เรียนจบมาเกือบ 1 ปี ประกอบอาชีพส่วนตัว หาลูกค้าทางเน็ต รายรับต่อเดือน 1 แสนขึ้น ยังไม่หักค่าใช้จ่าย
เรื่องมันมีอยู่ว่า ต้องขนของไปส่งด้วย ทุกวันนี้จ้างพ่อ ต่อวันให้ 1,000 บาท สมุทรปราการไปกับมีนบุรี ใน 1 เดือน จะไปเกือบ 10-20 เที่ยวต่อเดือน ขึ้นอยู่กับงานที่มี งานมีกำหนดระยะเวลาในการผลิต คุณพ่อก็ไม่ค่อยจะอยู่ด้วยบ้างที ยิ่งวันไหนทะเลาะกันต้องจ้างแท็กซี่ ถ้าของน้อยๆนั่งรถเมล์ สิ่งของที่แบกคือกระสอบหนัก 13 กก. ต้องไปส่ง บขส. หรือไม่ก็หัวลำโพง ถ้าเกิน 1 กระสอบยังไงก็ต้องแท็กซี่ แบกไม่ไหว
หักต้นทุนจะมีเงินเหลือ 2 - 3 หมื่น แต่มันก็เป็นเงินหมุน แล้วรู้สึกว่าค่ารถโหดมาก เคยยกมือถือให้แท็กซี่เพราะไม่อยากจ่ายค่ารถ
หรือทนทำแบบเดิมต่อไปดี ประมาณว่าไม่มีปัญญาหาเงินดาวน์เกิน 20% แน่ หมุนตลอดๆ แต่ดูท่าจะมีเงินผ่อน เพราะถ้าไม่จ่ายค่ารถกับแท็กซี่ คงมีเวลาไปขายของอย่างอื่นอีกด้วย วางแผนจะไปขายน้ำช่วงกลางวัน
- บ้านเดี่ยว เป็นเจ้าบ้าน ไม่มีภาระต้องผ่อนบ้าน
- ข้าวที่บ้านทำไว้ ซื้อกินเองบ้างวัน ไม่พยายามจะกินนอกบ้าน อย่างมากเดินหาข้าวราดแกง
- ไม่ค่อยออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น เพราะว่าเปลื้องเงิน
- มีหนี้ต้องใช้แทนคุณแม่ที่แสนน่ารัก ติดพนันหายตัวไปดื้อๆ ต้องไปกู้มาใช้เขา ภาระส่วนนี้ 6,400 บาท/เดือน พ่อช่วยผ่อน (เคยตั้งกระทู้ถามเรื่อขายฝาก ถ้าสนใจลองย้อนดูกระทู้เก่าเอานะ)
- ค่าเน็ตค่ามือถือ 1,200 บาท ค่าน้ำค่าไฟไม่จ่าย
ถามเฉยๆ ว่าควรซื้อไหม? 55555 แค่คิดว่าเหนื่อยนะที่ต้องนั่งรถเมล์ไปส่งของ กลับบ้านดึก ถ้าได้คำแนะนำบ้างจะได้พิจารณาว่าจะทนจ่ายแบบเดิมไหม? หรือผ่อนเองดี
และก็ทำหลายอย่างค่ะ แต่ไม่ได้เอามาบวกเพิ่ม เพราะขายสมุนไพรด้วย ต่อเดือนเคยได้ 20,000 บาท จะกลับมาขายอีก กำไรส่วนนี้ 70% สบายเกินไปแค่นั่งตอบลูกค้า ถึงเวลาไปส่งของที่ไปรษณีย์สะดวก
แล้วถ้ามีรถก็จะเริ่มขายหมูทอดเจียงฮายช่วงเช้า(แต่ต้องหาที่เหมาะๆ) ดันทุรังไปซื้อสูตรมาแต่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดกำไรในส่วนความรู้ที่เสียเงินซื้อมา เคยเจ๊งเพราะไปขายผิดที่
แนะนำมาเลยค่ะ นั่งรถเมล์ไปส่งของน้ำตาร่วงทุกที เหนื่อยเหลือเกิน แต่มันประหยัดจริงๆ และแบกได้แค่กระสอบเดียว แฟนไปด้วยก็ 2 กระสอบ
สนใจกะบะแต่แพง หันไปสนอีโค่คาร์แทน จะเอามาใช้แก้ขัดไปก่อนค่อยเปลี่ยน ยอมรับคิดสั้น
ปรึกษาว่า แบบเราควรออกรถไหม? หรือ นั่งรถเมล์ต่อไป?
เรื่องมันมีอยู่ว่า ต้องขนของไปส่งด้วย ทุกวันนี้จ้างพ่อ ต่อวันให้ 1,000 บาท สมุทรปราการไปกับมีนบุรี ใน 1 เดือน จะไปเกือบ 10-20 เที่ยวต่อเดือน ขึ้นอยู่กับงานที่มี งานมีกำหนดระยะเวลาในการผลิต คุณพ่อก็ไม่ค่อยจะอยู่ด้วยบ้างที ยิ่งวันไหนทะเลาะกันต้องจ้างแท็กซี่ ถ้าของน้อยๆนั่งรถเมล์ สิ่งของที่แบกคือกระสอบหนัก 13 กก. ต้องไปส่ง บขส. หรือไม่ก็หัวลำโพง ถ้าเกิน 1 กระสอบยังไงก็ต้องแท็กซี่ แบกไม่ไหว
หักต้นทุนจะมีเงินเหลือ 2 - 3 หมื่น แต่มันก็เป็นเงินหมุน แล้วรู้สึกว่าค่ารถโหดมาก เคยยกมือถือให้แท็กซี่เพราะไม่อยากจ่ายค่ารถ
หรือทนทำแบบเดิมต่อไปดี ประมาณว่าไม่มีปัญญาหาเงินดาวน์เกิน 20% แน่ หมุนตลอดๆ แต่ดูท่าจะมีเงินผ่อน เพราะถ้าไม่จ่ายค่ารถกับแท็กซี่ คงมีเวลาไปขายของอย่างอื่นอีกด้วย วางแผนจะไปขายน้ำช่วงกลางวัน
- บ้านเดี่ยว เป็นเจ้าบ้าน ไม่มีภาระต้องผ่อนบ้าน
- ข้าวที่บ้านทำไว้ ซื้อกินเองบ้างวัน ไม่พยายามจะกินนอกบ้าน อย่างมากเดินหาข้าวราดแกง
- ไม่ค่อยออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น เพราะว่าเปลื้องเงิน
- มีหนี้ต้องใช้แทนคุณแม่ที่แสนน่ารัก ติดพนันหายตัวไปดื้อๆ ต้องไปกู้มาใช้เขา ภาระส่วนนี้ 6,400 บาท/เดือน พ่อช่วยผ่อน (เคยตั้งกระทู้ถามเรื่อขายฝาก ถ้าสนใจลองย้อนดูกระทู้เก่าเอานะ)
- ค่าเน็ตค่ามือถือ 1,200 บาท ค่าน้ำค่าไฟไม่จ่าย
ถามเฉยๆ ว่าควรซื้อไหม? 55555 แค่คิดว่าเหนื่อยนะที่ต้องนั่งรถเมล์ไปส่งของ กลับบ้านดึก ถ้าได้คำแนะนำบ้างจะได้พิจารณาว่าจะทนจ่ายแบบเดิมไหม? หรือผ่อนเองดี
และก็ทำหลายอย่างค่ะ แต่ไม่ได้เอามาบวกเพิ่ม เพราะขายสมุนไพรด้วย ต่อเดือนเคยได้ 20,000 บาท จะกลับมาขายอีก กำไรส่วนนี้ 70% สบายเกินไปแค่นั่งตอบลูกค้า ถึงเวลาไปส่งของที่ไปรษณีย์สะดวก
แล้วถ้ามีรถก็จะเริ่มขายหมูทอดเจียงฮายช่วงเช้า(แต่ต้องหาที่เหมาะๆ) ดันทุรังไปซื้อสูตรมาแต่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดกำไรในส่วนความรู้ที่เสียเงินซื้อมา เคยเจ๊งเพราะไปขายผิดที่
แนะนำมาเลยค่ะ นั่งรถเมล์ไปส่งของน้ำตาร่วงทุกที เหนื่อยเหลือเกิน แต่มันประหยัดจริงๆ และแบกได้แค่กระสอบเดียว แฟนไปด้วยก็ 2 กระสอบ
สนใจกะบะแต่แพง หันไปสนอีโค่คาร์แทน จะเอามาใช้แก้ขัดไปก่อนค่อยเปลี่ยน ยอมรับคิดสั้น