สำหรับคนที่ได้รับข่าวหรือข้อมูลเรื่องผมถูกเรียกตัวโดย คสช นะครับ
ผมขอยืนยันว่า คสช ไม่ได้เรียกตัวผมให้ไปรายงานตัว แต่ระดับสูงของคสชได้รับทราบเรื่องการ "เชิญตัว" ผมไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ทีสนามเป้า และการเชิญตัวก็เกิดขึ้นในวันน้ีตั้งแต่เวลา 9.30 น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยการเอารถตู้มารับผมจากที่คณะ ภายหลังจากที่ได้โทรประสาน แล้วตกลงกันว่าจะไปวันไหน โทรศัพท์เข้ามาเมื่อวานซืน แต่เมื่อวานผมติดต้องไปหาหมอตอนเย็น ซึ่งทางผู้ติดต่อก็เข้าใจเป็นอย่างดี และในวันนี้เมื่อมีการมารับที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็มี คณบดี ผู้ช่วยคณบดี และ หัวหน้าภาควิชาการปกครองมาส่ง ที่หน้าคณะ
หนึ่งในคณะซักถามบอกว่าการเชิญตัวแบบนี้ดีกว่าการเรียกให้ไปรายงานตัว เพราะว่าการรายงานตัวนั้นหากไม่ไปจะมีความผิด
ใครเชิญตัวผม: ผู้เชิญคือนายทหารจากกรมทหารม้าที่ ๑ กองพลทหารม้าที่ ๒ ซึ่งใช้สถานที่ที่กองพลในการพูดคุย กองพลนี้อยู่ที่สนามเป้า ทางเข้าคือบันไดรถไฟฟ้าสนามเป้า
ใครคุยกับผม: เป็นชุดซักถาม ที่ประกอบด้วย "ฝ่ายความมั่นคงหลายฝ่าย" บางฝ่ายก็แนะนำตัว บางฝ่ายก็ไม่แนะนำตัว และเขาเล่าว่าจะส่งข้อมูลไปที่ คสช อีกที
เหตุผล: เพราะผมเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นนักวิชาการ อยากจะขอทราบความเห็นและขอความร่วมมือ
ท่าทีในการพูดคุย: ไม่ได้ตั้งข้อหา เป็นการชี้แจงจากทีมซักถามมากหน้าหลายตาที่นั่งที่โต๊ะและนั่งข้างหลัง และฟังความเห็นจากผม ไม่มีการให้เซ็นเอกสารใดๆ
เรื่องที่พูดคุย: มีหลายเรื่องใหญ่ๆ
1. ซักถามประวัติผมในส่วนที่ยังไม่กระจ่าง เช่นการเรียน การทำงานสื่อต่างๆ และกิจกรรมทางการเมือง
2. ชี้แจงว่าผมเคยให้ข้อมูลที่ผิดๆกับประชาชน เมื่อสมัยที่ผมทำรายการเวคอัพไทยแลนด์ ตอนหนึ่งที่ผมแสดงทัศนะที่ไม่ถูกต้องในเรื่องที่มาของทุนอานันทมหิดล ซึ่งผมมีความเข้าใจผิดว่าเป็นทุนที่มาจากเงินของประชาชนด้วย ทั้งที่ทีมข้อมูลได้ชี้แจงว่าทุนนี้เป็นทุนจากราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ผมก็ขอรับผิดไว้ ณที่นี้ ส่วนในรายละเอียดในคลิปว่าผมได้พูดผิดอย่างไร และผมมีการแก้ไขอย่างไรนั้น ต่อไปผมจะนำมาเสนอต่อไป
3. เรื่องต่อไปคือเรื่องของ 112 ซึ่งผมก็ได้ชี้แจงไปถึงมุมมองของผมที่ต่อเรื่องราวต่างๆ และได้รับฟังประเด็นที่ทางฝ่ายความมั่นคงห่วงใยและมุ่งมั่นในการทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ ผมเข้าใจว่าทางฝ่ายข้อมูลและผมมีความเข้าใจที่ตรงกันว่าทางฝ่ายข้อมูลอยากจะฝากผมไปถึงนักวิชาการและการเคลื่อนไหวต่างๆ สิ่งที่ทางทีมข้อมูลพยายามชี้แจงคือ การล้มเจ้านั้นกระทำอย่างเป็นขบวนการอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือมีพวกที่เป้นพวก "ปลุกปั่นยุยง" (เขาใช้คำว่า instigator) ผมควรจะทราบว่ามีสิ่งเหล่านี้ซึ่งมิใช่แค่เรื่องเครือข่ายหลวมๆ นอกจากนั้นข้ออ้างในการแก้ 112 นั้นเป็นข้ออ้างที่นักวิชาการที่รณรงค์เรื่องนี้ไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ (อย่างไรก็ดี มีความชัดเจนว่าทางทีมข้อมูลพยายามอธิบายให้ผมฟังว่า นักวิชาการที่รณรงค์เรื่องนี้อย่าง อจ. วรเจตน์ อจ.สาวตรี และ อจ.พวงทอง อาจไม่มีความเข้าใจในกระบวนการดำเนินคดีอย่างถ่องแท้ แต่อย่างน้อยเท่าที่ผมจับ sense ได้นั้นเขาไม่ได้คิดว่าอาจารย์เหล่านี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังในแง่ของขบวนการ หรือเป้น instigator)
๏i๏ พิชญ์ พงศ์สวัสดิ์ อจ.จุฬาฯ เล่าเบื้องหลัง คสช. เชิญตัวพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ๏i๏
ผมขอยืนยันว่า คสช ไม่ได้เรียกตัวผมให้ไปรายงานตัว แต่ระดับสูงของคสชได้รับทราบเรื่องการ "เชิญตัว" ผมไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ทีสนามเป้า และการเชิญตัวก็เกิดขึ้นในวันน้ีตั้งแต่เวลา 9.30 น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยการเอารถตู้มารับผมจากที่คณะ ภายหลังจากที่ได้โทรประสาน แล้วตกลงกันว่าจะไปวันไหน โทรศัพท์เข้ามาเมื่อวานซืน แต่เมื่อวานผมติดต้องไปหาหมอตอนเย็น ซึ่งทางผู้ติดต่อก็เข้าใจเป็นอย่างดี และในวันนี้เมื่อมีการมารับที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็มี คณบดี ผู้ช่วยคณบดี และ หัวหน้าภาควิชาการปกครองมาส่ง ที่หน้าคณะ
หนึ่งในคณะซักถามบอกว่าการเชิญตัวแบบนี้ดีกว่าการเรียกให้ไปรายงานตัว เพราะว่าการรายงานตัวนั้นหากไม่ไปจะมีความผิด
ใครเชิญตัวผม: ผู้เชิญคือนายทหารจากกรมทหารม้าที่ ๑ กองพลทหารม้าที่ ๒ ซึ่งใช้สถานที่ที่กองพลในการพูดคุย กองพลนี้อยู่ที่สนามเป้า ทางเข้าคือบันไดรถไฟฟ้าสนามเป้า
ใครคุยกับผม: เป็นชุดซักถาม ที่ประกอบด้วย "ฝ่ายความมั่นคงหลายฝ่าย" บางฝ่ายก็แนะนำตัว บางฝ่ายก็ไม่แนะนำตัว และเขาเล่าว่าจะส่งข้อมูลไปที่ คสช อีกที
เหตุผล: เพราะผมเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นนักวิชาการ อยากจะขอทราบความเห็นและขอความร่วมมือ
ท่าทีในการพูดคุย: ไม่ได้ตั้งข้อหา เป็นการชี้แจงจากทีมซักถามมากหน้าหลายตาที่นั่งที่โต๊ะและนั่งข้างหลัง และฟังความเห็นจากผม ไม่มีการให้เซ็นเอกสารใดๆ
เรื่องที่พูดคุย: มีหลายเรื่องใหญ่ๆ
1. ซักถามประวัติผมในส่วนที่ยังไม่กระจ่าง เช่นการเรียน การทำงานสื่อต่างๆ และกิจกรรมทางการเมือง
2. ชี้แจงว่าผมเคยให้ข้อมูลที่ผิดๆกับประชาชน เมื่อสมัยที่ผมทำรายการเวคอัพไทยแลนด์ ตอนหนึ่งที่ผมแสดงทัศนะที่ไม่ถูกต้องในเรื่องที่มาของทุนอานันทมหิดล ซึ่งผมมีความเข้าใจผิดว่าเป็นทุนที่มาจากเงินของประชาชนด้วย ทั้งที่ทีมข้อมูลได้ชี้แจงว่าทุนนี้เป็นทุนจากราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ผมก็ขอรับผิดไว้ ณที่นี้ ส่วนในรายละเอียดในคลิปว่าผมได้พูดผิดอย่างไร และผมมีการแก้ไขอย่างไรนั้น ต่อไปผมจะนำมาเสนอต่อไป
3. เรื่องต่อไปคือเรื่องของ 112 ซึ่งผมก็ได้ชี้แจงไปถึงมุมมองของผมที่ต่อเรื่องราวต่างๆ และได้รับฟังประเด็นที่ทางฝ่ายความมั่นคงห่วงใยและมุ่งมั่นในการทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ ผมเข้าใจว่าทางฝ่ายข้อมูลและผมมีความเข้าใจที่ตรงกันว่าทางฝ่ายข้อมูลอยากจะฝากผมไปถึงนักวิชาการและการเคลื่อนไหวต่างๆ สิ่งที่ทางทีมข้อมูลพยายามชี้แจงคือ การล้มเจ้านั้นกระทำอย่างเป็นขบวนการอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือมีพวกที่เป้นพวก "ปลุกปั่นยุยง" (เขาใช้คำว่า instigator) ผมควรจะทราบว่ามีสิ่งเหล่านี้ซึ่งมิใช่แค่เรื่องเครือข่ายหลวมๆ นอกจากนั้นข้ออ้างในการแก้ 112 นั้นเป็นข้ออ้างที่นักวิชาการที่รณรงค์เรื่องนี้ไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ (อย่างไรก็ดี มีความชัดเจนว่าทางทีมข้อมูลพยายามอธิบายให้ผมฟังว่า นักวิชาการที่รณรงค์เรื่องนี้อย่าง อจ. วรเจตน์ อจ.สาวตรี และ อจ.พวงทอง อาจไม่มีความเข้าใจในกระบวนการดำเนินคดีอย่างถ่องแท้ แต่อย่างน้อยเท่าที่ผมจับ sense ได้นั้นเขาไม่ได้คิดว่าอาจารย์เหล่านี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังในแง่ของขบวนการ หรือเป้น instigator)