คือเราคบกับแฟน มาค่อนข้างนานคะมีเวลาที่เจอกัน เวลาว่างตรงกันก็สัปดาห์ละ 2-3 วัน คะก็ปกติไปดูหนังทานข้าว มีไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ กันบ้าง หรือวันไหนขี้เกียจๆก็ทำอาหารกินกันที่บ้านเขาบ้านเราสลับกันคะ
เขาเป็นผู้ชายที่ไม่โรแมนติค แต่เราเชื่อว่าเขาเป็นคนดี มีความเป็นผู้ใหญ่ เรามีความเป็นเด็กอยู่ค่อนข้างขี้น้อยใจ แต่ก็น้อยมากๆๆนะคะถ้าเทียบกับผู้หญิงรอบๆตัวเรา เพื่อนๆของเรา คือ เราเป็นคนไม่ตาม ไม่วุ่นวาย ไม่เช็คโทรศัพท์ ตลอดเวลาที่คบกันมาเลยนะคะ เพราะเราเชื่อใจ! คำว่า "เชื่อใจ" นี่ละคะ ที่ย้อนกลับมาทำร้ายเราอย่างเจ็บปวด....
มีอยู่ช่วงนึงที่มีแอพชื่อดัง ask.fm ขึ้นมาช่วงรนั้นมี ผู้หญิงคนนึง ตามราวีเราต่างๆนานา ว่า ด่าเราโง่บ้าง ที่ไม่รู้อะไรสักอย่างว่าเขาคบกันอยู่ คบกันมานานกว่าเราด้วยซ้ำ ตอนนั้นเราพยายามคิดว่ามีคนแกล้งแต่ป่าวเลยคะ คำพูดมันรุนแรงมากขึ้นๆจน เราทนไม่ไหวเราเลยแคปส่งไปให้แฟนเราดูใน line คะ หลังจากนั้นแฟนเราก็โทรมาอธิบายเขายอมรับคะ ว่า " เคยคุยกับผู้หญิงคนนี้ สมมุติว่าชื่อ B ละกันนะคะผู้หญิงคนนั้น แฟนเรายอมรับว่าเคยคุยกัน ก่อนเขาจะเข้ามาในชีวิตเราด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับผู้หญิงคนนั้น B อาจจะแค้นหรือหลายๆอย่างถึงต้องกลับมาทำลายเราแบบนี้ ละที่สำคัญเขาก็ยอมรับนะคะว่า เคยมีอะไรกับ B จริงๆ แต่เป็นช่วงที่เขายังไม่ได้เข้ามาในชีวิตเราด้วยซ้ำ ตอนนั้นเราฟังเราเจ็บปวดใจมาก เราร้องไห้อย่างหนัก หนักมากจริงๆแต่ก็พยายามคิดว่า "เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป แล้วในตอนนั้นแฟนเรากับเราก็ยังไม่ได้คบกัน ก็เลยพยามทำใจให้สงบคะ " แต่หลังจากนั้นเหมือน B ยังไม่ยอมหยุดหย่อนเขาพยายามติดตาม social เราทุกอย่าง แล้วเขาก็รับรู้ทุกอย่างเวลาเราไปไหน ทำอะไร อยู่กับใคร ไปไหนกับแฟนเราบ้าง เขารับรู้หมดคะ... (เราก็ไม่ค่อยลงรูปหรือข้อความอะไรมากมายนะคะ นานๆที แต่แฟนเราเป็นคนไม่เล่น social คะ เคยเล่นแต่ก็ไม่เล่นแล้ว....... Facebook เราเคยลงรูปคู่กัน เคยมีหลายๆอย่างที่ทำให้คนอื่นรู้ว่า เออเราคบกันนะ ซึ่งช่วงนั้นเราสบายใจมาก แต่สุดท้ายมันก็ไม่นานคะ เขาเลือกที่จะปิด Facebook โดยอ้างถึงเหตุผลต่างๆนานา (อยากจะเตือนสาวๆว่า ผู้ชายที่เจ้าชู้เงียบจะเป็นแบบนี้นะคะเขาจะทำตัวไม่เล่น social อะไรสักอย่างเพื่อ จีบหญิงหรือมีความสัมพันธ์กับคนอื่น ไปเรื่อยๆ เพราะสมัยนี้ถ้าทาง social เราสามารถจับผิดได้ง่ายๆเลยคะ อันนี้ย้ำว่า เฉพาะบางคน! บางคนเท่านั้นคะ !!***
เราก็ไม่อะไรคะ ก็คบกันต่อ เราก็ยังลงรูปคู่ หรืออะไรที่เกี่ยวกับเขาบ้างนานๆที (ถึงเขาจะไม่เล่น ละไม่เข้ามาเห็นก็ตาม) แต่เราเชื่อว่ามันเป็นการให้เกีรยติแฟนอย่างนึง คือ "การแสดงออกว่ามีแฟนแล้ว แต่ไม่ได้ถึงขั้นโจ่งแจ้งอะไรขนาดนั้น คือทุกอย่างต้องมีความพอดีคะ เราก็ไม่ได้แสดงออกถึงขั้นอยากให้โลกรับรู้ แต่เราก็ไม่เคยซ่อน ไม่เคยปิดบัง และตัดโอกาสที่ผู้ชายคนอื่นจะเข้ามาหาเราคะ
ตลอดเวลาที่คบกันมา มีบ้างคะที่มี "คนอื่น" พยายามเข้ามาหาเรา อันนี้ไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่เราก็แค่คุยแบบเพื่อน บอกให้เขารู้เออเรามีแฟนแล้วนะ บลาๆ แต่ก็มีผู้ชายคนนึงขอใช้ตัวย่อว่า " L " นะคะ เป็นคนที่ดีมากๆ เขาเป็นเพื่อนที่ดีคนนึง เราเคยคุยกันจนบางทีอาจเลยคำว่าเพื่อนไปนิด ในช่วงที่เราเคยห่างกับแฟนเราประมาณ 1 เดือนกว่าๆ (ก่อนจะกลับมาดีกันถึงตอนเกิดเรื่องนี้คะ) เราก็เคยไปดูหนัง ทานข้าวกับ L แต่รับรองว่า ไม่เคยมีอะไรเกินเลย แม้แต่มือยังไม่เคยจับ ในความรู้สึกตอนนั้นเรารู้สึกผิดในใจ เพราะตลอดเวลาเราคิดถึงแฟนเราตลอด และคิดว่าไม่มีใครแทนที่เขาได้
เราตัดสินใจกลับไปหาแฟนเราคะ โดยเราก็สารภาพทุกอย่างว่าเราเคยไปดูหนังกินข้าวนะกับคนนี้ แต่เราไม่รู้สึกอะไร คิดเป็นแค่เพื่อนจริงๆ เราสารภาพเพราะไม่อยากให้เขามารู้ด้วยตัวเองทีหลัง ตอนนั้นเรามีความสุขมาก สุขอย่างบอกไม่ถูกที่ได้กลับมาดีกับแฟนเรา กลับมาเป็นเหมือนเดิม เราคุยกันทุกวันคะทาง line บ้าง โทรหากันบ้าง เจอกันก็ตามที่บอกคะอาทิตย์ละ 2-3 วัน บางทีงานยุ่งๆเรียนหนักๆช่วงสอบ ( เราทั้งคู่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยคะ ) ก็มีบ้างที่จะเจอสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ ครั้ง ซึ่งเราก็โอเคเข้าใจทุกอย่างเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน แต่เวลามีโอกาสเขาก็ชวนเราไปดูหนังทานข้าว หรือ บางทีเราก็เป็นฝ่ายชวน ซึ่งไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาปฎิเสธคะ แต่คนเป็นแฟนกันก็มีบ้างที่น้อยใจ ผิดใจ ไม่เข้าใจ ทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกครั้งพอเราใจเย็นทั้งคู่เราก็จะมัก ขอโทษ กันแล้วความรู้สึกรัก ก็ ชนะทุกอย่างคะ อภัย ต่อกันละก็เดินมาด้วยกันต่อจนถึงวันนี้...............
ช่วงนั้น เรารู้สึกอยากหยุดเวลาเอาไว้ เวลาเราอยู่ข้างๆเขาเรารู้สึก ปลอดภัยและก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะเขาโตกว่าเรา แล้วก็เราไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคะ เราเลยรู้สึกเหมือนเขาแทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิต เป็นเหมือนพี่ชาย แฟน เพื่อน เป็นทุกอย่างที่คอย ดูแลเราตอนเราไม่สบาย ตอนเราเมา แล้วเขาก็รู้จักกับ คุณแม่เรา ซึ่งตอนแรก คุณแม่เราก็ชอบเขาแล้วก็รักเขาเหมือนลูกอีกคน จนเรื่องนี้เกิดขึ้นมาคะ (เกริ่นซะยาวไปหน่อย อย่าว่ากันน้าา 55555555555555555 ) เมื่อวาน ผู้หญิงคนนั้น B โทรหาเราคะตอนแรกเราไม่รู้ว่าใคร เราก็รับ แล้วเราก็คุยกับ B คุยดีคะ ตอนนั้นเราก็ถาม B ทุกอย่างที่เราค้างคาใจ B ก็เล่าว่า เขาทั้งสองยังมีความสัมพันธ์ต่อกันมาตลอด จนเกิดเรื่องแอพ ask.fm นั้นขึ้นมา แล้ว แฟนเราก็โทรไปด่า B จน B บล้อคทุกอย่างและตัดสินใจที่จะจบเรื่องนี้ แต่ฝ่ายชาย(แฟนเรา) ยังไม่จบ โดยการส่ง sms ไปหา B ว่า "อยู่ไหนเดี๊ยวไปหา" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา....... วินาทีนั้นเรา ท้อ ทรุด ไปหมดเสียใจ เหมือน โดนมีดกรีดลงมาที่หัวใจ ใครไม่เคยโดนไม่รู้ถึงความรู้สึกนี้คะ เราพูดจริงๆไม่ได้ โอเว่อร์ เหมือนความไว้ใจ ความรัก ความเคารพ ความเชื่อใจ ทุกอย่างมันถูกทำลายเหมือนเราเป็นคนโง่ โง่มาตลอด....... เราตัดสินใจโทหาแฟนเรา เพราะต้องการความจริงที่ออกมาจากปากเขา เขาไม่ยอมรับคะแล้วโมโหใส่เราเฉย.. (เกลียดมากๆนิสัยแบบพอตัวเองผิดละพอจับได้ กลับทำโมโหใส่) แต่เขายอมรับว่า ส่ง sms ไปอย่างนั้นจริง เพราะฝ่ายหญิงส่งมาก่อนว่า นี่ b นะแม่ b ประสบอุบัติเหตุ เขาเลยส่ง กลับไปแบบนั้น...
แต่พอเราคาดคั้นขอดู sms นั้น เขากลับให้เราดูไม่ได้คะ เขาบอกว่า ถ้าเชื่อคนอื่นก็ตามใจ แล้วก็ไม่ยอมรับเด็ดขาดว่ายังมีความสัมพันธ์กับ B แต่เขากลับใช้คำพูดที่รุนแรง เขาเป็นคนที่พูดแรง โมโหร้าย มานานแล้วคะ แต่เราก็เป็นฝ่ายทนมาตลอด...คิดว่า เออเดี๊ยวเขาเป็นเขาก็หาย พอเขาหายโมโห เขาก็จะขอโทษเราทุกครั้งแล้วดีกันแบบทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาคะ.....เขาบอกว่า เขาขอเลิกกับเรา ขอให้ยุติความสัมพันธ์กับเรา ตอนนั้นเราเสียใจมากร้องไห้โฮ เลยทางโทรศัพท์ เขาก็ด่าเรา ด่าชนิดที่ว่า พ่อแม่เรายังไม่เคยด่าแบบนี้ จนเราต้องยอมกดวางสายคะ
หลังจากนั้น อีกประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็ตัดสินใจโทรหาเขาใหม่ เพราะเราใจเย็นขึ้นแล้ว เราโทรหาเขาพร้อมกับโทรหาผู้หญิงคนนั้น ละคือออ ไม่รับสายด้วยกันทั้งคู่ เราเลยโทรหาแฟนเราประมาณ 12 สายคะ จนสุดท้ายเขาโทรกลับมา เสียงโมโหมากกกกกกกกกกกก เหมือนต้องการตัดขาดกับเราเต็มทน เขาตะคอกใส่ว่า "เออ gu คบ 2 คน gu คบกับ...ละก็กับ มันไปพร้อมกันๆพอใจหรือยัง อี... อยากได้ยินคำตอบแบบนี้ใช่มั้ย พอgu พูดความจริงแล้วไม่เชื่อ พอใจรึยังงงละ" วินาทีนั้นเหมือนโลกเราหยุดหมุน เหมือนทุกสิ่งมันกลายเป็น 0 อนาคตที่เราคิดไว้ ต้องถึงจุดเปลี่ยน เราร้องไห้โฮละกอดแม่กอดเพื่อนเรา เรากดตัดสายนั้นไป จนอีกแปปเขาโทรมาใหม่แต่คราวนี้เป็น คุณแม่เราที่เป็นคนรับสายคะ.... ละคุณแม่ก็กดวางไป....
ตอนนั้นเราเหมือนหมดสิ้น เพราะทุกอนาคตเราคิดไว้ว่า มีเขาเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งที่สำคัญเสมอ เราไม่ได้นอนทั้งคืน เราตัดสินใจ บล็อคเบอร์เขา เท่ากับทุกอย่างให้มัน ยุติเพียงเท่านี้เราเจ็บมามากพอ เราสงสารแม่เวลาแม่เห็นเราร้องไห้ แม่คงทรมานไม่น้อยไปกว่าเรา เราเจ็บจริงๆแต่เชื่อว่าสักวันเราต้องผ่านไป จะคบกันกี่ปีกี่วันกี่เดือน ยังไงถ้ามันไม่ใช่สุดท้ายก็ต้องเลิก เราพยายามคิดว่าหมดเวรหมดกรรม หมดทุกสิ่งอย่างที่เคยมีให้กัน แต่ถ้าถามว่า ความรักที่เรามีให้เขาในเวลานี้ยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย? ตอบเลยคะ ว่าเหมือนเดิม เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่แค่หมดศรัทธาในความรักที่เรามีให้เขา ซึ่งคนเราถ้าหมดศรัทธา หมดความเชื่อใจไว้ใจต่อกัน คบกันต่อไปยังไงก็ไม่รอด...
สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอเรื่องแบบนี้เหมือนกับเรา ในตอนนี้อนาคตที่เราวางไว้อาจจะเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ทำให้เราต้องระวังทุกก้าวที่วางแผนไว้ให้มากขึ้น ไม่โกรธไม่เกลียดคะขอให้เขาดูแลตัวเองให้ดี ละถ้าเขาจะคบกันจริงๆก็ขอให้เขามีความสุขมากๆ ขอบคุณเวลาที่ผ่านมาคะ : )
เมื่อความ "เชื่อใจ" กลับมาทำร้ายเรา
เขาเป็นผู้ชายที่ไม่โรแมนติค แต่เราเชื่อว่าเขาเป็นคนดี มีความเป็นผู้ใหญ่ เรามีความเป็นเด็กอยู่ค่อนข้างขี้น้อยใจ แต่ก็น้อยมากๆๆนะคะถ้าเทียบกับผู้หญิงรอบๆตัวเรา เพื่อนๆของเรา คือ เราเป็นคนไม่ตาม ไม่วุ่นวาย ไม่เช็คโทรศัพท์ ตลอดเวลาที่คบกันมาเลยนะคะ เพราะเราเชื่อใจ! คำว่า "เชื่อใจ" นี่ละคะ ที่ย้อนกลับมาทำร้ายเราอย่างเจ็บปวด....
มีอยู่ช่วงนึงที่มีแอพชื่อดัง ask.fm ขึ้นมาช่วงรนั้นมี ผู้หญิงคนนึง ตามราวีเราต่างๆนานา ว่า ด่าเราโง่บ้าง ที่ไม่รู้อะไรสักอย่างว่าเขาคบกันอยู่ คบกันมานานกว่าเราด้วยซ้ำ ตอนนั้นเราพยายามคิดว่ามีคนแกล้งแต่ป่าวเลยคะ คำพูดมันรุนแรงมากขึ้นๆจน เราทนไม่ไหวเราเลยแคปส่งไปให้แฟนเราดูใน line คะ หลังจากนั้นแฟนเราก็โทรมาอธิบายเขายอมรับคะ ว่า " เคยคุยกับผู้หญิงคนนี้ สมมุติว่าชื่อ B ละกันนะคะผู้หญิงคนนั้น แฟนเรายอมรับว่าเคยคุยกัน ก่อนเขาจะเข้ามาในชีวิตเราด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับผู้หญิงคนนั้น B อาจจะแค้นหรือหลายๆอย่างถึงต้องกลับมาทำลายเราแบบนี้ ละที่สำคัญเขาก็ยอมรับนะคะว่า เคยมีอะไรกับ B จริงๆ แต่เป็นช่วงที่เขายังไม่ได้เข้ามาในชีวิตเราด้วยซ้ำ ตอนนั้นเราฟังเราเจ็บปวดใจมาก เราร้องไห้อย่างหนัก หนักมากจริงๆแต่ก็พยายามคิดว่า "เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป แล้วในตอนนั้นแฟนเรากับเราก็ยังไม่ได้คบกัน ก็เลยพยามทำใจให้สงบคะ " แต่หลังจากนั้นเหมือน B ยังไม่ยอมหยุดหย่อนเขาพยายามติดตาม social เราทุกอย่าง แล้วเขาก็รับรู้ทุกอย่างเวลาเราไปไหน ทำอะไร อยู่กับใคร ไปไหนกับแฟนเราบ้าง เขารับรู้หมดคะ... (เราก็ไม่ค่อยลงรูปหรือข้อความอะไรมากมายนะคะ นานๆที แต่แฟนเราเป็นคนไม่เล่น social คะ เคยเล่นแต่ก็ไม่เล่นแล้ว....... Facebook เราเคยลงรูปคู่กัน เคยมีหลายๆอย่างที่ทำให้คนอื่นรู้ว่า เออเราคบกันนะ ซึ่งช่วงนั้นเราสบายใจมาก แต่สุดท้ายมันก็ไม่นานคะ เขาเลือกที่จะปิด Facebook โดยอ้างถึงเหตุผลต่างๆนานา (อยากจะเตือนสาวๆว่า ผู้ชายที่เจ้าชู้เงียบจะเป็นแบบนี้นะคะเขาจะทำตัวไม่เล่น social อะไรสักอย่างเพื่อ จีบหญิงหรือมีความสัมพันธ์กับคนอื่น ไปเรื่อยๆ เพราะสมัยนี้ถ้าทาง social เราสามารถจับผิดได้ง่ายๆเลยคะ อันนี้ย้ำว่า เฉพาะบางคน! บางคนเท่านั้นคะ !!***
เราก็ไม่อะไรคะ ก็คบกันต่อ เราก็ยังลงรูปคู่ หรืออะไรที่เกี่ยวกับเขาบ้างนานๆที (ถึงเขาจะไม่เล่น ละไม่เข้ามาเห็นก็ตาม) แต่เราเชื่อว่ามันเป็นการให้เกีรยติแฟนอย่างนึง คือ "การแสดงออกว่ามีแฟนแล้ว แต่ไม่ได้ถึงขั้นโจ่งแจ้งอะไรขนาดนั้น คือทุกอย่างต้องมีความพอดีคะ เราก็ไม่ได้แสดงออกถึงขั้นอยากให้โลกรับรู้ แต่เราก็ไม่เคยซ่อน ไม่เคยปิดบัง และตัดโอกาสที่ผู้ชายคนอื่นจะเข้ามาหาเราคะ
ตลอดเวลาที่คบกันมา มีบ้างคะที่มี "คนอื่น" พยายามเข้ามาหาเรา อันนี้ไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่เราก็แค่คุยแบบเพื่อน บอกให้เขารู้เออเรามีแฟนแล้วนะ บลาๆ แต่ก็มีผู้ชายคนนึงขอใช้ตัวย่อว่า " L " นะคะ เป็นคนที่ดีมากๆ เขาเป็นเพื่อนที่ดีคนนึง เราเคยคุยกันจนบางทีอาจเลยคำว่าเพื่อนไปนิด ในช่วงที่เราเคยห่างกับแฟนเราประมาณ 1 เดือนกว่าๆ (ก่อนจะกลับมาดีกันถึงตอนเกิดเรื่องนี้คะ) เราก็เคยไปดูหนัง ทานข้าวกับ L แต่รับรองว่า ไม่เคยมีอะไรเกินเลย แม้แต่มือยังไม่เคยจับ ในความรู้สึกตอนนั้นเรารู้สึกผิดในใจ เพราะตลอดเวลาเราคิดถึงแฟนเราตลอด และคิดว่าไม่มีใครแทนที่เขาได้
เราตัดสินใจกลับไปหาแฟนเราคะ โดยเราก็สารภาพทุกอย่างว่าเราเคยไปดูหนังกินข้าวนะกับคนนี้ แต่เราไม่รู้สึกอะไร คิดเป็นแค่เพื่อนจริงๆ เราสารภาพเพราะไม่อยากให้เขามารู้ด้วยตัวเองทีหลัง ตอนนั้นเรามีความสุขมาก สุขอย่างบอกไม่ถูกที่ได้กลับมาดีกับแฟนเรา กลับมาเป็นเหมือนเดิม เราคุยกันทุกวันคะทาง line บ้าง โทรหากันบ้าง เจอกันก็ตามที่บอกคะอาทิตย์ละ 2-3 วัน บางทีงานยุ่งๆเรียนหนักๆช่วงสอบ ( เราทั้งคู่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยคะ ) ก็มีบ้างที่จะเจอสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ ครั้ง ซึ่งเราก็โอเคเข้าใจทุกอย่างเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน แต่เวลามีโอกาสเขาก็ชวนเราไปดูหนังทานข้าว หรือ บางทีเราก็เป็นฝ่ายชวน ซึ่งไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาปฎิเสธคะ แต่คนเป็นแฟนกันก็มีบ้างที่น้อยใจ ผิดใจ ไม่เข้าใจ ทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกครั้งพอเราใจเย็นทั้งคู่เราก็จะมัก ขอโทษ กันแล้วความรู้สึกรัก ก็ ชนะทุกอย่างคะ อภัย ต่อกันละก็เดินมาด้วยกันต่อจนถึงวันนี้...............
ช่วงนั้น เรารู้สึกอยากหยุดเวลาเอาไว้ เวลาเราอยู่ข้างๆเขาเรารู้สึก ปลอดภัยและก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะเขาโตกว่าเรา แล้วก็เราไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคะ เราเลยรู้สึกเหมือนเขาแทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิต เป็นเหมือนพี่ชาย แฟน เพื่อน เป็นทุกอย่างที่คอย ดูแลเราตอนเราไม่สบาย ตอนเราเมา แล้วเขาก็รู้จักกับ คุณแม่เรา ซึ่งตอนแรก คุณแม่เราก็ชอบเขาแล้วก็รักเขาเหมือนลูกอีกคน จนเรื่องนี้เกิดขึ้นมาคะ (เกริ่นซะยาวไปหน่อย อย่าว่ากันน้าา 55555555555555555 ) เมื่อวาน ผู้หญิงคนนั้น B โทรหาเราคะตอนแรกเราไม่รู้ว่าใคร เราก็รับ แล้วเราก็คุยกับ B คุยดีคะ ตอนนั้นเราก็ถาม B ทุกอย่างที่เราค้างคาใจ B ก็เล่าว่า เขาทั้งสองยังมีความสัมพันธ์ต่อกันมาตลอด จนเกิดเรื่องแอพ ask.fm นั้นขึ้นมา แล้ว แฟนเราก็โทรไปด่า B จน B บล้อคทุกอย่างและตัดสินใจที่จะจบเรื่องนี้ แต่ฝ่ายชาย(แฟนเรา) ยังไม่จบ โดยการส่ง sms ไปหา B ว่า "อยู่ไหนเดี๊ยวไปหา" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา....... วินาทีนั้นเรา ท้อ ทรุด ไปหมดเสียใจ เหมือน โดนมีดกรีดลงมาที่หัวใจ ใครไม่เคยโดนไม่รู้ถึงความรู้สึกนี้คะ เราพูดจริงๆไม่ได้ โอเว่อร์ เหมือนความไว้ใจ ความรัก ความเคารพ ความเชื่อใจ ทุกอย่างมันถูกทำลายเหมือนเราเป็นคนโง่ โง่มาตลอด....... เราตัดสินใจโทหาแฟนเรา เพราะต้องการความจริงที่ออกมาจากปากเขา เขาไม่ยอมรับคะแล้วโมโหใส่เราเฉย.. (เกลียดมากๆนิสัยแบบพอตัวเองผิดละพอจับได้ กลับทำโมโหใส่) แต่เขายอมรับว่า ส่ง sms ไปอย่างนั้นจริง เพราะฝ่ายหญิงส่งมาก่อนว่า นี่ b นะแม่ b ประสบอุบัติเหตุ เขาเลยส่ง กลับไปแบบนั้น...
แต่พอเราคาดคั้นขอดู sms นั้น เขากลับให้เราดูไม่ได้คะ เขาบอกว่า ถ้าเชื่อคนอื่นก็ตามใจ แล้วก็ไม่ยอมรับเด็ดขาดว่ายังมีความสัมพันธ์กับ B แต่เขากลับใช้คำพูดที่รุนแรง เขาเป็นคนที่พูดแรง โมโหร้าย มานานแล้วคะ แต่เราก็เป็นฝ่ายทนมาตลอด...คิดว่า เออเดี๊ยวเขาเป็นเขาก็หาย พอเขาหายโมโห เขาก็จะขอโทษเราทุกครั้งแล้วดีกันแบบทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาคะ.....เขาบอกว่า เขาขอเลิกกับเรา ขอให้ยุติความสัมพันธ์กับเรา ตอนนั้นเราเสียใจมากร้องไห้โฮ เลยทางโทรศัพท์ เขาก็ด่าเรา ด่าชนิดที่ว่า พ่อแม่เรายังไม่เคยด่าแบบนี้ จนเราต้องยอมกดวางสายคะ
หลังจากนั้น อีกประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็ตัดสินใจโทรหาเขาใหม่ เพราะเราใจเย็นขึ้นแล้ว เราโทรหาเขาพร้อมกับโทรหาผู้หญิงคนนั้น ละคือออ ไม่รับสายด้วยกันทั้งคู่ เราเลยโทรหาแฟนเราประมาณ 12 สายคะ จนสุดท้ายเขาโทรกลับมา เสียงโมโหมากกกกกกกกกกกก เหมือนต้องการตัดขาดกับเราเต็มทน เขาตะคอกใส่ว่า "เออ gu คบ 2 คน gu คบกับ...ละก็กับ มันไปพร้อมกันๆพอใจหรือยัง อี... อยากได้ยินคำตอบแบบนี้ใช่มั้ย พอgu พูดความจริงแล้วไม่เชื่อ พอใจรึยังงงละ" วินาทีนั้นเหมือนโลกเราหยุดหมุน เหมือนทุกสิ่งมันกลายเป็น 0 อนาคตที่เราคิดไว้ ต้องถึงจุดเปลี่ยน เราร้องไห้โฮละกอดแม่กอดเพื่อนเรา เรากดตัดสายนั้นไป จนอีกแปปเขาโทรมาใหม่แต่คราวนี้เป็น คุณแม่เราที่เป็นคนรับสายคะ.... ละคุณแม่ก็กดวางไป....
ตอนนั้นเราเหมือนหมดสิ้น เพราะทุกอนาคตเราคิดไว้ว่า มีเขาเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งที่สำคัญเสมอ เราไม่ได้นอนทั้งคืน เราตัดสินใจ บล็อคเบอร์เขา เท่ากับทุกอย่างให้มัน ยุติเพียงเท่านี้เราเจ็บมามากพอ เราสงสารแม่เวลาแม่เห็นเราร้องไห้ แม่คงทรมานไม่น้อยไปกว่าเรา เราเจ็บจริงๆแต่เชื่อว่าสักวันเราต้องผ่านไป จะคบกันกี่ปีกี่วันกี่เดือน ยังไงถ้ามันไม่ใช่สุดท้ายก็ต้องเลิก เราพยายามคิดว่าหมดเวรหมดกรรม หมดทุกสิ่งอย่างที่เคยมีให้กัน แต่ถ้าถามว่า ความรักที่เรามีให้เขาในเวลานี้ยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย? ตอบเลยคะ ว่าเหมือนเดิม เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่แค่หมดศรัทธาในความรักที่เรามีให้เขา ซึ่งคนเราถ้าหมดศรัทธา หมดความเชื่อใจไว้ใจต่อกัน คบกันต่อไปยังไงก็ไม่รอด...
สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอเรื่องแบบนี้เหมือนกับเรา ในตอนนี้อนาคตที่เราวางไว้อาจจะเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ทำให้เราต้องระวังทุกก้าวที่วางแผนไว้ให้มากขึ้น ไม่โกรธไม่เกลียดคะขอให้เขาดูแลตัวเองให้ดี ละถ้าเขาจะคบกันจริงๆก็ขอให้เขามีความสุขมากๆ ขอบคุณเวลาที่ผ่านมาคะ : )