อธิบดีกรมศุลฯ สั่งปลดป้ายจำกัดนำเข้าสินค้า



กรุงเทพฯ 1 ก.ค.- อธิบดีกรมศุลกากรสั่งปลดป้ายประกาศแจ้งนำเข้าสินค้าเกิน 10,000 บาท ต้องเสียภาษีแล้ว ยันเป็นแค่การให้ข้อมูลกับประชาชนและเป็นนโยบายของอธิบดีคนเก่า

จากกรณีที่สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ติดป้ายประกาศแจ้งผู้โดยสารและลูกเรือที่นำของเข้ามามูลค่ารวมต้องไม่เกินกว่า 10,000 บาท หากนำเข้าเกินต้องเสียภาษี มิฉะนั้น จะมีความผิดตามกฎหมายนั้น นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยการติดป้ายดังกล่าวบริเวณขาเข้าเพิ่มเติมประมาณ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปกติติดอยู่ขาออกนอกประเทศเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นนโยบายของตน แต่เป็นนโยบายของอธิบดีคนเก่า จึงได้สั่งถอดป้ายออกแล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความกังวล โดยเชื่อว่าการติดป้ายดังกล่าวเป็นเพียงการให้ความรู้กับประชาชนเท่านั้น แต่ไม่ใช่เป็นมาตรการที่เข้มงวดในการตรวจสอบประชาชนที่เดินทาง ยังคงใช้วิธีสุ่มตรวจตามปกติ  
 
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวพ่อค้า แม่ค้า รวมถึงนักชอปและนักท่องเที่ยวไม่พอใจ เนื่องจากบางรายต้องการไปเที่ยวเพื่อช็อปปิ้งจับจ่ายซื้อของจริงๆ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 10,000 บาท จึงมีการโพสต์แสดงความไม่พอใจบนโซเชียลมากมาย
 
อย่างไรก็ตาม ทางศุลกากรได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าห้ามบุคคลนำของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษีอากร หรือของที่ควบคุมการนำเข้า หรือของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในประเทศ อาจเป็นของที่ต้องเสียภาษีหรือไม่ต้องเสียภาษีก็ได้ หรืออาจเป็นของต้องห้ามหรือของต้องจำกัดหรือไม่ก็ได้ หากไม่นำมาผ่านพิธีการศุลกากร ก็มีความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร โดยกฎหมายศุลกากรได้กำหนดโทษไว้สูงสุดคือ ริบของที่ลักลอบหนีศุลกากรและปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของรวมค่าภาษีอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำและปรับ.-สำนักข่าวไทย