สยองเชียงใหม่หนุ่มบีบคอฆ่าแฟนสาวตายทั้งกลม ก่อนผูกคอตายตามคาหอพัก เผยทั้งคู่คบหากันมาได้ปีเศษ ก่อนมีเรื่องทะเลาะกันรุนแรง จนต้องแยกทางกันไป เช้าวันเกิดเหตุมีเพื่อนฝ่ายหญิงมาเคาะเรียกที่ห้องพัก ฝ่ายชายเป็นคนมาเปิดประตูท่าทางลุกลี้ลุกลน บอกว่าแฟนสาวออกไปทำธุระข้างนอก ทำให้เพื่อนผิดสังเกตรีบโทร.เรียกตำรวจไปตรวจสอบ จนพบว่าฝ่ายหญิงถูกซ้อมจนช้ำทั้งตัว และถูกบีบคอตายคาเตียงนอน ส่วนฝ่ายชายใช้สายไฟผูกคอตายหนีความผิดไปแล้ว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ก.ค. ร.ต.ท.นิทัศน์ อภิวงค์งาม พงส.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในห้องหมายเลข 101 ของหอพักแห่งหนึ่ง ย่านถนนโพธาราม ซอย 6 ต.ช้างเผือก จึงนำกำลัง รุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.ฐานันดร วทยาวุฑฒิกุล หัวหน้าพฐ.บก.ภ.จว.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่
ที่เกิด เหตุพบศพน.ส.พิมพ์พลอย แสนทอน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ม.8 ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่ง นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย บริเวณลำคอมีรอยถูกบีบอย่างแรง ส่วนในห้องน้ำพบศพ นายเกียรติศักดิ์ โกสัลละอายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ แฟนของน.ส.พิมพ์พลอย เสียชีวิตในสภาพใช้สายไฟผูกคอติดกับราวผ้าม่านประตูหลังห้อง
สอบ ถามเพื่อนน.ส.พิมพ์พลอยทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งคู่คบหากันมาได้ประมาณ 1 ปี แต่ระยะหลังมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนเลิกรากันไป กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนไปเคาะเรียกน.ส.พิมพ์พลอยที่ห้องเพื่อชวนกันไปทำงาน แต่ปรากฏว่านายเกียรติศักดิ์เป็นผู้มาเปิดประตู พร้อมระบุว่า น.ส.พิมพ์พลอยออกไปธุระข้างนอก แต่ลักษณะมีพิรุธทำให้ผิดสังเกตคาดว่าอาจมีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้น จึงรีบออกจากหอพักดังกล่าวก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ กระทั่งพบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพไปแล้ว โดยน.ส.พิมพ์พลอยตั้งครรภ์อยู่ประมาณ 2 เดือน
ร.ต.ท.นิทัศน์สันนิษฐานว่า ฝ่ายชายอาจตามมาขอคืนดีด้วย เนื่องจากทราบว่าแฟนสาวตั้งครรภ์ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมจึงพลั้งมือทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต และเมื่อมีเพื่อนของฝ่ายหญิงมาพบเข้า จึงใช้สายไฟผูกคอตายเพื่อหนีความผิด เบื้องต้นนำส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งคู่ให้แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ที่มา
http://goo.gl/AfqAVI
สยอง หนุ่มบีบคอฆ่าแฟนสาว ตายทั้งกลม ก่อนผูกคอตายตาม คาหอพัก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
สยองเชียงใหม่หนุ่มบีบคอฆ่าแฟนสาวตายทั้งกลม ก่อนผูกคอตายตามคาหอพัก เผยทั้งคู่คบหากันมาได้ปีเศษ ก่อนมีเรื่องทะเลาะกันรุนแรง จนต้องแยกทางกันไป เช้าวันเกิดเหตุมีเพื่อนฝ่ายหญิงมาเคาะเรียกที่ห้องพัก ฝ่ายชายเป็นคนมาเปิดประตูท่าทางลุกลี้ลุกลน บอกว่าแฟนสาวออกไปทำธุระข้างนอก ทำให้เพื่อนผิดสังเกตรีบโทร.เรียกตำรวจไปตรวจสอบ จนพบว่าฝ่ายหญิงถูกซ้อมจนช้ำทั้งตัว และถูกบีบคอตายคาเตียงนอน ส่วนฝ่ายชายใช้สายไฟผูกคอตายหนีความผิดไปแล้ว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ก.ค. ร.ต.ท.นิทัศน์ อภิวงค์งาม พงส.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในห้องหมายเลข 101 ของหอพักแห่งหนึ่ง ย่านถนนโพธาราม ซอย 6 ต.ช้างเผือก จึงนำกำลัง รุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.ฐานันดร วทยาวุฑฒิกุล หัวหน้าพฐ.บก.ภ.จว.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่
ที่เกิด เหตุพบศพน.ส.พิมพ์พลอย แสนทอน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ม.8 ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่ง นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย บริเวณลำคอมีรอยถูกบีบอย่างแรง ส่วนในห้องน้ำพบศพ นายเกียรติศักดิ์ โกสัลละอายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ แฟนของน.ส.พิมพ์พลอย เสียชีวิตในสภาพใช้สายไฟผูกคอติดกับราวผ้าม่านประตูหลังห้อง
สอบ ถามเพื่อนน.ส.พิมพ์พลอยทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งคู่คบหากันมาได้ประมาณ 1 ปี แต่ระยะหลังมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนเลิกรากันไป กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนไปเคาะเรียกน.ส.พิมพ์พลอยที่ห้องเพื่อชวนกันไปทำงาน แต่ปรากฏว่านายเกียรติศักดิ์เป็นผู้มาเปิดประตู พร้อมระบุว่า น.ส.พิมพ์พลอยออกไปธุระข้างนอก แต่ลักษณะมีพิรุธทำให้ผิดสังเกตคาดว่าอาจมีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้น จึงรีบออกจากหอพักดังกล่าวก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ กระทั่งพบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพไปแล้ว โดยน.ส.พิมพ์พลอยตั้งครรภ์อยู่ประมาณ 2 เดือน
ร.ต.ท.นิทัศน์สันนิษฐานว่า ฝ่ายชายอาจตามมาขอคืนดีด้วย เนื่องจากทราบว่าแฟนสาวตั้งครรภ์ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมจึงพลั้งมือทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต และเมื่อมีเพื่อนของฝ่ายหญิงมาพบเข้า จึงใช้สายไฟผูกคอตายเพื่อหนีความผิด เบื้องต้นนำส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งคู่ให้แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ที่มา http://goo.gl/AfqAVI