*ไม่ใช่กระทู้หน้าม้าอวยผลิตภัณฑ์นะคะ ใช้จริง จ่ายจริง บริการดีจริงจึงอยากมารีวิวค่ะ*
สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นชาวห้องบลูฯและที่ผ่านเข้ามาเจอโดยการแนะนำของพี่กูเกิ้ล วันนี้อยากจะทำตัวให้เกิดประโยชน์แก่ห้องบลูฯบ้างหลังจากมาตักตวงความรู้ไปมากมาย อิอิ พอดีเมื่อเดือนเมษาเกิดมือแม่นจิ้มแอร์เอเชียเอ็กซ์รอบเปิดตัวได้เลยพาแม่ไปเที่ยวเกาหลีค่ะ เพิ่งไปมาเมื่อวันที่ 21-25 มิถุนายนนี้เอง
ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวเกาหลีครั้งที่ 4 ค่ะ เล่าเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตคร่าวๆ ที่เคยพบเจอมานะคะ
ครั้งแรกแบคแพคไปเมื่อเมษายนปี 2011 เป็นเวลา 10 วัน ใช้ไวไฟที่เกสเฮ้าส์และอาศัยไวไฟฟรีเท่าที่หาได้ (ส่วนใหญ่ที่ขึ้นว่า iptime จะไม่ล็อก)
ครั้งที่สองไปกับทัวร์ มิถุนายน ปี2013 ที่ออฟฟิศจัดทัวร์พาพนักงานไปเที่ยว ใช้ไวไฟที่พักอย่างเดียว ไปครั้งนี้ไม่ค่อยได้เล่นเน็ตค่ะ
ครั้งที่สาม ไปดูคอนเสิร์ต มิถุนายน ปี2013 ทริปสั้นๆ ตอนแรกจะเช่าไวไฟจากไทยไป แต่คิดไปคิดมา ไปซื้อสลิปตามมินิมาร์ทก็ได้ แลดูจะถูกกว่า ปรากฏว่าถูกกว่าเช่าจริงค่ะ แต่ๆๆๆๆๆ สัญญาณอยู่ไหน? ฮ่าๆ ถ้าจำไม่ผิดราคา 3,300 วอนต่อวันค่ะ เราซื้อเป็นสลิปแล้วก็กรอกพาสเวิร์ดอะไรแบบนั้น สัญญาณดีที่สุดตอนนั่งรถใต้ดิน นอกเหนือจากนั้นลุ้นเอา
ครั้งที่สี่ ครั้งล่าสุดนี้ไปกัน 4 คนเลยคิดว่าเช่าไวไฟไปเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระวิ่งหาสัญญาณ แม่ก็ติดเน็ต ลูกก็ติดเน็ต เพื่อนๆลูกก็ติดเน็ต!
ตัวเลือกที่มีก็คือเช่าจากที่ไทยกับไปเช่าที่สนามบินอินชอน แต่สุดท้ายก็เลือกที่ไทยค่ะ เพราะไปเช่าที่นู่นค่ามัดจำสูงอยูเหมือนกัน (เราไม่แน่ใจว่าเค้าจะกันเงินจากบัตรเครดิตไว้เลยมั้ยหรือยังไง กลัวไม่มีตังช็อป ฮ่าๆ) แล้วเช่าที่ไทยก็คุยกันรู้เรื่องง่ายดี ดูราคาแล้วก็รับได้ค่ะ จริงๆก็เคยค้นเจอรีวิวของเจ้านี้อยู่เหมือนกัน ถือซะว่าเรามาอัพเดตของปี 2014 ละกันเนาะ ราคงราคาก็มีถีบตัวขึ้นบ้างตามสภาวะ
เราใช้บริการ Pocket wifi (ที่ต่อไปจะเรียกว่า ไข่ ) ของ easy korea wifi นะคะ เดี๋ยวจะขอเล่าเรื่องการบริการที่น่าประทับใจของเจ้านี้ ตอนแรกเราทวีตไปถามเค้าเรื่องการจ่ายเงินว่าสามารถใช้บัตรเครดิตได้มั้ย ชาร์จเพิ่มมั้ย ทาง easy korea wifi ก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วค่ะว่าใช้ได้และไม่มีการชาร์จเพิ่ม จากนั้นเราก็ไปศึกษาวิธีการเช่าเครื่องจากเว็บไซต์ กรอกข้อมูลสมัครสมาชิกแป๊บนึง แล้วก็มาเลือกจองไข่ซึ่งจะมี 2 แบบ คือ Egg online เป็นอินเทอร์เน็ตแบบ Unlimited เหมาะสำหรับใช้ในโซลหรือในเขตตัวเมืองอื่นๆ อีกแบบหนึ่งคือ LTE Online ในเว็บไซต์บอกว่าเหมาะสำหรับการออกไปเที่ยวนอกเมืองไกลๆ เที่ยวป่าเขาหรือชนบทเพราะสัญญาณครอบคลุมกว่า แต่ว่าจะจำกัดแค่วันละ 500 MB ค่ะ (ซื้อเพิ่มเติมได้ GB ละ 300 บาท) ค่าเช่าวันละ 290 บาทเท่ากันทั้งสองแบบค่ะ ตอนกรอกข้อมูลสั่งซื้อเราก็ใส่ข้อมูลทั่วๆไปพวกชื่อ ไฟลท์บิน วันที่เดินทาง ไอดีไลน์ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น
ค่าบริการของไข่เจ้านี้คือ (ค่าบริการต่อวัน x จำนวนวันที่เช่า) + ค่าประกันเครื่อง + ค่ารับส่งเครื่อง
อันนี้มีข้อตินิดนึง คือในตัวอย่างการคิดค่าเช่า ทางเว็บเขียนว่าเดินทางถึงเกาหลีเช้าวันที่ 10 กลับวันที่ 14 เราก็นับได้ 5 วัน แต่ในเว็บนั้นเค้าดันไปคูณจำนวนวันแค่ 4 วัน ไอ้เราก็นึกว่าเค้าเริ่มนับเมื่อครบ 24 ชั่วโมง คือวันที่ถัดไปนับ 1 ไรงี้ เราเองก็ไปจำนวนวันเท่าตัวอย่าง เลยคูณไปแค่ 4 วัน จ่ายตังค์เรียบร้อยผ่านบัตรเครดิต ไม่กี่อึดใจทีมงานก็ไลน์มาเลยค่ะว่าของเราต้องนับเป็น 5 วัน เราก็โอเค ไปโอนเพิ่มสำหรับ 1 วันที่เหลือและก็ติติงไปนิดหน่อยว่าตัวอย่างอาจจะทำให้ลูกค้าท่านอื่นๆ งงเหมือนเรา อยากให้แก้ไข เค้าก็รับปากนะคะ(แต่เข้าไปล่าสุดยังเหมือนเดิมแฮะ) อันนี้หักคะแนน อิอิ
ฉะนั้น เราก็จ่ายไปทั้งหมด (290x5) + 200 + 300 รับส่งที่อินชอน = 1950 บาทค่ะ หารกัน 4 คนตกคนละประมาณ 488 บาท ใช้ 5 วัน ก็วันละประมาณ 98 บาทต่อคนค่ะ
การรับเจ้าไข่นั้นเราเลือกไปรับที่อินชอน จริงๆมีรับเครื่องที่สุวรรณภูมิด้วยนะคะ แต่เราเดินทางที่ดอนเมืองแถมการรับเครื่องที่ไทยนั้นมีข้อเสียตรงที่เราไม่สามารถเช็คเครื่องได้เนื่องจากเจ้าไข่มันใช้สัญญาณเน็ตของที่เกาหลีจ้า พอเราจ่ายตังค์เสร็จเรียบร้อย ทางเจ้าหน้าที่ของ easy korea wifi เค้าจะไลน์มาบอกวิธีการรับเครื่องคือในวันเดินทางเราต้องส่งรูปถ่ายอันสวยงามหาใดเปรียบของเราในชุดที่เราเดินทางไปเกาหลีไลน์ไปให้เจ้าหน้าที่คนเกาหลีพิจารณา ฮ่าๆ เค้าจะได้หาเราเจอง่ายๆ ค่ะ ทางเจ้าหน้าที่คนเกาหลีก็ไลน์มาบอกเราเช่นกัน ขอบอกว่าเค้าทำงานกันไวมากอันนี้ขอชื่นชมเลยค่ะ ฟึบฟับๆมาก!
มีส่งสติกเกอร์ผู้พันไปให้ด้วยนะ เอิ๊ก!
วันเดินทาง พอเช็กอินที่เคาน์เตอร์เสร็จเราก็เลยส่งรูปไปให้ เค้าก็ตอบมาทันใด (ไม่ยักกะชมว่าเราสวยแฮะ หักคะแนนดีมั้ย!)
ส่วนข้อความด้านล่างเด้งมาตอนที่เครื่องเราลงแล้วและใช้ไวไฟฟรีของสนามบินอินชอนนะคะ
ขาไปเราไม่มีโหลดกระเป๋า หลังจาก ตม. ปั๊มพาสปอร์ตให้เราแบบเงียบๆ (ไม่ถงไม่ถามอะไรซ้ากคำ) ก็เลยเดินตัวปลิวออกไปพร้อมคุยกับคณะเดินทางว่าเค้าจะหาเราเจอมั้ยนะ? ปากฏว่าพอก้าวขาออกพ้นประตูปุ๊บ! ก็มีหนุ่มเกาหลีร่างอวบอั๋น หน้าตาใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสในเสื้อสีน้ำเงินโบกไม้โบกมือให้ราวกับมารอรับญาติที่พลัดพรากจากกันไปนาน ฮ่าๆ เดาว่าเค้าคือ Mr. Lee มั้งคะเพราะเห็นชื่อไลน์ชื่อนี้ Mr.Lee คนนี้ก็มาอธิบายวิธีใช้ให้ฟังค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะฟังไม่เข้าใจ ส่วนใหญ่ก็ใช้ศัพท์กันง่ายๆ ทั่วไปค่ะ สบายบรื๋อ~ เค้าก็พูดถึงปุ่มเปิด-ปิด การชาร์จแบต เขาบอกว่าชาร์จเต็ม 1 ครั้งจะใช้ได้ราวๆ 10 ชั่วโมงค่ะ จากนั้นก็ลองเครื่อง ปรากฏว่าไข่เครื่องแรกนั้นพวกเรา 4 คนรับสัญญาณได้แค่คนเดียว Mr.Lee เลยเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้และคราวนี้ใช้ได้ทุกคน เหล่าคนติดเน็ตก็โล่งอกกันไป
เจ้าไข่ร่างบอบบางแต่ศักยภาพสูงตัวนี้ใช้แชร์เน็ตได้สูงสุด 7 อุปกรณ์นะคะ เจ้าไข่ไวไฟตัวนี้จะมาพร้อมกระเป๋าพลาสติกและสายชาร์จแพคอยู่ในกระเป๋า สายชาร์จสามารถถอดออกจากอแดปเตอร์ได้นะคะ เราจึงสามารถเอามาชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ได้ค่ะ
นี่คือหน้าตาของเจ้าไข่ ตัวปล่อยไวไฟเครื่องจิ๋ว (ของเราจะกลมมน บางๆกว่านี้นิดนึง แต่ลืมถ่ายรูปไว้ อันนี้ของเพื่อนเช่าค่ะ ขอรูปเค้ามา แหะๆ)
ส่วนการใช้งานนะคะ สถานที่ที่เราไปเที่ยวส่วนใหญ่จะสัญญาณดีม้ากกกกกมากกกกกกก รวดเร็ว ฉับไว ใส่ใจประชาชน อัพรูปลงอินสตาแกรมทีนี่ไม่ต้องรออะไรเลย กดส่งปุ๊บขึ้นปั๊บ จะดูคลิปโหลดคลิปก็เร็วมากค่ะ ประทับใจแทบร้องไห้ (ที่ไทยก็ร้องนะ ช้าจนร้องไห้ ฮ่าๆ)
อันนี้ความเร็วในที่พักย่านฮงแดค่ะ
ไปพระราชวังถ็อกซูก็เร็วค่ะ ประมาณนี้
แถมรูปที่เที่ยวมั่ง อิอิ
นอกจากนั้นเราก็ไปหมู่บ้านนัมซานฮันอก ไปมยองดง ห้าง Lotte Fitin จัตุรัสควางฮวามุน หน้าตึก JYP เป็นต้น ก็สัญญาณดีเลิศทุกที่แม้วันฝนตกค่ะ เรียกได้ว่าดีมากถึง 99% เลยทีเดียว มีเหวี่ยงๆหายบ้างในรถไฟใต้ดิน แต่แป๊บเดียวก็มาค่ะ และไม่ได้เป็นบ่อยส่วนสถานที่ที่สัญญาณอ่อนที่สุดคือตอนไปเที่ยวเอเวอร์แลนด์ค่ะ เข้าใจว่าเพราะออกนอกเมืองไปไกลหน่อย ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้เลยนะคะ ก็ใช้ได้ แต่บางจุดสัญญาณจะขึ้นสีแดงซึ่งหมายถึงมันอ่อนมากค่ะ
ด้านแบตเตอรี่นั้นก็ใช้ได้นานค่ะ แต่คิดว่าคงไม่ถึง 10 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามเราพกพาวเวอร์แบงค์ไปด้วย พอแบตเจ้าไข่เริ่มแดงๆแล้วก็จัดการเติมพลังทันทีก็เลยใช้ได้ทั้งวันจนกลับมาถึงที่พักเลยค่ะ
ส่วนขากลับที่เราต้องคืนเครื่องก็จะมีเจ้าหน้าที่ไลน์มาอีกเช่นเคย ถามเวลาที่เราจะไปถึงสนามบิน แต่คราวนี้คนละคนกับ Mr.Lee รอบนี้เราไม่ได้ส่งรูปให้เค้าดูหรอกค่ะ อาศัยคุยในไลน์เอา แถมตัวเองหา Row ที่ต้อง Check in ไม่เจอก็ได้คุณเจ้าหน้าที่คนนี้ช่วยบอก แหะๆ แล้วสุดท้ายก็ส่งคืนไข่ให้เขาไปอย่างอาลัยอาวรณ์(ในความเร็ว)ก่อนเข้าไปยัง ตม.
ไลน์มาทีไร สติกเกอร์นี่ขาดไม่ได้จริงๆ อิอิ
สรุปว่าการใช้งานเจ้าไข่ไวไฟจาก easy korea wifi นั้น เราให้คะแนนดังนี้
ขั้นตอนการเช่า: 9/10 ในเว็บไซต์อธิบายเข้าใจง่าย ยกเว้น! ตัวอย่างการคิดค่าเช่า ขอหักคะแนน
การบริการ: 10/10 รวดเร็วและใส่ใจลูกค้า
สัญญาณ: 10/10 เร็วมากและครอบคลุมพื้นที่ดี
พิมพ์เสร็จ ลองอ่านดูทำไมมันเยิ่นเย้อแบบนี้เนี่ย ฮ่าๆ ขออภัย มือใหม่หัดรีวิว หวังว่าจะได้รับประโยชน์จากรีวิวนี้ไปบ้างนะคะ ขออำลาไปก่อน ไว้พบกันคราวหน้า สวัสดีรอบทู้ค่า -/\-
[CR] Check in ได้ทุกที่ เที่ยวเกาหลีกับไวไฟน้องไข่ [UPDATE ก.ค. 2557]
สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นชาวห้องบลูฯและที่ผ่านเข้ามาเจอโดยการแนะนำของพี่กูเกิ้ล วันนี้อยากจะทำตัวให้เกิดประโยชน์แก่ห้องบลูฯบ้างหลังจากมาตักตวงความรู้ไปมากมาย อิอิ พอดีเมื่อเดือนเมษาเกิดมือแม่นจิ้มแอร์เอเชียเอ็กซ์รอบเปิดตัวได้เลยพาแม่ไปเที่ยวเกาหลีค่ะ เพิ่งไปมาเมื่อวันที่ 21-25 มิถุนายนนี้เอง
ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวเกาหลีครั้งที่ 4 ค่ะ เล่าเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตคร่าวๆ ที่เคยพบเจอมานะคะ
ครั้งแรกแบคแพคไปเมื่อเมษายนปี 2011 เป็นเวลา 10 วัน ใช้ไวไฟที่เกสเฮ้าส์และอาศัยไวไฟฟรีเท่าที่หาได้ (ส่วนใหญ่ที่ขึ้นว่า iptime จะไม่ล็อก)
ครั้งที่สองไปกับทัวร์ มิถุนายน ปี2013 ที่ออฟฟิศจัดทัวร์พาพนักงานไปเที่ยว ใช้ไวไฟที่พักอย่างเดียว ไปครั้งนี้ไม่ค่อยได้เล่นเน็ตค่ะ
ครั้งที่สาม ไปดูคอนเสิร์ต มิถุนายน ปี2013 ทริปสั้นๆ ตอนแรกจะเช่าไวไฟจากไทยไป แต่คิดไปคิดมา ไปซื้อสลิปตามมินิมาร์ทก็ได้ แลดูจะถูกกว่า ปรากฏว่าถูกกว่าเช่าจริงค่ะ แต่ๆๆๆๆๆ สัญญาณอยู่ไหน? ฮ่าๆ ถ้าจำไม่ผิดราคา 3,300 วอนต่อวันค่ะ เราซื้อเป็นสลิปแล้วก็กรอกพาสเวิร์ดอะไรแบบนั้น สัญญาณดีที่สุดตอนนั่งรถใต้ดิน นอกเหนือจากนั้นลุ้นเอา
ครั้งที่สี่ ครั้งล่าสุดนี้ไปกัน 4 คนเลยคิดว่าเช่าไวไฟไปเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระวิ่งหาสัญญาณ แม่ก็ติดเน็ต ลูกก็ติดเน็ต เพื่อนๆลูกก็ติดเน็ต!
ตัวเลือกที่มีก็คือเช่าจากที่ไทยกับไปเช่าที่สนามบินอินชอน แต่สุดท้ายก็เลือกที่ไทยค่ะ เพราะไปเช่าที่นู่นค่ามัดจำสูงอยูเหมือนกัน (เราไม่แน่ใจว่าเค้าจะกันเงินจากบัตรเครดิตไว้เลยมั้ยหรือยังไง กลัวไม่มีตังช็อป ฮ่าๆ) แล้วเช่าที่ไทยก็คุยกันรู้เรื่องง่ายดี ดูราคาแล้วก็รับได้ค่ะ จริงๆก็เคยค้นเจอรีวิวของเจ้านี้อยู่เหมือนกัน ถือซะว่าเรามาอัพเดตของปี 2014 ละกันเนาะ ราคงราคาก็มีถีบตัวขึ้นบ้างตามสภาวะ
เราใช้บริการ Pocket wifi (ที่ต่อไปจะเรียกว่า ไข่ ) ของ easy korea wifi นะคะ เดี๋ยวจะขอเล่าเรื่องการบริการที่น่าประทับใจของเจ้านี้ ตอนแรกเราทวีตไปถามเค้าเรื่องการจ่ายเงินว่าสามารถใช้บัตรเครดิตได้มั้ย ชาร์จเพิ่มมั้ย ทาง easy korea wifi ก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วค่ะว่าใช้ได้และไม่มีการชาร์จเพิ่ม จากนั้นเราก็ไปศึกษาวิธีการเช่าเครื่องจากเว็บไซต์ กรอกข้อมูลสมัครสมาชิกแป๊บนึง แล้วก็มาเลือกจองไข่ซึ่งจะมี 2 แบบ คือ Egg online เป็นอินเทอร์เน็ตแบบ Unlimited เหมาะสำหรับใช้ในโซลหรือในเขตตัวเมืองอื่นๆ อีกแบบหนึ่งคือ LTE Online ในเว็บไซต์บอกว่าเหมาะสำหรับการออกไปเที่ยวนอกเมืองไกลๆ เที่ยวป่าเขาหรือชนบทเพราะสัญญาณครอบคลุมกว่า แต่ว่าจะจำกัดแค่วันละ 500 MB ค่ะ (ซื้อเพิ่มเติมได้ GB ละ 300 บาท) ค่าเช่าวันละ 290 บาทเท่ากันทั้งสองแบบค่ะ ตอนกรอกข้อมูลสั่งซื้อเราก็ใส่ข้อมูลทั่วๆไปพวกชื่อ ไฟลท์บิน วันที่เดินทาง ไอดีไลน์ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น
ค่าบริการของไข่เจ้านี้คือ (ค่าบริการต่อวัน x จำนวนวันที่เช่า) + ค่าประกันเครื่อง + ค่ารับส่งเครื่อง
อันนี้มีข้อตินิดนึง คือในตัวอย่างการคิดค่าเช่า ทางเว็บเขียนว่าเดินทางถึงเกาหลีเช้าวันที่ 10 กลับวันที่ 14 เราก็นับได้ 5 วัน แต่ในเว็บนั้นเค้าดันไปคูณจำนวนวันแค่ 4 วัน ไอ้เราก็นึกว่าเค้าเริ่มนับเมื่อครบ 24 ชั่วโมง คือวันที่ถัดไปนับ 1 ไรงี้ เราเองก็ไปจำนวนวันเท่าตัวอย่าง เลยคูณไปแค่ 4 วัน จ่ายตังค์เรียบร้อยผ่านบัตรเครดิต ไม่กี่อึดใจทีมงานก็ไลน์มาเลยค่ะว่าของเราต้องนับเป็น 5 วัน เราก็โอเค ไปโอนเพิ่มสำหรับ 1 วันที่เหลือและก็ติติงไปนิดหน่อยว่าตัวอย่างอาจจะทำให้ลูกค้าท่านอื่นๆ งงเหมือนเรา อยากให้แก้ไข เค้าก็รับปากนะคะ(แต่เข้าไปล่าสุดยังเหมือนเดิมแฮะ) อันนี้หักคะแนน อิอิ
ฉะนั้น เราก็จ่ายไปทั้งหมด (290x5) + 200 + 300 รับส่งที่อินชอน = 1950 บาทค่ะ หารกัน 4 คนตกคนละประมาณ 488 บาท ใช้ 5 วัน ก็วันละประมาณ 98 บาทต่อคนค่ะ
การรับเจ้าไข่นั้นเราเลือกไปรับที่อินชอน จริงๆมีรับเครื่องที่สุวรรณภูมิด้วยนะคะ แต่เราเดินทางที่ดอนเมืองแถมการรับเครื่องที่ไทยนั้นมีข้อเสียตรงที่เราไม่สามารถเช็คเครื่องได้เนื่องจากเจ้าไข่มันใช้สัญญาณเน็ตของที่เกาหลีจ้า พอเราจ่ายตังค์เสร็จเรียบร้อย ทางเจ้าหน้าที่ของ easy korea wifi เค้าจะไลน์มาบอกวิธีการรับเครื่องคือในวันเดินทางเราต้องส่งรูปถ่ายอันสวยงามหาใดเปรียบของเราในชุดที่เราเดินทางไปเกาหลีไลน์ไปให้เจ้าหน้าที่คนเกาหลีพิจารณา ฮ่าๆ เค้าจะได้หาเราเจอง่ายๆ ค่ะ ทางเจ้าหน้าที่คนเกาหลีก็ไลน์มาบอกเราเช่นกัน ขอบอกว่าเค้าทำงานกันไวมากอันนี้ขอชื่นชมเลยค่ะ ฟึบฟับๆมาก!
มีส่งสติกเกอร์ผู้พันไปให้ด้วยนะ เอิ๊ก!
วันเดินทาง พอเช็กอินที่เคาน์เตอร์เสร็จเราก็เลยส่งรูปไปให้ เค้าก็ตอบมาทันใด (ไม่ยักกะชมว่าเราสวยแฮะ หักคะแนนดีมั้ย!)
ส่วนข้อความด้านล่างเด้งมาตอนที่เครื่องเราลงแล้วและใช้ไวไฟฟรีของสนามบินอินชอนนะคะ
ขาไปเราไม่มีโหลดกระเป๋า หลังจาก ตม. ปั๊มพาสปอร์ตให้เราแบบเงียบๆ (ไม่ถงไม่ถามอะไรซ้ากคำ) ก็เลยเดินตัวปลิวออกไปพร้อมคุยกับคณะเดินทางว่าเค้าจะหาเราเจอมั้ยนะ? ปากฏว่าพอก้าวขาออกพ้นประตูปุ๊บ! ก็มีหนุ่มเกาหลีร่างอวบอั๋น หน้าตาใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสในเสื้อสีน้ำเงินโบกไม้โบกมือให้ราวกับมารอรับญาติที่พลัดพรากจากกันไปนาน ฮ่าๆ เดาว่าเค้าคือ Mr. Lee มั้งคะเพราะเห็นชื่อไลน์ชื่อนี้ Mr.Lee คนนี้ก็มาอธิบายวิธีใช้ให้ฟังค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะฟังไม่เข้าใจ ส่วนใหญ่ก็ใช้ศัพท์กันง่ายๆ ทั่วไปค่ะ สบายบรื๋อ~ เค้าก็พูดถึงปุ่มเปิด-ปิด การชาร์จแบต เขาบอกว่าชาร์จเต็ม 1 ครั้งจะใช้ได้ราวๆ 10 ชั่วโมงค่ะ จากนั้นก็ลองเครื่อง ปรากฏว่าไข่เครื่องแรกนั้นพวกเรา 4 คนรับสัญญาณได้แค่คนเดียว Mr.Lee เลยเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้และคราวนี้ใช้ได้ทุกคน เหล่าคนติดเน็ตก็โล่งอกกันไป
เจ้าไข่ร่างบอบบางแต่ศักยภาพสูงตัวนี้ใช้แชร์เน็ตได้สูงสุด 7 อุปกรณ์นะคะ เจ้าไข่ไวไฟตัวนี้จะมาพร้อมกระเป๋าพลาสติกและสายชาร์จแพคอยู่ในกระเป๋า สายชาร์จสามารถถอดออกจากอแดปเตอร์ได้นะคะ เราจึงสามารถเอามาชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ได้ค่ะ
นี่คือหน้าตาของเจ้าไข่ ตัวปล่อยไวไฟเครื่องจิ๋ว (ของเราจะกลมมน บางๆกว่านี้นิดนึง แต่ลืมถ่ายรูปไว้ อันนี้ของเพื่อนเช่าค่ะ ขอรูปเค้ามา แหะๆ)
ส่วนการใช้งานนะคะ สถานที่ที่เราไปเที่ยวส่วนใหญ่จะสัญญาณดีม้ากกกกกมากกกกกกก รวดเร็ว ฉับไว ใส่ใจประชาชน อัพรูปลงอินสตาแกรมทีนี่ไม่ต้องรออะไรเลย กดส่งปุ๊บขึ้นปั๊บ จะดูคลิปโหลดคลิปก็เร็วมากค่ะ ประทับใจแทบร้องไห้ (ที่ไทยก็ร้องนะ ช้าจนร้องไห้ ฮ่าๆ)
อันนี้ความเร็วในที่พักย่านฮงแดค่ะ
ไปพระราชวังถ็อกซูก็เร็วค่ะ ประมาณนี้
แถมรูปที่เที่ยวมั่ง อิอิ
นอกจากนั้นเราก็ไปหมู่บ้านนัมซานฮันอก ไปมยองดง ห้าง Lotte Fitin จัตุรัสควางฮวามุน หน้าตึก JYP เป็นต้น ก็สัญญาณดีเลิศทุกที่แม้วันฝนตกค่ะ เรียกได้ว่าดีมากถึง 99% เลยทีเดียว มีเหวี่ยงๆหายบ้างในรถไฟใต้ดิน แต่แป๊บเดียวก็มาค่ะ และไม่ได้เป็นบ่อยส่วนสถานที่ที่สัญญาณอ่อนที่สุดคือตอนไปเที่ยวเอเวอร์แลนด์ค่ะ เข้าใจว่าเพราะออกนอกเมืองไปไกลหน่อย ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้เลยนะคะ ก็ใช้ได้ แต่บางจุดสัญญาณจะขึ้นสีแดงซึ่งหมายถึงมันอ่อนมากค่ะ
ด้านแบตเตอรี่นั้นก็ใช้ได้นานค่ะ แต่คิดว่าคงไม่ถึง 10 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามเราพกพาวเวอร์แบงค์ไปด้วย พอแบตเจ้าไข่เริ่มแดงๆแล้วก็จัดการเติมพลังทันทีก็เลยใช้ได้ทั้งวันจนกลับมาถึงที่พักเลยค่ะ
ส่วนขากลับที่เราต้องคืนเครื่องก็จะมีเจ้าหน้าที่ไลน์มาอีกเช่นเคย ถามเวลาที่เราจะไปถึงสนามบิน แต่คราวนี้คนละคนกับ Mr.Lee รอบนี้เราไม่ได้ส่งรูปให้เค้าดูหรอกค่ะ อาศัยคุยในไลน์เอา แถมตัวเองหา Row ที่ต้อง Check in ไม่เจอก็ได้คุณเจ้าหน้าที่คนนี้ช่วยบอก แหะๆ แล้วสุดท้ายก็ส่งคืนไข่ให้เขาไปอย่างอาลัยอาวรณ์(ในความเร็ว)ก่อนเข้าไปยัง ตม.
ไลน์มาทีไร สติกเกอร์นี่ขาดไม่ได้จริงๆ อิอิ
สรุปว่าการใช้งานเจ้าไข่ไวไฟจาก easy korea wifi นั้น เราให้คะแนนดังนี้
ขั้นตอนการเช่า: 9/10 ในเว็บไซต์อธิบายเข้าใจง่าย ยกเว้น! ตัวอย่างการคิดค่าเช่า ขอหักคะแนน
การบริการ: 10/10 รวดเร็วและใส่ใจลูกค้า
สัญญาณ: 10/10 เร็วมากและครอบคลุมพื้นที่ดี
พิมพ์เสร็จ ลองอ่านดูทำไมมันเยิ่นเย้อแบบนี้เนี่ย ฮ่าๆ ขออภัย มือใหม่หัดรีวิว หวังว่าจะได้รับประโยชน์จากรีวิวนี้ไปบ้างนะคะ ขออำลาไปก่อน ไว้พบกันคราวหน้า สวัสดีรอบทู้ค่า -/\-