มาถึงครึ่งทางก็จะมีที่ให้พักยก สภาพก็จะกลายเป็นแบบนี้ แป้งโป้งโบกมา หลุดลอกออก เผยให้เห็นความจริงบนใบหน้า

พักได้สักพักก็เริ่มมีพลังมากขึ้น ที่หัวเราะกันมันนี่ไม่ใช่อะไรนะ นินทาเพื่อนที่รออยู่ข้างล่างกัน
คือโชคที่มากอ่ะที่พวกอึงไม่ขึ้นมา ห้าๆๆๆๆ ไม่ใช้สิต้องบอก พลาดมากที่ไม่ได้ขึ้นมา
...เมื่อมีพลังระดับหนึ่งแล้วก็ลุยกันต่อเฮ้ !!!!

บ่งบอกว่าพลังที่ชาร์ตมาเยอะเฟ่อร์ไรเฟ่อร์

ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการเดินขึ้นไปถึงตัววัด ทำเอา เพื่อนมีนเป็นลมอยู่บนวัดเลย ณ จุดนี้ทุกคนเหนื่อยมาก
เมื่อชมความสวยงามที่แทบจะบอกได้ว่า คุ่มค่ามากกับการที่ต้องและกับความเหนื่อยที่ได้ขึ้นมา
ด้านทิศตะวันตกขององค์หลวงพ่อพระใหญ่ จะเป็นหน้าผามีศาลาไว้ให้ชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบหน้าเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งว่ากันว่าเป็นทะเลแห่งภาคอีสานเลยล่ะ ชื่อแหล่งท่องเที่ยว และที่พักผ่อนหย่อนใจรอบๆทะเลสาบแห่งนี้ จะตั้งชื่อเลียนแบบชายหาดชื่อดังของภาคตะวันออก เช่น หาดบางแสน 2 ซึ่งอยู่ใกล้ๆท่าเรือ หาดพัทยา 2 อยู่ที่ อ.นาคำ (ซึ่งหาดบางแสน 2 จะเป็นอีกสถานที่ที่เราจะไปสัมผัสต่อไป)
เมื่อเต็มอิ่มกับการชมบรรยากาศที่สุดแสนจะธรรมชาติ โดยเหล่าบุคคลที่ธรรมชาติลงโทษ
เราทั้งสามคนก็เดินลง ซึ่งการเดินลงควรระวังลื่นให้มากๆ เพราะเราควบคุมตัวยากนิดนุง อีกอย่างที่บอกไว้ข้างต้นคือ พื้นลื่นเฟ่อร์
เมื่อเหล่าผู้กล้าเดินมาถึงรถที่จอดรอ เล่นเอาแขนขาอ่อนกันเลยทีเดียว
เพื่อนๆกองเชียร์ต่างส่งเสียงเชียร์ไม่ขาดสาย "นึกว่าตายกันแล้ว" ห้าๆๆๆ น่ารักมากๆ
...เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ท้าทายที่ฟิกไม่สามารถลืมมันได้เลย ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน ทั้งเพลีย แต่สุดท้ายก็ได้พบกับสิ่งที่งดงามเบื้องบน ~