สวัสดีคะ ^^ พึ่งเคยตั้งกระทู้ในพันทิปครั้งแรก ปกติเข้ามาอ่านอย่างเดียว ไม่เคยเม้นด้วย ที่สำคัญพึ่งสมัคร เพราะเรื่องนี้!!
....เริ่มจาก คุณแม่ไปซื้อบ้านจัดสรรค์ ให้ลูกสาวทั้งสอง โครางการพึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆกันถัดไปอีก3หลัง
ก็เข้ามาคุยตามปกติ ตามภาษาเพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้านคนนี้อาศัยอยู่กับครอบครัว มีภรรยา ลูกสาวอายุประมาณ1ขวบ แม่ยาย ละก็หลานอายุประมาณ14ปี
อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันมาประมาณ เกือบๆปี วันหนึ่ง.... เพื่อนบ้านคนนั้นก็เข้ามาขอยืมเงิน...
โดยอ้างเรื่องลูก คุณแม่เห็นว่า ลูกเค้ายังเล็ก และอีกอย่างเค้าเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย
. . . . คุณแม่ก็เลยเอาเงินให้ยืมไป 30,000 บาท
.....โดยทำสัญญากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีกำหนดชำระดอกเบี้ย และเงินต้นทุกๆวันที่ 16 ของเดือน
โดยคิดดอกเบี้ยตามสัญญาเงินกู้ คือ "ชั่งละ 1 บาท ต่อ เดือน" ก็คือประมาณ ดอกเบี้ย 1บาท ต่อ เงิน 80 บาท
. . . . . . . . ทำสัญญากันเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2547 . . . . . . . . . .
หลังจากทำสัญญาเสร็จ เดือนต่อมา บ้านของเพื่อนบ้านคนนี้กำลังจะถูกยึดจากธนาคาร
เค้าจึงจะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ติดที่หลานสาวกำลังเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่อยากให้ย้าย อยากรอให้จบม.3ก่อน
เลยขอฝากหลาน ไว้กับบ้านเรา *0* ก็อีกตามเคย
....คุณแม่เป็นใจดี ขี้สงสาร เลยให้เด็กคนนี้เข้ามาอยู่บ้านด้วย "โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น"
เมื่อถึงกำหนดวันชำระดอกเบี้ย คุณลูกหนี้ก็ผลัด บอกว่าหมุนไม่ทัน
ผลัดมาจนถึงวันที่ หลานสาวของเค้า เรียนจบ และจะย้ายไปเรียนต่อม.4 ย้ายตามครอบครัวไป
และหลังจากนั้น... "ก็ไม่ได้รับการติดต่อ" จากคุณลูกหนี้คนนี้อีกเลย
.... จนถึงเดือนสิงหาคม ปี2555 คุณยายได้เสียชีวิต คุณแม่เดินเข้ามาบอกเราว่า .....
. . . . . . . . เงินที่อาจารย์ต้น(ชื่อเล่นคุณลูกหนี้) ยืมไปนั้นเป็นเงินของยาย . . . . .. . .
คุณแม่เริ่มแบ่งสมบัติ ของสะสมของคุณยายให้หลานๆคนละเล็กคนละน้อย บางคนได้ทอง ได้แหวน ให้เก็บไว้เป็นที่ระลึก
จนถึงเรา ......แม่บอกว่า ของเก็บของยายหมดแล้ว ทุกคนได้หมด ลูกเป็นหลานคนเล็กสุด แบ่งๆกันมาไม่ถึงเรา 555
. . . . . . . เลยได้รับภาระการติดตามทวงหนี้ก้อนนี้กลับมาให้ได้ ถ้าทวงมาได้ "ก็เอาไปเลย"
ภาระกิจติดตามทวงหนี้ก็เริ่มต้น.......
* * * เรามีข้อมูลแค่ - สัญญากู้ยืมเงิน
- สำเนาบัตรประชาชน
- เบอร์โทร
เริ่มสืบค้นทางอินเตอร์เน็ท ,คนรู้จักของคุณลูกหนี้ ,โทรไปตามเบอร์โทรที่มี
ได้ข้อมูลมาเพียง .... - ย้ายเข้าไปอยู่ กทม. ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแถวรังสิต
- คุณลูกหนี้คนนี้เป็นหนี้คนอื่นอีกเยอะแยะมากมาย
- ครอบครัวแตกแยก หย่าร้าง
สืบเสาะหาข้อมูลมาตลอด จนพบ!!!
- เปลี่ยนชื่อใหม่
- พบ Facebook ในชื่อใหม่นี้ และติดต่อได้ เย้!!!!!!!!
. . . . แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด . . . . .
เริ่มคุยกับคุณลูกหนี้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2556
คุณลูกหนี้นัดเป็นหลังปีใหม่ ไม่เกินวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557
พอถึงวัน บอกยังไม่มีเลย จะพยายามหาให้ได้ จะทำให้ดีที่สุด ชีวิตที่ผ่านมาโคตรเศร้า
รอบนี้ขอเป็นสิ้นเดือน พอถึงสิ้นเดือน ก็เป็นเช่นเคย
แล้วก็ผลัดมาเรื่อยๆ อ้างเหตุผลสารพัด บอกว่าจะขายรถมาใช้หนี้ อ้างว่ารอจัดไฟแนนซ์ รอลูกค้าตัดสินใจ ฯลฯ
ผลัดจนมาถึงบัดนี้ = ="
ลูกหนี้เหนียวหนี้ ทำยังไง??
....เริ่มจาก คุณแม่ไปซื้อบ้านจัดสรรค์ ให้ลูกสาวทั้งสอง โครางการพึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆกันถัดไปอีก3หลัง
ก็เข้ามาคุยตามปกติ ตามภาษาเพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้านคนนี้อาศัยอยู่กับครอบครัว มีภรรยา ลูกสาวอายุประมาณ1ขวบ แม่ยาย ละก็หลานอายุประมาณ14ปี
อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันมาประมาณ เกือบๆปี วันหนึ่ง.... เพื่อนบ้านคนนั้นก็เข้ามาขอยืมเงิน...
โดยอ้างเรื่องลูก คุณแม่เห็นว่า ลูกเค้ายังเล็ก และอีกอย่างเค้าเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย
. . . . คุณแม่ก็เลยเอาเงินให้ยืมไป 30,000 บาท
.....โดยทำสัญญากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีกำหนดชำระดอกเบี้ย และเงินต้นทุกๆวันที่ 16 ของเดือน
โดยคิดดอกเบี้ยตามสัญญาเงินกู้ คือ "ชั่งละ 1 บาท ต่อ เดือน" ก็คือประมาณ ดอกเบี้ย 1บาท ต่อ เงิน 80 บาท
. . . . . . . . ทำสัญญากันเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2547 . . . . . . . . . .
หลังจากทำสัญญาเสร็จ เดือนต่อมา บ้านของเพื่อนบ้านคนนี้กำลังจะถูกยึดจากธนาคาร
เค้าจึงจะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ติดที่หลานสาวกำลังเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่อยากให้ย้าย อยากรอให้จบม.3ก่อน
เลยขอฝากหลาน ไว้กับบ้านเรา *0* ก็อีกตามเคย
....คุณแม่เป็นใจดี ขี้สงสาร เลยให้เด็กคนนี้เข้ามาอยู่บ้านด้วย "โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น"
เมื่อถึงกำหนดวันชำระดอกเบี้ย คุณลูกหนี้ก็ผลัด บอกว่าหมุนไม่ทัน
ผลัดมาจนถึงวันที่ หลานสาวของเค้า เรียนจบ และจะย้ายไปเรียนต่อม.4 ย้ายตามครอบครัวไป
และหลังจากนั้น... "ก็ไม่ได้รับการติดต่อ" จากคุณลูกหนี้คนนี้อีกเลย
.... จนถึงเดือนสิงหาคม ปี2555 คุณยายได้เสียชีวิต คุณแม่เดินเข้ามาบอกเราว่า .....
. . . . . . . . เงินที่อาจารย์ต้น(ชื่อเล่นคุณลูกหนี้) ยืมไปนั้นเป็นเงินของยาย . . . . .. . .
คุณแม่เริ่มแบ่งสมบัติ ของสะสมของคุณยายให้หลานๆคนละเล็กคนละน้อย บางคนได้ทอง ได้แหวน ให้เก็บไว้เป็นที่ระลึก
จนถึงเรา ......แม่บอกว่า ของเก็บของยายหมดแล้ว ทุกคนได้หมด ลูกเป็นหลานคนเล็กสุด แบ่งๆกันมาไม่ถึงเรา 555
. . . . . . . เลยได้รับภาระการติดตามทวงหนี้ก้อนนี้กลับมาให้ได้ ถ้าทวงมาได้ "ก็เอาไปเลย"
ภาระกิจติดตามทวงหนี้ก็เริ่มต้น.......
* * * เรามีข้อมูลแค่ - สัญญากู้ยืมเงิน
- สำเนาบัตรประชาชน
- เบอร์โทร
เริ่มสืบค้นทางอินเตอร์เน็ท ,คนรู้จักของคุณลูกหนี้ ,โทรไปตามเบอร์โทรที่มี
ได้ข้อมูลมาเพียง .... - ย้ายเข้าไปอยู่ กทม. ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแถวรังสิต
- คุณลูกหนี้คนนี้เป็นหนี้คนอื่นอีกเยอะแยะมากมาย
- ครอบครัวแตกแยก หย่าร้าง
สืบเสาะหาข้อมูลมาตลอด จนพบ!!!
- เปลี่ยนชื่อใหม่
- พบ Facebook ในชื่อใหม่นี้ และติดต่อได้ เย้!!!!!!!!
. . . . แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด . . . . .
เริ่มคุยกับคุณลูกหนี้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2556
คุณลูกหนี้นัดเป็นหลังปีใหม่ ไม่เกินวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557
พอถึงวัน บอกยังไม่มีเลย จะพยายามหาให้ได้ จะทำให้ดีที่สุด ชีวิตที่ผ่านมาโคตรเศร้า
รอบนี้ขอเป็นสิ้นเดือน พอถึงสิ้นเดือน ก็เป็นเช่นเคย
แล้วก็ผลัดมาเรื่อยๆ อ้างเหตุผลสารพัด บอกว่าจะขายรถมาใช้หนี้ อ้างว่ารอจัดไฟแนนซ์ รอลูกค้าตัดสินใจ ฯลฯ
ผลัดจนมาถึงบัดนี้ = ="