สวัสดีค่ะ ก่อนที่เราจะมาสนทนาภาษาบล็อกเกี่ยวกับประเทศกาตาร์นั้น บีต้องขอเอ่ยความในใจก่อนค่ะว่าขณะที่เขียน Entry นี้ บีรู้สึกตื่นเต้นมากจริงๆ หลายๆท่านที่ติดตามอ่านบล็อกของบีมาโดยตลอดจะพบว่า Entry ของบีจะเน้นไปในเรื่องบ้านเมืองของเราและประเทศเกาหลีใต้เสียส่วนใหญ่ บอกเลยว่านี่คือความตื่นเต้นอย่างขีดสุดสำหรับช่วงชีวิตหนึ่งของการเขียนบล็อกของบี เพราะนี่คือ Entry แรกที่บีฉีกแนวการเขียนบล็อกออกไปอย่างสิ้นเชิง เรื่องราวของบล็อกนี้ได้เริ่มออกเดินทางไกลไปยังละแวกอื่นๆของโลกผ่านตัวหนังสือ และที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้น มันได้เริ่มมาจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาที่บีได้ลองเขียน Wishlist ที่อยากจะทำให้สำเร็จในปี 2014 หนึ่งในปณิธานที่ได้เขียนลงไปนั่นก็คือ “อยากให้บล็อกได้เดินทางไกลบ้าง” ซึ่งก่อนหน้านี้ เราได้เริ่มชิมลางกันบ้างกับทริปไหว้พระเสริมดวงธุรกิจที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและบล็อกซีรี่ส์ “ทัวร์อ้วนทริปแบบติ่งๆอินบางกอก” แต่การเขียนบล็อกแนะนำประเทศกาตาร์ในครั้งนี้คือสิ่งที่เรียกว่า “เหนือความคาดหมาย” ค่ะ เพราะทาง Qatar Airways ได้คัดเลือกบล็อกเกอร์จากทั้งหมดร่วมหลายร้อยชีวิตให้เหลือบล็อกเกอร์ 10 คนสุดท้ายที่ได้มีโอกาสเขียนบล็อกแนะนำประเทศกาตาร์ในสไตล์และมุมมองของบล็อกเกอร์แต่ละคน และหนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ Nubeever’s World Lifestyle Blog อยู่ด้วยค่ะ (ไม่สามารถบรรยายความตื่นเต้นได้มากไปกว่านี้ ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดของความรู้สึกแบบนี้มันอยู่ที่ตรงไหนและมากขนาดไหน เพียงแต่ว่าตอนที่ทราบข่าวและได้รับการติดต่อจากทาง Nuffnang ว่าทางทีมงานของสายการบินได้เลือกเรา ถึงกับกรี๊ดเลยค่ะ ฮาๆๆๆๆ)
ในมุมมองของบีนะคะ บีมองว่าประเทศกาตาร์กับคนไทยยังค่อนข้างห่างไกลกัน เพราะบีสังเกตจากจำนวนผู้คนที่พูดถึงและเขียนรีวิวการท่องเที่ยวของประเทศนี้ในแบบฉบับภาษาไทยยังมีจำนวนน้อยมาก (เข้าขั้นที่จะต้องใช้คำว่าน้อยจริงๆค่ะ เพราะตอนที่บีได้ลองค้นหาข้อมูลและอ่านรีวิวของท่านอื่นๆยังหาอ่านได้ยากมากๆเลยล่ะค่ะ) และคำว่า -ห่างไกล- ที่ว่านั้น แท้จริงแล้ว ตัวบีเองก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ด้วยเช่นกันค่ะ จนกระทั่งบีได้ทราบข่าวว่าประเทศกาตาร์กำลังจะได้เป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2022 ทำให้ภาพของเมืองโดฮา เมืองหลวงของประเทศกาตาร์ที่ในเวลานี้กำลังเร่งพัฒนาตัวเองอย่างสุดกำลังตามเมืองดูไบไปติดๆได้เข้ามาในหัวสมองทันทีจากภาพความทรงจำที่มี สิ่งๆแรกที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ได้สร้างความสงสัยในจิตใจของบีคือ “ประเทศกาตาร์สามารถรักษาอารยธรรมที่เป็นตัวแทนของคำว่า -อดีต- ให้เดินเคียงข้างคู่ไปกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มาจากโลกของคำว่า -อนาคต- ได้อย่างไร? ทำไมเมืองที่เคร่งครัดในเรื่องศาสนาอิสลามอย่างโดฮาถึงสามารถสร้างตึกรางบ้านช่องที่สูงเทียมฟ้าและดูทันสมัยล้ำโลกอย่างมาก ที่ยิ่งไปกว่านั้น การรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมของพวกเขากับความทันสมัยของบ้านเมืองอยู่ใกล้กันมากแค่เพียงพลิกมือเท่านั้น!!” ความสงสัยในวันนั้นนั่นเองค่ะที่ทำให้บีพยายามตามหาความจริงเกี่ยวกับความน่าสนใจของที่นี่และพร้อมที่จะเปิดใจเพื่อทำความรู้จักประเทศกาตาร์ให้มากกว่าที่เคย
ว่าแต่ว่า … ตอนนี้ ทุกท่านพร้อมเปิดใจและเปิดตาไปกับประเทศกาตาร์พร้อมๆกันกับบีหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็แบกเป้สะพายหลังแล้วตามบีมาได้เลยค่ะ ^^
ประเทศกาตาร์ซึ่งมีเมืองหลวงคือ “โดฮา” ตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดเล็กซึ่งแตกสาขามาจากคาบสมุทรอาหรับ จึงเป็นประเทศมุสลิมในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพียงประเทศเดียวที่มีสภาพเป็นเกาะ มีพรมแดนทางใต้ติดกับประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีชายฝั่งริมอ่าวเปอร์เซีย ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีพื้นที่ยื่นไปสู่ทะเล ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติดังกล่าว จึงทำให้กาตาร์ได้รับฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย” ส่วนสภาพอากาศโดยรอบของที่กาตาร์ หากเทียบกับประเทศไทยแล้วคงจะใกล้เคียงกับคำว่าร้อนจนไปถึงคำว่าร้อนมากได้เลยล่ะค่ะ ส่วนหนึ่งมาจากพื้นที่ของประเทศกาตาร์ด้วยที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทะเลทราย
ในปี 2012 เว็บออนไลน์แห่งนิตยสารฟรอบส์ได้จัดอันดับให้ประเทศกาตาร์เป็นประเทศที่รวยที่สุดในโลก รวมไปถึงตำแหน่งประเทศที่มีการสำรองแก๊สมากเป็นอันดับ 3 ของโลก อีกทั้งประชากรกาตาร์ยังคงได้รับการขนานนนามว่า “ค่าครองชีพสูงมากถึงมากที่สุด” และในตอนนี้ที่กาตาร์จะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 รัฐบาลกาตาร์จึงลงทุนและทุ่มงบประมาณลงไปมากในการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ท่าเรือน้ำลึก สนามบิน เครือข่ายรถไฟ รวมไปถึงการสร้างตึกสูงที่มีความเป็นระเบียบและดีไซน์สวยและแปลกตาอีกด้วย จึงแทบไม่ต้องแปลกใจเลยที่เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อยในช่วงนี้
แต่ไม่ว่าสถาปัตยกรรมที่กำลังก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดตามเมืองดูไบไปอย่างมากแค่ไหน แต่ที่โดฮา ยังคงมีอารยธรรมดั้งเดิมให้เราได้ไปเยี่ยมเยือน ดังที่จะได้เห็นในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเช่นตลาดพื้นเมืองที่เรียกว่า “ซุค” (Souq Waqif) ตลาดสัตว์เลี้ยง (Falcon Market) หรือ Museum Of Islammic Art นอกจากนั้น ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามจากบรรยากาศริมทะเลสาบซึ่งจะมีชาวต่างชาติหรือคนพื้นที่ที่มีฐานะมักจะนำเรือเฟอร์รี่มาท่องเที่ยวและจอดริมท่าเรือ
Falcon Market
Souq Waqif
Museum Of Islammic Art
อีกกิจกรรมที่ไม่ควรจะพลาดเมื่อมาที่นี่คือการนั่งรถ 4WD บุกทะเลทรายด้วยการขับแบบ Dune Driving ลองเล่น Sand Boarding หลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมืองไปพักผ่อนในสไตล์ Bedouin (คือที่พักในสไตล์ Arabic ที่มีความโดดเด่นตรงที่การใช้เต้นท์และตกแต่งด้วยพรมหรือเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์อาระบิก) พักในที่พักในแบบคนพื้นเมือง เหยียบน้ำสัมผัสทรายริมทะเล Inland Sea และกินอาหารพื้นเมืองแบบบาร์บีคิว เช่นข้าวหมกเครื่องเทศ Biryani Rice ขนมปังพื้นเมืองอย่าง Naan Bread และอาหาร Main Course อย่าง Shish Taouk และ Chicken Kofta
และเนื่องจากกาตาร์เป็นประเทศตะวันออกกลางที่มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ สิ่งๆหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัตินั่นคือการแต่งกายที่สุภาพและมิดชิดค่ะ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง เพราะหญิงพื้นเมืองที่นี่จะแต่งตัวมมิดชิดและใช้ผ้าคลุมศีรษะซึ่งถ้าคุณไปแต่งตัวที่ใส่เสื้อแขนกุด เกาะอก หรือโชว์เนื้อหนังมังสา อาจจะเป็นที่แปลกสายตาของคนพื้นเมืองได้ค่ะ ^^! (แต่น้องคนนี้ น่ารักนะคะ^^)
คนที่ชอบการท่องเที่ยวในแบบแปลกใหม่และคนที่ชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยคงอยากเดินทางไปเที่ยวที่โดฮา ประเทศกาตาร์กันแล้ว แต่จะไปอย่างไรนั้น บีทราบมาว่ามีสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพสู่โดฮาโดยสายการบินของกาตาร์โดยตรงนั่นก็คือ “Qatar Airways” ค่ะ บีเคยได้อ่านรีวิวสายการบินนี้มาก่อนแต่เป็นในลักษณะการบินระยะสั้น การบินแบบจอดพักเปลี่ยนเครื่อง และหลายๆคนที่เดินทางเพื่อไปโซนยุโรปก็อาจจะมีโอกาสได้ใช้บริการสายการบินนี้อยู่บ่อยๆ แต่บีอยากจะบอกว่าสายการบินนี้มีเที่ยวบินตรงที่มีเวลาเลือกได้ตามความสะดวก การบริการที่ดีเยี่ยมตลอดการเดินทาง และที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบคือ Qatar Airways เขามีแพคเกจท่องเที่ยวโดฮาด้วยล่ะค่ะ และแน่นอนว่าทริปในความฝันและการตามหาความสมดุลของความแตกต่าง บีเชื่อว่าทุกความสงสัย ทุกการตามหาคำตอบ ทุกสิ่งที่ได้เขียนมา Qatar Airways เขาก็มีจัดให้สมใจล่ะค่ะ ^^
สุดท้ายนี้ บีอยากให้ทุกคนได้ลองเปิดใจและเดินทางไปสัมผัสเมืองโดฮากันค่ะ หลายคนอาจจะบอกว่าสนามบินเดิมอยู่กลางทะเลทรายและต้องนั่งรถเข้ามาอีกหลายกิโล แต่ถ้าทุกคนเริ่มเดินทางในตอนนี้ บีจะบอกว่าทุกคนจะได้ใช้บริการสนามบินแห่งใหม่ล่าสุดของกาตาร์ที่มีชื่อว่า Hamad International Airport ด้วยละค่ะ ถามว่าสนามบินนี้มีความพิเศษอย่างไร แค่ภาพตัวอย่างสนามบินนะ … บอกเลย … คือสวยมากอะค่ะ (อยากไปเห็นกับตามากๆค่ะ)
ใครที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ qatarairways.com/th นะคะ
Special Thanks : Qatar Airways
Photo Cr : Qatar Airways Facebook, Qatar Tourism Authority [www.qatartourism.gov.qa], travelmag.co.uk
ตะลุยกาตาร์ สัมผัสไข่มุกแห่งเปอร์เซีย กับ Qatar Airways
ในมุมมองของบีนะคะ บีมองว่าประเทศกาตาร์กับคนไทยยังค่อนข้างห่างไกลกัน เพราะบีสังเกตจากจำนวนผู้คนที่พูดถึงและเขียนรีวิวการท่องเที่ยวของประเทศนี้ในแบบฉบับภาษาไทยยังมีจำนวนน้อยมาก (เข้าขั้นที่จะต้องใช้คำว่าน้อยจริงๆค่ะ เพราะตอนที่บีได้ลองค้นหาข้อมูลและอ่านรีวิวของท่านอื่นๆยังหาอ่านได้ยากมากๆเลยล่ะค่ะ) และคำว่า -ห่างไกล- ที่ว่านั้น แท้จริงแล้ว ตัวบีเองก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ด้วยเช่นกันค่ะ จนกระทั่งบีได้ทราบข่าวว่าประเทศกาตาร์กำลังจะได้เป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2022 ทำให้ภาพของเมืองโดฮา เมืองหลวงของประเทศกาตาร์ที่ในเวลานี้กำลังเร่งพัฒนาตัวเองอย่างสุดกำลังตามเมืองดูไบไปติดๆได้เข้ามาในหัวสมองทันทีจากภาพความทรงจำที่มี สิ่งๆแรกที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ได้สร้างความสงสัยในจิตใจของบีคือ “ประเทศกาตาร์สามารถรักษาอารยธรรมที่เป็นตัวแทนของคำว่า -อดีต- ให้เดินเคียงข้างคู่ไปกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มาจากโลกของคำว่า -อนาคต- ได้อย่างไร? ทำไมเมืองที่เคร่งครัดในเรื่องศาสนาอิสลามอย่างโดฮาถึงสามารถสร้างตึกรางบ้านช่องที่สูงเทียมฟ้าและดูทันสมัยล้ำโลกอย่างมาก ที่ยิ่งไปกว่านั้น การรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมของพวกเขากับความทันสมัยของบ้านเมืองอยู่ใกล้กันมากแค่เพียงพลิกมือเท่านั้น!!” ความสงสัยในวันนั้นนั่นเองค่ะที่ทำให้บีพยายามตามหาความจริงเกี่ยวกับความน่าสนใจของที่นี่และพร้อมที่จะเปิดใจเพื่อทำความรู้จักประเทศกาตาร์ให้มากกว่าที่เคย
ว่าแต่ว่า … ตอนนี้ ทุกท่านพร้อมเปิดใจและเปิดตาไปกับประเทศกาตาร์พร้อมๆกันกับบีหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็แบกเป้สะพายหลังแล้วตามบีมาได้เลยค่ะ ^^
ประเทศกาตาร์ซึ่งมีเมืองหลวงคือ “โดฮา” ตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดเล็กซึ่งแตกสาขามาจากคาบสมุทรอาหรับ จึงเป็นประเทศมุสลิมในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพียงประเทศเดียวที่มีสภาพเป็นเกาะ มีพรมแดนทางใต้ติดกับประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีชายฝั่งริมอ่าวเปอร์เซีย ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีพื้นที่ยื่นไปสู่ทะเล ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติดังกล่าว จึงทำให้กาตาร์ได้รับฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย” ส่วนสภาพอากาศโดยรอบของที่กาตาร์ หากเทียบกับประเทศไทยแล้วคงจะใกล้เคียงกับคำว่าร้อนจนไปถึงคำว่าร้อนมากได้เลยล่ะค่ะ ส่วนหนึ่งมาจากพื้นที่ของประเทศกาตาร์ด้วยที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทะเลทราย
ในปี 2012 เว็บออนไลน์แห่งนิตยสารฟรอบส์ได้จัดอันดับให้ประเทศกาตาร์เป็นประเทศที่รวยที่สุดในโลก รวมไปถึงตำแหน่งประเทศที่มีการสำรองแก๊สมากเป็นอันดับ 3 ของโลก อีกทั้งประชากรกาตาร์ยังคงได้รับการขนานนนามว่า “ค่าครองชีพสูงมากถึงมากที่สุด” และในตอนนี้ที่กาตาร์จะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 รัฐบาลกาตาร์จึงลงทุนและทุ่มงบประมาณลงไปมากในการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ท่าเรือน้ำลึก สนามบิน เครือข่ายรถไฟ รวมไปถึงการสร้างตึกสูงที่มีความเป็นระเบียบและดีไซน์สวยและแปลกตาอีกด้วย จึงแทบไม่ต้องแปลกใจเลยที่เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อยในช่วงนี้
แต่ไม่ว่าสถาปัตยกรรมที่กำลังก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดตามเมืองดูไบไปอย่างมากแค่ไหน แต่ที่โดฮา ยังคงมีอารยธรรมดั้งเดิมให้เราได้ไปเยี่ยมเยือน ดังที่จะได้เห็นในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเช่นตลาดพื้นเมืองที่เรียกว่า “ซุค” (Souq Waqif) ตลาดสัตว์เลี้ยง (Falcon Market) หรือ Museum Of Islammic Art นอกจากนั้น ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามจากบรรยากาศริมทะเลสาบซึ่งจะมีชาวต่างชาติหรือคนพื้นที่ที่มีฐานะมักจะนำเรือเฟอร์รี่มาท่องเที่ยวและจอดริมท่าเรือ
Falcon Market
Souq Waqif
Museum Of Islammic Art
อีกกิจกรรมที่ไม่ควรจะพลาดเมื่อมาที่นี่คือการนั่งรถ 4WD บุกทะเลทรายด้วยการขับแบบ Dune Driving ลองเล่น Sand Boarding หลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมืองไปพักผ่อนในสไตล์ Bedouin (คือที่พักในสไตล์ Arabic ที่มีความโดดเด่นตรงที่การใช้เต้นท์และตกแต่งด้วยพรมหรือเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์อาระบิก) พักในที่พักในแบบคนพื้นเมือง เหยียบน้ำสัมผัสทรายริมทะเล Inland Sea และกินอาหารพื้นเมืองแบบบาร์บีคิว เช่นข้าวหมกเครื่องเทศ Biryani Rice ขนมปังพื้นเมืองอย่าง Naan Bread และอาหาร Main Course อย่าง Shish Taouk และ Chicken Kofta
และเนื่องจากกาตาร์เป็นประเทศตะวันออกกลางที่มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ สิ่งๆหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัตินั่นคือการแต่งกายที่สุภาพและมิดชิดค่ะ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง เพราะหญิงพื้นเมืองที่นี่จะแต่งตัวมมิดชิดและใช้ผ้าคลุมศีรษะซึ่งถ้าคุณไปแต่งตัวที่ใส่เสื้อแขนกุด เกาะอก หรือโชว์เนื้อหนังมังสา อาจจะเป็นที่แปลกสายตาของคนพื้นเมืองได้ค่ะ ^^! (แต่น้องคนนี้ น่ารักนะคะ^^)
คนที่ชอบการท่องเที่ยวในแบบแปลกใหม่และคนที่ชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยคงอยากเดินทางไปเที่ยวที่โดฮา ประเทศกาตาร์กันแล้ว แต่จะไปอย่างไรนั้น บีทราบมาว่ามีสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพสู่โดฮาโดยสายการบินของกาตาร์โดยตรงนั่นก็คือ “Qatar Airways” ค่ะ บีเคยได้อ่านรีวิวสายการบินนี้มาก่อนแต่เป็นในลักษณะการบินระยะสั้น การบินแบบจอดพักเปลี่ยนเครื่อง และหลายๆคนที่เดินทางเพื่อไปโซนยุโรปก็อาจจะมีโอกาสได้ใช้บริการสายการบินนี้อยู่บ่อยๆ แต่บีอยากจะบอกว่าสายการบินนี้มีเที่ยวบินตรงที่มีเวลาเลือกได้ตามความสะดวก การบริการที่ดีเยี่ยมตลอดการเดินทาง และที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบคือ Qatar Airways เขามีแพคเกจท่องเที่ยวโดฮาด้วยล่ะค่ะ และแน่นอนว่าทริปในความฝันและการตามหาความสมดุลของความแตกต่าง บีเชื่อว่าทุกความสงสัย ทุกการตามหาคำตอบ ทุกสิ่งที่ได้เขียนมา Qatar Airways เขาก็มีจัดให้สมใจล่ะค่ะ ^^
สุดท้ายนี้ บีอยากให้ทุกคนได้ลองเปิดใจและเดินทางไปสัมผัสเมืองโดฮากันค่ะ หลายคนอาจจะบอกว่าสนามบินเดิมอยู่กลางทะเลทรายและต้องนั่งรถเข้ามาอีกหลายกิโล แต่ถ้าทุกคนเริ่มเดินทางในตอนนี้ บีจะบอกว่าทุกคนจะได้ใช้บริการสนามบินแห่งใหม่ล่าสุดของกาตาร์ที่มีชื่อว่า Hamad International Airport ด้วยละค่ะ ถามว่าสนามบินนี้มีความพิเศษอย่างไร แค่ภาพตัวอย่างสนามบินนะ … บอกเลย … คือสวยมากอะค่ะ (อยากไปเห็นกับตามากๆค่ะ)
ใครที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ qatarairways.com/th นะคะ
Special Thanks : Qatar Airways
Photo Cr : Qatar Airways Facebook, Qatar Tourism Authority [www.qatartourism.gov.qa], travelmag.co.uk