คิดอยู่นานเหมือนกันครับ ว่าจะเอามาเขียนดีมั้ย สุดท้ายก็ตัดสินใจขอเอามาแบ่งปันนะครับ คิดว่ามันคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย กับคนที่คิดจะขายของบนเฟสบุ้ค และยังคลำหาทางออกไม่พบ เจอปัญหาต่างๆ เช่นเปิดเพจขายของมาก็นานแล้ว แต่ก็ไม่มีลูกค้า ทำโฆษณากับเฟสบุ้ค ก็มีแต่คนมากดไลค์ ไม่มีคนซื้อ ปัญหาพวกนี้ผมเจอมาก่อน จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังมีเข้ามาเรื่อยๆครับ แต่ก็แก้ๆ ถูๆไถๆมาเรื่อยๆพอได้อยู่ เด๋ยวจะหาว่าเกริ่นยาวเกินไป มาเริ่มกันเลยดีกว่าเนาะ


เรื่องย่อๆคือ เราเริ่มเปิดเพจขายของประเภทเครื่องสำอางค์ น้ำหอม และพวกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั้งหลาย ช่วงแรกๆเจอปัญหาที่คนเริ่มทำเพจใหม่ๆเจอเหมือนๆกัน คือไม่มีลูกค้า ถึงแม้จะลองทำโฆษณาแล้วก็เถอะ ก็มีแต่คนมากดไลค์ ไม่มียอดขายอยู่ดี ประหนึ่งว่าคนที่มากดไลค์ที่เพจเนี่ย ไม่มีตัวตน!! เพราะเมื่อกดเข้าไปดูว่าคนกลุ่มนี้กดไลค์เพจอะไรบ้าง.... สิ่งที่พบคือ เป็นพันๆเพจเลยครับ แล้วแบบนี้เราคงจะขายของให้พวกนี้ได้หรอก ดูๆแล้วไม่มีตัวตนแน่ๆ (จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบว่า ไลค์พวกนี้คืออะไร)


หลังจากนั้นเราได้ตั้งกระทู้ถามที่เวปพันทิพย์นี่แหละครับ http://ppantip.com/topic/30725919  <--- กระทู้นี้เลย แล้วเราก็ได้รับความช่วยเหลือจากคนในเวป จนถึงบางอ้อ ว่าไอ้การทำโฆษณาบนเฟสบุ้คเนี่ย ต้องทำโดยการเน้นให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมกับเพจของเรา ไม่ว่าจะเป็นการไลค์ การคอมเม้น การแชร์ หรือแม้กระทั่งการคลิกเข้ามาดู (เราขอเรียกมันว่า Post Engagement ละกันนะครับ) คำตอบเกี่ยวกับการโฆษณาบนเฟสบุ้คที่เราได้ก็คือ โฆษณาเนี่ย ควรจะโฆษณาเป็นโพสๆไปจึงจะได้ผล (เดี๋ยวจะมีเทคนิกการโฆษณาเป็นโพสๆ แต่ได้เห็นสินค้าเยอะๆมาเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ) ดังนั้นความคิดที่ว่าแค่โฆษณาให้มีคนมากดไลค์เพจของเรา ถือเป็นความคิดที่ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายของคุณๆ เพิ่มขึ้น สิ่งที่ได้กลับมาคือ ยอดไลค์เพจจากคนที่เราไม่รู้ว่ามีตัวตนมั้ยแค่นั้นเอง


อันนี้คือผลที่ตามมานะครับ ก่อนหน้าที่เราจะใช้วิธีโฆษณานี้ ยอดขายของเรา ตั้งแต่เปิดเพจมา ขายได้3-4ครั้งแค่นั้นครับ (จากระยะเวลา1เดือนกว่า) มียอดไลค์เพจอยู่2700คน และหมดเงินกับการโฆษณาไปแล้วประมาณหลายพันบาท ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่นะครับ เพราะมันนานมากแล้ว แต่หลังจากทำการเปลี่ยนวิธีโฆษณา ยอดขายเพิ่มมาทันทีเป็นวันละ 2-3 ออเดอร์ ภายในเวลาแค่1สัปดาห์ (แต่ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันได้นะครับ เพราะเฟสบุ้คมีการปรับแก้อัลกอริทึ่ม และระบบต่างๆไปหลายครั้ง) หลังจากนั้นยอดขายของเพจเราขยายตัวรวดเร็วมาก ผมใช้งบในการโฆษณาประมาณวันละ200บาทในระยะแรกๆ


ระยะนี้ เราเริ่มเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ โดยเพจของเราเนี่ยเน้นลูกค้าประเภทพนักงานออฟฟิศ ผู้หญิงวัยทำงานที่รักสวยรักงาม ใช้น้ำหอม มีการแต่งหน้า เราเริ่มดูว่ากลุ่มลูกค้าเราเข้ามาดูเพจกันช่วงไหนบ้าง แต่ละวัน ช่วงเวลาก็ต่างๆกันไปครับ เช่นวันจันทร์ ช่วงเช้าคนจะเข้ามาดูเยอะพอสมควร แต่พอเข้าช่วงบ่ายๆ หายหมด อาจจะเพราะเปิดงานวันแรก งานเยอะ อย่างวันอังคาร วันพุธ ของก็จะขายดีเป็นพิเศษ อะไรประมาณนี้ ตรงนี้กลุ่มลูกค้าใคร ลูกค้ามัน คงต้องสังเกตและเรียนรู้กันเอาเองครับ แต่โจทย์ที่เหมือนกันคือ คุณต้องรู้ว่าคุณจะขายของให้ใคร เพศอะไร อายุเท่าไหร่ แล้วพวกเค้าเหล่านั้นจะออนไลน์ช่วงไหน พอรู้เสร็จแล้ว โฆษณาบนเฟสบุ้คเนี่ย เราตั้งงบมากเท่าไหร่ ก็ตามแต่ผลที่เราหวังเลยครับ เซตค่าให้มันโฆษณาอยู่ในช่วงเวลาที่กลุ่มลูกค้าของเราออนไลน์กันเยอะที่สุด


เวลาผ่านมาอีกสองเดือนกับการเรียนรู้ลูกค้าของเรา ยอดไลค์ของเพจเราเยอะมากกว่าเดิมเยอะมาก ประมาณ6-7พัน + ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเพียบ ยอดขายดีจนมองเห็นแสงสว่างรำไรทีเดียวครับ จำได้ว่าออเดอร์ที่ได้เยอะที่สุดช่วงนั้นคือ ประมาณ25 ออเดอร์ต่อวัน แต่ละวันอย่างน้อยๆก็7-8ออเดอร์ครับ แต่ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่ยืนยาว มีปัญหาใหญ่รอเราอยู่ในอีกประมาณสองเดือนต่อมา (จำไม่ค่อยได้แล้วว่าเดือนไหน น่าจะเป็นช่วงปลายปีนี่แหละครับ ที่เราเจอเฟสบุ้คแก้อัลกอริทึ่มครั้งแรก)


เดี๋ยวมาต่อนะครับ    
(ผมไม่ค่อยมีโอกาสมาเขียนเล่าเรื่องอะไรเท่าไหร่ ให้ปรับปรุงอะไรตรงไหนช่วยๆกันบอกได้นะครับ)