เป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อเก่าไป ย่อมมีสิ่งใหม่เข้ามาเสมอ เฉกเช่นกับวงการลูกหนังโลก
นักเตะรุ่นแล้วรุ่นเล่าสลับสับเปลี่ยนขึ้นมาสร้างสีสันให้แฟนๆ ได้ติดตาม แต่มีอยู่ไม่มากนัก จะได้รับการยกย่องเป็นตำนานของวงการ ด้วยความสามารถอันโดดเด่นเกินกว่าใครๆ
ชื่อของเปเล่, ดีเอโก้ มาราโดน่า, โยฮัน ครอยฟ์, ฟร้านช์ เบ็คเค่นบาวเออร์, มิเชล พลาตินี่ และซีเนดีน ซีดาน ยังคงเป็นที่กล่าวถึง
ผู้คนเฝ้ารอได้เห็นนักเตะพรสวรรค์สูงแบบนี้ในยุคต่อๆ มา จนมีการนำขุนพลรุ่นใหม่ๆ ไปเปรียบเทียบกับตำนาน แล้วขนานนามแต่ละคนว่าเป็นนิวเปเล่, นิวมาราโดน่า หรือนิวซีดาน
ลิโอเนล เมสซี่ เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น เมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับตำนานหมายเลข 10 ผู้พาทีมฟ้า-ขาว คว้าแชมป์โลก 1986
ด้วยรูปร่าง, ทักษะความสามารถ และบุคลิก เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่เมสซี่ จะต้องเจอการเปรียบเทียบนั้น ทั้งมันยังแปรเปลี่ยนเป็นความคาดหวังของแฟนบอลที่ต้องการเห็นภาพประวัติศาสตร์ที่มาราโดน่า เคยทำเอาไว้ เกิดขึ้นในยุคของเมสซี่
อย่างไรก็ตาม ความยอดเยี่ยมของดาวเตะบาร์เซโลน่า ที่ประสบความสำเร็จทุกอย่างในระดับสโมสร เขาก้าวผ่านคำว่านิวมาราโดน่า ได้อย่างเต็มตัว
เมสซี่ สร้างชื่อให้กับตัวเอง จนเขากลายเป็นต้นแบบของการเปรียบเทียบไปโดยปริยาย
คงเคยได้ยินบ่อยๆ เมื่อมีดาวรุ่งความสามารถสูงสักคนเล่นในสไตล์ใก้เคียงกับสตาร์จากบาร์ซ่า จะได้รับการขนานนามว่านิวเมสซี่
หนึ่งในจำนวนนั้นคือเซอร์ดาน ชากีรี่ ตัวรุกดาวรุ่งทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของฉายา
"อัลไพน์ เมสซี่"
ทีมแดนนาฬิกา ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลก 2014 ในฐานะทีมอันดับ 2 ของกลุ่มอีได้ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นอันเปล่งปลั่งสุดๆ ของชากิรี่ ซึ่งด่านต่อไปต้องพบกับอาร์เจนติน่า
ช่างเป็นเรื่องประจวบเหมาะเหลือเกิน เมื่อเมสซี่ จะได้เผชิญหน้ากับชากิรี่ ผู้ถูกเปรียบเทียบ
ชากิรี่ ทำในสิ่งที่เมสซี่ ยังไม่เคยทำได้มาก่อน คือแฮตทริกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เมื่อซัด 3 ประตูใส่ฮอนดูรัส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยนั่นบ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมของตัวรุกร่างเล็กจากบาเยิร์น มิวนิค
การที่ไม่ได้รับโอกาสมากนักจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อฤดูกาลก่อน เป็นเหตุให้เขาถูกจับตามองจากหลายๆ ทีม
ในจำนวนนั้นคือลิเวอร์พูล ของเบรนแดน ร็อดเจอร์ ที่ติดตามสถานการณ์ของดาวเตะวัย 22 ปีอย่างใกล้ชิด แม้อาจต้องแย่งชิงกับ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งเวทีกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อย่างเอซี มิลาน กับโรม่า ก็ตาม
หนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่สร้างความตื่นเต้นที่สุดในยุโรป โชว์ความสมบูรณ์แบบที่มาเน้าส์ เมื่อวันพุธ
โดยประตูแรกมาจากการตะบันไกลระยะ 25 หลา ทั้งๆ ถูกกดดันจาก 2 ปราการหลังฮอนดูรัส ตามด้วยตามการลากไปยิงจากจังหวะสวนกลับ และปิดท้ายด้วยการเข้าทำแบบในเขตโทษจากจังหวะอันเหมาะเหม็ง
ประตูที่ 2 และ 3 ของชากิรี่ มาจากการเปิดของโจซิฟ เดอร์มิช กองหน้าวัย 21 ปีที่เพิ่งย้ายจากเนิร์นแบร์ก ไปเล่นกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
เดอร์มิช เป็นอีกหนึ่งนักเตะสายเลือดใหม่ของทีมแดนนาฬิกา โดยเขาเป็นหนึ่งในหลายๆ นักเตะที่ครอบครัวต้องอพยพจากอดีตประเทศยูโกสลาเวีย มาอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ชากิรี เกิดในเมื่อกินยิลาเน่ ที่ปัจจุบันคือโคโซโว เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมอย่างกรานิต ชาก้า ที่มีพ่อ-แม่เป็นชาวโคโซวาน เช่นกัน
แม้ว่าชากิรี่ จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติสวิตฯ ที่คว้าแชมป์ยู 17 ชิงแชมป์โลกในปี 2009 เหมือนอย่างชาก้า, ฮาริส เซเฟโรวิช และริคาร์โด้ โรดริเกซ ทว่าเขาเป็นผู้นำเหล่านักเตะสายเลือดใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์อย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะเขาเดินทางไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น
แฟนบอลอังกฤษ น่าจดจำชากิรี่ ได้จากประตูอันยอดเยี่ยม ในสัปดาห์ก่อนวันเกิดอายุครบ 19 ปี ของเกมรอบคัดเลือกยูโร 2010 ที่บาเซิ่ล ซึ่งทีมสิงโตคำรามบุกเอาชนะได้ 3-1
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชากิรี่ แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ และมี 3 ฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จกับบาเซิ่ล ทั้งแชมป์ลีก 3 สมัย และบอลถ้วยอีก 2 ครั้ง
ชากิรี่ ย้ายมาร่วมทีมบาเยิร์น ด้วยค่าตัว 11 ล้านยูโร ช่วงซัมเมอร์ 2012 โดยฤดูกาลแรกของเขาภาพใต้การคุมทีมของจุ๊ปป์ ไฮย์เกส ถือว่ามีส่วนกับความสำเร็จอย่างเต็มตัวกับทริปเปิลแชมป์
ขณะที่ฤดูกาลก่อน แม้ทีมเสือใต้ไขว่คว้าความสำเร็จมาครองทั้งลีก และเดเอฟเบ โพคาล แต่เขากลับไม่มีส่วนร่วมเท่าไหร่นัก
ความสำเร็จที่กล่าวมาอาจเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เมสซี่ ทำไว้กับบาร์เซโลน่า
กระนั้นหลังจากทั้งคู่ต่างสร้างความประทับใจในการรับใช้ชาติในฟุตบอลโลก ที่บราซิล แล้วต้องมาประทะกันโดยตรงที่เอสตาดิอู นาซิออนนาล ในบราซิเลีย วันจันทร์หน้า ก็ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก
ทั้งเมสซี่ และชากิรี่ ต่างมีส่วนกับเกมของทีม เพราะเป็นนักเตะที่รับส่งบอลมากสุดในสนาม
นอกจากนั้นแล้ว ตัวเลขสถิติการยิงประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังมีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือสร้างโอกาสทำประตู 1 ครั้งในทุกๆ 24 นาที โดยดาวเตะสวิตฯ มีเปอร์เซนต์ความเด็ดขาดมากกว่าอยู่ที่ 43%
เมสซี่ พีกในช่วงเวลาที่ถูกต้องในการพาทีมฟ้า-ขาวผ่านเข้ารอบ กระนั้นชากิรี่ อยู่ในฟอร์มอันยอดเยี่ยมเช่นกัน
อาจเป็นเรื่องยากในการที่สวิตเซอร์แลนด์ จะผ่านอาร์เจนติน่า ที่เริ่มติดเครื่อง แต่ขึ้นชื่อว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าผลจะจบลงอย่างไร หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการเจอกันของต้นแบบ กับผู้มาใหม่
ไม่แน่ หลังจบแมตช์นี้ ชากิรี่ อาจปลดแอกตัวเองจากการใช้ฉายา "เมสซี่ แห่งเทือกเขาแอลป์" ก็เป็นได้
http://www.siamsport.co.th/worldcup2014/news_detail.php?IDNews=237267
เมสซี่ vs นิวเมสซี่ คืนนี้รู้กัน!!!!!
เป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อเก่าไป ย่อมมีสิ่งใหม่เข้ามาเสมอ เฉกเช่นกับวงการลูกหนังโลก
นักเตะรุ่นแล้วรุ่นเล่าสลับสับเปลี่ยนขึ้นมาสร้างสีสันให้แฟนๆ ได้ติดตาม แต่มีอยู่ไม่มากนัก จะได้รับการยกย่องเป็นตำนานของวงการ ด้วยความสามารถอันโดดเด่นเกินกว่าใครๆ
ชื่อของเปเล่, ดีเอโก้ มาราโดน่า, โยฮัน ครอยฟ์, ฟร้านช์ เบ็คเค่นบาวเออร์, มิเชล พลาตินี่ และซีเนดีน ซีดาน ยังคงเป็นที่กล่าวถึง
ผู้คนเฝ้ารอได้เห็นนักเตะพรสวรรค์สูงแบบนี้ในยุคต่อๆ มา จนมีการนำขุนพลรุ่นใหม่ๆ ไปเปรียบเทียบกับตำนาน แล้วขนานนามแต่ละคนว่าเป็นนิวเปเล่, นิวมาราโดน่า หรือนิวซีดาน
ลิโอเนล เมสซี่ เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น เมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับตำนานหมายเลข 10 ผู้พาทีมฟ้า-ขาว คว้าแชมป์โลก 1986
ด้วยรูปร่าง, ทักษะความสามารถ และบุคลิก เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่เมสซี่ จะต้องเจอการเปรียบเทียบนั้น ทั้งมันยังแปรเปลี่ยนเป็นความคาดหวังของแฟนบอลที่ต้องการเห็นภาพประวัติศาสตร์ที่มาราโดน่า เคยทำเอาไว้ เกิดขึ้นในยุคของเมสซี่
อย่างไรก็ตาม ความยอดเยี่ยมของดาวเตะบาร์เซโลน่า ที่ประสบความสำเร็จทุกอย่างในระดับสโมสร เขาก้าวผ่านคำว่านิวมาราโดน่า ได้อย่างเต็มตัว
เมสซี่ สร้างชื่อให้กับตัวเอง จนเขากลายเป็นต้นแบบของการเปรียบเทียบไปโดยปริยาย
คงเคยได้ยินบ่อยๆ เมื่อมีดาวรุ่งความสามารถสูงสักคนเล่นในสไตล์ใก้เคียงกับสตาร์จากบาร์ซ่า จะได้รับการขนานนามว่านิวเมสซี่
หนึ่งในจำนวนนั้นคือเซอร์ดาน ชากีรี่ ตัวรุกดาวรุ่งทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของฉายา "อัลไพน์ เมสซี่"
ทีมแดนนาฬิกา ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลก 2014 ในฐานะทีมอันดับ 2 ของกลุ่มอีได้ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นอันเปล่งปลั่งสุดๆ ของชากิรี่ ซึ่งด่านต่อไปต้องพบกับอาร์เจนติน่า
ช่างเป็นเรื่องประจวบเหมาะเหลือเกิน เมื่อเมสซี่ จะได้เผชิญหน้ากับชากิรี่ ผู้ถูกเปรียบเทียบ
ชากิรี่ ทำในสิ่งที่เมสซี่ ยังไม่เคยทำได้มาก่อน คือแฮตทริกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เมื่อซัด 3 ประตูใส่ฮอนดูรัส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยนั่นบ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมของตัวรุกร่างเล็กจากบาเยิร์น มิวนิค
การที่ไม่ได้รับโอกาสมากนักจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อฤดูกาลก่อน เป็นเหตุให้เขาถูกจับตามองจากหลายๆ ทีม
ในจำนวนนั้นคือลิเวอร์พูล ของเบรนแดน ร็อดเจอร์ ที่ติดตามสถานการณ์ของดาวเตะวัย 22 ปีอย่างใกล้ชิด แม้อาจต้องแย่งชิงกับ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งเวทีกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อย่างเอซี มิลาน กับโรม่า ก็ตาม
หนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่สร้างความตื่นเต้นที่สุดในยุโรป โชว์ความสมบูรณ์แบบที่มาเน้าส์ เมื่อวันพุธ
โดยประตูแรกมาจากการตะบันไกลระยะ 25 หลา ทั้งๆ ถูกกดดันจาก 2 ปราการหลังฮอนดูรัส ตามด้วยตามการลากไปยิงจากจังหวะสวนกลับ และปิดท้ายด้วยการเข้าทำแบบในเขตโทษจากจังหวะอันเหมาะเหม็ง
ประตูที่ 2 และ 3 ของชากิรี่ มาจากการเปิดของโจซิฟ เดอร์มิช กองหน้าวัย 21 ปีที่เพิ่งย้ายจากเนิร์นแบร์ก ไปเล่นกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
เดอร์มิช เป็นอีกหนึ่งนักเตะสายเลือดใหม่ของทีมแดนนาฬิกา โดยเขาเป็นหนึ่งในหลายๆ นักเตะที่ครอบครัวต้องอพยพจากอดีตประเทศยูโกสลาเวีย มาอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ชากิรี เกิดในเมื่อกินยิลาเน่ ที่ปัจจุบันคือโคโซโว เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมอย่างกรานิต ชาก้า ที่มีพ่อ-แม่เป็นชาวโคโซวาน เช่นกัน
แม้ว่าชากิรี่ จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติสวิตฯ ที่คว้าแชมป์ยู 17 ชิงแชมป์โลกในปี 2009 เหมือนอย่างชาก้า, ฮาริส เซเฟโรวิช และริคาร์โด้ โรดริเกซ ทว่าเขาเป็นผู้นำเหล่านักเตะสายเลือดใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์อย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะเขาเดินทางไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น
แฟนบอลอังกฤษ น่าจดจำชากิรี่ ได้จากประตูอันยอดเยี่ยม ในสัปดาห์ก่อนวันเกิดอายุครบ 19 ปี ของเกมรอบคัดเลือกยูโร 2010 ที่บาเซิ่ล ซึ่งทีมสิงโตคำรามบุกเอาชนะได้ 3-1
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชากิรี่ แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ และมี 3 ฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จกับบาเซิ่ล ทั้งแชมป์ลีก 3 สมัย และบอลถ้วยอีก 2 ครั้ง
ชากิรี่ ย้ายมาร่วมทีมบาเยิร์น ด้วยค่าตัว 11 ล้านยูโร ช่วงซัมเมอร์ 2012 โดยฤดูกาลแรกของเขาภาพใต้การคุมทีมของจุ๊ปป์ ไฮย์เกส ถือว่ามีส่วนกับความสำเร็จอย่างเต็มตัวกับทริปเปิลแชมป์
ขณะที่ฤดูกาลก่อน แม้ทีมเสือใต้ไขว่คว้าความสำเร็จมาครองทั้งลีก และเดเอฟเบ โพคาล แต่เขากลับไม่มีส่วนร่วมเท่าไหร่นัก
ความสำเร็จที่กล่าวมาอาจเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เมสซี่ ทำไว้กับบาร์เซโลน่า
กระนั้นหลังจากทั้งคู่ต่างสร้างความประทับใจในการรับใช้ชาติในฟุตบอลโลก ที่บราซิล แล้วต้องมาประทะกันโดยตรงที่เอสตาดิอู นาซิออนนาล ในบราซิเลีย วันจันทร์หน้า ก็ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก
ทั้งเมสซี่ และชากิรี่ ต่างมีส่วนกับเกมของทีม เพราะเป็นนักเตะที่รับส่งบอลมากสุดในสนาม
นอกจากนั้นแล้ว ตัวเลขสถิติการยิงประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังมีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือสร้างโอกาสทำประตู 1 ครั้งในทุกๆ 24 นาที โดยดาวเตะสวิตฯ มีเปอร์เซนต์ความเด็ดขาดมากกว่าอยู่ที่ 43%
เมสซี่ พีกในช่วงเวลาที่ถูกต้องในการพาทีมฟ้า-ขาวผ่านเข้ารอบ กระนั้นชากิรี่ อยู่ในฟอร์มอันยอดเยี่ยมเช่นกัน
อาจเป็นเรื่องยากในการที่สวิตเซอร์แลนด์ จะผ่านอาร์เจนติน่า ที่เริ่มติดเครื่อง แต่ขึ้นชื่อว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าผลจะจบลงอย่างไร หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการเจอกันของต้นแบบ กับผู้มาใหม่
ไม่แน่ หลังจบแมตช์นี้ ชากิรี่ อาจปลดแอกตัวเองจากการใช้ฉายา "เมสซี่ แห่งเทือกเขาแอลป์" ก็เป็นได้
http://www.siamsport.co.th/worldcup2014/news_detail.php?IDNews=237267