สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
BMW Series3 E90 320i ปี 2006
1. อะไหล่หายากไหมครับ
อะไหล่เก่าจัดว่ามีเยอะพอสมควร และหาไม่ยาก แต่ราคาค่อนไปทางสูงอยู่เมื่อเทียบกับราคารถมือสองที่ขายๆกัน แต่ของผมใช้มาตอนช่วงอะไหล่มือสองยังมีไม่มาก อะไหล่เทียบเรียกว่าแทบไม่มี อะไหล่แท้ราคาแทบสลบ เคยเปลี่ยนโคมไฟหน้าคู่ละแสนบาท ม่านไฟฟ้าเฟืองแตกตัวเดียว เปลี่ยนยกชุดจำได้ว่าราวสามหมื่นบาท กระจกหน้าถ้าเป็นของศูนย์ มีตราบีเอ็มก็เกือบสามหมื่น ผมเปลี่ยนข้างนอกไม่มีตราบีเอ็มแค่เจ็ดพัน แต่เซนเซอร์ปัดน้ำฝนใช้ไม่ได้อีกต่อไป
2. การขับขี่เป็นอย่างไรบ้างครับ
หากเทียบกับ Camry Accord ที่ผมเคยใช้ ดีกว่ามากกกกก Jazz คงไม่ต้องถาม
3. อัตราการบริโภคน้ำมันเป็นอย่างไรบ้างครับ
เครื่อง N46 ประหยัดพอสมควร แรงบิดดี อัตราเร่งดีกว่า M52 6 สูบที่วางใน E46 ด้วยซ้ำ (ผมมีทั้ง 2 คัน) อัตราสิ้นเปลืองในเมืองขับปกติยัง 10 กม/ล ขึ้น ของผมเฉลี่ย 11-12 กม/ล ออก ตจว 15-16 กม/ล ที่ความเร็ว 120
4. จุกจิกไหมครับ
จุกจิกมากพอสมควรในเรื่องระบบไฟฟ้าเนื่องจากมีเซ็นเซอร์เยอะมาก ขับอยู่ดีๆ เดี๋ยวไฟนู่นนั่นนี่โชว์ และโดยเฉพาะระบบเกียร์ ในโฉมแรก ปี 05 มีปัญหามาก หากทดลองขับแล้วพบว่าเกียร์กระตุก ให้มองผ่านเลยครับ และจะเป็นแทบทุกคัน บางคันซ่อมจนยอมแพ้ ขายทิ้งกันเพราะเรื่องเกียร์เป็นหลัก ค่าโอเวอร์ฮอลล์อู่ดังราว 7 หมื่น คันผมก็เป็นตั้งแต่ 5 หมื่น กม เพราะตามโปรแกรมการบำรุงรักษาของศูนย์ "ไม่มีรายการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์" โดยอ้างว่าเป็น Lifetime ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีน้ำมันเครื่องใดในโลกนี้มีคุณสมบัติเทพขนาดนั้น อีกทั้งบ้านเราอากาศร้อนจัดมาก รถติด ทำให้น้ำมันเกียร์มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ หนักๆเข้าจะเริ่มมีอาการสลิปหรือเกียร์ตัดต่อไม่เป็นจังหวะ ไม่สอดคล้องกับความเร็ว และเมื่อเฟืองเกียร์ขบกันผิดจังหวัอาจทำให้ชิ้นส่วนสำคัญในห้องเกียร์เสียหายรุนแรงได้ ส่วนการยกเกียร์จากรถ gen เดียวกันมาวางใหม่ก็หนีปัญหานี้ไม่ได้
ปัญหาต่อมาคือรถที่เข้าศูนย์ตามโปรแกรม BSI จะมีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องเป็นคราบโคลน เพราะระยะเปลี่ยนถ่ายมันนานเกินไป ไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของบ้านเรา สังเกตุได้ง่ายๆโดยเปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องมาดู มันจะเกาะอยู่ในฝาครอบวาล์ว เมื่อเปิดฝามาดูก็อาจตกใจ แต่ก็ทำการล้างหรือฟลัชชิ่งได้
5. ของแต่งหายากไหมครับ อย่างเช่นพวก สปริงโหลด ชุดแต่งรอบคัน ฯลฯ
ของแต่งหาง่ายครับ หาดูใน BMWsoceity.com ก็ได้ แต่ราคาก็ตามสแตนดาร์ดรถพรีเมี่ยม ของบางอย่างไม่น่าแพงก็แพง ของบางอย่างก็ผลิตด้วยวัสดุและเทคโนฯเดียวกับรถญี่ปุ่น แต่ดันขายแพงกว่า 2 เท่า
1. อะไหล่หายากไหมครับ
อะไหล่เก่าจัดว่ามีเยอะพอสมควร และหาไม่ยาก แต่ราคาค่อนไปทางสูงอยู่เมื่อเทียบกับราคารถมือสองที่ขายๆกัน แต่ของผมใช้มาตอนช่วงอะไหล่มือสองยังมีไม่มาก อะไหล่เทียบเรียกว่าแทบไม่มี อะไหล่แท้ราคาแทบสลบ เคยเปลี่ยนโคมไฟหน้าคู่ละแสนบาท ม่านไฟฟ้าเฟืองแตกตัวเดียว เปลี่ยนยกชุดจำได้ว่าราวสามหมื่นบาท กระจกหน้าถ้าเป็นของศูนย์ มีตราบีเอ็มก็เกือบสามหมื่น ผมเปลี่ยนข้างนอกไม่มีตราบีเอ็มแค่เจ็ดพัน แต่เซนเซอร์ปัดน้ำฝนใช้ไม่ได้อีกต่อไป
2. การขับขี่เป็นอย่างไรบ้างครับ
หากเทียบกับ Camry Accord ที่ผมเคยใช้ ดีกว่ามากกกกก Jazz คงไม่ต้องถาม
3. อัตราการบริโภคน้ำมันเป็นอย่างไรบ้างครับ
เครื่อง N46 ประหยัดพอสมควร แรงบิดดี อัตราเร่งดีกว่า M52 6 สูบที่วางใน E46 ด้วยซ้ำ (ผมมีทั้ง 2 คัน) อัตราสิ้นเปลืองในเมืองขับปกติยัง 10 กม/ล ขึ้น ของผมเฉลี่ย 11-12 กม/ล ออก ตจว 15-16 กม/ล ที่ความเร็ว 120
4. จุกจิกไหมครับ
จุกจิกมากพอสมควรในเรื่องระบบไฟฟ้าเนื่องจากมีเซ็นเซอร์เยอะมาก ขับอยู่ดีๆ เดี๋ยวไฟนู่นนั่นนี่โชว์ และโดยเฉพาะระบบเกียร์ ในโฉมแรก ปี 05 มีปัญหามาก หากทดลองขับแล้วพบว่าเกียร์กระตุก ให้มองผ่านเลยครับ และจะเป็นแทบทุกคัน บางคันซ่อมจนยอมแพ้ ขายทิ้งกันเพราะเรื่องเกียร์เป็นหลัก ค่าโอเวอร์ฮอลล์อู่ดังราว 7 หมื่น คันผมก็เป็นตั้งแต่ 5 หมื่น กม เพราะตามโปรแกรมการบำรุงรักษาของศูนย์ "ไม่มีรายการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์" โดยอ้างว่าเป็น Lifetime ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีน้ำมันเครื่องใดในโลกนี้มีคุณสมบัติเทพขนาดนั้น อีกทั้งบ้านเราอากาศร้อนจัดมาก รถติด ทำให้น้ำมันเกียร์มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ หนักๆเข้าจะเริ่มมีอาการสลิปหรือเกียร์ตัดต่อไม่เป็นจังหวะ ไม่สอดคล้องกับความเร็ว และเมื่อเฟืองเกียร์ขบกันผิดจังหวัอาจทำให้ชิ้นส่วนสำคัญในห้องเกียร์เสียหายรุนแรงได้ ส่วนการยกเกียร์จากรถ gen เดียวกันมาวางใหม่ก็หนีปัญหานี้ไม่ได้
ปัญหาต่อมาคือรถที่เข้าศูนย์ตามโปรแกรม BSI จะมีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องเป็นคราบโคลน เพราะระยะเปลี่ยนถ่ายมันนานเกินไป ไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของบ้านเรา สังเกตุได้ง่ายๆโดยเปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องมาดู มันจะเกาะอยู่ในฝาครอบวาล์ว เมื่อเปิดฝามาดูก็อาจตกใจ แต่ก็ทำการล้างหรือฟลัชชิ่งได้
5. ของแต่งหายากไหมครับ อย่างเช่นพวก สปริงโหลด ชุดแต่งรอบคัน ฯลฯ
ของแต่งหาง่ายครับ หาดูใน BMWsoceity.com ก็ได้ แต่ราคาก็ตามสแตนดาร์ดรถพรีเมี่ยม ของบางอย่างไม่น่าแพงก็แพง ของบางอย่างก็ผลิตด้วยวัสดุและเทคโนฯเดียวกับรถญี่ปุ่น แต่ดันขายแพงกว่า 2 เท่า
แสดงความคิดเห็น
ระหว่าง BMW Series3 E90 320i ปี06 มือสอง กับ Honda Jazz 2014 SV+ ป้ายแดง เลือกคันไหนดีครับ
ผมมีเรื่องอยากปรึกษาคือ
ปัจจุบันใช้ Toyota Camry ปี 2003 เป็นรถมรดกตกทอดมาจากคุณพ่อครับ ใช้มาได้ปีกว่าๆน้องสาวจะเข้ามหาวิทยาลัยเลยจะเอารถคันนี้ให้น้องสาวขับไปเรียน จึงมองหารถคันใหม่สักคันครับมีงบตั้งอยู่ประมาณไม่เกิน 8 แสนบาท (ซื้อเงินผ่อน) ด้วยความที่ใฝ่ฝันอยากมี BMW ไว้ครอบครองสักคันชอบมาตั้งแต่เด็กๆแต่ด้วยงบประมาณที่มีจำกัดเลยทำให้เป็นความฝันเรื่อยมากครับ จนมาวันนี้ได้มีโอกาสซื้อรถคันใหม่จึงมองๆหา BMW มือสองตามสูตรคนอยากได้แต่งบน้อย อีกใจหนึ่งก็อยากได้รถป้ายแดงขับสบายๆ แต่จะมาขอคำปรึกษาพี่ๆชาง Pantip ห้องรัชดาสักหน่อยครับว่า
1. ระหว่างมือสอง BMW Series3 320i E90 ปีประมาณ2006 กับ ป้ายแดง Honda Jazz 2014 SV+ คันไหนน่าใช้มากกว่ากันครับ (ซื้อเงินผ่อนทั้งคู่นะครับ)
การใช้รถของผมคือ
1. ขับไปทำงาน ไป-กลับบ้าน วันละ 30 กิโล จ. - ศ. ในเขตชานเมือง
2. ออกเที่ยวต่างจังหวัดเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง
3. เป็นคนขับรถไม่เร็วในเมืองวิ่งเรื่อยๆตามรถติด นอกเมืองวิ่งไม่เกิน 120 กม.ชม.
และขอสอบถามเพิ่มเติมนะครับว่า BMW Series3 E90 320i ปี 2006
1. อะไหล่หายากไหมครับ
2. การขับขี่เป็นอย่างไรบ้างครับ
3. อัตราการบริโภคน้ำมันเป็นอย่างไรบ้างครับ
4. จุกจิกไหมครับ
5. ของแต่งหายากไหมครับ อย่างเช่นพวก สปริงโหลด ชุดแต่งรอบคัน ฯลฯ
ขอขอบบคุณพี่ๆชาว Pantip ห้องรัชดา ล่วงหน้าครับ