หลังจากเริ่มเปิดเวทีมวย - เอ้ยเปิดเวที การต่อสู้ทางกลยุทธ์ ที่ เป็นที่พูดถึงกันระดับประเทศ
ระหว่าง  กาแฟมงคล ศิษย์น้องนก -  o's coffee  ลูกป้าโอปอล์

ภาพร้าน แบรนด์ กาแฟมงคล


ภาพร้าน แบนรด์ o's coffee


สถานการณ์ยิ่งเข้มข้นขึ้นอย่างมาก
ในยกแรก  ทาง o's coffee  อัดชุดใหญ่ การตอบโต้ด้วยการแถลงข่าวพร้อมเปลี่ยนแบรนด์ รายละเอียดตามลิงค์นี้ http://ppantip.com/topic/32281927   - เรียกได้ว่า กาแฟมงคล ศิษย์น้องนก ลงไปนับแปดกันเลยทีเดียว หลังจากการออกหมัดของ o's coffee  สังคมหันกลับมามอง ทาง กาแฟมงคลทันทีว่า จะลุกขึ้นได้อย่างกาแฟที่ทรงเกียรติหรือไม่ จะรับมือกับศึกครั้งนี้อย่างไร

จะจัดชุดใหญ่คืน ด้วยข้อเท็จจริงทางจริยธรรมที่เหนือกว่าเพื่อน๊อค คู่ต่อสู้คาเวทีหรือไม่
ว่าทำไมและด้วยข้อตกลงอะไรที่ทำให้ทาง คุณนกมั่นใจว่า เป็นเจ้าของชื่อร้านกาแฟที่มาจากชื่อของครอบครัวโอปอลล์

แต่กลับเป็ฯที่น่าผิดหวัง เมื่อ การตอบโต้ในครั้งแรก
กลับเป็นกลยุทธ์เรียกคะแนนสงสาร เลือกใช้กลยุทธลงจากเวที ปิดสื่อของตัวเอง โชว์แต่การให้กำลังใจของเพื่อนๆ ลบความคิดเห็นขัดแย้งทิ้ง โจมตีตัวบุคคล ที่ไม่เกี่ยวกับประเด็น โดยเฉพาะมุ่งประเด็นไปที่โอเปค  ไล่ทุบตี ปิดปาก คนดูข้างเวทีว่าเป็นติ่ง ราวกับลืมไปว่าคนเหล่านี้ เคยเป็ฯลูกค้าของแบรนด์ และ พร้อมจะเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้ทุกเมื่อถ้าความจริงปรากฏ  ยิ่งสร้างความผิดหวังให้กับผู้ชม และ เป็นการลดเกียรตินักสู้ทางธุรกิจของตัวเองอย่างมาก



เป็นที่น่าเสียดายที่"กาแฟมงคล" ทิ้งโอกาสเดียวที่จะชนะ ในเวทีนี้ไปอย่างน่าใจหาย
เพราะในด้านยุทธวิธีการค้านั้น  แม้โอปอลล์จะแลกหมัดด้วยการถอยเพื่อพลิกกระดาน และได้ผลอย่างมาก
แต่ก็มีจุดตายอยู่เช่นกัน นั่นคือ  ถ้ามีกาแฟมงคลมีข้อเท็จจริงทางจริยธรรมที่เหนือกว่า -ออกมาวาง (ซึ่งไม่จำเป็ฯต้องเป็นหลักฐานเชิงหมิ่นประมาท) แบรนด์ของคุณโอปอลล์ อาจถึงคราวล้มครืนได้ในคราวเดียว ทั้งตัวคุณโอปอลล์ก็จะถูกประนามว่ารังเแกคนไม่มีทางสู้ ทันที เพราะสถานะทางสังคมที่ถูกผูกไว้กับ คุณโอปอลล์นั้น แม้จะมีช่องทางในการเข้าถึงสื่อได้ง่าย แต่ ในทางกลับกัน อำนาจสื่อนั้นก็พร้อมจะขย้ำคุณโอปอล์ได้ทุกเมื่อ ถ้าข้อเท็จจริงที่ออกมาตรงกันข้าม และพบว่าคุณโอปอลล์ หลอกใช้สื่อ



กาแฟมงคลกลับมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ในขณะที่ผองเพื่อนรอบตัวนั้นกลับออกมาด่าทอคู่กรณี โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่ประเด็นขัดแย้ง ซ้ำยังพูดถึงความจริงที่เลื่อนลอยซ้ำๆอยู่ที่เดิม ดุถูกประชาชนและสังคมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามว่าเป็ฯเพียง ติ่งที่ไร้ความคิด ที่พร้อมจะไหลตามดาราทุกเมื่อ โดยหลงลืมไปว่า เราไม่ใช่ศัตรูของคุณ เราคนใดคนหนึ่ง หรือหลายร้อยหลายพันคน อาจจะกลายเป็น ลูกค้าของคุณทันที ถ้าคุณเป็นฝ่ายถูกจริยธรรมและ พลิกกระดานนี้กลับมาได้ด้วยข้อเท็จจริงได้สำเร็จ แต่คุณกลับไม่ทำ และซ้ำให้ปัญหาหนักขึ้นไปอีกด้วยการต่อยตัวเอง

"ในวิกฤติมีโอกาสอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับคนที่มีข้อเท็จจริงที่อยู่บนจริยธรรม เวลานี้เป็นเวลาดีที่สุดแล้วที่จะ เผยข้อเท็จจริง เพื่อสวนกลับ ไม่จำเป็ฯต้องรอขึ้นศาล ศาลท่านมีจะสักกี่คน ที่ทานกาแฟของคุณ  เทียบกับลูกค้าที่อยู่ในสังคมจริงๆที่รอฟังความจริงจากคุณอยู่ตอนนี้ ซึ่งกำลังตัดสินใจว่าจะถือแก้วของคุณ หรือโยนแก้วกาแฟของคุณทิ้งไป"

".ข้อเท็จจริง"  นั่นแหละที่จะทำให้กาแฟมงคล ชนะขาด แต่นาทีนี้ มีแต่ความว่างเปล่า และ หลงเหลือเพียงคำดูหมิ่นสังคมจากผองเพื่อนรอบตัว





ถึงตอนนี้ เป็ฯที่ชัดเจนว่า กาแฟมงคล เลือก เผาเวทีสังคมทิ้ง
ในขณะเดียวกัน ก็คงเเตรียมตัวสู้แต่เพียงชั้นศาล
อาจเพราะ เหตุผล ความด้อยกว่าด้านข้อเท็จจริง หรือ  ข้อเท็จจริงส่วนใหญ่ที่มีเป็นข้อเท็จจริงเชิงหมิ่นที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้
หรือ อาจเพราะไม่มีข้อเท็จจริงอะไรเลย นอกจากคำลวง ซึ่งหลังจากนี้สังคมไม่มีทางรู้


แต่ด้วยการเดินเกมแบบนี้ เท่ากับมันจะเข้ากรอบ การวิเคราะห์ในคราวแรกนั้น
มันก็จะเข้ากลยุทธ์เดิมที่ทาง ทีมโอคอฟฟี่ ศิษย์ โอปอลลวางไว้ - ตามพลังมโนของผม

"ให้สู้กันด้วยข้อเท็จจริงทางจริยธรรม เพื่อชิงพื้นที่สังคม
ถ้าข้อเท็จจริงด้านจริยธรรมด้อยกว่า แม้ชนะทางกฏหมาย แต่ แบนรด์แพ้ยับเยิน"

บางครั้ง การที่คุณโอปอลล์กล้าเสี่ยง ด้วยกลุยุทธิ์ที่มีจุดตายแบบนี้ซ่อนอยู่
อาจเพราะทางโอปอลล์มั่นใจเต็มร้อยก็ได้ว่า  ข้อเท็จจริงที่โอปอลล์วางไว้ให้สื่อนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่จริงใจและสมบูรณ์
ไร้ข้อโต้แย้งแล้วจริงๆก็เป็นได้ จึงไม่กลัวว่าอีกฝั่งจะพลิกเกมส์ได้สำเร็จ


สุดท้าย หลังจากนี้ คงเป็ฯเรื่องของ การต่อสู้ทางคดี และ  ต่างคนต่างชงกาแฟทำธุรกิจ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด การอยู่รอดของแบนรด์  หลังจากนี้  ไม่ได้หมายถึง ชัยชนะทางด้านจริยธรรม
คุณอาจจะพิสูจน์ว่า กาแฟมงคลยังยืนอยู่ได้แม้ไม่มีโอปอลล์ o's coffee ยังยืนอยู่ได้ แม้ไม่มีคนชงชื่อ นก
แต่สุดท้าย สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้พิสูจน์ ว่าใครมีจริยธรรมทางธุรกิจเหนือกว่าใคร และนั่นคือสิ่งที่สังคมจะจดจำ
และมีผลต่อแบรนด์ในระยะยาว

ผู้คนไม่จดจำว่าคุณเคยทำอะไรให้กิน เคยพูดอะไรให้ฟัง สิ่งเหล่านี้วันหนึ่ง พวกเค้าจะลืม
แต่สิ่งที่เค้าจะจดไปตลอดชีวิตของเค้าคือ  คุณเคยทำให้เค้ารุ้สึกอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เค้าจะจดจำตลอดไป
ความรุ้สึกต่อแบรนด์ก็เช่นกัน


วันนี้ คุณนก แม้จะเป็นคนที่เพื่อนๆรัก และ พร้อมจะปกป้อง เป็นคนดีมีจริยธรรมในสังคมชีวิต
- ผมเป็นคนนอก ไม่รุ้จักเป็นการส่วนตัว ย่อมชืนชม ในความดีของคุณที่ทำให้คนรักคุณนกได้มากพอสมควร คุณนกต้องมีดีแน่ๆ
เพียงแต่ ในเรื่องจริยธรรมของธุรกิจนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งสังคม รอคุณนกพิสูจน์ ผมเองก็เช่นกัน
เพราะ ข้อเท็จจริงของการกระทำเท่านั้นที่จะพิสูจน์ว่าคุณมีจริยธรรมธุรกิจหรือไม่  
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความดีของคุณ ความเลวของอดีตคู่หมั้นคุณ หรือ ความสามารถหรือความเหนื่อยยากใดๆของคุณ คุณย่อมรุ้ดี
สิ่งที่คุณมีสิทธิ คุณจะสิทธิอย่างชอบธรรม แต่สิ่งใดที่คุณไม่มีสิทธิ คุณก็ไม่มีสิทธิเช่นกัน จงยุติธรรม  และความยุติธรรมนั้น
มันจะปกป้องคุณ

สุดท้ายหวังว่า การวิเคราะห์ขำๆนี้จะให้อะไรๆ กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะครับ ผมฝากคลิปนี้ไว้ มีคนนำมาเผยแพร่
เผื่อความทรงจำในอดีต จะเรียกความจริงทั้งหมด กลับมา และจัดทุกอย่างให้ถูกที่ถูกทาง

ขอให้สุนกกับการค้าขายนะครับ

ปล แหล่งข้อมูลอื่นๆ http://ppantip.com/topic/32286620