แฟนชาวอังกฤษขี้เหนียว ควรแต่งงานด้วยไหมคะ

ร้องไห้มีแฟนเป็นคนอังกฤษค่ะ อายุ 46 ปี ทำงานเป็นตำรวจค่ะ อีก 9 ปีก็เกษียณตัวเองได้ค่ะ
สวนราเอง กำลังจะ 30 ค่ะ plan ว่าจะแต่งงานกัน แฟนจะมาเมืองไทย ตุลาคมนี้ค่ะ
ปัญหาคือ ดิฉันต้องผ่อนบ้านที่เมืองไทยที่เป็นบ้านของดิฉันเอง เคยเกริ่นกับแฟนบ้างแล้วว่าต้องส่งบ้านต่อ
แต่แฟนบอกว่า เขาต้องผ่อนบ้านที่นู่น และถ้ามีลูก คงต้องขายบ้านเดิมที่เป็นสองห้องนอน เพื่อซื้อหลังใหญ่ขึ้น
อันนี้พอเข้าใจค่ะ แล้วถ้าดิฉันย้ายไปอยู่กับแฟนแน่นอนว่าช่วงแรกคงไม่มีงานทำแน่แท้ อีกอย่างที่ยังไม่กล้าพูดจนถึงบัดนี้คือ
เรื่องสินสอด ดิฉันจะเริ่มพูดยังไงดีคะ ที่ผ่านมาก็บอกแฟนตลอดว่าวัฒนธรรมต่างกัน
แต่ครั้นจะมาขออนุญาต คุณพ่อ คุณแม่แต่งงานแค่นี้ก็คงจะไม่ได้ เค้าจะเข้าใจมั้ยคะ แล้วถ้าไม่เข้าใจ
ดิฉันต้องทำอย่างไรต่อดี ก็รักนะคะ ไม่อยากให้ที่บ้านขายหน้า และต้องไปอยู่แบบจำกัดมากเกินไป คงลำบากสำหรับดิฉันเอง
เพราะงานที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ ไม่ลำบาก แล้วก็ได้ใช้จ่ายอย่างสบายใจ(หาเอง ใช้เอง)
หรือเป็นเพราะว่าด้วยความที่ค่าครองชีพที่นู่นสูงเลยทำให้แฟนคิดเยอะไปหน่อย ขนาดแหวนหมั้นยังไม่ยอมบอกงบ 55555555
ไม่เคยไปยุโรปด้วยค่ะ เลยไม่รู้ว่าใช้ชีวิตแบบไหนกันคนที่นู่น แล้วทำงานแบบเขา ถ้าเราไม่ทำงาน จะรอดมั้ยคะ
เฮ้อ......นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วค่ะ ยังไงรบกวนท่านผู้รู้ หรือใครก็ได้ที่เมตตาตอบคำถามให้หน่อยนะคะ
- เรื่องการใช้จ่ายที่อังกฤษ ค่าครองชีพ
-งานที่ทำได้ตอนไปใหม่ๆ
-จำเป็นต้องเรียนภาษาเพิ่มมั้ยคะ ถ้าย้ายไปแล้ว
-ต้องเริ่มต้นคุยกับแฟนเรื่องสินสอดแบบไหนดีคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คุยกันให้เคลียร์เสียก่อน คำถามคุณมันค่อนข้างครอบจักรวาลนะคะ ตอบยาก
ขี้เหนียว กับ ขี้งก ต่างกันมากนะคะ ขี้เหนียวที่จริงดีนะจะได้รวยๆ อิอิ ถ้าขี้งกอันนี้แย่ค่ะ

ถามเขาสิว่ารู้ประเพณีการแต่งงานไทยดีแค่ไหน หาเวปไซต์ที่อธิบายการแต่งงานแบบไทยให้เขาอ่านดู
ตอนพี่แต่งงานก็ให้เขาอ่าน จะได้เข้าใจคร่าวๆว่าอะไรคืออะไร คือแฟนพี่กลัวทำผิดแล้วอาย ฮ่าๆๆ
คบกันนานพอหรือยังคะ ถ้านานพอน่ารู้นิสัยเขาดีนะ ว่าจะอยู่รอดไหม มันเป็นเรื่องของแต่ละคู่ค่ะ
บางคนก็อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร บางคนมาเรียนภาษาเพิ่มเติม ปรับตัว แล้วหางานทำ มันต่างกันไปค่ะ
มาใหม่ๆ จะให้ทำงานทันทีก็แปลกไปนะ ปรับตัวก่อน ใช้ชีวิตก่อน เรียนรู้อะไรต่างๆของคนที่นี่ก่อนดีกว่า
ถ้าภาษาโอเค มาอยู่มาใช้ชีวิตเดี๋ยวมันก็เพิ่มพูนไปเอง ไม่มีอะไรยาก คบกันขนาดจะแต่งงานต้องเชื่อใจสิว่าเขาดูแลได้

พี่ตอนแต่งงานแล้วย้ายมาใหม่ๆ เกือบสิบปีแล้วค่ะ ก็ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรค่ะ แต่พี่เป็นคนเรียนรู้ไวปรับตัวไว คือออกจากบ้านทุกวัน
เดินไปนู่นไปนี่ เขามีอะไร เขาทำอะไร เขาขายอะไร ซอกแซกไปหมด อยากรู้ 555 สักพักเริ่มเรียนรู้การขึ้นรถเมล์ อ่านดูเสริจดูว่าคันไหนไปไหน
ลงที่ไหนอะไรยังไง ถามสามีก็ไม่ได้ตานี่ไม่เคยขึ้นรถเมล์ พี่ก็ขึ้นรถเมล์ไปห้างบ้าง เริ่มเรียนรู้กันไปค่ะ ผิดๆถูกๆสนุกดี อย่ากลัว คนอังกฤษใจดีค่ะ
พอวันหยุดค่อยชวนสามีไปนู่นไปนี่กัน ... หนึ่งปีจากนั้นพี่ค่อยเริ่มทำงานเพราะเริ่มเบื่อ ทำงานได้สักพัก ก็มีน้องค่ะ เลยออกจากงานมาเป็นคุณแม่
ระหว่างนั้นช่วงเย็นๆก็เรียนขับรถ เพราะมีลูกรถต้องจำเป็นละนะ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ  ตอนนี้ลูกสาวเจ็ดขวบ ลูกชายห้าขวบค่ะ
พี่ก็เลี้ยงลูกมาตลอด จนเค้าเข้าโรงเรียน พี่ทำงานพาร์ทไทม์ที่ รร ลูก นั่นล่ะค่ะ  เบาๆไม่เหนื่อย ฆ่าเวลาค่ะ ว่างมากดูละครทั้งวัน ฮ่าๆๆๆ
แต่จะให้ทำฟูลไทม์ก็ไม่เอาค่ะ อยากใช้เวลากับลูกกับสามีมากๆ
^__^ คำถามที่คุณถามมา จริงๆถามแฟนคุณนั่นแหละ จะได้คำตอบ ชั้นต้องทำงานไหม เธอดูแลชั้นได้ไหม บลาๆๆๆ
ที่นี่อยู่ง่าย อยู่สบาย ไม่มีอะไรน่ากลัว ไม่ต้องเครียดค่ะ มีอะไรหลังไมค์ได้ ไลน์ได้ คุยได้ พี่ว่าง 555
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่รอดแน่นอน attitude ต่างกันเกินไป
คุณไทย๊ ไทย หยุมหยิมแม้กระทั่งราคาแหวน
อย่างนี้ฝรั่งเรียกว่าหน้าเลือด
ปกติของอย่างนี้ฝ่ายชายเขาตัดสินใจเอง แลัมารยาท ไม่ควรถาม
ยังไม่ต้องพูดเรื่องสินสอดเลย
ถ้าเขาฝรั่งจ๋ามากกกก เขาก็คงรับไม่ได้ ต่อให้เข้าใจและจัดหามาให้ได้
แต่เชื่อเถอะว่ามันจะเป็นพิษทีหลัง เหมือนกระทู้สินสอดพิษนั่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 15
คบสามเดือนจะแต่งงาน จะเอาโน่นจะเอานี่ ห่วงแต่เรื่องเงิน  อายุต่างกันมากกว่า 15 ปี ขออภัยที่ต้องพิมพ์ออกมาตรงๆ ไม่มีอะไรซักอย่างที่ทำให้ผมมองเห็นว่าคุณจะแต่งงานเพื่อไปเป็นคู่ชีวิตใครซักคนจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่