เขาดูแลฉัน....อีกครั้ง
โดย
ดรัสวันต์
ฝนโปรยปรายลงมาแล้ว ที่บริษัทของฉันจึงตัดสินใจว่าปีนี้เราจะไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการปลูกป่า ซึ่งเราห่างเหินกันมา 2 – 3 ปีแล้ว
ครั้งนั้น ปีแรกที่เราไปปลูกป่ากัน ฉันยังจำได้ดีว่าฝนตกลงมาหลังจากเริ่มปลูกต้นไม้กันเกือบเสร็จ ทุกคนเปียกโชกเพราะเราอยู่กันกลางป่าไม่รู้จะวิ่งหนีไปหลบที่ใด เท้าต้องย่ำไปบนดินแฉะๆ ขากางเกงเปื้อนดินมอมแมมกันหมดทุกคน เป็นอะไรที่ทุลักทุเลมากแต่ทุกคนก็สนุก และยังจดจำมาคุยกันอยู่เสมอ ฉะนั้นปีนี้จึงเป็นกิจกรรมที่ทุกคนเฝ้ารอคอย
เจ้านายใหญ่มอบหมายให้ฉันเป็นแม่งานตามเคย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพราะเคยทำมาแล้ว อีกทั้งสถานที่ที่ฉันเคยติดต่อก็ยังเป็นรีสอร์ตที่งดงามอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพียบพร้อมทั้งที่พักสะดวกสบาย ร้านอาหารและลานเอนกประสงค์ ทั้งสำหรับกางเต้นท์แค้มปิ้งและกิจกรรมรอบกองไฟ
“เราไปที่เดิมใช่ไหมพี่” รุ่นน้องถามฉันอย่างกระตือรือร้น
“ใช่ ที่ภูภัสสร รีสอร์ต” ฉันยืนยันพร้อมกับสำรวจปฏิกิริยาคนรอบข้างไปในตัว ท่าทางพวกเขาอยากไปกันจริงๆ คงลืมเลือนความยากลำบากครั้งนั้นไปแล้ว หลงเหลือแต่ความตื่นเต้นที่จะได้ไปผจญภัยกันอีกครั้ง
ฉันโทรศัพท์ติดต่อคุณพิชิต ผู้จัดการรีสอร์ตเพื่อจองสถานที่พักล่วงหน้ามาก่อนแล้วหนึ่งเดือน บริษัทของเราเลือกทำกิจกรรมกันในวันศุกร์แล้วค้างหนึ่งคืน ก่อนจะเดินทางกลับในวันเสาร์ ทุกอย่างราบรื่นเพราะช่วงหน้าฝนเป็น Low season ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเหมือนช่วงหน้าหนาว รีสอร์ตจึงสามารถรองรับพนักงานบริษัทที่จะมาร่วมกิจกรรมประมาณ 50 คน ได้เป็นอย่างดี
ใกล้วันเดินทางแล้ว ฉันโทรศัพท์ไปย้ำเตือนกับคุณพิชิต
“คุณพิชิตคะ ทีมของแนนจะล่วงหน้าไปเตรียมงานก่อนตั้งแต่วันพฤหัสฯ นะคะ”
“อ๋อได้เลยครับ จะมากี่คน เดี๋ยวผมเตรียมห้องให้”
“สี่คน สามห้องค่ะ”
“ครับ เรื่องห้องพักไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องอาหารที่คุณแนนแจ้งเมนูมาก่อนล่วงหน้าแล้ว พ่อครัวของเราก็เตรียมการไว้ตามที่สั่งทุกอย่าง ส่วนเรื่องปลูกป่ากับกิจกรรมสันทนาการ คุณแนนคุยกับคุณปอได้เลย พอดีวันพฤหัสฯ ผมติดธุระอาจจะไม่ได้มาเทคแคร์ แต่วันงานผมอยู่ต้อนรับ ไม่ต้องห่วงนะครับ”
“อ้าว คุณพิชิตไม่อยู่หรอกหรือ” ฉันผิดหวังนิดหน่อย
“ต้องขอโทษจริงๆ แต่คุณปอ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมของเรากลับมาแล้ว ผมเลยวางใจครับ คุณแนนเคยเจอปอแล้วนี่ครับคงจำได้”
“คุณปอ” ฉันทวนชื่อนั้น เวลาที่ห่างหายไปหลายปีทำให้ยังนึกไม่ออกในตอนแรก
“ปอเขาเป็นคนพาคุณแนนเดินป่าคราวก่อนไง” พิชิตช่วยเตือนความจำให้
แล้วฉันก็นึกออก ‘เขา’ นั่นเอง
ฉันยิ้มกับตัวเอง นึกถึงครั้งนั้น ที่ฉันกับเพื่อนร่วมงานมาเตรียมงานก่อนปลูกป่า สถานที่ปลูกถูกกำหนดให้อยู่บนภูเขาไม่สูงนักและมีสำนักสงฆ์เล็กๆ ตั้งอยู่
เมื่อตอนแนะนำตัว สาวในกลุ่มแซวหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ว่า
“ชื่อปอหรือคะ น่ารักจัง มาจากแมงปอหรือเปล่า”
“ปอ มาจาก ปรพล ครับ” เขาตอบเรียบๆ
คนแซวเจื่อนเล็กน้อย แล้วแก้เกี้ยวว่า “ชื่อเท่จัง”
ปรพล เป็นพนักงานของรีสอร์ตที่รับผิดชอบกิจกรรมนี้ เขาและลูกน้องอีกหนึ่งคนพาเราสำรวจพื้นที่ที่คนงานเตรียมขุดหลุมไว้ให้เราปลูกต้นไม้ เสร็จจากการสำรวจแล้วสมาชิกของทีมอยากขึ้นไปไหว้พระที่สำนักสงฆ์ที่อยู่สูงขึ้นไปบนเขา ทางเดินที่ทำเป็นขั้นบันไดก่อด้วยปูน ทำให้เราเดินกันได้สะดวก จะลำบากหน่อยตรงที่มีเกือบร้อยขั้น เราเพิ่งเดินมาถึงครึ่งทางแต่ทุกคนก็เริ่มเหนื่อยหอบกันแล้ว ฉันเหลือบตามองคนนำทางของฉัน ดูเขาเฉยๆ ไม่เหนื่อยสักเท่าไหร่ คงชินแล้ว
“โห พี่ กว่าเราจะไปถึง” ใครคนหนึ่งเริ่มบ่น “แล้วยังต้องกลับลงไปอีก” แล้วมองลงไปยังทิศทางขาขึ้นมาว่าจะต้องใช้พละกำลังอีกเท่าตัวกว่าจะกลับลงไป
“แหม ทนอีกนิดนึง จะถึงอยู่แล้ว เดี๋ยวเราไหว้พระแล้วพักเหนื่อยนานๆ ก็ได้ หายเหนื่อยค่อยลงไป” คนที่ตั้งใจมาไหว้พระยังไม่ยอมถอดใจและพยายามให้กำลังใจคนที่เริ่มท้อ
ฉันเองก็เหนื่อยแทบขาดใจเหมือนกัน แต่ไม่กล้าบ่นได้แต่หยุดเดินทุกสองสามนาทีเพื่อพักหายใจ
“น้ำดื่มของฉันหมดแล้ว” อีกคนบ่น
“เดี๋ยวไปขอพระ ข้างบนสำนักสงฆ์มีน้ำใช่ไหมคะ” ตอนท้ายหันไปถามคนนำทาง
“มีครับ แต่เอาขวดนี้ไปดีกว่า ผมยังไม่ได้ดื่ม” พูดจบเขาก็หยิบขวดน้ำจากเป้มาให้
“แล้วปอจะดื่มอะไรล่ะ เรายังต้องเดินอีกไกลนะ” คนที่รับน้ำไปถามอย่างเกรงใจ
เขาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ต้องห่วง แล้วเดินนำขึ้นบันไดต่อไปโดยมีลูกน้องอีกหนึ่งคนคอยดูแลท้ายขบวน
พอไปถึงสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่บนปากถ้ำเล็กๆ คล้ายเพิงหมาแหงน พวกเราก็แทบหายเหนื่อย เพราะมีลมเย็นโชยมาให้เหงื่อแห้ง เราสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดและมองทิวทัศน์งดงามของภูเขาที่สลับซับซ้อน พักกันครู่หนึ่งจึงเข้าไปนมัสการพระพุทธรูปประธานขนาดหน้าตักกว้างหนึ่งเมตร บริจาคปัจจัยทำบุญเท่าที่มีติดตัวมาคนละเล็กละน้อย แล้วอยู่คุยกับพระสงฆ์ที่จำพรรษาที่นี่หนึ่งรูป ท่านแนะนำให้เราไปเที่ยวถ้ำลอดที่อยู่ด้านหลัง
“ปอ พาโยมไปเที่ยวซิ”
“ครับหลวงพ่อ ผมตั้งใจอยู่แล้ว” เขารับปากแล้วหันมาอธิบายกับเราว่า “ถ้าพวกคุณสนใจไปเที่ยวถ้ำด้านหลัง จะมีทางลงเขาอีกทางหนึ่ง ระยะทางสั้นกว่าขามาแต่โหดหน่อยตรงที่มันชัน”
พวกเรามองหน้ากัน คนที่ท้อแท้ไม่อยากกลับทางเก่าดูจะสนใจมากกว่าเพื่อน เราตกลงกันไม่ยากเพราะทุกคนก็อยากไปเที่ยวถ้ำ ที่เรียกว่าถ้ำลอดเพราะเป็นถ้ำที่มีทางเข้าออกสองทางแลลอดทะลุถึงกัน ไม่ใช่ถ้ำที่ใหญ่โตอะไร เราจึงไม่ได้ใช้เวลามากนัก ด้านหลังเขาช่วงนี้เป็นหินล้วนๆ เราปีนจากหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่ง แม้จะเป็นขาลงแต่ฉันก็ต้องระวังมากขึ้น เพราะหากล้มหัวฟาดลงไปบนหินพวกนี้ ถ้าไม่ตายก็คงเอ๋อ ฉันล้าหลังทุกคนที่นำลิ่วออกไป แต่ปอก็ยังหยุดยืนรอฉัน ไม่เร่งรัดให้ฉันต้องรีบเดิน เขายืนรอเงียบๆ รอจนกว่าฉันจะมีแรงเดินต่อ
ระหว่างซอกหินมีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นพอให้เราอาศัยเกาะอยู่บ้าง ช่วงไหนที่ไม่มีอะไรให้เหนี่ยว ซึ่งจำต้องอาศัยมือแข็งแรงของผู้ชายช่วย สำหรับสาวๆ บางคนที่ออกจะถือเนื้อถือตัว ปอเขามีวิธีของเขาโดยเอาผ้าข้าวม้าที่เอวออกมาพันที่มือให้แน่นแล้วให้เราเหนี่ยวผ้าไว้ เขาจะคอยเกร็งข้อมือยึดผ้าไว้ให้มั่นจนเราก้าวผ่านไปได้ จะไม่มีการถูกเนื้อต้องตัวให้ผู้หญิงอึดอัดใจ มันทำให้ฉันรู้สึกดี ลูกน้องของเขาก็เช่นกัน ถ้าผู้หญิงคนไหนต้องการให้ช่วย เขาจะใช้วิธียื่นแขนให้จับ
ที่โขดหินข้างหน้าเป็นหินก้อนใหญ่กลมมน ที่ทุกคนจะต้องปีนลงไป แต่ความสูงชันของมันทำให้ผู้หญิงที่ขาไม่ยาวนักอย่างฉันย่อท้อ ฉันรอดูก่อนว่าแต่ละคนจะลงได้อย่างไร ปอและลูกน้องของเขาซึ่งได้เปรียบที่ขายาวและรู้เทคนิควิธีการกระโดดลงอย่างปลอดภัย พวกเขาลงไปรออยู่ข้างล่างได้ก่อน แต่ไม่ใช่พวกเพื่อนๆ ของฉันที่จะทำอย่างเขาได้ คนที่แก่นกล้าหน่อยและคิดว่ากางเกงยีนส์หนาพอก็ใช้วิธีไถลลงเหมือนเล่นสไลเดอร์ อีกคนเหยียดแขนออกไปรอให้หนุ่มกล้ามใหญ่หน้าตาดีอย่างปอเข้ามาอุ้มอย่างเต็มอกเต็มใจ เขาสอดมือทั้งสองเข้าใต้รักแร้เธอผู้นั้นแล้วยกร่างบางลงมายืนที่พื้นอย่างสุภาพนุ่มนวล เพื่อนร่วมงานของฉันที่เป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่มโชว์แมนด้วยการจับกิ่งไม้ผอมๆ ที่อยู่ใกล้ๆ นั้นโหนตัวลงมา แต่มันทานน้ำหนักไม่ไหวจึงหักลง ปอรีบปราดเข้ามาช่วยจับแขนไว้ ซึ่งเขาทรงตัวได้จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
คราวนี้เหลือฉันเป็นคนสุดท้าย ให้ไถลลงรึ ไม่เสี่ยงเด็ดขาด กิ่งไม้ที่จะช่วยพยุงตัวก็หักไปแล้ว รึจะยอมให้ปออุ้ม ไม่เอาหรอก ฉันเขินนะ และไม่ชอบให้ใครมาถูกตัวด้วย เอายังไงล่ะทีนี้
เขาดูแลฉัน....อีกครั้ง โดย ดรัสวันต์
โดย
ดรัสวันต์
ฝนโปรยปรายลงมาแล้ว ที่บริษัทของฉันจึงตัดสินใจว่าปีนี้เราจะไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการปลูกป่า ซึ่งเราห่างเหินกันมา 2 – 3 ปีแล้ว
ครั้งนั้น ปีแรกที่เราไปปลูกป่ากัน ฉันยังจำได้ดีว่าฝนตกลงมาหลังจากเริ่มปลูกต้นไม้กันเกือบเสร็จ ทุกคนเปียกโชกเพราะเราอยู่กันกลางป่าไม่รู้จะวิ่งหนีไปหลบที่ใด เท้าต้องย่ำไปบนดินแฉะๆ ขากางเกงเปื้อนดินมอมแมมกันหมดทุกคน เป็นอะไรที่ทุลักทุเลมากแต่ทุกคนก็สนุก และยังจดจำมาคุยกันอยู่เสมอ ฉะนั้นปีนี้จึงเป็นกิจกรรมที่ทุกคนเฝ้ารอคอย
เจ้านายใหญ่มอบหมายให้ฉันเป็นแม่งานตามเคย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพราะเคยทำมาแล้ว อีกทั้งสถานที่ที่ฉันเคยติดต่อก็ยังเป็นรีสอร์ตที่งดงามอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพียบพร้อมทั้งที่พักสะดวกสบาย ร้านอาหารและลานเอนกประสงค์ ทั้งสำหรับกางเต้นท์แค้มปิ้งและกิจกรรมรอบกองไฟ
“เราไปที่เดิมใช่ไหมพี่” รุ่นน้องถามฉันอย่างกระตือรือร้น
“ใช่ ที่ภูภัสสร รีสอร์ต” ฉันยืนยันพร้อมกับสำรวจปฏิกิริยาคนรอบข้างไปในตัว ท่าทางพวกเขาอยากไปกันจริงๆ คงลืมเลือนความยากลำบากครั้งนั้นไปแล้ว หลงเหลือแต่ความตื่นเต้นที่จะได้ไปผจญภัยกันอีกครั้ง
ฉันโทรศัพท์ติดต่อคุณพิชิต ผู้จัดการรีสอร์ตเพื่อจองสถานที่พักล่วงหน้ามาก่อนแล้วหนึ่งเดือน บริษัทของเราเลือกทำกิจกรรมกันในวันศุกร์แล้วค้างหนึ่งคืน ก่อนจะเดินทางกลับในวันเสาร์ ทุกอย่างราบรื่นเพราะช่วงหน้าฝนเป็น Low season ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเหมือนช่วงหน้าหนาว รีสอร์ตจึงสามารถรองรับพนักงานบริษัทที่จะมาร่วมกิจกรรมประมาณ 50 คน ได้เป็นอย่างดี
ใกล้วันเดินทางแล้ว ฉันโทรศัพท์ไปย้ำเตือนกับคุณพิชิต
“คุณพิชิตคะ ทีมของแนนจะล่วงหน้าไปเตรียมงานก่อนตั้งแต่วันพฤหัสฯ นะคะ”
“อ๋อได้เลยครับ จะมากี่คน เดี๋ยวผมเตรียมห้องให้”
“สี่คน สามห้องค่ะ”
“ครับ เรื่องห้องพักไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องอาหารที่คุณแนนแจ้งเมนูมาก่อนล่วงหน้าแล้ว พ่อครัวของเราก็เตรียมการไว้ตามที่สั่งทุกอย่าง ส่วนเรื่องปลูกป่ากับกิจกรรมสันทนาการ คุณแนนคุยกับคุณปอได้เลย พอดีวันพฤหัสฯ ผมติดธุระอาจจะไม่ได้มาเทคแคร์ แต่วันงานผมอยู่ต้อนรับ ไม่ต้องห่วงนะครับ”
“อ้าว คุณพิชิตไม่อยู่หรอกหรือ” ฉันผิดหวังนิดหน่อย
“ต้องขอโทษจริงๆ แต่คุณปอ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมของเรากลับมาแล้ว ผมเลยวางใจครับ คุณแนนเคยเจอปอแล้วนี่ครับคงจำได้”
“คุณปอ” ฉันทวนชื่อนั้น เวลาที่ห่างหายไปหลายปีทำให้ยังนึกไม่ออกในตอนแรก
“ปอเขาเป็นคนพาคุณแนนเดินป่าคราวก่อนไง” พิชิตช่วยเตือนความจำให้
แล้วฉันก็นึกออก ‘เขา’ นั่นเอง
ฉันยิ้มกับตัวเอง นึกถึงครั้งนั้น ที่ฉันกับเพื่อนร่วมงานมาเตรียมงานก่อนปลูกป่า สถานที่ปลูกถูกกำหนดให้อยู่บนภูเขาไม่สูงนักและมีสำนักสงฆ์เล็กๆ ตั้งอยู่
เมื่อตอนแนะนำตัว สาวในกลุ่มแซวหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ว่า
“ชื่อปอหรือคะ น่ารักจัง มาจากแมงปอหรือเปล่า”
“ปอ มาจาก ปรพล ครับ” เขาตอบเรียบๆ
คนแซวเจื่อนเล็กน้อย แล้วแก้เกี้ยวว่า “ชื่อเท่จัง”
ปรพล เป็นพนักงานของรีสอร์ตที่รับผิดชอบกิจกรรมนี้ เขาและลูกน้องอีกหนึ่งคนพาเราสำรวจพื้นที่ที่คนงานเตรียมขุดหลุมไว้ให้เราปลูกต้นไม้ เสร็จจากการสำรวจแล้วสมาชิกของทีมอยากขึ้นไปไหว้พระที่สำนักสงฆ์ที่อยู่สูงขึ้นไปบนเขา ทางเดินที่ทำเป็นขั้นบันไดก่อด้วยปูน ทำให้เราเดินกันได้สะดวก จะลำบากหน่อยตรงที่มีเกือบร้อยขั้น เราเพิ่งเดินมาถึงครึ่งทางแต่ทุกคนก็เริ่มเหนื่อยหอบกันแล้ว ฉันเหลือบตามองคนนำทางของฉัน ดูเขาเฉยๆ ไม่เหนื่อยสักเท่าไหร่ คงชินแล้ว
“โห พี่ กว่าเราจะไปถึง” ใครคนหนึ่งเริ่มบ่น “แล้วยังต้องกลับลงไปอีก” แล้วมองลงไปยังทิศทางขาขึ้นมาว่าจะต้องใช้พละกำลังอีกเท่าตัวกว่าจะกลับลงไป
“แหม ทนอีกนิดนึง จะถึงอยู่แล้ว เดี๋ยวเราไหว้พระแล้วพักเหนื่อยนานๆ ก็ได้ หายเหนื่อยค่อยลงไป” คนที่ตั้งใจมาไหว้พระยังไม่ยอมถอดใจและพยายามให้กำลังใจคนที่เริ่มท้อ
ฉันเองก็เหนื่อยแทบขาดใจเหมือนกัน แต่ไม่กล้าบ่นได้แต่หยุดเดินทุกสองสามนาทีเพื่อพักหายใจ
“น้ำดื่มของฉันหมดแล้ว” อีกคนบ่น
“เดี๋ยวไปขอพระ ข้างบนสำนักสงฆ์มีน้ำใช่ไหมคะ” ตอนท้ายหันไปถามคนนำทาง
“มีครับ แต่เอาขวดนี้ไปดีกว่า ผมยังไม่ได้ดื่ม” พูดจบเขาก็หยิบขวดน้ำจากเป้มาให้
“แล้วปอจะดื่มอะไรล่ะ เรายังต้องเดินอีกไกลนะ” คนที่รับน้ำไปถามอย่างเกรงใจ
เขาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ต้องห่วง แล้วเดินนำขึ้นบันไดต่อไปโดยมีลูกน้องอีกหนึ่งคนคอยดูแลท้ายขบวน
พอไปถึงสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่บนปากถ้ำเล็กๆ คล้ายเพิงหมาแหงน พวกเราก็แทบหายเหนื่อย เพราะมีลมเย็นโชยมาให้เหงื่อแห้ง เราสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดและมองทิวทัศน์งดงามของภูเขาที่สลับซับซ้อน พักกันครู่หนึ่งจึงเข้าไปนมัสการพระพุทธรูปประธานขนาดหน้าตักกว้างหนึ่งเมตร บริจาคปัจจัยทำบุญเท่าที่มีติดตัวมาคนละเล็กละน้อย แล้วอยู่คุยกับพระสงฆ์ที่จำพรรษาที่นี่หนึ่งรูป ท่านแนะนำให้เราไปเที่ยวถ้ำลอดที่อยู่ด้านหลัง
“ปอ พาโยมไปเที่ยวซิ”
“ครับหลวงพ่อ ผมตั้งใจอยู่แล้ว” เขารับปากแล้วหันมาอธิบายกับเราว่า “ถ้าพวกคุณสนใจไปเที่ยวถ้ำด้านหลัง จะมีทางลงเขาอีกทางหนึ่ง ระยะทางสั้นกว่าขามาแต่โหดหน่อยตรงที่มันชัน”
พวกเรามองหน้ากัน คนที่ท้อแท้ไม่อยากกลับทางเก่าดูจะสนใจมากกว่าเพื่อน เราตกลงกันไม่ยากเพราะทุกคนก็อยากไปเที่ยวถ้ำ ที่เรียกว่าถ้ำลอดเพราะเป็นถ้ำที่มีทางเข้าออกสองทางแลลอดทะลุถึงกัน ไม่ใช่ถ้ำที่ใหญ่โตอะไร เราจึงไม่ได้ใช้เวลามากนัก ด้านหลังเขาช่วงนี้เป็นหินล้วนๆ เราปีนจากหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่ง แม้จะเป็นขาลงแต่ฉันก็ต้องระวังมากขึ้น เพราะหากล้มหัวฟาดลงไปบนหินพวกนี้ ถ้าไม่ตายก็คงเอ๋อ ฉันล้าหลังทุกคนที่นำลิ่วออกไป แต่ปอก็ยังหยุดยืนรอฉัน ไม่เร่งรัดให้ฉันต้องรีบเดิน เขายืนรอเงียบๆ รอจนกว่าฉันจะมีแรงเดินต่อ
ระหว่างซอกหินมีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นพอให้เราอาศัยเกาะอยู่บ้าง ช่วงไหนที่ไม่มีอะไรให้เหนี่ยว ซึ่งจำต้องอาศัยมือแข็งแรงของผู้ชายช่วย สำหรับสาวๆ บางคนที่ออกจะถือเนื้อถือตัว ปอเขามีวิธีของเขาโดยเอาผ้าข้าวม้าที่เอวออกมาพันที่มือให้แน่นแล้วให้เราเหนี่ยวผ้าไว้ เขาจะคอยเกร็งข้อมือยึดผ้าไว้ให้มั่นจนเราก้าวผ่านไปได้ จะไม่มีการถูกเนื้อต้องตัวให้ผู้หญิงอึดอัดใจ มันทำให้ฉันรู้สึกดี ลูกน้องของเขาก็เช่นกัน ถ้าผู้หญิงคนไหนต้องการให้ช่วย เขาจะใช้วิธียื่นแขนให้จับ
ที่โขดหินข้างหน้าเป็นหินก้อนใหญ่กลมมน ที่ทุกคนจะต้องปีนลงไป แต่ความสูงชันของมันทำให้ผู้หญิงที่ขาไม่ยาวนักอย่างฉันย่อท้อ ฉันรอดูก่อนว่าแต่ละคนจะลงได้อย่างไร ปอและลูกน้องของเขาซึ่งได้เปรียบที่ขายาวและรู้เทคนิควิธีการกระโดดลงอย่างปลอดภัย พวกเขาลงไปรออยู่ข้างล่างได้ก่อน แต่ไม่ใช่พวกเพื่อนๆ ของฉันที่จะทำอย่างเขาได้ คนที่แก่นกล้าหน่อยและคิดว่ากางเกงยีนส์หนาพอก็ใช้วิธีไถลลงเหมือนเล่นสไลเดอร์ อีกคนเหยียดแขนออกไปรอให้หนุ่มกล้ามใหญ่หน้าตาดีอย่างปอเข้ามาอุ้มอย่างเต็มอกเต็มใจ เขาสอดมือทั้งสองเข้าใต้รักแร้เธอผู้นั้นแล้วยกร่างบางลงมายืนที่พื้นอย่างสุภาพนุ่มนวล เพื่อนร่วมงานของฉันที่เป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่มโชว์แมนด้วยการจับกิ่งไม้ผอมๆ ที่อยู่ใกล้ๆ นั้นโหนตัวลงมา แต่มันทานน้ำหนักไม่ไหวจึงหักลง ปอรีบปราดเข้ามาช่วยจับแขนไว้ ซึ่งเขาทรงตัวได้จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
คราวนี้เหลือฉันเป็นคนสุดท้าย ให้ไถลลงรึ ไม่เสี่ยงเด็ดขาด กิ่งไม้ที่จะช่วยพยุงตัวก็หักไปแล้ว รึจะยอมให้ปออุ้ม ไม่เอาหรอก ฉันเขินนะ และไม่ชอบให้ใครมาถูกตัวด้วย เอายังไงล่ะทีนี้