คือทีแรกจะไปรักษารากฟันกรามล่างขวา 1 ซี่ เพราะว่าฟันแตกไม่สามารถอุดได้ ค่าใช้จ่ายรวมครอบเกือบๆ 20000 บาท คราวนี้คุณหมอถามว่ามีโครงการจะจัดฟันหรือเปล่าเพราะว่าฟันผมมันไม่เรียงกันและเกค่อนข้างเยอะ ถ้าจัดก็ไม่ต้องรักษาราก ใช้วิธีถอนแล้วจัดให้ฟันเรียงเข้ามา ตอนนั้นผมก็ลังเลแล้วก็บอกหมอว่าผมอายุ 40 แล้วนะ สภาพฟันก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่อุดมาก็หลายซี่ไอ้ที่ผุก็มีอีก 2-3 ซี่ จะจัดได้เหรอครับ หมอบอกว่าได้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ค่าจัดก็ 45000 บาท เฉพาะค่าจัดนะ ผมก็เลยตกลงจัด ด้วยความคิดที่ว่าอยากจะทำให้ฟันมันดีขึ้นและอยู่กับเราไปนานๆ ดังนั้นจึงทำการถอนฟันที่ผุแตกข้างล่างออกไป 1 ซี่แล้วก็ใส่เหล็กจัดฟันเฉพาะฟันบนก่อนแล้วหมอบอกว่าต่อไปจะต้องถอนฟันออกอีกประมาณ 2 ซี่ เพื่อที่จะดึงฟันบนเข้ามา แล้วก็ยัดยางแยกเหงือกฟันด้านล่างไว้ 2 อันซ้ายขวา เพื่อเตรียมใส่ห่วงจัดฟัน แล้วนัดครั้งต่อไปไว้อีกประมาณเดือนนึง แต่ว่า 2 วันผ่านไป ผมไม่สามารถทนความเจ็บปวดของยางแยกเหงือกได้เพราะว่ากินข้าวหรืออาหารนิ่มๆยังไม่ได้เลย แค่ฟันกระทบกันก็เจ็บแล้วและนอนไม่หลับ มีไข้อยู่ 2 วัน ทำงานก็ไม่ได้เพราะมันปวดเหงือกและฟันตลอดเวลา คืนวันที่ 3 ผมนอนไม่หลับตื่นมาตอนตีสามตัดสินใจดึงยางแยกเหงือกออก และคิดว่าจะไม่จัดต่อแล้ว และก็มาค้นหาข้อมูลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับข้อเสียเกี่ยวกับการจัดฟันต่างๆ  และประเมินว่าปัญหาที่ผมน่าจะเจอคือผมอายุเยอะแล้วจัดฟัน 2 ปี คิดว่าไม่น่าจะเอาอยู่มันน่าจะนานกว่านั้น แล้วผมก็ต้องทำงาน จันทร์-เสาร์ อาทิตย์ก็ไม่ว่าง ถ้านัดหมอทุกเดือนอาจจะต้อง ลางานเดือนละวัน แล้วที่ทำงานก็ไม่มีอาหารอ่อนๆ นิ่มๆ ขายด้วย พอดีที่บ้านไม่ได้ทำกับข้าวกินเองครับ ถ้าต้องถอนฟันหรือดึงลวดจัดฟันอีกสงสัยจะกินอะไรไม่ได้อีก แล้วก็กล้วว่าฟันมันจะผุเพิ่มขึ้นเพราะว่าทำความสะอาดได้ไม่ดี และหลังจากจัดฟันเสร็จก็ต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดชีวิต ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้เลยครับว่าควรจะจัดต่อหรือว่าเลิกตอนนี้เสียเงินแค่งวดแรก 5-6 พันไปเลย แล้วไปใส่ฟันปลอมซี่ล่างแทนครับ ใครก็ได้ช่วยให้คำปรึกษาผมหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ