประจำอยู่แล้วด้วยค่ะ ตำเองด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองค่ะ   ถึงกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าของเค้าดีจริงอะไรที่ว่าดีหนูก็ว่าดีค่ะ >•<

                   หลังจากที่หนูทำ HOW TO     พี่ชมเมืองคานส์วันแรกไปแล้ว และ Look วันนี้ หนูก็ตั้งใจจะทำอยู่แล้วค่ะ เพราะหนูคือติ่งพันธ์แท้ ของพี่ชมค่ะ ซึ่งก็ไม่พลาดแน่นอนค่ะ ที่จะทำ  HOW TO  >>> AURA DEL’OR BLANC LOOK  นี้ ลุคพี่ชม ออร่า เปล่งประกายออร่าสะท้อนแสง  สวยแรงระยะพันเมตร. ซึ่งจะตรงกันข้ามกับลุควันแรกเลยนะคะ คือลุควันแรกทุกสิ่งทุกอย่างจะแมทหมดทุกสิ่ง ตั้งแต่ผิว ตาดำเข้มแมท ปากแดงแมท แต่ลุควันนี้ หนูก็ศึกษาลุคด้วยวิธีเดิมค่ะ คืออาศัยความเป็นติ่งพี่ชม. ซึ่งงานหลักของติ่งพันธ์อย่างหนู คือตามดูพวกสัมภาษณ์ ต่างๆ ตามเซฟรูป คือดูทั้งที่พี่ชมให้สัมภาษณ์ แล้วก็ที่คุณคาริม เมคอัพอาร์ททิส ให้สัมภาษณ์ด้วยค่ะ. ว่าใช้อะไร ลงอย่างไรบ้างค่ะ. คีย์ของลุคนี้คือหน้าจะเปล่งประกาย แก้มจะระยิบระยับ เน้นเผยผิวอันดีงาม เปล่งประกายจรัสแสง เงาวาว ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ. โดยที่ตานั้นก็เต็มไปด้วยประกายสีอายแชร์โดว์ที่มีประกายมุกเขียวทอง ส่วนสีแก้มปากนั้น ก็ออกส้มๆชมพูหน่อยๆค่ะ และหนูว่าลุคนี้มันชิลมากนะคะ คือแต่งตามได้ง่ายๆ ไม่พลาดค่ะ เหมาะกับทุกสีผิวเพราะมันเป็นสีกลางๆ เซฟสุดๆได้ทุกงาน แต่งไปทำงาน เดินเล่น ช้อปปิ้ง งานแต่ง งานบวช งานวันเกิด งานแซยิด มีทติ้งเม้ามอยกะแก๊งชะนีเก้งกว้าง ก็ได้หมดค่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ     แต่แอบเกริ่นไว้ก่อนนะคะ  ว่าลุคนี้แต่งเสร็จแล้วสวยใส อ่อนเบา เหมือนไม่แต่งค่ะ  ลุคธรรมชาติสุดๆค่ะ


และนี่คือ เครื่องสำอางค์ทั้งหมดที่หนูแต่งในลุควันนี้ค่ะ  





ตั้งต้นด้วยภาพ BEFORE& AFTER กันก่อนดีกว่านะคะ 5555  หลอนซะขนาด  สิวก็ปูดอีกค่ะ  ทำไมนะ T-T ชั้นไม่เข้าใจเลยยย  พี่ชายยยยยยย ~~~ ขอบคุณที่โลกใบนี้มีเครื่องสำอางค์ค่ะ ชะนีปลวกๆ ก็ดูดีได้ในพริบตา  เอ่อออออ ว่าแต่ชุดนี่หนู นี่ไม่ใช่ศาลพระภูมินะคะ   ไม่ใช่ผ้าสามสีค่ะ  55555  





     1. เริ่มต้นกันที่เรื่องผิวๆนะคะ หนูก็ลงครีมบำรุง+กันแดดตัวที่ใช้ประจำ เรียบร้อยค่ะ. ในวันนี้ลุคที่เรา ต้องการความใสๆ เบาๆ เหมือนผิวสวย ผิวดีงาม มีชาติตระกูลตั้งแต่เกิด หนูใช้รองพื้น L’Oréal Paris Lucent magique light-infusing foundation สี N2 ซึ่งรองพื้นตัวนี้ บางเบา แลดูไม่หนาแน่นจนเกินไป ทำให้ยังคงผิวเราไว้อยู่ค่ะ หนูก็ใช้ไปทำงานด้วยนะคะสำหรับรองพื้นตัวนี้คือมันดี๊อ่ะ !!! ใช้เป็นEveryday look ได้เลยค่ะ  และหนูก็เพิ่ม  ไพร์มเมอร์ L’Oréal Paris Lucent magique pure light primer ซึ่งในตัวไพร์มเมอร์นี้จะมีประกายมุก ซึ่งก็เพิ่มการกระจาย ทำให้หน้าเรายิ่งดูมีออร่า เด่นเด้งมากยิ่งขึ้นค่ะ ผสมๆกันไปเลยค่ะ  ผสมๆกันแล้วหนูใช้บรัชที่เป็น DUO Fiber. มาเกลี่ยรองพื้นค่ะ เพื่อที่จะได้ปริมาณรองพื้นที่เบาบาง  แต่ว่า ตอนที่รองพื้นตัวนี้มันยังไม่เซทตัว มันจะดูขาวๆหน่อยนะคะ  แต่พอเซทแล้วจะโอเคเลยค่ะ  ไม่วอกค่ะ   



2. หลังจากนั้นหนูก็ใช้ Lucent magique  Touch-Up Pen  เก็บรายละเอียดร่องรอยสมรภูมิรบ ที่ได้ผ่านมา ทั้งรอยแพนด้าที่อดนอนเพราะหนังเกาหลี ที่ขออีกตอน ขออีกตอน เผลออีกที  เช้าซะงั้น  ทั้งรอยสิวระเบิดจากช่วงนั้นของเดือน หนูก็ทำการโปะๆ ฉาบๆ แล้วก็เกลี่ยโล้ดค่ะ นอกจากนี้ก้อแอบเอามาทำเป็นไฮไลท์เบาๆด้วยค่ะ  ก็ทาในส่วนที่แสงตกกระทบค่ะ   ทั้งหน้าผาก  สันจมูก  คางค่ะ    ใจจริงไม่อยากเกลี่ยเลย  อยากออกไปทั้งหน้าแมวอย่างงี้ ก็เก๋นะ  หนูว่า  5555555



3.ขั้นตอนต่อไปค่ะ คือหนูจะใช้ Lucent magique skin luminating bb cream spf20 pa+++.มาใช้เน้นเป็นตัวไฮไลท์ค่ะ คือมาเกลี่ยๆวอร์มๆ ที่มือก่อนนะคะ แล้วใช้คู่กับแปรง DUO fiber. แปรงเดิมเลยค่ะ วนๆ เหมือนเดิมค่ะ  เน้นบริเวณที่ต้องการทำให้หน้าพุ่งค่ะ หน้าผาก สันจมูก โหนกแก้มค่ะ



4. เมื่อรองพื้นทุกอย่างเซทดีแล้ว หนูก็เซททุกอย่างด้วยแป้ง Lucent magique skin luminating tri- foundation powder. คือในแป้ง1ตลับมีทั้ง3สี รวมทั้งไฮไลท์ วิธีใช้ก็ปาดปรื้ดๆ เลยค่ะ ใช้ทั้ง3สีเลยค่ะ หนูใช้พัฟกดๆนะคะ  อย่าลากค่ะ  เพราะจะทำให้รองพื้นและสิ่งต่างๆที่เราทำมาพังงงงงงงงค่ะ  ใจเย็นๆคะ  ค่อยๆกดค่ะ   



5. มาในส่วนของตานะคะ หนูใช้พาเลท  L’Oréal Paris color riche les ombres #P2 Hidden Gems โดยที่จะใช้จะสีชิมเมอร์ทอง มาแตะสลับไปมากับสีเขียวค่ะ แล้วทาให้ทั่วทั้งเปลือกตาค่ะ หลังจากนั้นก็ใช้สีเขียวเทาเข้ม มาสร้างเบ้าเบาๆค่ะ คือลุคนี้ไม่ได้ต้องการเบ้าที่เด่นชัดมากนะคะ แค่พอเป็น มิติลี้ลับเบาๆค่ะ  



6.ลงอายเเชโดว์เสร็จแล้ว  ขั้นตอนต่อไปก็กรีดอายไลน์เนอร์ค่ะ   หนูใช้ L’Oréal Paris super liner gelmatic pen #Glamour Gold  เขียนเป็นไลน์เนอร์นะคะ    แต่ในรูปพี่ชมที่หนูแอบเห็นนี่คือ มีเขียนอินเนอร์ด้วยทั้งบนและล่างค่ะ  หนูเลยไช้  Super Liner Automatic Slim Liner in Black   ซึ่งจริงๆแล้วตัวนี้หนูใช้ประจำด้วยค่ะ  เพราะว่า หัวมันเล็กมากกกก ค่ะ มันชอนไชหัวตาได้  แถม ไม่ต้องเหลาด้วยค่ะ หมุนปรื๊ดๆ ใช้ได้เลยค่ะ



7. ขั้นตอนต่อมาก็สำคัญมากกกกกนะคะ  คิ้วค่ะ  งานคิ้วต้องมา หนูใช้   s super liner brow designer pro # 02 Chocolate   ใช้ส่วนที่ดินสอ เขียนก่อนนะคะ แต่หนูร่างตามโครงคิ้วเดิมนะคะ  แต่คือจะไม่โก่งมากค่ะ   ตามแนวคิ้วเดิมค่ะ  แล้วใช้ส่วนที่เป็นฝุ่นๆ  ระบายๆ  ให้เบลอๆฟุ้งๆค่ะ  แล้วใช้แปรงหวีแนวขนคิ้วอีกทีค่ะ  หนูจะบอกว่า คือเมื่อก่อนหนูมีความเชื่อว่า เราเป็นคนคิ้วเยอะอยู่แล้วไม่ต้องเขียนหรอก  แต่พอได้ลองแล้วรู้สึกว่าการแต่งหน้ามันดูคอมพลีทขึ้นนะคะ ดูมีอะไร ดูดี ดูงามค่ะ  ><


8. ต่อไปเป็นงานแก้มค่ะ  ไม่มีแก้มนี่คือป่วยนะคะ  ขอมีเลือดฝาดนิ๊นุงงงค่ะ    หนูใช้ Lucent magique blush of light glow palette #04 SUNSET GLOW   คือ สีอมส้มๆหน่อยค่ะ   และบรัชตัวนี้มีดีที่มีชิมเมอร์วิ้ง เนี่ยแหละค่ะ    พอปัดรวมๆวนๆแล้วสีดีงามมากกกกค่ะ    เหมือนฟาดไฮไลท์ ไปด้วยค่ะ
   หลังจากนั้นหนูแอบไปดูคลิบคุณคาริม  ได้บอกทริคว่าให้ใช้ แปรงอันเดิมที่เราลงรองพื้นนี่แหละค่ะ  เอามาวนๆ โดยที่ไม่ได้แตะอะไรเพิ่มนะคะ   ซึ่งวิธีนี้มันจะเบลอทุกสิ่งทุกอย่างให้กลืนกันค่ะ     



9. ต่อมาขั้นตอนที่หนูรักที่สุด คือการปัดมาสคาร่าาาาาาาาาา + ติดขนตาปลอมค่ะ   หนูใช้มาสคาร่าตัว  curl impact collagene extreme resist เด้งดีเด้งทนมากๆ  หนูดัด ปัด  ติดขนตาปลอม เส็จแล้วก็ดัด และปัด ขนตาปลอม ให้กลืนกับขนตาจริงค่ะ  หลังจากนั้นก็กรีดอายไลน์เนอร์ ทับกาวที่เราติดขนตาปลอมค่ะ  หนูใช้super liner ultra sharp    คือมันเรียวเล็กและชอนไชช่องระหว่างขนตาได้ค่ะ  จะได้ดูเนียนๆค่ะ  
ขอยืมคำพี่ชมค่ะ " ขนตามา กากลายเป็นหงส์ "  หนูว่าจริงที่สุดดดดดดดดดดด  




10. มาถึงขั้นตอนสุดท้ายยยยยยค่ะ   ทาลิบกันเถอะ ทาลิบกันเถอะ  หนูทาสองสีเลยนะคะ  โดยทา  shine caresse pearly Sheen #806 สีอมส้มๆก่อนค่ะ  แต่ยังไม่ละเลงกับปากเลยนะคะ   แต่จะใช้ทาหลังมือก่อนแล้วค่อยเอามาทาที่ปากค่ะ  จะได้ ปริมาณที่โอเคไม่เยิ้มเยอะจนเกินไปค่ะ  หลังจากนั้นก็ทาshine caresse pearly Sheen #611 Luna  ทับค่ะ  พอออกมามันก็จะดูอมส้มๆชมพู น่ารักจู๊บุจิ๊บิ มากๆๆๆๆๆๆๆๆ



เป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะ  หนูขอแว๊บไปแปลงร่าง  ทำผมให้เข้ากับลุคพี่ชมก่อนนะคะ เสื้อผ้างบไม่ถึง ZAC POSEN ที่พี่ชมใส่ค่ะ   
จาก แซคโพเซน  จึ่งต้องเป็น หนูเคอเท่น  แทนค่ะ เก๋ๆ  55555555555555555555555  


ตา ปรือๆ กับลืมตาค่ะ >.<
**มีเหนียงไม๊ ???  พูดเลยว่าเยอะมาก 55555




ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ  และขอขอบคุณลอรีอัล ปารีส ประเทศไทย มากๆด้วยนะคะ
หากกระทู้นี้มีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ
หมายเหตุค่ะ --- ที่เห็นแต่ครึ่งบน  โนครึ่งล่างเพราะครึ่งล่างห้องเสื้อ หนูเคอเท่นตัดไม่ทันค่ะ  >.<
หมายเหตุ 2 ค่ะ ---  ชุดนี่ดูไปดูมาได้ แรงบันดาลใจจากผ้าแถบสุดๆนะคะ   หนูเป็นนางทาสสสสส  55555