ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ผมเลยพยายามหาต้นไม้ต่าง ๆ มาปลูกไว้ที่บ้านเสมอ อีกทั้งผมเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้จากเมล็ด ผมชอบเอาเมล็ดโน้นเมล็ดนี้มาเพาะเป็นประจำ เพราะผมชอบเฝ้ามองดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ครับ ได้เฝ้าดูแล้วมันมีความสุขดีครับ อีกทั้งช่วยทำให้เราเป็นคนใจเย็นด้วยครับ
ผมจำได้ว่าเคยได้มีโอกาสไปเที่ยวทุ่งทานตะวันเมื่อนานมากแล้ว จำได้ว่าพอรถตู้จอดทุกคนบนรถก็วิ่งลงจากรถตู้เพื่อตรงเข้าไปในทุ่งทานตะวัน แล้วต่างคนก็ต่างถ่ายภาพดอกทานตะวัน หรือว่าถ่ายคู่กับดอกทานตะวันไปเรื่อย ๆ ทีละดอก บางคนถ่ายภาพเยอะมากจนเกือบจะเรียกได้ว่าถ่ายมันให้ครบทุกดอกเลย ซึ่งบรรยากาศที่เห็นในทุ่งทานตะวันนั้นดูแล้วมีความสุขมาก ๆ เลยครับ
แต่ว่าผมไม่มีโอกาสที่จะได้ไปเที่ยวทุ่งทานตะวันแบบนี้ได้บ่อย ๆ (จริง ๆ แล้วเคยไปแค่ครั้งเดียวเอง) ผมเลยอยากจะลองปลูกต้นทานตะวันเอาไว้ที่บ้านบ้าง เพื่อให้มันออกดอกเยอะ ๆ ให้ผมได้ชื่นชมความงามของดอกทานตะวัน จนกระทั่งในวันหนึ่งผมไปเดินในงานเกษตรแล้วผมก็ไปเจอเมล็ดทานตะวันแบ่งขายผมเลยรีบซื้อกลับมา แต่เมื่อมาถึงบ้านแล้วลองแกะดูปรากฏว่ามันเป็นเมล็ดทานตะวันงอก สำหรับเอาไว้ปลูกกินต้นแบบถั่วเขียวที่กำลังฮิตกันอยู่ในช่วงนี้ ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของผมที่อยากจะปลูกเพื่อชมดอกมันมากกว่า แต่เมื่อซื้อมาแล้วผมก็เลยลองเพาะไว้ในกระถางดู ก็มีบางต้นที่สามารถโตจนออกดอกให้เห็นได้ แต่ว่าต้นมันเล็กไม่โตเหมือนที่เขาปลูกในทุ่งทานตะวันครับ อีกทั้งดอกก็เล็กดูไม่สวยมากนัก ดอกดูโตกว่าดอกดาวกระจายนิดเดียวเอง ดูแล้วน่าผิดหวังมาก ๆ เลยครับ
หลังจากนั้นผมก็ลองเอาเมล็ดทานตะวันงอกที่ซื้อมาลงปลูกในดินที่ริมรั้วนอกบ้านดูบ้าง เผื่อว่าต้นมันจะโตได้มากกว่าที่ปลูกในกระถาง โดยผมเอาเมล็ดลงปลูกในดินนอกรั้วบ้านไว้หลายสิบต้น แต่ปรากฏว่าเหลือรอดเป็นต้นที่โตมาให้ดอกแค่ต้นเดียวเอง เนื่องจากเมล็ดทานตะวันงอกเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ไม่แข็งแรง พอต้นงอกพ้นดินขึ้นมาก็อ่อนโค้งไม่ตั้งตรง กลายเป็นเหมือนปลูกต้นถั่วงอกบนดิน อีกทั้งพอต้นมีใบเกิดขึ้นไม่นานนักก็โดนหอยทากกินใบไปจนเกือบหมด ส่วนต้นที่เหลือรอดพอต้นมาได้หน่อยก็โดนน้องหมาข้างบ้านชอบมานอนทับต้นทานตะวัน จนต้นทานตะวันล้มตายไปหลายต้น เหลือรอมาแค่ต้นเดียว ซึ่งในวันนี้ก็มันก็ออกดอกมาให้ผมชื่นชมแล้ว 1 ดอกครับ
ถึงแม้จะออกดอกมาแค่ดอกเดียวก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็มองโลกในแง่ดีว่าอย่างน้อยมันก็อุตส่าห์ออกดอกให้เห็น อีกทั้งดอกยังโตใหญ่สมกับเป็นดอกทานตะวันอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าดอกมันจะไม่โตเท่าที่ปลูกในทุ่งทานตะวันก็ตาม เมื่อมีแค่ดอกเดียวก็ดีที่ไม่ต้องไปวิ่งไล่ถ่ายภาพทีละต้นทีละดอก แค่ดอกเดียวก็ถ่ายภาพเอามาชื่นชมได้เหมือนกันครับ
เนี่ยแหล่ะครับ ... ความสุขที่แท้จริงของคนปลูกต้นไม้ครับ
ทานตะวันต้นนี้ผมปลูกลงดินเอาไว้ที่ริมรั้วนอกบ้าน แต่โชคไม่ดีที่พอดอกมันบานแล้วไม่หันหน้าออกนอกถนน แต่ดอกมันบานหันข้างเข้าหาประตูบ้านผม เหมือนจะจงใจให้ผมผู้เป็นเจ้าของบ้านชื่นชมแต่เพียงผู้เดียว แต่ความต้องการที่แท้จริงของผมคือผมต้องการประกาศก้องในคนทั้งโลก(คนในซอย)รู้ว่าผมปลูกดอกทานตะวันได้ ดังนั้นในตอนเช้าผมจึงต้องออกมายืนรดน้ำต้นทานตะวันที่หน้าบ้าน พร้อมทั้งคอยทักทายเพื่อนบ้านในซอยที่เดินผ่านหน้าบ้านของผมครับ
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณป้า พาหลานไปส่งโรงเรียนแต่เช้าเลยนะครับ”
ผมรีบเอยคำทักทายคุณป้าบ้านท้ายซอยที่เดินพาหลานไปส่งขึ้นรถโรงเรียนที่หน้าปากซอย พอคุณป้ามองมาผมก็รีบโน้มตัวเข้าไปหาต้นทานตะวันที่กำลังออกดอกบานในทันที
“สวัสดีจ๊ะ ... เอ๊ะ ต้นอะไรนะ ดอกโตสวยจัง”
เมื่อคุณป้าทักผมกลับอย่างนี้จึงเข้าทางผมเลยครับ
“ดอกทานตะวันครับ ผมปลูกเองครับคุณป้า ดอกกำลังบานสวยเลยครับ”
ผมตอบกลับไปพร้อมทั้งยิ้มหน้าบานจนเกือบเท่าดอกทานตะวัน ซึ่งคนที่เห็นแล้วคงรู้ได้ว่าผมคงมีความสุขมากแน่ ๆ ครับ
แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็เลยกลายเป็นพ่อดอกทานตะวันประจำซอยบ้านครับ ใคร ๆ ในซอยบ้านก็เรียกผมว่า “พ่อดอกทานตะวัน” กันทุกคนเลยครับ อย่างเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในซอยบ้านผมมีบ้านหลังหนึ่งจัดงานทำบุญบ้านมีคนมาร่วมงานเยอะมากเลยครับ พอใคร ๆ เดินผ่านหน้าบ้านผมก็จะหันมองดอกทานตะวันที่กำลังบานเกือบทุกคน แล้วผมก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนขึ้น
“เอารถไปจอดที่หน้าบ้านพ่อดอกทานตะวันก็ได้”
พอผมได้ยินประโยคนี้ผมก็รู้ทันทีเลยว่า เสียงนั้นกำลังหมายถึงบ้านผมแน่ ๆ ซึ่งผมก็ได้อมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่ภูมิใจแต่ก็รู้สึกไม่พอใจอยู่เหมือนกัน จนผมอยากจะตะโกนสวนไปดัง ๆ ว่า
“จอดรถขวางหน้าบ้านตรูได้ แต่อย่าจอดบังต้นทานตะวันตรูนะโฟ้ย”
อิอิ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=akung-klong&month=07-2014&date=07&group=16&gblog=14
@@@@@@@@@@@@@@@
คุยกันท้ายเรื่อง
เรื่องราวที่ผมเขียนขึ้นนี้ผมโม้ทั้งสิ้นครับ ความเป็นจริงแล้วผมต้องการแค่โชว์ดอกทานตะวันให้เพื่อน ๆ ดูเท่านั้นเองครับ แต่ก็อดไม่ได้ที่ขอแอบโม้ตามภาพสักเล็กน้อยครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ นะครับ
อิอิ
พ่อดอกทานตะวัน
ผมจำได้ว่าเคยได้มีโอกาสไปเที่ยวทุ่งทานตะวันเมื่อนานมากแล้ว จำได้ว่าพอรถตู้จอดทุกคนบนรถก็วิ่งลงจากรถตู้เพื่อตรงเข้าไปในทุ่งทานตะวัน แล้วต่างคนก็ต่างถ่ายภาพดอกทานตะวัน หรือว่าถ่ายคู่กับดอกทานตะวันไปเรื่อย ๆ ทีละดอก บางคนถ่ายภาพเยอะมากจนเกือบจะเรียกได้ว่าถ่ายมันให้ครบทุกดอกเลย ซึ่งบรรยากาศที่เห็นในทุ่งทานตะวันนั้นดูแล้วมีความสุขมาก ๆ เลยครับ
แต่ว่าผมไม่มีโอกาสที่จะได้ไปเที่ยวทุ่งทานตะวันแบบนี้ได้บ่อย ๆ (จริง ๆ แล้วเคยไปแค่ครั้งเดียวเอง) ผมเลยอยากจะลองปลูกต้นทานตะวันเอาไว้ที่บ้านบ้าง เพื่อให้มันออกดอกเยอะ ๆ ให้ผมได้ชื่นชมความงามของดอกทานตะวัน จนกระทั่งในวันหนึ่งผมไปเดินในงานเกษตรแล้วผมก็ไปเจอเมล็ดทานตะวันแบ่งขายผมเลยรีบซื้อกลับมา แต่เมื่อมาถึงบ้านแล้วลองแกะดูปรากฏว่ามันเป็นเมล็ดทานตะวันงอก สำหรับเอาไว้ปลูกกินต้นแบบถั่วเขียวที่กำลังฮิตกันอยู่ในช่วงนี้ ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของผมที่อยากจะปลูกเพื่อชมดอกมันมากกว่า แต่เมื่อซื้อมาแล้วผมก็เลยลองเพาะไว้ในกระถางดู ก็มีบางต้นที่สามารถโตจนออกดอกให้เห็นได้ แต่ว่าต้นมันเล็กไม่โตเหมือนที่เขาปลูกในทุ่งทานตะวันครับ อีกทั้งดอกก็เล็กดูไม่สวยมากนัก ดอกดูโตกว่าดอกดาวกระจายนิดเดียวเอง ดูแล้วน่าผิดหวังมาก ๆ เลยครับ
หลังจากนั้นผมก็ลองเอาเมล็ดทานตะวันงอกที่ซื้อมาลงปลูกในดินที่ริมรั้วนอกบ้านดูบ้าง เผื่อว่าต้นมันจะโตได้มากกว่าที่ปลูกในกระถาง โดยผมเอาเมล็ดลงปลูกในดินนอกรั้วบ้านไว้หลายสิบต้น แต่ปรากฏว่าเหลือรอดเป็นต้นที่โตมาให้ดอกแค่ต้นเดียวเอง เนื่องจากเมล็ดทานตะวันงอกเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ไม่แข็งแรง พอต้นงอกพ้นดินขึ้นมาก็อ่อนโค้งไม่ตั้งตรง กลายเป็นเหมือนปลูกต้นถั่วงอกบนดิน อีกทั้งพอต้นมีใบเกิดขึ้นไม่นานนักก็โดนหอยทากกินใบไปจนเกือบหมด ส่วนต้นที่เหลือรอดพอต้นมาได้หน่อยก็โดนน้องหมาข้างบ้านชอบมานอนทับต้นทานตะวัน จนต้นทานตะวันล้มตายไปหลายต้น เหลือรอมาแค่ต้นเดียว ซึ่งในวันนี้ก็มันก็ออกดอกมาให้ผมชื่นชมแล้ว 1 ดอกครับ
ถึงแม้จะออกดอกมาแค่ดอกเดียวก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็มองโลกในแง่ดีว่าอย่างน้อยมันก็อุตส่าห์ออกดอกให้เห็น อีกทั้งดอกยังโตใหญ่สมกับเป็นดอกทานตะวันอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าดอกมันจะไม่โตเท่าที่ปลูกในทุ่งทานตะวันก็ตาม เมื่อมีแค่ดอกเดียวก็ดีที่ไม่ต้องไปวิ่งไล่ถ่ายภาพทีละต้นทีละดอก แค่ดอกเดียวก็ถ่ายภาพเอามาชื่นชมได้เหมือนกันครับ
เนี่ยแหล่ะครับ ... ความสุขที่แท้จริงของคนปลูกต้นไม้ครับ
ทานตะวันต้นนี้ผมปลูกลงดินเอาไว้ที่ริมรั้วนอกบ้าน แต่โชคไม่ดีที่พอดอกมันบานแล้วไม่หันหน้าออกนอกถนน แต่ดอกมันบานหันข้างเข้าหาประตูบ้านผม เหมือนจะจงใจให้ผมผู้เป็นเจ้าของบ้านชื่นชมแต่เพียงผู้เดียว แต่ความต้องการที่แท้จริงของผมคือผมต้องการประกาศก้องในคนทั้งโลก(คนในซอย)รู้ว่าผมปลูกดอกทานตะวันได้ ดังนั้นในตอนเช้าผมจึงต้องออกมายืนรดน้ำต้นทานตะวันที่หน้าบ้าน พร้อมทั้งคอยทักทายเพื่อนบ้านในซอยที่เดินผ่านหน้าบ้านของผมครับ
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณป้า พาหลานไปส่งโรงเรียนแต่เช้าเลยนะครับ”
ผมรีบเอยคำทักทายคุณป้าบ้านท้ายซอยที่เดินพาหลานไปส่งขึ้นรถโรงเรียนที่หน้าปากซอย พอคุณป้ามองมาผมก็รีบโน้มตัวเข้าไปหาต้นทานตะวันที่กำลังออกดอกบานในทันที
“สวัสดีจ๊ะ ... เอ๊ะ ต้นอะไรนะ ดอกโตสวยจัง”
เมื่อคุณป้าทักผมกลับอย่างนี้จึงเข้าทางผมเลยครับ
“ดอกทานตะวันครับ ผมปลูกเองครับคุณป้า ดอกกำลังบานสวยเลยครับ”
ผมตอบกลับไปพร้อมทั้งยิ้มหน้าบานจนเกือบเท่าดอกทานตะวัน ซึ่งคนที่เห็นแล้วคงรู้ได้ว่าผมคงมีความสุขมากแน่ ๆ ครับ
แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็เลยกลายเป็นพ่อดอกทานตะวันประจำซอยบ้านครับ ใคร ๆ ในซอยบ้านก็เรียกผมว่า “พ่อดอกทานตะวัน” กันทุกคนเลยครับ อย่างเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในซอยบ้านผมมีบ้านหลังหนึ่งจัดงานทำบุญบ้านมีคนมาร่วมงานเยอะมากเลยครับ พอใคร ๆ เดินผ่านหน้าบ้านผมก็จะหันมองดอกทานตะวันที่กำลังบานเกือบทุกคน แล้วผมก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนขึ้น
“เอารถไปจอดที่หน้าบ้านพ่อดอกทานตะวันก็ได้”
พอผมได้ยินประโยคนี้ผมก็รู้ทันทีเลยว่า เสียงนั้นกำลังหมายถึงบ้านผมแน่ ๆ ซึ่งผมก็ได้อมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่ภูมิใจแต่ก็รู้สึกไม่พอใจอยู่เหมือนกัน จนผมอยากจะตะโกนสวนไปดัง ๆ ว่า
“จอดรถขวางหน้าบ้านตรูได้ แต่อย่าจอดบังต้นทานตะวันตรูนะโฟ้ย”
อิอิ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=akung-klong&month=07-2014&date=07&group=16&gblog=14
@@@@@@@@@@@@@@@
คุยกันท้ายเรื่อง
เรื่องราวที่ผมเขียนขึ้นนี้ผมโม้ทั้งสิ้นครับ ความเป็นจริงแล้วผมต้องการแค่โชว์ดอกทานตะวันให้เพื่อน ๆ ดูเท่านั้นเองครับ แต่ก็อดไม่ได้ที่ขอแอบโม้ตามภาพสักเล็กน้อยครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ นะครับ
อิอิ