สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
****เตือนเพื่อนๆ ที่ซื้อ SSD มาใช้ใหม่****
*****เตือน ลุงๆ ป้าๆ ที่ซื้อ SSD มาใหม่****
SSD สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว "อย่า" ได้ไปปรับแต่งตามกระทู้ต่างๆ ในเว็บบอร์ดนั้นนี้นะครับ
พวกคู่มือการใช้ SSD อะไรพวกนี้ ตกยุคและเขียนด้วยความรู้ด้าน SSD ที่ไม่เพียงพอ ทั้งในไทยและต่างประเทศครับ
วิศวะกรของ Microsoft บอกมาเองว่า Windows 8 ขึ้นไปรู้จัก SSD เป็นอย่างดี เขาเขียน Service มาเพื่อให้รองรับอัตโนมัติครับ
1. page file ไม่กระทบการทำงานอะไรของ SSD เลย มันมี blank space กับ use space
1.1 จะใหญ่จะเล็กก็ไม่มีผล SSD มันนับ Host write กับ NAND write ครับ ถ้าเป็น blank space NAND write ก็ไม่กระดิก ดังนั้นปรับขนาดไปมีแต่ผลเสีย เปิด auto ไว้ดีสุดครับ
1.2 ถ้าย้ายไป HDD ปกติ ก็ถือว่าเสียของครับ SSD มันเร็วกว่า HDD อีกส่วนก็จาก page file ที่เร็วกว่า HDD ปกติมาก และต่อให้มี RAM 32 GB ก็ยังมีการ access page file ครับ ถ้าซื้อมาแล้วได้ความเร็วไม่สุด ใส่ HDD ดีกว่าครับ เพราะ page file แทบไม่กระทบอายุการใช้งาน SSD สมัยใหม่ครับ
2. automatic defrag วิศวะกร Microsoft ฉลาดกว่าผม เราๆ ท่านๆ หรือคนเขียนกระทู้ปรับแต่งเยอะครับ เวลา Windows ตรวจสอบเจอว่าเป็น SSD เขาไม่ defrag แต่เป็นคำสั่ง trim แทน ทำให้ SSD ประสิทธิภาพดีขึ้น อายุยืนขึ้น ถ้าไปปิดกลับทำให้ ssd ท่านห่วยลงอีก ใน Windows 8 เนี่ยต่อให้คุณอยาก defrag จาก Windows ยังไม่ได้เลยครับ เพราะมันจะให้ trim อย่างเดียว
ดังนั้นปรับไป เสียของรอบ 2
3. คุณปิด Hibernate ก็เท่ากับเสียความสามารถ hybrid boot ของ Windows 8 / 8.1 ไป น่าเสียดายมากๆ ครับ จุดขายของ 8 / 8.1 เลยนะครับ อีกทั้ง Hibernate ก็ไม่ได้ทำร้าย SSD อะไรเลย
4. แถมให้ เรื่องย้าย cache file อันนี้ยิ่งสาหัส คุณซื้อ SSD เพราะแน่นอนหวังความเร็ว ความเร็วและลื่นไหลของ SSD ที่ให้คุณ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ cache ไม่ต้องรอ busy time แบบเดิมๆ ทำให้รู้สึกโดยรวมว่าลื่นไหลกว่าเดิมมากๆ การไปย้ายนั้นเสียของ เสียของ อย่างไม่น่าให้อภัยครับ
เพราะ cache file นั้นต่อให้คุณเล่นทั้งวันมันก็หลักไม่กี่ GB แทบไม่กระทบอายุ SSD สมัยนี้ครับ
Controller กับ wear leveling control algorithm สมัยนี้ฉลาดมากๆ ครับ ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งอะไรกับมันเลย ปรับไปปรับมาประสิทธิภาพตก ใช้ได้ไม่เต็มที่อีก
หรืออย่าง service ของ Windows เอง ยกตัวอย่าง prefetch/superfetch นั้น เขาออกก็ออกแบบ service มาให้รองรับทั้ง SSD และ HDD โดยมันจะไม่สนใจส่วน SSD แต่ทำงานในส่วน HDD ตามปกติเป็นต้นครับ
ดังนั้นถ้าท่านเป็น user ทั่วไป ไม่เข้าใจว่าแต่ละส่วนทำงานยังไง ไม่จำเป็นต้องปรับครับ บางท่านที่ปรับเพราะเขาเข้าใจจริงๆ ว่าตัวเขาต้องการอะไรครับ
การปรับแต่ง Windows ตามคู่มือผิดๆ พวกนั้นจะทำให้ SSD ของท่าน ใช้ประสิทธิภาพได้ไม่เต็ม และไม่คุ้มเงินสุดๆ ครับ
ไม่ต้องไปปรับอะไรทั้งนั้นครับ ทั้ง Windows 7 และ Windows 8 ครับ
ยังไง Windows 7 มันไม่ยอมให้ท่าน Defrag SSD อยู่แล้วครับ
---
SSD สมัยนี้ทนกว่า HDD สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้วครับ คำว่าอายุการใช้งานสั้น เสื่อมไว นั้นว่ากันไปเรื่อยเปื่อยครับ
TechReport เทสความทนของ NAND ไว้ หลายรุ่น ทุกรุ่นสามารถทะลุกำแพง 600TB ได้หมดครับ และท่าไปได้อีกยาว
ตอนนี้ทะลุ 600 TB แล้วยังไม่มีวี่แววของอาการผิดปกติครับ น่าจะยังไปได้อีกไกลครับ
600 TB = 614,400 GB คำนวนได้ดังนี้ ครับ
ใช้งานหนักมากๆ ผลิตมนุษย์มนา วันละ 20 GB = 30,720 วัน หรือ 84 ปี
ใช้งานแบบบ้าคลั่ง ลง Windows ใหม่วันละ 1 รอบทุกวันพร้อมโปรแกรม วันละ 40 GB = 15,360 วัน หรือ 42 ปี
ใช้งานโหลดบิท ลง SSD เน้นว่าโหลดลง SSD ตรงๆ หนัง HD วันละ 10 เรื่อง 80 GB ต่อวัน = 7,680 วัน หรือ 21 ปี
ครับสำหรับอายุของ NAND
600 TB นี่ยังไปต่อได้อีกนะครับ น่าจะได้อีกเยอะเลยครับ
ส่วน 840 Pro นี่ระดับ PB ครับ
ใช้งานทั่วไป HDD มีโอกาสเสียก่อนเยอะครับ
ยังไงลองปรับกลับเป็นสภาพดั้งเดิมก่อนครับ
จากผมที่เข้าใจ SSD เป็นอย่างดีกว่าคนเขียนบทความพวกนั้นครับ พวกนั้นเขียนบทความภาษาแมวอะไรไม่เข้าท่า
ยังไงลองกดที่ชื่อผมดูกระทู้เก่าๆ ของผมได้ครับ เรื่อง SSD ครับ
*****เตือน ลุงๆ ป้าๆ ที่ซื้อ SSD มาใหม่****
SSD สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว "อย่า" ได้ไปปรับแต่งตามกระทู้ต่างๆ ในเว็บบอร์ดนั้นนี้นะครับ
พวกคู่มือการใช้ SSD อะไรพวกนี้ ตกยุคและเขียนด้วยความรู้ด้าน SSD ที่ไม่เพียงพอ ทั้งในไทยและต่างประเทศครับ
วิศวะกรของ Microsoft บอกมาเองว่า Windows 8 ขึ้นไปรู้จัก SSD เป็นอย่างดี เขาเขียน Service มาเพื่อให้รองรับอัตโนมัติครับ
1. page file ไม่กระทบการทำงานอะไรของ SSD เลย มันมี blank space กับ use space
1.1 จะใหญ่จะเล็กก็ไม่มีผล SSD มันนับ Host write กับ NAND write ครับ ถ้าเป็น blank space NAND write ก็ไม่กระดิก ดังนั้นปรับขนาดไปมีแต่ผลเสีย เปิด auto ไว้ดีสุดครับ
1.2 ถ้าย้ายไป HDD ปกติ ก็ถือว่าเสียของครับ SSD มันเร็วกว่า HDD อีกส่วนก็จาก page file ที่เร็วกว่า HDD ปกติมาก และต่อให้มี RAM 32 GB ก็ยังมีการ access page file ครับ ถ้าซื้อมาแล้วได้ความเร็วไม่สุด ใส่ HDD ดีกว่าครับ เพราะ page file แทบไม่กระทบอายุการใช้งาน SSD สมัยใหม่ครับ
2. automatic defrag วิศวะกร Microsoft ฉลาดกว่าผม เราๆ ท่านๆ หรือคนเขียนกระทู้ปรับแต่งเยอะครับ เวลา Windows ตรวจสอบเจอว่าเป็น SSD เขาไม่ defrag แต่เป็นคำสั่ง trim แทน ทำให้ SSD ประสิทธิภาพดีขึ้น อายุยืนขึ้น ถ้าไปปิดกลับทำให้ ssd ท่านห่วยลงอีก ใน Windows 8 เนี่ยต่อให้คุณอยาก defrag จาก Windows ยังไม่ได้เลยครับ เพราะมันจะให้ trim อย่างเดียว
ดังนั้นปรับไป เสียของรอบ 2
3. คุณปิด Hibernate ก็เท่ากับเสียความสามารถ hybrid boot ของ Windows 8 / 8.1 ไป น่าเสียดายมากๆ ครับ จุดขายของ 8 / 8.1 เลยนะครับ อีกทั้ง Hibernate ก็ไม่ได้ทำร้าย SSD อะไรเลย
4. แถมให้ เรื่องย้าย cache file อันนี้ยิ่งสาหัส คุณซื้อ SSD เพราะแน่นอนหวังความเร็ว ความเร็วและลื่นไหลของ SSD ที่ให้คุณ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ cache ไม่ต้องรอ busy time แบบเดิมๆ ทำให้รู้สึกโดยรวมว่าลื่นไหลกว่าเดิมมากๆ การไปย้ายนั้นเสียของ เสียของ อย่างไม่น่าให้อภัยครับ
เพราะ cache file นั้นต่อให้คุณเล่นทั้งวันมันก็หลักไม่กี่ GB แทบไม่กระทบอายุ SSD สมัยนี้ครับ
Controller กับ wear leveling control algorithm สมัยนี้ฉลาดมากๆ ครับ ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งอะไรกับมันเลย ปรับไปปรับมาประสิทธิภาพตก ใช้ได้ไม่เต็มที่อีก
หรืออย่าง service ของ Windows เอง ยกตัวอย่าง prefetch/superfetch นั้น เขาออกก็ออกแบบ service มาให้รองรับทั้ง SSD และ HDD โดยมันจะไม่สนใจส่วน SSD แต่ทำงานในส่วน HDD ตามปกติเป็นต้นครับ
ดังนั้นถ้าท่านเป็น user ทั่วไป ไม่เข้าใจว่าแต่ละส่วนทำงานยังไง ไม่จำเป็นต้องปรับครับ บางท่านที่ปรับเพราะเขาเข้าใจจริงๆ ว่าตัวเขาต้องการอะไรครับ
การปรับแต่ง Windows ตามคู่มือผิดๆ พวกนั้นจะทำให้ SSD ของท่าน ใช้ประสิทธิภาพได้ไม่เต็ม และไม่คุ้มเงินสุดๆ ครับ
ไม่ต้องไปปรับอะไรทั้งนั้นครับ ทั้ง Windows 7 และ Windows 8 ครับ
ยังไง Windows 7 มันไม่ยอมให้ท่าน Defrag SSD อยู่แล้วครับ
---
SSD สมัยนี้ทนกว่า HDD สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้วครับ คำว่าอายุการใช้งานสั้น เสื่อมไว นั้นว่ากันไปเรื่อยเปื่อยครับ
TechReport เทสความทนของ NAND ไว้ หลายรุ่น ทุกรุ่นสามารถทะลุกำแพง 600TB ได้หมดครับ และท่าไปได้อีกยาว
ตอนนี้ทะลุ 600 TB แล้วยังไม่มีวี่แววของอาการผิดปกติครับ น่าจะยังไปได้อีกไกลครับ
600 TB = 614,400 GB คำนวนได้ดังนี้ ครับ
ใช้งานหนักมากๆ ผลิตมนุษย์มนา วันละ 20 GB = 30,720 วัน หรือ 84 ปี
ใช้งานแบบบ้าคลั่ง ลง Windows ใหม่วันละ 1 รอบทุกวันพร้อมโปรแกรม วันละ 40 GB = 15,360 วัน หรือ 42 ปี
ใช้งานโหลดบิท ลง SSD เน้นว่าโหลดลง SSD ตรงๆ หนัง HD วันละ 10 เรื่อง 80 GB ต่อวัน = 7,680 วัน หรือ 21 ปี
ครับสำหรับอายุของ NAND
600 TB นี่ยังไปต่อได้อีกนะครับ น่าจะได้อีกเยอะเลยครับ
ส่วน 840 Pro นี่ระดับ PB ครับ
ใช้งานทั่วไป HDD มีโอกาสเสียก่อนเยอะครับ
ยังไงลองปรับกลับเป็นสภาพดั้งเดิมก่อนครับ
จากผมที่เข้าใจ SSD เป็นอย่างดีกว่าคนเขียนบทความพวกนั้นครับ พวกนั้นเขียนบทความภาษาแมวอะไรไม่เข้าท่า
ยังไงลองกดที่ชื่อผมดูกระทู้เก่าๆ ของผมได้ครับ เรื่อง SSD ครับ
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาการตั้งค่า ssd ครับ
http://www.varietypc.net/webboard/index.php/topic,4980.0.html
พบปัญหา
1. ในไดฟ์ C ไม่ว่าจะเป็นหน้า desktop หรือในโฟนเดอร์ในไดฟ์ C ก็ตาม เวลากด new folder จะค้าง ต้องกด refresh ถึงจะเห็น รวมถึงการ copy ด้วยครับ
2. IE เวลากดปิด tab ค้างทุกครั้ง ต้องออกไปเลือก tab อื่นก่อนถึงจะปิดได้ครับ
3. เวลาดูรูปแล้วมีการแก้ไข เช่น การหมุนภาพ แก้ไขชื่อ ต้อง refresh ถึงจะเห็นการแก้ไขครับ
ใครพอทราบวิธีแก้บ้างครับ รบกวนด้วยครบ มือใหม่หัดใช้ ssd ครับ