เรื่องมันมีอยู่ว่า เรามีบัญชีเป็นออมทรัพย์อยู่กับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ ซึ่งบัญชีนี้ เป็นบัญชีที่ปลอดภัยโครตๆของเรา
เนื่องจากเป็นบัญชีที่เราเอาไว้เก็บเงินล้วนๆ ไม่เคยนำไปรูดจ่าย(เดบิต) หรือชำระสินค้าทาง Internet แต่อย่างใด
การใช้งานของบัตรมีแค่ กดเงินจากตู้ ATM และโอนเงินบ้าง ทาง Internet Banking ซึ่งเวลาทำธุรกรรมออนไลน์ เราก็เลือกใช้ 3G ตลอด
และโทรศัพท์เราไม่เคยแม้แต่จะต่อ Wifi ที่อื่น ยกเว้นที่บ้าน ไม่ว่าจะ ที่ทำงาน / ห้าง หรือแม้กระทั่ง Wifi Dtac ที่เรามี ก็ไม่เคยต่อ !
เราเองดูข่าวเยอะ ทาง TV เอย Net เอยอะไรเอย และคิดว่าตัวเองเป็นคนรอบคอบมาก เกิดมายังไม่เคยทำกระเป๋าสตางค์หายเลยสักครั้ง !!
แต่แจ๊กพอตก็เข้าเราจนได้ค่ะ !!
ตามสเตตัสเลยค่ะ ก็คือ เช้าวันที่ 27 มิย. เราตื่นมาปุ๊บ ก็ตั้งใจจะโอนเงินไปให้น้องสาว
พอ Login เข้ามาปุ๊บ เอ๊ะ เงินทำไมเหลือ 80 กว่าบาท จาก 10,000 กว่าๆ
เราก็งง ในใจก็คิด เน็ตคงช้าเนาะ 3G อาจจะใกล้หมดหรือยังไง ก็รอ ๆ แต่จำนวนเงินก็ไม่อัพเดทแต่อย่างใด
ทีนี้เราเลยเลือกไปดูรายการเดินบัญชีย้อนหลังค่ะ
มีการทำรายการไปเมื่อวันที่ 25 !! ซึ่ง ไม่ใช่เราค่ะ !!
จากที่เช็คยอดเงิน และคุยกับ Callcenter เรียบร้อยแล้ว
มันก็ทำให้รู้ว่า เราโดน Hacker หรือ Scammer หรืออะไรนี่แหละ ขโมยเงินไปแน่ๆ !!
เราก็ไม่รอช้าค่ะ ไปแจ้งความทันที
ทางคุณตำรวจก็ดีมากๆ ให้คำแนะนำ ออกหนังสือตราครุฑให้เรา ดังนี้ค่ะ
และเราก็นำเอกสารเรา ไปยื่นเรื่องกับธนาคารอีกที
โดยที่เราออกตราครุฑสองฉบับนะคะ อีกฉบับส่งถึงธนาคารกสิกร ที่เป็นเจ้าของตู้ที่เราถูกกดเงินไปค่ะ
พอเราไปยื่นเรื่อง ทางพนักงานกรุงศรีก็บอกว่า เอาตราครุฑฉบับเดียวพอ เค้าจะส่งเอกสารให้
ก็มีพูดคุยกันนิดหน่อย เราก็ถามว่า เราจะได้เงินคืนใช่มั้ยคะ ? เค้าก็บอกว่า ถ้าพิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่เราไปกดเอง ก็ได้คืนอยู่แล้ว
เราก็นึกในใจ กดเองละจะมาทำแบบนี้เพื่อออออออ แจ้งความเท็จเลยนะ ขับรถไปมา ค่าโทรศัพท์อีก คุ้มหรอ ? เหนื่อยไปมั้ย ?
หลังจากส่งเอกสารเรียบร้อย เราก็กลับค่ะ ในใจตอนนั้น ไม่กลัวเท่าไรนะคะ
เพราะคิดอย่างเดียวว่า ต้องได้เงินคืนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นเงินเรา เราไม่ได้ไปกด ไปทำอะไรใช่มั้ยคะ นั่นล่ะค่ะ
ก็ลัลลาไป จากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาบอกค่ะ ว่า " เงินของเรา ถูกกดออกจากตู้กสิกร สาขาปทุมธานี !!! "
งงค่ะ !! บัตรอยู่กับอิชั้น ตัวก็อยู่ขอนแก่น ไม่ได้ออกจากจังหวัดเลยจั๊กเทืออ !! แต่นั่นก็ทำให้เราบอกธนาคารได้เต็มปากนะคะ
ว่าเห็นมั้ย บัตรของเราถูกขโมยข้อมูลไปจริงๆ ธนาคารก็รับเรื่องค่ะ บอกว่าจะประสานกับกสิกรขอภาพกล้องวงจรปิดให้
เราก็โอเคค่ะ รอ รอๆๆๆๆ รอแล้วรออีก ก็เงียบค่ะ เงียบมากกกก ราวกับ MUTE ชีวิตไว้ ..
ผ่านไป 5 วัน เราก็เลยไปโพสในเพจของกรุงศรีค่ะ
ซึ่งได้คำตอบกลับมาว่า ...
น่ารักเนาะ ไม่ได้เรื่องอะไรเลยค่ะ !!
จากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งโทรมาอีกค่ะ
สอบถามข้อมูลเรา ละก็บอกว่า ตอนนี้ ได้รับเรื่องแล้วนะครับ .....
...................................................................................
ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ เรื่องเพิ่งถึงทางสำนักงานใหญ่ค่ะ
แล้ววันนั้นที่เราไปส่งเอกสาร เราก็เห็นเค้าส่งหาสำนักงานใหญ่ทางแฟกซ์นะคะ
ไม่ได้ส่งทางนกพิราบ หรือเผาไฟไปแต่อย่างใด ...
เราก็ โอเคค่ะ จากนั้น ก็พูดคำเดิมนะคะ ว่า ถูกกดจากตู้กสิกร สาขานี้ๆๆๆ
เราก็บอกว่า ค่ะ ทราบแล้ว เค้าก็บอกว่า จะรีบดำเนินการให้ค่ะ เราก็รอต่อไปค่ะ รอๆๆๆๆๆ
จนวันนี้ค่ะ วันที่ 8/7/57 ทางเจ้าหน้าที่คนเดิมโทรมาค่ะ
ขอพูดก่อนนะคะว่า เจ้าหน้าที่คนนี้ พูดกับเราดีค่ะ ดีมาก อธิบายทุกอย่างได้ดี และเห็นใจเรา
จริงๆไม่ผิดที่เค้านะคะ เป็นตัวบอสใหญ่ กับธนาคารมากกว่าค่ะ เข้าเรื่องนะคะ
พี่คนนี้ก็โทรมาบอกว่า ดำเนินเรื่องไปถึงไหนแล้ว ไคลแมกซ์ค่ะ คือ
เค้าบอกว่า จากการตรวจสอบแล้ว บัตรที่ไปกดนั้น ไม่ใช่บัตรปลอมค่ะ เป็นบัตรจริง !!
บัตรจริง โอ้แม่เจ้า !! เราก็ยืนยันนะคะว่า บัตรอยู่กับหนูค่ะพี่!! เอาบัตรไปตรวจได้มั้ย ว่ามีการไปเสียบเข้าตู้นั้นบ้างมั้ย ???
เค้าก็บอกว่า เค้าเข้าใจนะ เราเลยถามตรงๆเลยว่า พี่คะ หนูจะได้เงินคืนมั้ย ??
คำตอบคือ "ถ้าตรวจสอบมาว่าเป็นบัตรที่ถูกปลอมแปลง ทางธนาคารก็อาจจะคืนเงินให้ 50 หรือ 100% " !!
ย้ำนะคะ !! 50 หรือ 100 ?? คือ อาจจะได้เงินคืน แค่ครึ่งเดียว ??? แต่ยังค่ะ ยังไม่จบบบ !!!
ซึ่งกรณีของเรา เค้าบอกว่า มีการใช้บัตรจริงๆไปกด คือตรวจสอบมาว่า เป็นบัตรตัวจริงที่ไปกด
งงค่ะ บัตรตัวจริงได้ยังไง ในเมื่อบัตรอยู่กับเรา ไม่เคยให้บัตรใครยืมเลยสักครั้ง
เราเลยถามว่า นั่นหมายความว่า เราอาจจะไม่ได้เงินคืนหรอคะ ????
เค้าก็แบ่งรับแบ่งสู้ค่ะว่า ยังไม่ได้บอกว่าไม่ได้ ซึ่งเราก็บอกว่า แต่ก็อาจจะไม่ได้ ใช่มั้ยคะ ?
ตอนนั้น เราแย่มากค่ะ เหลือใจจริงๆ ไม่รู้จะพูดคำใด
จากนั้นเค้าก็อธิบายว่า การแฮคบัตรแบบนี้ เค้าจะทำทีละเยอะๆ
คือ ติดตั้งเครื่องไว้ ขโมยข้อมูลบัตร หลายๆบัตร แล้วไปกดทีเดียว
แต่จากข้อมูลแล้ว ตู้กสิกรที่ปทุมธานีนั้น ไม่มีใครมาร้องเรียนเลยว่าเงินหายแบบเรา
เราก็เลยถามว่า แต่บัตรแต่ละคน มันไม่ใช่จะมีเงินทุกบัตรไม่ใช่หรอคะ
เหมือนตอนนี้ เงินใน บ/ช หนูก็เหลือ 84 บาท โจรที่ไหนจะมากดล่ะคะ!!
เค้าก็ได้แต่บอก ครับๆ เข้าใจครับ คือพูดเหมือนกับว่า เราไปกดเองแบบนั้นน่ะค่ะ
เค้าก็บอกว่า กรณีแบบนี้ อาจจะเป็นคนใกล้ชิดนะครับ เราก็เข้าใจนะคะ
แต่ก็ยืนยันไปว่า บัตรนี้ เราใช้คนเดียว แม้แต่แฟนยังไม่รู้ เพราะมันเป็นบัญชีออมเงินของเราที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ
แล้วบัตรก็อยู่กับเราตลอด เราไม่เคยเอาไปรูดซื้อหรือทำธุรรกรรมอะไรที่สุ่มเสี่ยงเลย
ซึ่งพี่เค้าก็บอกว่า ใช่ครับ จากที่ตรวจสอบข้อมูลมา บัญชีนี้ของเราไม่มีอะไรสุ่มเสี่ยงจริงๆ
แต่เรื่องทุกอย่างขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่ ว่าจะคืนเงินเราหรือไม่คืน !!!!!
ทางผู้ใหญ่ ?? ผู้ใหญ่ไหนคะ ?? กรุงศรีตอบเราทีค่ะ !!
การที่เราฝากเงินกับคุณไว้ ถึงแม้มันจะไม่มาก แต่มันก็เป็นเงินนะคะ
เป็นหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบดูแล !! สมมติเราว่าจ้างฝากเงินไปกับ A จู่ๆ มีคนมาขโมยเงิน A ไป
เราต้องไปตามจับโจรเองหรอคะ ?? มันใช่หรอคะ ??
แบบนี้ความปลอดภัยทางบัญชีคุณเท่ากับ 0 ไม่สิ ติดลบเลย!!
เพราะเราต้องเสียเวลาไปแจ้งความ เสียทั้งค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ ค่าแฟกซ์ ค่าถ่ายเอกสาร จิปาถะ!!
ไหนเราจะต้องปิดบัญชี แล้วไปเปิดใหม่อีก เพราะบัญชีของคุณมันใช้ฝากเงินไม่ได้ !!
ค่ารายปี ค่าธรรมเนียมเราก็เสีย แล้วบ้านเราใช้กรุงศรีทั้งบ้าง ถ้าให้ถ่ายสมุดบัญชีมาโชว์ มีไม่ต่ำกว่า 10 เล่ม !
เฉพาะของเราก็มีกรุงศรี 3 บัญชีแล้ว ไม่นับบัตรเครดิตของพ่อแม่เราอีก !!
ผ่านมา 12 วันแล้ว เรื่องราวไม่คืบหน้าถึงไหนเลย เงินเราฝากไว้ แต่ไม่ได้ใช้ และมีท่าทางว่าจะไม่ได้เงินคืน !!
ทางพี่ที่เรารู้จักที่เป็นทนาย เค้าก็ยังบอกว่า ไม่ได้นะ เราควรฟ้อง เราควรเรียกค่าเสียเวลา ค่าเสียหาย
ไอเราก็คิดว่าเงินไม่เยอะ เดี๋ยวก็ได้คืน ไม่อยากให้มันวุ่นวาย ขอแค่ได้เงินคืนก็พอ แต่พอออกมาแบบนี้
บอกเลยค่ะว่าหมดแรง !!! แต่เราไม่ยอมแพ้นะคะ ยังไงเราจะต้องได้เงินคืนมาให้ได้
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ
สงสัย สอบถามได้ค่ะ ถ้ามีอะไรอัพเดท จะรีบมาแจ้งนะคะ !!
ขอบคุณมากค่ะ
ฝากเงินไว้กับธนาคารกรุงศรี อยู่ดีๆเงินหายเกลี้ยงบัญชี คืออะไร ?
เนื่องจากเป็นบัญชีที่เราเอาไว้เก็บเงินล้วนๆ ไม่เคยนำไปรูดจ่าย(เดบิต) หรือชำระสินค้าทาง Internet แต่อย่างใด
การใช้งานของบัตรมีแค่ กดเงินจากตู้ ATM และโอนเงินบ้าง ทาง Internet Banking ซึ่งเวลาทำธุรกรรมออนไลน์ เราก็เลือกใช้ 3G ตลอด
และโทรศัพท์เราไม่เคยแม้แต่จะต่อ Wifi ที่อื่น ยกเว้นที่บ้าน ไม่ว่าจะ ที่ทำงาน / ห้าง หรือแม้กระทั่ง Wifi Dtac ที่เรามี ก็ไม่เคยต่อ !
เราเองดูข่าวเยอะ ทาง TV เอย Net เอยอะไรเอย และคิดว่าตัวเองเป็นคนรอบคอบมาก เกิดมายังไม่เคยทำกระเป๋าสตางค์หายเลยสักครั้ง !!
แต่แจ๊กพอตก็เข้าเราจนได้ค่ะ !!
ตามสเตตัสเลยค่ะ ก็คือ เช้าวันที่ 27 มิย. เราตื่นมาปุ๊บ ก็ตั้งใจจะโอนเงินไปให้น้องสาว
พอ Login เข้ามาปุ๊บ เอ๊ะ เงินทำไมเหลือ 80 กว่าบาท จาก 10,000 กว่าๆ
เราก็งง ในใจก็คิด เน็ตคงช้าเนาะ 3G อาจจะใกล้หมดหรือยังไง ก็รอ ๆ แต่จำนวนเงินก็ไม่อัพเดทแต่อย่างใด
ทีนี้เราเลยเลือกไปดูรายการเดินบัญชีย้อนหลังค่ะ
มีการทำรายการไปเมื่อวันที่ 25 !! ซึ่ง ไม่ใช่เราค่ะ !!
จากที่เช็คยอดเงิน และคุยกับ Callcenter เรียบร้อยแล้ว
มันก็ทำให้รู้ว่า เราโดน Hacker หรือ Scammer หรืออะไรนี่แหละ ขโมยเงินไปแน่ๆ !!
เราก็ไม่รอช้าค่ะ ไปแจ้งความทันที
ทางคุณตำรวจก็ดีมากๆ ให้คำแนะนำ ออกหนังสือตราครุฑให้เรา ดังนี้ค่ะ
และเราก็นำเอกสารเรา ไปยื่นเรื่องกับธนาคารอีกที
โดยที่เราออกตราครุฑสองฉบับนะคะ อีกฉบับส่งถึงธนาคารกสิกร ที่เป็นเจ้าของตู้ที่เราถูกกดเงินไปค่ะ
พอเราไปยื่นเรื่อง ทางพนักงานกรุงศรีก็บอกว่า เอาตราครุฑฉบับเดียวพอ เค้าจะส่งเอกสารให้
ก็มีพูดคุยกันนิดหน่อย เราก็ถามว่า เราจะได้เงินคืนใช่มั้ยคะ ? เค้าก็บอกว่า ถ้าพิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่เราไปกดเอง ก็ได้คืนอยู่แล้ว
เราก็นึกในใจ กดเองละจะมาทำแบบนี้เพื่อออออออ แจ้งความเท็จเลยนะ ขับรถไปมา ค่าโทรศัพท์อีก คุ้มหรอ ? เหนื่อยไปมั้ย ?
หลังจากส่งเอกสารเรียบร้อย เราก็กลับค่ะ ในใจตอนนั้น ไม่กลัวเท่าไรนะคะ
เพราะคิดอย่างเดียวว่า ต้องได้เงินคืนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นเงินเรา เราไม่ได้ไปกด ไปทำอะไรใช่มั้ยคะ นั่นล่ะค่ะ
ก็ลัลลาไป จากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาบอกค่ะ ว่า " เงินของเรา ถูกกดออกจากตู้กสิกร สาขาปทุมธานี !!! "
งงค่ะ !! บัตรอยู่กับอิชั้น ตัวก็อยู่ขอนแก่น ไม่ได้ออกจากจังหวัดเลยจั๊กเทืออ !! แต่นั่นก็ทำให้เราบอกธนาคารได้เต็มปากนะคะ
ว่าเห็นมั้ย บัตรของเราถูกขโมยข้อมูลไปจริงๆ ธนาคารก็รับเรื่องค่ะ บอกว่าจะประสานกับกสิกรขอภาพกล้องวงจรปิดให้
เราก็โอเคค่ะ รอ รอๆๆๆๆ รอแล้วรออีก ก็เงียบค่ะ เงียบมากกกก ราวกับ MUTE ชีวิตไว้ ..
ผ่านไป 5 วัน เราก็เลยไปโพสในเพจของกรุงศรีค่ะ
ซึ่งได้คำตอบกลับมาว่า ...
น่ารักเนาะ ไม่ได้เรื่องอะไรเลยค่ะ !!
จากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งโทรมาอีกค่ะ
สอบถามข้อมูลเรา ละก็บอกว่า ตอนนี้ ได้รับเรื่องแล้วนะครับ .....
...................................................................................
ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ เรื่องเพิ่งถึงทางสำนักงานใหญ่ค่ะ
แล้ววันนั้นที่เราไปส่งเอกสาร เราก็เห็นเค้าส่งหาสำนักงานใหญ่ทางแฟกซ์นะคะ
ไม่ได้ส่งทางนกพิราบ หรือเผาไฟไปแต่อย่างใด ...
เราก็ โอเคค่ะ จากนั้น ก็พูดคำเดิมนะคะ ว่า ถูกกดจากตู้กสิกร สาขานี้ๆๆๆ
เราก็บอกว่า ค่ะ ทราบแล้ว เค้าก็บอกว่า จะรีบดำเนินการให้ค่ะ เราก็รอต่อไปค่ะ รอๆๆๆๆๆ
จนวันนี้ค่ะ วันที่ 8/7/57 ทางเจ้าหน้าที่คนเดิมโทรมาค่ะ
ขอพูดก่อนนะคะว่า เจ้าหน้าที่คนนี้ พูดกับเราดีค่ะ ดีมาก อธิบายทุกอย่างได้ดี และเห็นใจเรา
จริงๆไม่ผิดที่เค้านะคะ เป็นตัวบอสใหญ่ กับธนาคารมากกว่าค่ะ เข้าเรื่องนะคะ
พี่คนนี้ก็โทรมาบอกว่า ดำเนินเรื่องไปถึงไหนแล้ว ไคลแมกซ์ค่ะ คือ
เค้าบอกว่า จากการตรวจสอบแล้ว บัตรที่ไปกดนั้น ไม่ใช่บัตรปลอมค่ะ เป็นบัตรจริง !!
บัตรจริง โอ้แม่เจ้า !! เราก็ยืนยันนะคะว่า บัตรอยู่กับหนูค่ะพี่!! เอาบัตรไปตรวจได้มั้ย ว่ามีการไปเสียบเข้าตู้นั้นบ้างมั้ย ???
เค้าก็บอกว่า เค้าเข้าใจนะ เราเลยถามตรงๆเลยว่า พี่คะ หนูจะได้เงินคืนมั้ย ??
คำตอบคือ "ถ้าตรวจสอบมาว่าเป็นบัตรที่ถูกปลอมแปลง ทางธนาคารก็อาจจะคืนเงินให้ 50 หรือ 100% " !!
ย้ำนะคะ !! 50 หรือ 100 ?? คือ อาจจะได้เงินคืน แค่ครึ่งเดียว ??? แต่ยังค่ะ ยังไม่จบบบ !!!
ซึ่งกรณีของเรา เค้าบอกว่า มีการใช้บัตรจริงๆไปกด คือตรวจสอบมาว่า เป็นบัตรตัวจริงที่ไปกด
งงค่ะ บัตรตัวจริงได้ยังไง ในเมื่อบัตรอยู่กับเรา ไม่เคยให้บัตรใครยืมเลยสักครั้ง
เราเลยถามว่า นั่นหมายความว่า เราอาจจะไม่ได้เงินคืนหรอคะ ????
เค้าก็แบ่งรับแบ่งสู้ค่ะว่า ยังไม่ได้บอกว่าไม่ได้ ซึ่งเราก็บอกว่า แต่ก็อาจจะไม่ได้ ใช่มั้ยคะ ?
ตอนนั้น เราแย่มากค่ะ เหลือใจจริงๆ ไม่รู้จะพูดคำใด
จากนั้นเค้าก็อธิบายว่า การแฮคบัตรแบบนี้ เค้าจะทำทีละเยอะๆ
คือ ติดตั้งเครื่องไว้ ขโมยข้อมูลบัตร หลายๆบัตร แล้วไปกดทีเดียว
แต่จากข้อมูลแล้ว ตู้กสิกรที่ปทุมธานีนั้น ไม่มีใครมาร้องเรียนเลยว่าเงินหายแบบเรา
เราก็เลยถามว่า แต่บัตรแต่ละคน มันไม่ใช่จะมีเงินทุกบัตรไม่ใช่หรอคะ
เหมือนตอนนี้ เงินใน บ/ช หนูก็เหลือ 84 บาท โจรที่ไหนจะมากดล่ะคะ!!
เค้าก็ได้แต่บอก ครับๆ เข้าใจครับ คือพูดเหมือนกับว่า เราไปกดเองแบบนั้นน่ะค่ะ
เค้าก็บอกว่า กรณีแบบนี้ อาจจะเป็นคนใกล้ชิดนะครับ เราก็เข้าใจนะคะ
แต่ก็ยืนยันไปว่า บัตรนี้ เราใช้คนเดียว แม้แต่แฟนยังไม่รู้ เพราะมันเป็นบัญชีออมเงินของเราที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ
แล้วบัตรก็อยู่กับเราตลอด เราไม่เคยเอาไปรูดซื้อหรือทำธุรรกรรมอะไรที่สุ่มเสี่ยงเลย
ซึ่งพี่เค้าก็บอกว่า ใช่ครับ จากที่ตรวจสอบข้อมูลมา บัญชีนี้ของเราไม่มีอะไรสุ่มเสี่ยงจริงๆ
แต่เรื่องทุกอย่างขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่ ว่าจะคืนเงินเราหรือไม่คืน !!!!!
ทางผู้ใหญ่ ?? ผู้ใหญ่ไหนคะ ?? กรุงศรีตอบเราทีค่ะ !!
การที่เราฝากเงินกับคุณไว้ ถึงแม้มันจะไม่มาก แต่มันก็เป็นเงินนะคะ
เป็นหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบดูแล !! สมมติเราว่าจ้างฝากเงินไปกับ A จู่ๆ มีคนมาขโมยเงิน A ไป
เราต้องไปตามจับโจรเองหรอคะ ?? มันใช่หรอคะ ??
แบบนี้ความปลอดภัยทางบัญชีคุณเท่ากับ 0 ไม่สิ ติดลบเลย!!
เพราะเราต้องเสียเวลาไปแจ้งความ เสียทั้งค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ ค่าแฟกซ์ ค่าถ่ายเอกสาร จิปาถะ!!
ไหนเราจะต้องปิดบัญชี แล้วไปเปิดใหม่อีก เพราะบัญชีของคุณมันใช้ฝากเงินไม่ได้ !!
ค่ารายปี ค่าธรรมเนียมเราก็เสีย แล้วบ้านเราใช้กรุงศรีทั้งบ้าง ถ้าให้ถ่ายสมุดบัญชีมาโชว์ มีไม่ต่ำกว่า 10 เล่ม !
เฉพาะของเราก็มีกรุงศรี 3 บัญชีแล้ว ไม่นับบัตรเครดิตของพ่อแม่เราอีก !!
ผ่านมา 12 วันแล้ว เรื่องราวไม่คืบหน้าถึงไหนเลย เงินเราฝากไว้ แต่ไม่ได้ใช้ และมีท่าทางว่าจะไม่ได้เงินคืน !!
ทางพี่ที่เรารู้จักที่เป็นทนาย เค้าก็ยังบอกว่า ไม่ได้นะ เราควรฟ้อง เราควรเรียกค่าเสียเวลา ค่าเสียหาย
ไอเราก็คิดว่าเงินไม่เยอะ เดี๋ยวก็ได้คืน ไม่อยากให้มันวุ่นวาย ขอแค่ได้เงินคืนก็พอ แต่พอออกมาแบบนี้
บอกเลยค่ะว่าหมดแรง !!! แต่เราไม่ยอมแพ้นะคะ ยังไงเราจะต้องได้เงินคืนมาให้ได้
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ
สงสัย สอบถามได้ค่ะ ถ้ามีอะไรอัพเดท จะรีบมาแจ้งนะคะ !!
ขอบคุณมากค่ะ