สวัสดีครับ,

นี่เป็นกระทู้แรกของผมในพันทิพย์เลยเชียว งงๆ กับระบบเหมือนกัน ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยครับ

ผมก็อาจจะเหมือนๆ มนุษย์ปกติที่ทำงาน 7 โมงเช้า เลือกงาน 4 โมงเย็น สังสรรค์ศุกร์-เสาร์ อาทิตย์พักผ่อน
ความสุขที่สุดอย่างหนึ่งของผมคือ การนอน บางครั้งยังเคยฝันว่ากำลังนอนหลับอยู่เลย

กระทั่งเผลอคลิกกระทู้เด็ดพันทิย์ที่ฟีดเข้ามาในไทม์ไลน์ ได้อ่านที่เพื่อนๆชาวพันทิพย์ไปเที่ยวโน่นนี่นั่น บร๊ะ..คงถึงตาผมแล้วมั้งที่จะออกจากป่าคอนกรีตห้องสี่เหลี่ยมนี้ซะที

Shut down ปิดคอม แพ็คกระเป๋า ออกเดินทางโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้าว่าจะพักที่ไหน หัวหินนี่แหละใกล้ๆ คนเขาก็ยังพูดภาษาไทยอยู่ ค่าใช้จ่ายคงไม่น่าจะแพง

นั่งรถตู้จากรังสิต 200 บาท เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ไม่ได้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ ปกติผมจะมีหูฟังเอาไว้เป็น firewall
แต่ครั้งนี้ดันลืมเอามาด้วย พยายามนั่งหลังสุดให้ไกลจากคนขับ เพราะพลังในการคุยโทรศัพท์เขาเยอะมาก อีกทั้งการด่าจราจรรถติดตลอดทาง

(แต่ก็ไม่เคยได้ยินเขาด่าตัวเองซักที ผมว่าเขาขับค่อนข้างเสียวนะ ราวกับว่ารถทุกคันบนถนนคือคู่แข่งเขาเลย) อีกทั้งมนุษย์ป้า 3 คนที่นั่งขวางทางประตู ดีแล้วจัดโซนนิ่งไปนั่งใกล้ๆ คนขับ ผมขอพื้นที่เล็กๆอยู่หลังรถพอ อารมณ์เหมือนกำลังเล่น DotA แล้วอยู่เลนกลาง ดีหน่อยที่ไม่เปิด ulti พร้อมกัน นับว่าเป็น 3 ชั่วโมงนิดๆ กับหนังชีวิตในราคา 200 บาทก็ได้อีกอารมณ์ไปอีกแบบ


ถึงหัวหินประมาณ 4 ทุ่มกว่า ลงรถที่หอนาฬิกา (พยายามกวาดตามองแต่ก็ไม่รู้ว่าหอนาฬิกามันอยู่ตรงไหน)
กะจะเพื่อนที่อยู่นี่ อ่าว..ไม่ว่างไปออกไซต์ตจว. ดีเลยงั้นก็คงต้องโซโลเดี่ยวตามเคย

คติในการเที่ยวของผมมีอยู่ไม่กี่ข้อ คือ บ้านไกลเวลาน้อย,  ไปให้ไกล..ไปด้วยตีน เลือกที่จะเดินเที่ยวเพราะมันเป็นการทำคาดิโอไปด้วย สุดท้ายก็หาที่ตอกเสาเข็มนั่งชิล ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนนั่งเต็มโต๊ะ ขอแค่ 1-2 คนคุยด้วยก็พอแล้ว


ตามข้อมูลที่ได้มาคือ ควรจะไปเดินตลาดโต้รุ่ง? แต่ผมเลือกเดินไปหาทะเลก่อน กะว่าจะหาร้านชิลๆ นั่งเสพบรรยากาศหาดทราย สายลม และตัวเรา ...
แต่ไม่มีร้านแนวที่ผมอยากจะนั่งเท่าไหร่เลย สอบถามคนแถวนั้นว่าผมอยากได้ร้านแนวนี้นี้นี้นี้ ... ได้ความว่า ...บางบาร์และร้านคาราโอเกะแถวๆ สถานีรถไฟ (ชื่อเหมือนร้านในละครที่ผมชอบเลย มันคงจะแหล่มแท้ๆ) โอเค.. เดินจากหาดมาถึงนี่ต้องใช้คำว่าโซ้กเลยทีเดียว


แต่ชุดในการลงพื้นที่ของผมเป็นรองเท้าวิ่ง+เสี้อบอล+กางเกงเดินป่าและมีผ้าขนหนูเอาไว้ซับเหงื่อ ไม่หวั่นอยู่แล้ว
พอมาถึงหน้าร้านเกะ ถึงกับอุทานเลยเชียว ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่นิคมอุตสาหกรรมซักที่นึง บางบาร์ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่วาดไว้


มุ่งหน้าสู่ตลาดโต้รุ่งเพราะพยาธิในท้องส่งเสียงรบกวนมากแล้ว พอมาถึงที่นี่สิ่งที่สะดุดที่สุดคือ ที่ใส่ขวดเบียร์ เหลือลิเวอร์พูลเป็นอันสุดท้ายด้วย เย้! ผมไม่ได้ซื้อเพราะคนขายนะ (แต่น่ารักมากชอบเป็นการส่วนตัว หน้าใสเหมือนเกาหลีที่ไม่ได้ผ่านมีดหมอ ไม่ใส่ขนตาปลอม ไม่มีเมคอัพหนาๆ) โดนไปสองอันๆ ละ 60 บาท


มีสักลายรึว่าติดสติกเกอร์? กล้องโทรศัพท์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ ผมถ่ายภาพไม่ค่อยเป็นด้วยขออภัย


อันนี้เรียกไม่ถูก แต่เป็นงานศิลป์อย่างนึงละกัน

เมื่อเสร็จแล้วจะเป็นประมาณนี้ ถ้าหูไม่ฝาดราคาน่าจะ 400 บาท รับของ 1 วันหลังทำเสร็จ


เอ๊ะ..นี่มันร้าน Ko Seafood ที่เคยมีคนรีวิวก่อนหน้านี้หนิ งั้นขอผ่าน ... ผมเลือกร้านตรงข้ามที่เปิดเพลงฮิพฮอพที่ฟังดูมีชีวิตชีวา
ปกติผมก็ไม่ใช่ลิ้นจระเข้เท่าไหร่ กินอะไรก็กินๆไป พอมาถึงคำแรกที่บริกรถามคือ พี่...แฟนหงส์เหรอ! 555 ผมก็แฟนหงส์เหมือนกัน...

อ่าวมาถูกทางแว้ว สั่งสิงห์ใหญ่ก่อนเลยโดยไม่ต้องดูเมนู เหลือบไปเห็นซี่โครงหมูทอดกระเทียมโต๊ะข้างๆ น่ากินมากๆ ขอแบบโต๊ะนั้นจานนึงครับ เจ้าของโต๊ะบอกว่า ..อันนี้ไม่ได้ขายครับ ซื้อมาทำกินเอง แต่ถ้าไม่รังเกียจก็แบ่งไปได้นะ


ผมก็ตอบปฏิเสธไปเป็นพิธี แล้วก็สั่งปีกไก่ทอด กับ ปลาหมึกย่างแทน

ได้เวลาเปลี่ยนมือถือแล้วแหละ กล้องป่วยมากแล้ว


ปกติถ้ากินได้ที่แล้วผมจะชอบสั่งอะไรแปลกๆ ประมาณว่า something to surprise my mouth..
จึงถามบาร์เทนเดอร์ว่าทำ long Island icetea ได้ไหม .. เขาบอกว่าอันนี้เบสิกเลย โผมทำงานโรงแรมมา 9 ปี ถ้าทำไม่ได้ก็แย่แล้ว

มารู้ทีหลังว่าชื่อตุ้ย เด็กหงส์เหมือนกันอีก.. ชวนมานั่งกินที่โต๊ะด้วย... ยาวเลยทีนี้
แต่สูตรพี่แกนี่กินแก้วเดียวรู้เรื่องอะ กินแล้วเหมือนมีจักระไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง


ตีหนึ่งกว่าๆ กะจะเช็กบิลแล้ว แต่เจ้าของซี่โครงหมูทอดกระเทียมจานนั้นเดินไปเปิดเพลงอัสนี อ่าว... ชอบๆๆ ขอเสวนาฮาเฮด้วยหน่อยซิ ...
คุยไปคุยมาพี่แกนี่แหละชื่อโก เป็นเจ้าของร้านโกซีฟูดแล้วก็ร้านนี้ด้วย รวมทั้งร้านข้างๆ โน่นอีก
ขอเซนเซอร์ไว้นิดหน่อยละกัน (พี่แกเป็นแฟนเด็กผีนะ)


สรุปค่าเสียหายร้านนี้ บริการเป็นกันเอง เจ้าของใจดี ปีกไก่อร่อยมีการหมักก่อนทอด ปลาหมึกเฉยๆ
1.ปลาหมึกย่าง     120
2.ปีกไก่ทอด        120
3.สิงห์ 1+2 ขวด  100+120
4.Long Island     120
                        =580 บาท

หลังจากตอกเสาเข็มนั่งอยู่นานจนช่วยปิดร้าน ได้เวลาในการหาที่ซุกหัวนอนแล้วนะ มีข้อแม้ที่ต้องหาโรงแรมให้เร็วที่สุด เพราะต้องรีบเคลียร์ cache อย่างด่วน ลืมเข้าห้องน้ำจากที่ร้าน


เดินมาเรื่อยๆ จนเจอโรงแรมนึงมีประตูเหล็กโบราณๆ (ถ้ายังจำกันได้) หน้าฟรอนท์มีคนกางมุ้งนอน ผมคิดว่าเขาต้องเป็น doorbell/reception/cashier สอบถามห้องว่างขอพัก ห้องแอร์ 500 โอเคดีล ... (ตกลงพี่แกเป็นแม่มทุกอย่างเลย multi task อะ..)
ตื่นเช้ามาดูสภาพห้องแล้วแอบคิด.. ใจกล้าใช้ได้นะเราเนี๊ยะ ..


ขวดน้ำดื่มที่ให้มาเมื่อคืน เป็นขวดที่ยังไม่ได้เปิดใช้ แต่ไม่มีสลาก เอ๊ะ? ผมจึงใช้ไปอุปโภคแทน


หน้าฟรอนท์โรงแรม ที่มีตู้ๆ วางๆอยู่ นั่นเป็นที่ๆ พี่แกนอนเมื่อคืน ... แนวแท้


ไม่บอกแล้วกันนะโรงแรมชื่ออะไร แต่ขอบคุณที่มีที่ให้ผมได้นอน


สิ่งแรกที่พวกนักดื่มอยากทานตอนเช้าคือ ... อะไรร้อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ้ก เกาเหลา ผมเดินมุ่งหน้าสู่ทะเลเจอร้านนี้พอดี ... โจ้กหมดค่ะพอดีมาสายไปนะค่ะ (ก็ควรหมดอยู่นะเพราะมันจะเที่ยงแล้ว) งั้นต้มเลือดหมูแล้วกันครับ ไม่เอาข้าวเปล่า +กาแฟเย็น = 70 บาท


รสชาติถือว่าอร่อยเลยทีเดียวหรือเป็นเพราะหิวก็ไม่รู้

หลังจากนั้นก็เดินชมเมือง อากาศไม่ร้อนมากมีเมฆเป็นหย่อมๆ อุณหภูมิ 31.5 องศา
มุ่งหน้าสู่ชายหาดระหว่างทางซื้อแตงโม+น้ำผลไม้รวมกัน 30 บาท

แบบเท่ย์ๆ ก็มีให้เช่าเหมือนกันนะ แต่ผมยังคง concept เดิมนะ ... ไปให้ไกล ไปด้วย "ตีน" เดินเพื่อสุขภาพ

เริ่มรู้สึกว่าการเสพบรรยากาศทะเลตอนเที่ยงตรงนี่มันไม่ใช่แฮะ

อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส แต่เริ่มจะหน้ามืดละ เพราะแดดดีเกินไป

ร้านไวน์ก็มีนะ

หาโรงแรมใกล้ๆ ไปงีบซักพักจะดีกว่า ผมพยายามเดินหาร้านที่ใกล้ๆ แหล่งที่มีแสงสีนิดนึง ได้พักโรงแรมสุขวิลัย

ขอผ่านเรื่องการรีวิวโรงแรมนะครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยมีรสนิยมเท่าไหร่ รู่แค่ 0 กับ 1 หรือ on กับ off
ดีในความหมายผมอาจจะห่วยในความหมายคุณก็ได้ นานาจิตตัง

แต่ที่ผมสัมผัสได้ในถนนเส้นนี้คือ ตอนกลางคืนมันต้องคึกคักแน่ๆ เซนซ์มันบอก ดูได้จากรูป

งีบซักพักตื่นมา 4 โมงเย็น ได้เวลาของชายหาดแล้วสินะ

นั่งจิบเบียร์เย็นๆ เท้าสองข้างสัมผัสกับเม็ดทรายละเอียดๆ ลมทะเลพัดมาตีหน้าเบาๆ

มองดูทะเลที่ยาวสุดลูกหูลูกตา แหมะมันช่างน่าดูอะไรอย่างนี้ (ทะเลนะครับ ไม่ใช่ผู้หญิง)

เสพความสุขได้เกือบๆชั่วโมงก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่นั่งข้างหลังผมเรียกเช็กบิล
เออ... เราก็ไม่ได้บ้ามาเที่ยวทะเลคนเดียวนี่หว่า ข้างหลังเราก็มาชิลคนเดียวเหมือนกัน 5555

โอเค ได้เวลาของการเดินสำรวจหาร้านดูบอลคืนนี้แล้วสินะ

อันนี้ McDonald ข้างในเป็น subway ข้างบนร้าน US Rip และก็ร้านเบียร์อีกร้านแน่นอนแต่ยังไม่เปิด …
ok pending set up ไว้ก่อน



ร้านแนวเยอรมัน มีจอบอลด้วย ถ้าไม่มีที่ไปก็คงต้องเป็นร้านนี้

เมื่อคืนเหมือนคุณตุ้ยได้แนะนำร้านนั่งชิลชื่อร้านทองหล่อ ซอย 51 เดินไปดูหน่อยละกัน

ไกลใช้ได้เลยเชียว

พอเดินไปถึงนี่มันสองทุ่มกว่าแล้ว ทำไมยังไม่มีคนเลย อย่างเงียบ
เดินเลียบถนนมาเรื่อยๆ จนถึงเรือน 100 ปี มีจอบอล มีร้านอาหารญี่ปุ่น และอีกหลายๆร้าน
แวะซื้อน้ำมะพร้าวดับกระหายซักหน่อย พร้อมกับสอบถามคนขาย ...พี่ครับ คนแถวนี้เขาไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอ ทำไมเงียบจัง

พี่แกบอกว่าคนกรุงเทพเขาไปแถวโน้น...เขาตะเกียบ หรือ Santorini? แกพูดมาเยอะอยู่แต่ผมจำไม่ได้ Ram เริ่มน้อยเนื่องจากใช้งานมาทั้งวัน

งืมๆๆขอบคุณครับ แต่มันไม่ใช่ทางของผม ตัดสินใจกลับไปตั้งหลักที่โรงแรมก่อน
ระหว่างทางเหลือบไปเห็นร้านเพลิดเพลิน โอ้วบอลจอใหญ่ ที่นั่งเหมือนจะไม่แออัดและมีสาวเชียร์เบียร์ด้วย ร้านนี้แหละ! เดี่ยวกลับมา yeah

พอจะกลับผมจำชื่อโรงแรมได้แต่จำถนนไม่ได้ ดีนะที่ได้ google map ช่วยไว้ ได้พิกัดมาว่าอยู่ซอยบิณฑบาต
ระหว่างทางมาโรงแรมนี่ หลายๆที่กำลังเริ่มที่จะคลื้นเคลง