คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เงินที่คุณยายยกให้คุณ น่าจะเข้าตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (10)
เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธี หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี
ซึ่งถือว่าเป็น เงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นภาษี ดังนั้นสเตปแรก เงินได้จากคุณยาย ไม่ต้องเสียภาษีครับ
ส่วนดอกเบี้ยจาก me ผมอ้างแต่ประมวลรัษฎากร ไม่ได้อ้างถึงประกาศกรมสรรพากร
ตามมาตรา 42 (8) (ค)
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภท ออมทรัพย์เฉพาะ กรณีที่ผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยดังกล่าวในจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดี ประกาศ(มาตรา 42(8))
ส่วนที่เกินก็ต้องเสียภาษีตามหลักเกณฑ์ครับ
เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธี หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี
ซึ่งถือว่าเป็น เงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นภาษี ดังนั้นสเตปแรก เงินได้จากคุณยาย ไม่ต้องเสียภาษีครับ
ส่วนดอกเบี้ยจาก me ผมอ้างแต่ประมวลรัษฎากร ไม่ได้อ้างถึงประกาศกรมสรรพากร
ตามมาตรา 42 (8) (ค)
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภท ออมทรัพย์เฉพาะ กรณีที่ผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยดังกล่าวในจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดี ประกาศ(มาตรา 42(8))
ส่วนที่เกินก็ต้องเสียภาษีตามหลักเกณฑ์ครับ
แสดงความคิดเห็น
ผมได้รับเงินจากยาย ผมต้องเสียภาษีมั้ยครับ
พอได้เงินมา ผมก็เอาฝากที่ me ต้องเสียภาษี 15% ผมเลยจะขอคืน เพราะว่าผมก็ไม่มีอาชีพอะไรเลย
ทีนี้กลัวสรรพากรมาตรวจ ว่าทำไมอยู่ดีๆมีเงินมาจากไหน
เลยอยากรู้ว่า เงินก้อนนี้ผมต้องเสียภาษีอีกมั้ยครับ