คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าไม่ใช่นักเล่นเครื่องเสียง อุปกรณ์ตัวนี้ไม่จำเป็นซักนิดเลยครับ
หน้าที่ของมันก็คือ ถอดรหัสเสียงระบบ dts ซึ่งจะมีแค่ในหนังบางเรื่อง บาง format เท่านั้น
นักเล่นหนัง+เครื่องเสียง จะชอบระบบเสียง dts กันมากๆครับ
เพราะมันให้รายละเอียดเสียง ความหนักแน่น ที่เหนือกว่าแบบชัดเจนได้อย่างดีและสะใจแบบสุดๆ
ลองอ่านดูครับ
ID : 2
Format : DTS
Format/Info : Digital Theater Systems
Codec ID : A_DTS
Duration : 1h 48mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 1 510 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 24 bits
Compression mode : Lossy
Delay relative to video : 22ms
Stream size : 1.15 GiB (12%)
Title : DTS 1510
Language : English
Audio #3
ID : 3
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 48mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 640 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 498 MiB (5%)
Title : AC3 640
Language : English
Audio #4
ID : 4
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 48mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 448 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 349 MiB (4%)
Title : AC3
Language : Thai
จากรายละเอียดด้านบน
dts บิทเรท อยู่ที่ 1510 ขนาดไฟล์เสียง 1.15 GB
ac3 บิทเรท อยู่ที่ 640 ขนาด ไฟล์เสียง498 MB
และ อีกตัว
ac3 บิทเรท อยู่ที่ 448 ขนาดไฟล์เสียง 349 MB
ซึ่งจริงๆแล้ว dts มันก็ระบบ 5.1 เหมือนกันนะแหละครับ
เพียงแต่บิทเรทเขาจะสูงกว่า 5.1 ทั่วๆไป และคุณภาพเสียงก็จะดีกว่าแบบรู้สึกได้
เว้นเสียแต่ว่าเราใช้ พวกแอมป์ ลำโพง จากบ้านหม้อ หรือ คลองถม ที่จะฟังไม่ออกเลย
หน้าที่ของมันก็คือ ถอดรหัสเสียงระบบ dts ซึ่งจะมีแค่ในหนังบางเรื่อง บาง format เท่านั้น
นักเล่นหนัง+เครื่องเสียง จะชอบระบบเสียง dts กันมากๆครับ
เพราะมันให้รายละเอียดเสียง ความหนักแน่น ที่เหนือกว่าแบบชัดเจนได้อย่างดีและสะใจแบบสุดๆ
ลองอ่านดูครับ
ID : 2
Format : DTS
Format/Info : Digital Theater Systems
Codec ID : A_DTS
Duration : 1h 48mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 1 510 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 24 bits
Compression mode : Lossy
Delay relative to video : 22ms
Stream size : 1.15 GiB (12%)
Title : DTS 1510
Language : English
Audio #3
ID : 3
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 48mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 640 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 498 MiB (5%)
Title : AC3 640
Language : English
Audio #4
ID : 4
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 48mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 448 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 349 MiB (4%)
Title : AC3
Language : Thai
จากรายละเอียดด้านบน
dts บิทเรท อยู่ที่ 1510 ขนาดไฟล์เสียง 1.15 GB
ac3 บิทเรท อยู่ที่ 640 ขนาด ไฟล์เสียง498 MB
และ อีกตัว
ac3 บิทเรท อยู่ที่ 448 ขนาดไฟล์เสียง 349 MB
ซึ่งจริงๆแล้ว dts มันก็ระบบ 5.1 เหมือนกันนะแหละครับ
เพียงแต่บิทเรทเขาจะสูงกว่า 5.1 ทั่วๆไป และคุณภาพเสียงก็จะดีกว่าแบบรู้สึกได้
เว้นเสียแต่ว่าเราใช้ พวกแอมป์ ลำโพง จากบ้านหม้อ หรือ คลองถม ที่จะฟังไม่ออกเลย
แสดงความคิดเห็น
ถาม DTS Decoder กับ การ์ดเสียงที่ออก 5.1 ได้ ต่างกันไงครับ
แต่....
การ์ดเสียงรุ่นใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งเมนบอร์ดคอมเดี๋ยวนี้มันก็มีให้ต่อออก 5.1 ได้นิครับ แค่เราเอาลำโพง 5.1 มาเสียบก็ฟังได้แล้ว
แล้วเราจำเป็นต้องใช้ตัว decode อีกหรอครับ เสียงมันจะดีขึ้นมากเลยหรอครับ
อยากรู้ว่า ตัว decode แยกกับการ์ดเสียงที่มี 5.1 อยู่แล้วต่างกันไงหรอครับ มันต่างกันไงหรอครับ งงมากมาย