พุทธแบบเถรวาทส่วนใหญ่นั่งสมาธิยึดเหนี่ยวพระและคำสอนพระธรรมวินัย

แต่พุทธแบบมหายานหรือเต๋านั่งสมาธิเพื่อโคจรลมปราณ

พุทธแบบเถรวาทเชื่อว่าเมื่อละกิเลศปฏิบัติธรรมก็จะบรรลุอรหันต์หรือนิพพาน

แต่คนฝึกเต๋าไม่เชื่อแบบนี้ คำสอนเต๋าบอกว่า คนที่จะบรรลุเป็นเซียนได้ (เซียนเทียบเท่าพระโพธิสัตว์ของพุทธ) ต้องรู้วิธีฝึก alchemy นั่นก็คือรู้วิธีเปลี่ยน jing (sexual energy) ให้เป็น qi (ลมปราณ) และเป็น shen (วิญญาณ)
การเปลี่ยน jing (พลังที่ใช้สืบพันธ์) ให้เป็นพลังระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆนี้ เต๋ากับฮินดูเรียกว่า sublimation

พระอรหันต์ตั๊กม้อ (ผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลิน) ก็ฝึกเพิ่มพลัง jing (เพิ่มพลังน้ำอสุจิ แล้วเปลี่ยนมันเป็นยาอายุวัฒนะด้วยกระบวนการที่เรียกว่า sublimation) ทำให้ท่านเมื่ออายุ 180 ปี ยังแข็งแรงมากๆ การฝึกเพื่อบรรลุอรหันต์แนวพุทธแบบมหายาน มันผิดพระธรรมวินัยของพุทธแบบเถรวาท

สมมุติว่าแนวคิดของมหายานกับเต๋าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นั่นก็หมายความว่า ไม่มีพระในนิกายเถรวาท (แบบของไทย) รูปไหนเลยที่บรรลุอรหันต์ หรือเป็นพระโพธิสัตว์ หรือบรรลุนิพพาน นั่นก็เพราะว่า เท่าที่เห็นคำสอนเป็นภาษาไทย มันมีแต่สอนพระธรรมวินัย มันไม่มีคำสอนเรื่อง alchemy เลย คือโดยหลักการแล้วการเอาผู้ชายไปปฏิบัติธรรมและไม่มี sex นั้น น้ำอสุจิมันจะเต็ม และโดยธรรมชาติแล้วมันจะต้องออกมาสู่โลกภายนอก ด้วยการร่วมเพศ ฝันเปียก หรือนั่งสมาธิแล้วมันไหลออกมาเอง (คัมภีร์มหายานพูดเรื่องถ้านั่งสมาธิแล้วน้ำอสุจิเคลื่อนจะเดินลมปราณห้ามมันเคลื่อนได้ยังไง) หากผู้ปฏิบัติธรรมไม่รู้วิชา alchemy เค้าก็จะไม่รู้วิธีสกัดจุดตายเพื่อหยุดการเคลื่อนของน้ำอสุจิ เมื่อไม่รู้วิธีหยุดไม่ให้น้ำอสุจิออกมา sublimation ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น biological transumutaion ระดับสูงที่ทำให้สำเร็จเป็นอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หรือนิพพานก็ไม่มีทางเป็นไปได้

ทำไมคำสอนเต๋าถึงเน้นเรื่องการใช้ประโยชน์ jing
^
นั่นก็เพราะว่าปรมาจารย์นักพรตเต๋าคิดว่าพระผู้เป็นเจ้าสร้างมนุษย์ด้วย jing (คือ God มอบ sexual energy ให้มนุษยมีไว้แพร่พันธ์)

ดังนั้น มนุษย์จึงสามารถใช้ jing, qi  และ shen รวมเป็นพลังส่งขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อสื่อสารกับ God เมื่อสื่อสารได้สำเร็จในขั้นสูงสุด (วิญญาณ) มนุษย์ก็จะละสังขาร (ดึงวิญญาณออกจากร่าง) แล้วลอยขึ้นสวรรค์ไปเป็นเซียน