ถึงโรงงานยาสูบ ด้วยความหวังดี

อยากให้โรงงานยาสูบคิดสักนิดนึงนะ
จากการรับสมัครสอบคัดเลือกล็อตใหญ่โตมโหฬารที่ผ่านมา ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2556
กว่าจะเสร็จสิ้นครบถ้วน ก็ปาเข้าไปต้นเดือน มิถุนายน 2557 สิริรวมแล้ว 6 เดือนเต็มๆ

เรามาดูว่า....มีอะไรเกิดขึ้นมั่ง เพื่อสะท้อนมุมมองจากผู้สมัครงานคนหนึ่ง เอาเป็นข้อๆ เท่าที่พอจำได้

1.ท่านให้สอบข้อเขียน...ท่านประกาศผู้ที่ผ่านข้อเขียนเข้ามาเยอะจริงๆ ทั้งๆที่ท่านก็ยังไม่แจ้งจำนวนที่ต้องการให้ทราบเลย

2. แล้วท่านก็จัดการเรียกรายชื่อชุดแรกเข้าสอบบุคลิกภาพ.....ผ่านไปแป๊บเดียว ท่านก็เรียกคนที่เหลือ คาดว่าจะเป็นผู้ที่ได้คะแนนน้อยๆ ลดหลั่นกันไป เข้ามาสอบเพิ่มจนครบทั้งหมด....เกิดอะไรขึ้น...จู่ๆท่านก็เรียกมาสอบบุคลิกภาพครบทุกคน..ท่านจัดลำดับคะแนนไว้รึเปล่า...
เชื่อว่าจัดแล้ว เพราะลำดับที่เปลี่ยน...ทำไมต้องเรียกทุกคน เหมือนเลือกขนม เผื่อไว้เยอะๆ

3.จากนั้นท่านก็เรียกทุกคนมาสอบสัมภาษณ์ ....ซึ่งบางสาขาท่านเรียกผู้ที่มีลำดับต้นๆล็อตแรกเข้าก่อน..รอไปรอมา...ประกาศรับนิดเดียว
แล้วท่านก็เรียกคนที่เหลือเข้ามาสอบสัมภาษณ์เพิ่ม...แล้วท่านก็เรียกคนชุดหลังเข้าทำงาน

4. กินเวลานานมากกกกก...สุดท้ายท่านกลับเรียกคนอันดับท้ายๆ เข้าทำงาน คนที่คาดว่าจะได้คะแนนข้อเขียนน้อยกว่า...

...อยากถามว่า ทำไมไม่เรียกตามลำดับคะแนนข้อเขียนบ้าง...สอบถามท่าน
ท่านก็บอกว่า....เราดูจากการตอบคำถาม ..น้องเข้าใจนะ อย่างบางคนเราก็ถามไปว่า

...เวลาน้องอยู่บ้าน น้องช่วยพ่อแม่ ล้างจานรึเปล่า......คือมันเป็น sense น่ะน้อง
...บางคนเราก็คลิกขึ้นมาเหมือนเวลาเราเจอเนื้อคู่เราน่ะ...ทำไมเราถึงรู้สึกได้เลยว่าคนนี้แหละใช่เลย
...คนนี้แหละที่จะมาเป็นแฟนเรา....

ข้าพเจ้าอยากจะบอกเหลือเกินว่า....คำถามมันได้มาตรฐานมั้ยล่ะ..แล้วถามกันอย่างนี้ทุกคนรึเปล่า
แล้วท่านจะรู้ได้ยังไงว่า...ถ้าคนที่เค้าไม่ได้ช่วยพ่อแม่เค้าล้างจาน...แล้วเค้าอาจจะมีหน้าที่รับผิดชอบอื่นๆอีก

อยากจะบอกท่านเหลือเกินว่า....แค่สอบสัมภาษณ์ไม่กี่นาที...มันจะรู้ตัวตนของคนๆนั้นเลยเหรอ

สามี-ภรรยาบางคนอยู่กันมาค่อนชีวิต สุดท้ายยังหย่ากันเพราะมารู้ทีหลังว่า..เข้ากันไม่ได้เลย
และจะบอกให้ว่า...คนที่พูดดี พูดเก่ง...ตอแทล..แต่เข้ามาแล้ว ทำงานไม่ได้เรื่องก็มี

...แล้วท่านรู้ไหมว่า คำถามหลายคำถามที่ท่านถามคนแรกๆไปน่ะ....เช่น หัวใจของพุทธศาสนาคืออะไร
วันวิสาขบูชาสำคัญอย่างไร...และอีกมากมายหลายคำถามประเภทนี้เนี่ย...จะถามเอาโล่ห์รึไงไม่ทราบ

ขอโทษทีนะ...เวลาท่านถามเสร็จ...คำถามเหล่านี้ก็ถูกผู้สอบสัมภาษณ์นำมาแชร์ในโซเชี่ยลเนทเวิร์คเรียบร้อยแล้ว...

แต่ท่านก็ยังใช้มุขเดิมๆถามคนอื่นที่เค้ารู้คำถามล่วงหน้าไปแล้วน่ะ...แล้วมันจะมีประโบชน์อะไรที่จะนำมาตัดสินคน..มาวัดผลคน
ทำไมท่านไม่ให้ความสำคัญกับคะแนนสอบข้อเขียนที่มันมีมาตรฐานกว่านี้ล่ะ...

จริงๆอยากจะพูดยาวๆนะ...แต่จะเอาไว้มาเพิ่มเติมทีหลัง ตอนนี้ขอเปิดหูเปิดตาท่านทั้งหลายก่อน

สรุปว่า....สุดท้ายท่านก็เลือกคนที่ลำดับท้ายๆ.มาเยอะมาก ในหลายๆสาขา..เพราะท่านให้น้ำหนักกับคำสัมภาษณ์ มาก...เกินไป ใช่มั้ย

ข้าพเจ้าอยากจะแชร์ประสบการณ์ในการสมัครคัดเลือกของหน่วยงานราชการอื่นๆที่ผ่านมาว่า เค้ามีมาตรฐานยังไง

1.  หน่วยราชการอื่นๆมีตำแหน่งงานชัดเจนก่อนเปิดรับสมัครเช่น นักบัญชี 1 ตำแหน่ง ทำให้คนที่อยากมาทำงาน จะได้รู้อัตราส่วนคร่าวๆ
2. หน่วยราชการอื่นๆ...เค้าประกาศคนที่ผ่านข้อเขียน...อย่างเหมาะสมพอดี...ถ้าคะแนนเท่าๆกันเยอะ..อาจจะประกาศเยอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
      จะไม่เยอะเกินไป
3.หน่วยราชการอื่นๆ จะให้ความสำคัญกับคะแนนสอบเป็นอันดับแรก...การสัมภาษณ์จะตั้งคำถามทั่วๆไป ไม่งี่เง่า เช่น
   คุณสามารถทำงานล่วงเวลาได้มั้ย..มีอุปสรรคในการเดินทางมั้ย...อยู่ต่างจังหวัดได้มั้ย..อะไรทำนองนี้

...ถามเพื่อ ดูความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาทำงาน...ดูว่าเป็นบุคคลที่มีสติดี ไม่วิกลจริต...ถาม-ตอบรู้เรื่อง..ไม่พิการ..ง่ายๆแค่นี้ พิแล้ว

4. หน่วยราชการอื่นๆ เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ...ก็จะเรียกตัวตามลำดับคะแนนข้อเขียนเป็นหลัก  หากคนๆนั้นไม่ได้แย่จริงๆ เช่น
   สติไม่ดี...ไม่แน่ใจ ไม่อยากทำงาน...แค่นั้นเอง  ไม่เห็นจะต้องไปถามคำถามงี่เง่าอะไรเลย

   ทำไมข้าพเจ้าถึงกล้าพูดว่า...คนที่ไม่ได้ถูกโรงงานยาสูบเรียกไปทำงานนั้น เกิดจากการสัมภาษณ์ เป็นหลัก

1. เชื่อแน่ว่าคนเหล่านี้ ที่ไม่ถูกเรียกทำงาน มีคะแนนข้อเขียนในลำดับต้นๆ เพราะคนที่ได้ไปทำงานนั้น
ตอนแรกจะให้เป็นชุดสำรองด้วยซ้ำไป เปิดหลักฐานขึ้นมาดูกันได้

2.คนเหล่านี้ตอบคำถามได้ดีมากเช่นกัน...หลายคนคาดหวังว่าจะได้เข้าทำงาน...มุ่งมั่นว่าทำงานได้ไม่มีอุปสรรคใดๆ
  ทั้งเรื่องเงินเดือน  การไปต่างจังหวัด  ทุกอย่างทำได้หมด...ผู้สัมภาษณืยังแสดงความพอใจ(จริงๆ)

3.แต่มันไม่เฟรชไง...เข้าใจประเด็นนี้มั้ย...คนสัมภาษณ์ชุดแรก สัมภาษณ์เสร็จไปแล้ว..นานมาก รอเงิบ.ก้อเรียกชุดสำรองมาสัมภาษณ์ทีหลัง
    คำตอบมันรู้กันแล้ว...มันเฟรชกว่าในความรู้สึก...และคนที่สอบคนหลังๆ เค้ารู้คำถามกันหมดแล้วจากการแชร์กัน

อยากจะให้ท่านได้ไปมองโลกกว้างๆสักนิด ตั้งคำถามสักหน่อยว่า

...ทำไม ท่านไม่ดูที่ลำดับคะแนนข้อเขียนเป็นหลัก ...
...ท่านคิดว่า คำถามสัมภาษณ์ของท่าน มาตรฐานแล้วหรือ...ท่านถามคำถามเดียวกันแบบนี้กับทุกคนแล้วหรือ...ก็ไม่ใช่ คนเค้าเอามาแชร์กัน
กระจายในโซเชี่ยลมีเดีย..

...ท่านคิดว่า คำถามเดียวกัน...คนแต่ละคนตอบไม่เหมือนกัน...มันจะชี้วัดอะไรได้หรือ เอาง่ายๆ

ท่านถามว่า...อยู่บ้าน น้องช่วยพ่อแม่ล้างจานรึเปล่า

  นาย ก.. ตอบว่า ช่วยครับ...ล้างทุกวัน
  นาย ข. ตอบว่าไม่ได้ช่วยครับ  

ท่านคิดว่า นาย ก. ดีกว่านาย ข. เหรอ...เพราะนาย ก. ช่วยพ่อแม่ล้างจาน  แค่นั้นเหรอ

ทำไมท่านไม่คิดมั่งล่ะว่า...หน้าที่นาย ข. อาจจะทำอย่างอื่นเช่นถูบ้าน หรืออาจจะต้องไปขายของ...รับผิดชอบอย่างอื่นอีกมากมาย

ขอร้องล่ะท่าน...เลิกตั้งมาตรฐานงี่เง่าไว้ที่การสัมภาษณ์เถอะ...และอย่างที่ข้าพเจ้าบอกไปแล้ว

เลือกคนจากลำดับคะแนนข้อเขียนดีกว่า...และสัมภาษณ์พอให้รู้ว่าคนๆนั้นไม่บกพร่องทางสติ สายตา หู วิกลจริต..แค่นี้ก็พอ

อย่าถามคำถามงี่เง่า อวดภูมิ เอาโล่ห์เลยนะ ขอร้อง...

หัวใจของศาสนาพุทธคืออะไร....ถามมาได้ยังไง...คนที่นับถืออิสลามเค้าจะเข้าใจมั้ย หรือแม้กระทั่งชาวพุทธก้อเหอะ..

มันจำเป็นนักเหรอ มันแสดงว่าคนที่ตอบได้เป็นคนดีงั้นเหรอ....ประสาท คนที่เค้าตอบไม่ได้ เค้าไม่เก่งเรื่องงานวิศวะเหรอ ไม่เข้าใจ..

หลายคนเตรียมตัวไปดีมาก หาข้อมูลเรื่องความรู้ทั่วไปรอบตัว..หรือเกี่ยวกับโรงงานยาสูบ ท่องพันธกิจ วิสัยทรรศน์ ไปเลย

คราวหน้าคราวหลัง...อย่าทำอีก...แล้วควรประขุมให้ได้ข้อสรุปเรื่องจำนวนทีต้องการก่อนจัดสอบ

/เหนื่อย  เอาไปคิดนะท่าน....อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว...

ขอแท้กห้องย่อย  มหาวิทยาลัยเพราะผู้สมัครจบมหาลัย เอาไว้แชร์ข้อมูล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่