เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อ เดือน พฤษภาคมที่ผ่านมาค่ะ
เรื่องราวก็คือ ฉันและแฟนเราคบกันและอยู่ด้วยกันมา 4 ปีเต็ม ก่อนหน้านั้นเราก็ใช้ชีวิตเมื่อคู่รักทั่วไป ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แฟนฉันจะไปส่งฉันที่ทำงานและรับฉันกลับบ้าน ทุกวัน ฉันไปไหน ฉันทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง แต่แฟนฉันช่วยงานที่บ้านเปิดร้านขายของชำ และเมื่อปลายปีที่แล้ว แฟนของฉันได้มีโอกาสไปทำงานเป็น Sale ขายรถยื่ห้อหนึ่ง ตั้งแต่นั้น จากที่เราเคยมีเวลาให้กันมากๆ ก็เริ่มน้อยลงค่ะ
ส่วนตัวฉันเองเป็นคนที่นิสัยขี้หึงมาก รักแฟนก็มีแต่แฟนคนเดียว ไม่เคยคิดมีคนอื่นหรือนอกใจแฟนเลยไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าหรือลับหลัง ส่วนแฟนฉันเค้าเป็นผู้ชายหน้าตาดี จากที่หลายๆคนบอกนะค่ะ และในสายตาฉันเค้ามีความเจ้าชู้พอสมควรค่ะ
จนกระทั่งเมื่อ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปกติด้วยตวามที่ฉันเป็นคนขี้หึงมาก และก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องนี้ฉันจับได้ว่าเค้าแอบโทรไปจีบเพื่อนสมัยเรียนค่ะ แต่เรื่องนั้นมันธรรมดาค่ะ เพราะแค่คุยกัน ฉันจับได้เค้ายอมรับเป็นแค่อารมชั่ววูบเพราะเราทะเลาะกันบ่อยตั้งแต่ที่เค้าทำงาน เค้าเลยจะหาทางออกโดยการไปจีบคนอื่น แต่ฉันได้มีโอกาสคุยกับผู้หญิงคนนั้นโดยฉันเปิด Speaker Phone ฉันได้ยิน ผู้หญิงคนนั้นเคลียค่ะ จบไม่ยอมยุ่งอีก แฟนฉันสัญญา ว่าจะไม่มีอีกแล้ว ฉันให้โอกาสเค้าค่ะ แต่เพราะฉันเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักมาก ฉันให้โอกาสแต่ในใจลึกๆ ก็ยังมีความระแวงอยู่ในใจตลอด และด้วยงานที่เค้าทำต้องคุยกับคนอื่นมากมาย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อยู่บ้าน ชีวิตประจำวันคือขายของ และไปหาเพื่อนบ้าง ซึ่งฉันก็รู้จักเพื่อนทุกคน
การใช้ชีวิตประจำวันของฉันเวลาว่างจะ check ตลอดว่าแฟนอยู่ตรงไหน ตรงกับที่โทรบอกฉันรึป่าว ช่วงเวลาเดือนพฤษภาที่ผ่านมา ยอมรับเลยค่ะ เชื่อใจมาก ไม่จับผิด ไม่ตาม ไม่ดูแม้กระทั้ง line ในโทรศัพท์ เพราะปกติฉันจะดูทุกอย่างทุกวัน แต่เช่วงนั้นฉันติด cookkie run ค่ะ เล่นเพื่อนเบี้ยงความสนใจไม่ให้ไประแวงแฟนมากเกินไป จนกระทั้งวันที่เกิดเรื่องค่ะ
วันนั้นฉันเลิกงานเร็วค่ะ แฟนก็มารับฉันปกติ แต่เพียงวันนั้นมารับช้ากว่าปกติ เค้าไม่รีบร้อนมารับ เค้าบอกอยู่กับเพื่อนกินข้าวอยู่ ประมาณครึ่งชั่วโมงจะมารับ พอมาถึงฉันก็รู้สึกเคื่องนิดๆค่ะ แต่ก็ไม่ได้อะไร พอขึ้นรถก็คุยกันปกติจะไปไหนทำอะไร แล้วโทรศัพท์ของแฟนฉันก็มี line เตือนข้อความเข้ามาค่ะ โดยปกติฉันก็หันไปมอง เป็นชื่อของผู้หญิงคนนึ่งค่ะ ซึ่งคนนี้เป็นเจ้าที่ทำงานธนาคารแห่งหนึ่ง ที่แฟนฉันจะต้องติดต่องานด้วย เธอส่งข้อความเข้ามาว่า
" แต่ดีกว่าห้ามใจตัวเองไม่ได้ กลับบ้านพักผ่อนนะ " เท่านั้นแหละค่ะ เลือดขึ้นหน้าค่ะ ฉันถามแฟนทันที ว่านี้คืออะไร คุยงานแล้วเกี่ยวอะไรกับห้ามใจไม่ได้ เค้าโวยวายและแย่งโทรศัพท์ไปจากฉันค่ะ เราทะเลาะกันอนู่ในรถ ฉันมีเบอร์ผู้หญิงคนนั้นค่ะ ฉันโทรกลับไปทันทีค่ะ ถามว่าคืออะไร "คุยอะไรกัน" ผุ้หญิงคนนั้นบอกว่า "ได้อ่านที่คุยก่อนหน้านี้มั้ย" ฉันตอบ "ไม่ค่ะ เพราะแฟนฉันคงลบออก" เป็นอีกเรื่องที่ฉันไม่รู้จริงๆ ผู้หญิงคนนั้น บอกว่า ไม่มีอะไรเค้าคุยปรึกษาเรื่องคนอื่น ฉันงงมาก ฉันคิดว่ามีผู้หญิงอีกคน แต่พอถามอีก เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไรอย่างที่ฉันคิด แฟนฉันก็แค่โทรปรึกษาเค้าเรื่องคนอื่น เรื่องที่ทำงาน และก็บอกว่าให้ฉันมาถามคนของฉันเอง ระหว่างที่ฉันคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงนั้นอยู่ แฟนฉันพยายามแย่งโทรศัพท์ และโวยวาย พอฉํนวางสาย ฉันหันมาถามแฟน ด้วยความรู้สึกที่ปวดใจและทรมานใจมาก ว่ามันคืออะไร มันมีอะไรมากกว่านี้ขนาดไหนแล้ว แฟนฉันปฏิเสธบอกแต่ว่าอย่าให้ฉันไปยุ่งกับผ๔หญิงคนนั้น เพราะแฟนฉันต้องทำงาน และแฟนกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะไปบอกหัวหน้างานของเค้า ฉันถามย้ำๆ จนแฟนฉันยอมรับ ว่า "โทรไปจีบ และพึ่งโทรไปจีบตอนที่นั้งกินข้าวกับเพื่อนก่อนที่จะมารับฉันเอง และให้เหตุผลว่าเพราะมีเหตุผลบางอย่างอยากจะเอาชนะเพื่อนที่ทำงาน " ความรู้สึกตอนนั้นฉันปวดใจและทรมานใจมากค่ะ สับสนทุกอย่าง การทำงานทำไมต้องไปมากมายกับผู้หญิงคนนี้ ส่งเรื่องกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้หรือยังไง สับสนไปหมด และระหว่างที่เราคุยกับจบ ทุกอย่างสงบ ผู้หญิงคนนั้นโทรเข้ามาอีกค่ะ โดยใช้อีกเบอร์โทรเข้ามา ตอนแรกแฟนฉันไม่รับ มันโทรมาอีก ฉันบอกให้แฟนรับ แล้วแฟนฉันพูดแค่ว่า "ว่า" ด้วยนำเสียงหงุดหงิด แปบเดียวแล้วก็ว่างหู ฉันถามว่าใครโทรมา แฟนฉันบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นโทรมาบอกว่าอย่าไปยุ่งกับเค้าอีก เค้าจะฟ้องผู้จัดการ ด้วยความที่ฉันรักแฟนค่ะ ฉันยอมส่ง line ไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นหากฉันเข้าใจผิด ฉันคิดว่าทุกอย่างคงจลเพราะฉันจับไปแล้ว ฉันเสียใจมาก ปวดใจมากค่ะ อยากจะตัดใจ พยายามบอกตัวเองถึงสิ่งที่เค้าว่าเค้านอกใจ เค้าปั่นใจไปจากฉัน เค้าไม่รักฉันแล้ว คืนนั้นฉันกลับบ้านของฉันเองค่ะ วันเป็นวันศุกร์ และวันเสาร์เป็นวันหยุดฉัน ฉันไม่ไหวจริงๆ ขอลางานอีก 1 วัน
ทุกอย่างเหมือนจะจบใช่ไม่ค่ะ แต่มันยังไม่จบค่ะ .... เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ
เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย หรือรักแท้จะแพ้ความต้องการ Club Friday
เรื่องราวก็คือ ฉันและแฟนเราคบกันและอยู่ด้วยกันมา 4 ปีเต็ม ก่อนหน้านั้นเราก็ใช้ชีวิตเมื่อคู่รักทั่วไป ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แฟนฉันจะไปส่งฉันที่ทำงานและรับฉันกลับบ้าน ทุกวัน ฉันไปไหน ฉันทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง แต่แฟนฉันช่วยงานที่บ้านเปิดร้านขายของชำ และเมื่อปลายปีที่แล้ว แฟนของฉันได้มีโอกาสไปทำงานเป็น Sale ขายรถยื่ห้อหนึ่ง ตั้งแต่นั้น จากที่เราเคยมีเวลาให้กันมากๆ ก็เริ่มน้อยลงค่ะ
ส่วนตัวฉันเองเป็นคนที่นิสัยขี้หึงมาก รักแฟนก็มีแต่แฟนคนเดียว ไม่เคยคิดมีคนอื่นหรือนอกใจแฟนเลยไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าหรือลับหลัง ส่วนแฟนฉันเค้าเป็นผู้ชายหน้าตาดี จากที่หลายๆคนบอกนะค่ะ และในสายตาฉันเค้ามีความเจ้าชู้พอสมควรค่ะ
จนกระทั่งเมื่อ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปกติด้วยตวามที่ฉันเป็นคนขี้หึงมาก และก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องนี้ฉันจับได้ว่าเค้าแอบโทรไปจีบเพื่อนสมัยเรียนค่ะ แต่เรื่องนั้นมันธรรมดาค่ะ เพราะแค่คุยกัน ฉันจับได้เค้ายอมรับเป็นแค่อารมชั่ววูบเพราะเราทะเลาะกันบ่อยตั้งแต่ที่เค้าทำงาน เค้าเลยจะหาทางออกโดยการไปจีบคนอื่น แต่ฉันได้มีโอกาสคุยกับผู้หญิงคนนั้นโดยฉันเปิด Speaker Phone ฉันได้ยิน ผู้หญิงคนนั้นเคลียค่ะ จบไม่ยอมยุ่งอีก แฟนฉันสัญญา ว่าจะไม่มีอีกแล้ว ฉันให้โอกาสเค้าค่ะ แต่เพราะฉันเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักมาก ฉันให้โอกาสแต่ในใจลึกๆ ก็ยังมีความระแวงอยู่ในใจตลอด และด้วยงานที่เค้าทำต้องคุยกับคนอื่นมากมาย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อยู่บ้าน ชีวิตประจำวันคือขายของ และไปหาเพื่อนบ้าง ซึ่งฉันก็รู้จักเพื่อนทุกคน
การใช้ชีวิตประจำวันของฉันเวลาว่างจะ check ตลอดว่าแฟนอยู่ตรงไหน ตรงกับที่โทรบอกฉันรึป่าว ช่วงเวลาเดือนพฤษภาที่ผ่านมา ยอมรับเลยค่ะ เชื่อใจมาก ไม่จับผิด ไม่ตาม ไม่ดูแม้กระทั้ง line ในโทรศัพท์ เพราะปกติฉันจะดูทุกอย่างทุกวัน แต่เช่วงนั้นฉันติด cookkie run ค่ะ เล่นเพื่อนเบี้ยงความสนใจไม่ให้ไประแวงแฟนมากเกินไป จนกระทั้งวันที่เกิดเรื่องค่ะ
วันนั้นฉันเลิกงานเร็วค่ะ แฟนก็มารับฉันปกติ แต่เพียงวันนั้นมารับช้ากว่าปกติ เค้าไม่รีบร้อนมารับ เค้าบอกอยู่กับเพื่อนกินข้าวอยู่ ประมาณครึ่งชั่วโมงจะมารับ พอมาถึงฉันก็รู้สึกเคื่องนิดๆค่ะ แต่ก็ไม่ได้อะไร พอขึ้นรถก็คุยกันปกติจะไปไหนทำอะไร แล้วโทรศัพท์ของแฟนฉันก็มี line เตือนข้อความเข้ามาค่ะ โดยปกติฉันก็หันไปมอง เป็นชื่อของผู้หญิงคนนึ่งค่ะ ซึ่งคนนี้เป็นเจ้าที่ทำงานธนาคารแห่งหนึ่ง ที่แฟนฉันจะต้องติดต่องานด้วย เธอส่งข้อความเข้ามาว่า
" แต่ดีกว่าห้ามใจตัวเองไม่ได้ กลับบ้านพักผ่อนนะ " เท่านั้นแหละค่ะ เลือดขึ้นหน้าค่ะ ฉันถามแฟนทันที ว่านี้คืออะไร คุยงานแล้วเกี่ยวอะไรกับห้ามใจไม่ได้ เค้าโวยวายและแย่งโทรศัพท์ไปจากฉันค่ะ เราทะเลาะกันอนู่ในรถ ฉันมีเบอร์ผู้หญิงคนนั้นค่ะ ฉันโทรกลับไปทันทีค่ะ ถามว่าคืออะไร "คุยอะไรกัน" ผุ้หญิงคนนั้นบอกว่า "ได้อ่านที่คุยก่อนหน้านี้มั้ย" ฉันตอบ "ไม่ค่ะ เพราะแฟนฉันคงลบออก" เป็นอีกเรื่องที่ฉันไม่รู้จริงๆ ผู้หญิงคนนั้น บอกว่า ไม่มีอะไรเค้าคุยปรึกษาเรื่องคนอื่น ฉันงงมาก ฉันคิดว่ามีผู้หญิงอีกคน แต่พอถามอีก เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไรอย่างที่ฉันคิด แฟนฉันก็แค่โทรปรึกษาเค้าเรื่องคนอื่น เรื่องที่ทำงาน และก็บอกว่าให้ฉันมาถามคนของฉันเอง ระหว่างที่ฉันคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงนั้นอยู่ แฟนฉันพยายามแย่งโทรศัพท์ และโวยวาย พอฉํนวางสาย ฉันหันมาถามแฟน ด้วยความรู้สึกที่ปวดใจและทรมานใจมาก ว่ามันคืออะไร มันมีอะไรมากกว่านี้ขนาดไหนแล้ว แฟนฉันปฏิเสธบอกแต่ว่าอย่าให้ฉันไปยุ่งกับผ๔หญิงคนนั้น เพราะแฟนฉันต้องทำงาน และแฟนกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะไปบอกหัวหน้างานของเค้า ฉันถามย้ำๆ จนแฟนฉันยอมรับ ว่า "โทรไปจีบ และพึ่งโทรไปจีบตอนที่นั้งกินข้าวกับเพื่อนก่อนที่จะมารับฉันเอง และให้เหตุผลว่าเพราะมีเหตุผลบางอย่างอยากจะเอาชนะเพื่อนที่ทำงาน " ความรู้สึกตอนนั้นฉันปวดใจและทรมานใจมากค่ะ สับสนทุกอย่าง การทำงานทำไมต้องไปมากมายกับผู้หญิงคนนี้ ส่งเรื่องกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้หรือยังไง สับสนไปหมด และระหว่างที่เราคุยกับจบ ทุกอย่างสงบ ผู้หญิงคนนั้นโทรเข้ามาอีกค่ะ โดยใช้อีกเบอร์โทรเข้ามา ตอนแรกแฟนฉันไม่รับ มันโทรมาอีก ฉันบอกให้แฟนรับ แล้วแฟนฉันพูดแค่ว่า "ว่า" ด้วยนำเสียงหงุดหงิด แปบเดียวแล้วก็ว่างหู ฉันถามว่าใครโทรมา แฟนฉันบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นโทรมาบอกว่าอย่าไปยุ่งกับเค้าอีก เค้าจะฟ้องผู้จัดการ ด้วยความที่ฉันรักแฟนค่ะ ฉันยอมส่ง line ไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นหากฉันเข้าใจผิด ฉันคิดว่าทุกอย่างคงจลเพราะฉันจับไปแล้ว ฉันเสียใจมาก ปวดใจมากค่ะ อยากจะตัดใจ พยายามบอกตัวเองถึงสิ่งที่เค้าว่าเค้านอกใจ เค้าปั่นใจไปจากฉัน เค้าไม่รักฉันแล้ว คืนนั้นฉันกลับบ้านของฉันเองค่ะ วันเป็นวันศุกร์ และวันเสาร์เป็นวันหยุดฉัน ฉันไม่ไหวจริงๆ ขอลางานอีก 1 วัน
ทุกอย่างเหมือนจะจบใช่ไม่ค่ะ แต่มันยังไม่จบค่ะ .... เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ