สวัสดีค่ะ จขกท.มีโอกาสได้ไปเยือนซิดนีย์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้ไปชมคอนเสิร์ตของ Jake Bugg ที่นั่น ปล่อยดองไว้นานมากกกก ไม่แน่ใจว่าจะรีวิวดีมั้ย (เพราะไม่รู้เขียนแล้วจะมีคนอ่านรึเปล่า) แต่อดไม่ไหวอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ
อันที่จริงอยากอวด ให้กับคนที่ชื่นชอบ Jake Bugg ได้ชมกันบ้าง เพราะฉะนั้นขอใช้พื้นที่ตรงนี้ทำรีวิวเลยละกันค่ะ
คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนต่างประเทศครั้งแรกของจขกท. และเป็นคอนเสิร์ตที่ไปคนเดียวตามปกติ นั่งเสิร์ชหาคอนดูแก้เบื่อๆ จนไปเจอว่า Jake Bugg จะมาจัดคอนที่ออสเตรเลีย เลยหูตาผึ่งทันที เนื่องด้วยซิดนีย์เป็นเมืองที่ใกล้ที่สุดและช่วงนั้นเป็นวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์พอดีจึงตัดสินใจไปซิดนีย์ค่ะ
เช็ก event concert จาก google แต่ภาพนี่ของ last.fm นะคะ
ตอนที่เช็กตอนแรกก็ไม่ได้รีบร้อนซื้อบัตรเพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกตั้งนาน (เสิร์ชหาคอนครั้งแรกตอนเดือนกุมภา) แถมตอนนั้นยังอยู่ที่ไทย จะซื้อจะไปเอาเดี๋ยวยุ่งยาก ลำบากอีก เป็นความขี้เกียจของจขกท.เอง 5555 แล้วช่วงกุมภาถึงมีนายุ่งเรื่องสอบ เรื่องฝึกงานด้วยเลยไม่ได้มาตามข่าวอีกเลย จนมาถึงกลางๆค่อนไปทางปลายมีนา จขกท.ถึงนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ซื้อบัตรเลย แล้วพอเข้าไปเช็กกับเว็บของผู้จัดก็คือ Enmore Theatre ผลเป็นดังนี้ค่ะ ....
ตอนนั้นโมโหตัวเองมากกก ที่ไม่ยอมซื้อบัตรแต่เนิ่นๆ มัวแต่ใจเย็นเกินไป พอโทรไปถามที่ Enmore เค้าบอกว่าบัตรขายหมดไปแล้ว แต่ถ้ามีคนเอามาคืนจะเอาไปขายหน้างาน ไอ้เราก็ไม่ไว้ใจว่าจะไปซื้อได้หน้างาน เลยตระเวนหาบัตรจากหลายๆที่ โชคดีมากๆที่ไปหาซื้อได้จากเว็บ gumtree (เว็บประกาศขายของ)
ตกลงราคา (ในเว็บ official บอกว่า 59.50 AUD) จขกท.ขอซื้อได้ในราคาราวๆ 65 AUD นัดหมายวันเวลามาเอาตั๋วเสร็จสรรพ .... แต่พอถึงวันนัด คนขายเค้าเบี้ยวนัดจขกท. ความรู้สึกตอนนั้นเซ็งมากๆ แต่เป็นโชคดีในโชคร้ายจริงๆที่คนเสนอขายบัตร เค้ายินดีส่งบัตรคอนฯมาให้จขกท.ฟรีๆ เพราะเค้ารู้สึกผิดที่เค้าเบี้ยวนัด เอิ่ม ถ้าบอกก่อนล่วงหน้าจะดีมากเลยนะ
สุดท้ายก็เลยได้บัตรคอนเสิร์ตมาฟรีๆค่ะ (แต่เสียค่ารถไฟข้ามเมืองไปรอ แพงพอๆกะค่าบัตรเลย) บัตรมาถึงแบบฉิวเฉียด ราวๆ 4-5 วันก่อนคอนเสิร์ต
ตัดมาวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายนเลยนะคะ ตามบัตรจะเปิดประตูเวลา 2 ทุ่ม และจากในเว็บโปรโมทจะมีวงเล่นเปิด 2 วง คือ วง The Growl และวง The Creases โซนที่จขกท.ได้มาเป็นบัตรยืน หน้าเวที ด้วยความที่จขกท.เป็นติ่งน้องเจคขั้นรุนแรงและคิดว่าด้วยส่วนสูงแบบเอเชียแล้วต้องโดนสาวๆฝรั่งบังแน่ๆ เลยรีบไปถึงให้เร็วที่สุด รู้ตัวอีกทีก็มาถึงหน้าโรงหนัง Enmore Theatre ตั้งแต่สีโมงครึ่ง มาถึงเป็นคนที่ 5 (ยังมีคนมาก่อนอีก!!)
บรรยากาศรอบๆนะคะ
สองสาวทางขวาของรูปมาถึงก่อนแต่อยู่คนละประตูกับจขกท. พวกเธอเข้าประตู 2 จขกท.ประตู 7 ไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไงเหมือนกัน แต่ตอนเค้าเปิดให้เข้า ให้ประตู 7 เข้าก่อนค่ะ
ป้ายบอกคอนเสิร์ตได้อารมณ์เรโทร
นอกจากไว้แสดงคอนเสิร์ตแล้วก็เป็นฮอลจัดงานอื่นๆด้วย ตอนแรกแอบคิดว่าที่ดูแคบๆแค่นี้จะยัดคนเข้าไปได้ยังไงตั้งเยอะแยะ
จขกท.ต้องมารอคิวตรงนี้ค่ะ เพราะเข้าประตู 7 ทางฝั่งนี้มีคนมาก่อนจขกท. 2 คน เป็นสาวร็อค
มาถึงเร็วเกินไปก็นั่งรอไปค่ะ นั่งกับพื้นต่อจากป้ายเข้าคิวนั่นแหละ รอไปเรื่อยๆ มีคนตามมาสมทบอีกทีก็ห้าโมงครึ่ง สังเกตดูคนที่มาเร็วจะมีผู้หญิง สาวๆวัยรุ่นทั้งนั้น จขกท.เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆจนแบตจะหมด เลยต้องหยุดเล่นเพราะตั้งใจจะถ่ายรูปในคอนมาต้องเซฟแบตไว้ ก็นั่งว่างๆไป คุยกับคนข้างๆไปเรื่อย
รอจนถึงทุ่มนึงเริ่มมีเจ้าหน้าที่ของ Enmore มาถึงค่ะ ตอนนี้ฝูงชนก็เริ่มแตกตื่นแล้วพอเห็นจนท. จนท.ก็มาจัดคิว บอกให้เตรียมบัตรพร้อม ID card / passport ให้พร้อม ห้ามเอาเครื่องดื่มเข้าไป ห้ามเอากล้องวิดีโอเข้าไป บลาๆๆ ถึงตอนนี้มีคนขายบัตรกันหน้างานเลยค่ะ ทั้งจากจนท.ทั้งคนทั่วไปเอามาขายต่อ จนถึงทุ่มครึ่งเค้าถึงเปิดให้เข้าไปได้ ประตู 7 เข้าไปก่อน ตอนนั้นจขกท.ใจเต้นแรงมาก ดีใจสุดๆกะว่าชั้นต้องได้ยืนแถวหน้าแน่ๆ บ้าจี้มาตั้งแต่สี่โมงครึ่งแบบนี้ ไม่ได้อยู่แถวหน้าแม่จะฆ่าคนตรวจตั๋วให้ .... แล้วพอเข้าไปก็ได้แถวหน้าจริงๆค่ะ อยู่เกือบตรงกลางเลยด้วย (กรี๊ดมากตอนนั้น)
แต่คนได้ตรงกลางจริงๆคือผู้หญิงที่มาถึง 2 คนแรก อ่ะอันนี้ไม่ว่ากัน เราเห็นกะตาว่าเค้ามาก่อน เค้าสมครได้แถวหน้า แต่แถวหน้าเกาะรั้วนี่เต็มในเวลาไม่ถึง 3 นาที จขกท.อาศัยว่าวิ่งไปถึงเร็วกว่าเลยได้หน้าสุดมาครอง ได้ที่แล้วเกาะรั้วให้แน่นหนาที่สุดเท่าที่จะทำได้
แถวหน้าาาาา
เข้ามาแล้วก็รอต่อไปค่ะ จนกว่าจะสองทุ่ม ช่วงนี้คนก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ร้อยละ 90 ของบัตรยืนด้านหน้าคือสาวๆทั้งนั้น มีผู้ชายบ้างประปราย และไอ้กฎที่ห้ามเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาก็ไม่ได้ผลค่ะ คนดื่มเบียร์เพียบบบบบบ
ช่วงรอคอนก็ตามปกติค่ะ เปิดเพลงคลอๆรอไปด้วย คนข้างๆก็ถ่ายเซลฟี่ เม้ามอยไปตามระเบียบ เรามาคนเดียวก็ยืนฟังเพลงไปชิวๆ (มีเพลง Eveyday is like Sunday - Morrissey กับ Rocking chair - Oasis แล้วก็ Drug don't work - The verve ที่พอร้องตามได้ ที่เหลือฟังไม่ออกค่ะว่าเพลงอัลไล) รอไปเรื่อยๆ 2 ทุ่มก็เริ่มมีคนปรากฎตัว ปรากฎว่าเป็นวงเปิดวงแรกคือ The Growl ซึ่งเราไม่รู้จักหน้าค่าตามาก่อน เรียกว่าวงอาจไม่ถูกนักเพราะเป็นศิลปินเดี่ยว ดูจากหน้าตาแล้วมาแนวๆฮิปปี้เซอร์ๆ ร้องไป 3-4 เพลงได้ นานมากๆๆๆๆๆๆๆ มีบางคนไม่สบอารมณ์ที่น้องเจคไม่ออกมาสักที เลยตะโกนขึ้นไปว่า "Get out of here Jesus!" ด้วย 555555
แต่คนร้องนี่หน้าเค้าเหมือนพระเยซูจริงๆนะ (ภาพประกอบจากในเว็บข่าวนะคะ เราไม่ได้ถ่ายรูปคนอื่นมา กะว่าถ่ายแค่น้องเจคอย่างเดียว)
พอผ่านวงแรกไปก็ตามมาด้วยวงที่ 2 The Creases วงอินดี้จากBrisbane ออสเตรเลียเอง ถึงตอนนี้ฝูงชนเริ่มคลั่งเพราะสามทุ่มกว่าแล้วน้องเจคยังไม่ขึ้นเวที
ส่วนตัวเรา enjoy กับ The Creases พอสมควรเพราะนักร้องนำ (โจ) น่ารักค่ะ 555555 หน้าเหมือน Alex Turner อัลบั้มแรกๆ ส่วนมือกีตาร์ จาร์รอด หน้าคล้ายๆ Alex James ผสมทรงผมของ Cavan จาก Swim Deep หารูปในคอนไม่ได้ แต่ขอเอา MV มาแปะแทนละกันนะคะ
เพลงที่เรารู้จัก I Won't Wait
เพลงใหม่ Static Line
พื้นที่โฆษณา
เอกลักษณ์ของวง the Crease คือกีตาร์ของ โจ นักร้องนำ เป็นกีตาร์หน้าตาแปลกๆ สาวๆกลุ่มข้างๆเราแซวกีตาร์โจด้วย เค้าเลยตอบติดตลกว่า เค้าซื้อมาจาก E-bay 55555 น่ารักจริงๆ
หลังจากผลาญเวลา
และพื้นที่กระทู้ไปพอสมควรแล้ว ก็ได้เวลาของน้องเจคขึ้นมาจริงๆซะที จำได้ว่าตอนนั้น 4 ทุ่มพอีดค่ะ พอ the Crease ลงไป น้องเจคจะขึ้นมา ฝูงชนก็ยิ่งบ้าคลั่ง(รวมทั้งจขกทด้วย) พอน้องเจคออกมาพร้อมหน้าง่วงๆ สาวๆพร้อมใจกันกรี๊ดแปดหลอดดังมากๆๆๆๆ (จขกท.ด้วยอีกเช่นกัน) มาถึงไม่มีแนะนำตัว ไม่มียิ้มทักทาย โบกมือเซย์ไฮแฟนๆค่ะ น้องเจคคว้ากีตาร์มาโซโลทันที
เพลงแรกคือ Kentucky
ต่อมาคือเพลงโปรดของจขกท. 4 เพลงรวด there's a beast and we all feed it > trouble town > seen it all และ me & you
แสงสีส้มถ้าจำไม่ผิดเพลง me & you
อันนี้ two fingers จขกท.โดนแก๊งสาวๆทางซ้ายมือเบียดจนมอยู่ตรงกลางเวทีในที่สุดค่ะ แต่อึดอัดมาก โดนบีบซ้ายขวาหน้าหลัง
ballad of mr.Jones
เพลง broken คือสุดยอดความพีคของคอนค่ะ เสียงยานคาง ช้าๆเนิบๆของน้องเจค ไฟมืดทั้งฮอล มีแสงส่องมาด้านหลัง แม่ยกน้องเจคแทบจะเป็นลม
Green man
ส่วนอันนี้เพลงโปรดของ จขกท.อีกเพลง taste it
เล่นไปสักชั่วโมงน้องเจคก็หลบไปข้างหลังค่ะ รอให้คนเรียก encore ออกมาอีกรอบ สังเกตเห็นว่าน้องเจคไม่พูด ไม่อะไรเลยค่ะ ร้องเพลงอย่างเดียว แล้วร้องต่อๆกันด้วย เอิ่ม ไม่เอนเตอร์เทรนคนดูเล้ยยยยยย แต่สำหรับจขกท.แค่เห็นน้องเจคใกล้ๆแค่นี้ก็ฟินแล้วค่ะ
พอ encore ก็ออกมาร้องต่อ อีก 3 เพลง รูปนี้คือเพลงปิดท้าย lighting bolt ค่ะ
คหสต.คิดว่า lighting bolt ไม่เหมาะกับการปิดท้ายสักเท่าไร เพราะเพลงจบอารมณ์ไม่จบ 5555555 กีตาร์มันชวนดิ้นต่อ ไม่ชวนแยกย้ายกลับบ้านจริงๆ
จบแล้ว มีพูดขอบคุณแฟนๆนิดนึง แล้วค่อยพาหน้ามึนๆกลับไปหลังเวที
และแน่นอนว่าตามธรรมเนียมศิลปินก็มีโยนปิ๊คกีตาร์แจกตามเรื่องตามราว น้องเจคก็โยนปิ๊กแจกค่ะ และนี่คืออีกอย่างที่จขกท.โชคดีมากๆๆๆๆคือได้ปิ๊กของน้องเจคกลับมาด้วย
ปิ๊กธรรมดาหน้าตาสามัญที่ไปตบตีแย่งชิงมา (เวอร์) ด้านหน้าปิ๊กเขียนไว้ว่า Jim Dunlop อีกด้านเขียนว่า USA Nylon .46 MM เสียดายนึกว่าจะเซ็นชื่อรึว่าอะไรไว้บนปิ๊กซะอีก
อันที่จริงเจคโยนปิ๊กไปสามอันค่ะ โยนให้ทางขวาของเวที 2 อัน กับทางซ้าย ไม่โยนตรงกลาง (เราอยู่ตรงกลางพอดี) แล้วอันที่โยนไปทางขวาของเวทีมันไปกระทบรั้วกั้น แล้วมันตกลงมาตรงหน้าจขกท.พอดี เพิ่งมาสังเกตเห็นตอนก้มหยิบกระเป๋า เลยเรียกการ์ดให้หยิบให้ ตอนแรกเค้าหยิบมาแล้วทำหน้ายิ้มๆแบบจะไม่ให้ ตอนที่จขกท.อ้อนวอนขอปิ๊ก แถวๆนั้นมีคู่วัยรุ่นคนจีนที่หาปิ๊กเหมือนกัน ท่าทางเค้าอยากได้เหมือนกัน จขกท.ก็อ้อนวอนการ์ดไปว่า เนี่ยเราเห็นมันคนแรกนะ ให้เราเถอะ พอเค้าทำท่าเหมือนจะยกมาส่อง จขกท.เลยคว้าปิ๊กมาเลยค่ะ แล้ววิ่งหนีออกจากคอนให้ไวที่สุด 555555555555 เหมือนขโมยเลย แต่การ์ดเค้าตั้งใจให้เราแต่แรกแล้ว ทำลีลาไปงั้นแหละ
บรรยากาศตอนคอนเลิกค่ะ
จบแล้วกับการรีวิว? รูปกากและเบลอหน่อยนะคะ จขกท.ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ถ่ายจริงมาเยอะมากๆๆๆๆ แต่ไม่ชัดทั้งนั้นเลย เป็นประสบการณ์ดีๆที่จขกท.อยากหาคนร่วมแชร์ค่ะ เพราะกลับจากคอนไปเม้ากับเพื่อนเพื่อนก็ไม่อิน เพื่อนออกความเห็นเดียวเกี่ยวกับคอนคือ น้องเจคหน้าเด็กเหมือนเด็กม.ปลาย 5555555 (เพราะใส่เสื้อยืด กางเกงยีน ตัวเตี้ย) ท่านใดเคยมีประสบการณ์ดูคอนต่างประเทศมาเม้ามอย แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
[CR] Review : Jake Bugg at Enmore Theatre Sydney (20 Apr 2014)
อันที่จริงอยากอวดให้กับคนที่ชื่นชอบ Jake Bugg ได้ชมกันบ้าง เพราะฉะนั้นขอใช้พื้นที่ตรงนี้ทำรีวิวเลยละกันค่ะคอนเสิร์ตนี้เป็นคอนต่างประเทศครั้งแรกของจขกท. และเป็นคอนเสิร์ตที่ไปคนเดียวตามปกติ นั่งเสิร์ชหาคอนดูแก้เบื่อๆ จนไปเจอว่า Jake Bugg จะมาจัดคอนที่ออสเตรเลีย เลยหูตาผึ่งทันที เนื่องด้วยซิดนีย์เป็นเมืองที่ใกล้ที่สุดและช่วงนั้นเป็นวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์พอดีจึงตัดสินใจไปซิดนีย์ค่ะ
เช็ก event concert จาก google แต่ภาพนี่ของ last.fm นะคะ
ตอนที่เช็กตอนแรกก็ไม่ได้รีบร้อนซื้อบัตรเพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกตั้งนาน (เสิร์ชหาคอนครั้งแรกตอนเดือนกุมภา) แถมตอนนั้นยังอยู่ที่ไทย จะซื้อจะไปเอาเดี๋ยวยุ่งยาก ลำบากอีก เป็นความขี้เกียจของจขกท.เอง 5555 แล้วช่วงกุมภาถึงมีนายุ่งเรื่องสอบ เรื่องฝึกงานด้วยเลยไม่ได้มาตามข่าวอีกเลย จนมาถึงกลางๆค่อนไปทางปลายมีนา จขกท.ถึงนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ซื้อบัตรเลย แล้วพอเข้าไปเช็กกับเว็บของผู้จัดก็คือ Enmore Theatre ผลเป็นดังนี้ค่ะ ....
ตอนนั้นโมโหตัวเองมากกก ที่ไม่ยอมซื้อบัตรแต่เนิ่นๆ มัวแต่ใจเย็นเกินไป พอโทรไปถามที่ Enmore เค้าบอกว่าบัตรขายหมดไปแล้ว แต่ถ้ามีคนเอามาคืนจะเอาไปขายหน้างาน ไอ้เราก็ไม่ไว้ใจว่าจะไปซื้อได้หน้างาน เลยตระเวนหาบัตรจากหลายๆที่ โชคดีมากๆที่ไปหาซื้อได้จากเว็บ gumtree (เว็บประกาศขายของ)
ตกลงราคา (ในเว็บ official บอกว่า 59.50 AUD) จขกท.ขอซื้อได้ในราคาราวๆ 65 AUD นัดหมายวันเวลามาเอาตั๋วเสร็จสรรพ .... แต่พอถึงวันนัด คนขายเค้าเบี้ยวนัดจขกท. ความรู้สึกตอนนั้นเซ็งมากๆ แต่เป็นโชคดีในโชคร้ายจริงๆที่คนเสนอขายบัตร เค้ายินดีส่งบัตรคอนฯมาให้จขกท.ฟรีๆ เพราะเค้ารู้สึกผิดที่เค้าเบี้ยวนัด เอิ่ม ถ้าบอกก่อนล่วงหน้าจะดีมากเลยนะ
สุดท้ายก็เลยได้บัตรคอนเสิร์ตมาฟรีๆค่ะ (แต่เสียค่ารถไฟข้ามเมืองไปรอ แพงพอๆกะค่าบัตรเลย) บัตรมาถึงแบบฉิวเฉียด ราวๆ 4-5 วันก่อนคอนเสิร์ต
ตัดมาวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายนเลยนะคะ ตามบัตรจะเปิดประตูเวลา 2 ทุ่ม และจากในเว็บโปรโมทจะมีวงเล่นเปิด 2 วง คือ วง The Growl และวง The Creases โซนที่จขกท.ได้มาเป็นบัตรยืน หน้าเวที ด้วยความที่จขกท.เป็นติ่งน้องเจคขั้นรุนแรงและคิดว่าด้วยส่วนสูงแบบเอเชียแล้วต้องโดนสาวๆฝรั่งบังแน่ๆ เลยรีบไปถึงให้เร็วที่สุด รู้ตัวอีกทีก็มาถึงหน้าโรงหนัง Enmore Theatre ตั้งแต่สีโมงครึ่ง มาถึงเป็นคนที่ 5 (ยังมีคนมาก่อนอีก!!)
บรรยากาศรอบๆนะคะ
สองสาวทางขวาของรูปมาถึงก่อนแต่อยู่คนละประตูกับจขกท. พวกเธอเข้าประตู 2 จขกท.ประตู 7 ไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไงเหมือนกัน แต่ตอนเค้าเปิดให้เข้า ให้ประตู 7 เข้าก่อนค่ะ
ป้ายบอกคอนเสิร์ตได้อารมณ์เรโทร
นอกจากไว้แสดงคอนเสิร์ตแล้วก็เป็นฮอลจัดงานอื่นๆด้วย ตอนแรกแอบคิดว่าที่ดูแคบๆแค่นี้จะยัดคนเข้าไปได้ยังไงตั้งเยอะแยะ
จขกท.ต้องมารอคิวตรงนี้ค่ะ เพราะเข้าประตู 7 ทางฝั่งนี้มีคนมาก่อนจขกท. 2 คน เป็นสาวร็อค
มาถึงเร็วเกินไปก็นั่งรอไปค่ะ นั่งกับพื้นต่อจากป้ายเข้าคิวนั่นแหละ รอไปเรื่อยๆ มีคนตามมาสมทบอีกทีก็ห้าโมงครึ่ง สังเกตดูคนที่มาเร็วจะมีผู้หญิง สาวๆวัยรุ่นทั้งนั้น จขกท.เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆจนแบตจะหมด เลยต้องหยุดเล่นเพราะตั้งใจจะถ่ายรูปในคอนมาต้องเซฟแบตไว้ ก็นั่งว่างๆไป คุยกับคนข้างๆไปเรื่อย
รอจนถึงทุ่มนึงเริ่มมีเจ้าหน้าที่ของ Enmore มาถึงค่ะ ตอนนี้ฝูงชนก็เริ่มแตกตื่นแล้วพอเห็นจนท. จนท.ก็มาจัดคิว บอกให้เตรียมบัตรพร้อม ID card / passport ให้พร้อม ห้ามเอาเครื่องดื่มเข้าไป ห้ามเอากล้องวิดีโอเข้าไป บลาๆๆ ถึงตอนนี้มีคนขายบัตรกันหน้างานเลยค่ะ ทั้งจากจนท.ทั้งคนทั่วไปเอามาขายต่อ จนถึงทุ่มครึ่งเค้าถึงเปิดให้เข้าไปได้ ประตู 7 เข้าไปก่อน ตอนนั้นจขกท.ใจเต้นแรงมาก ดีใจสุดๆกะว่าชั้นต้องได้ยืนแถวหน้าแน่ๆ บ้าจี้มาตั้งแต่สี่โมงครึ่งแบบนี้ ไม่ได้อยู่แถวหน้าแม่จะฆ่าคนตรวจตั๋วให้ .... แล้วพอเข้าไปก็ได้แถวหน้าจริงๆค่ะ อยู่เกือบตรงกลางเลยด้วย (กรี๊ดมากตอนนั้น) แต่คนได้ตรงกลางจริงๆคือผู้หญิงที่มาถึง 2 คนแรก อ่ะอันนี้ไม่ว่ากัน เราเห็นกะตาว่าเค้ามาก่อน เค้าสมครได้แถวหน้า แต่แถวหน้าเกาะรั้วนี่เต็มในเวลาไม่ถึง 3 นาที จขกท.อาศัยว่าวิ่งไปถึงเร็วกว่าเลยได้หน้าสุดมาครอง ได้ที่แล้วเกาะรั้วให้แน่นหนาที่สุดเท่าที่จะทำได้
แถวหน้าาาาา
เข้ามาแล้วก็รอต่อไปค่ะ จนกว่าจะสองทุ่ม ช่วงนี้คนก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ร้อยละ 90 ของบัตรยืนด้านหน้าคือสาวๆทั้งนั้น มีผู้ชายบ้างประปราย และไอ้กฎที่ห้ามเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาก็ไม่ได้ผลค่ะ คนดื่มเบียร์เพียบบบบบบ
ช่วงรอคอนก็ตามปกติค่ะ เปิดเพลงคลอๆรอไปด้วย คนข้างๆก็ถ่ายเซลฟี่ เม้ามอยไปตามระเบียบ เรามาคนเดียวก็ยืนฟังเพลงไปชิวๆ (มีเพลง Eveyday is like Sunday - Morrissey กับ Rocking chair - Oasis แล้วก็ Drug don't work - The verve ที่พอร้องตามได้ ที่เหลือฟังไม่ออกค่ะว่าเพลงอัลไล) รอไปเรื่อยๆ 2 ทุ่มก็เริ่มมีคนปรากฎตัว ปรากฎว่าเป็นวงเปิดวงแรกคือ The Growl ซึ่งเราไม่รู้จักหน้าค่าตามาก่อน เรียกว่าวงอาจไม่ถูกนักเพราะเป็นศิลปินเดี่ยว ดูจากหน้าตาแล้วมาแนวๆฮิปปี้เซอร์ๆ ร้องไป 3-4 เพลงได้ นานมากๆๆๆๆๆๆๆ มีบางคนไม่สบอารมณ์ที่น้องเจคไม่ออกมาสักที เลยตะโกนขึ้นไปว่า "Get out of here Jesus!" ด้วย 555555
แต่คนร้องนี่หน้าเค้าเหมือนพระเยซูจริงๆนะ (ภาพประกอบจากในเว็บข่าวนะคะ เราไม่ได้ถ่ายรูปคนอื่นมา กะว่าถ่ายแค่น้องเจคอย่างเดียว)
พอผ่านวงแรกไปก็ตามมาด้วยวงที่ 2 The Creases วงอินดี้จากBrisbane ออสเตรเลียเอง ถึงตอนนี้ฝูงชนเริ่มคลั่งเพราะสามทุ่มกว่าแล้วน้องเจคยังไม่ขึ้นเวที
ส่วนตัวเรา enjoy กับ The Creases พอสมควรเพราะนักร้องนำ (โจ) น่ารักค่ะ 555555 หน้าเหมือน Alex Turner อัลบั้มแรกๆ ส่วนมือกีตาร์ จาร์รอด หน้าคล้ายๆ Alex James ผสมทรงผมของ Cavan จาก Swim Deep หารูปในคอนไม่ได้ แต่ขอเอา MV มาแปะแทนละกันนะคะ
เพลงที่เรารู้จัก I Won't Wait
เพลงใหม่ Static Line
พื้นที่โฆษณาเอกลักษณ์ของวง the Crease คือกีตาร์ของ โจ นักร้องนำ เป็นกีตาร์หน้าตาแปลกๆ สาวๆกลุ่มข้างๆเราแซวกีตาร์โจด้วย เค้าเลยตอบติดตลกว่า เค้าซื้อมาจาก E-bay 55555 น่ารักจริงๆ
หลังจากผลาญเวลา
และพื้นที่กระทู้ไปพอสมควรแล้ว ก็ได้เวลาของน้องเจคขึ้นมาจริงๆซะที จำได้ว่าตอนนั้น 4 ทุ่มพอีดค่ะ พอ the Crease ลงไป น้องเจคจะขึ้นมา ฝูงชนก็ยิ่งบ้าคลั่ง(รวมทั้งจขกทด้วย) พอน้องเจคออกมาพร้อมหน้าง่วงๆ สาวๆพร้อมใจกันกรี๊ดแปดหลอดดังมากๆๆๆๆ (จขกท.ด้วยอีกเช่นกัน) มาถึงไม่มีแนะนำตัว ไม่มียิ้มทักทาย โบกมือเซย์ไฮแฟนๆค่ะ น้องเจคคว้ากีตาร์มาโซโลทันทีเพลงแรกคือ Kentucky
ต่อมาคือเพลงโปรดของจขกท. 4 เพลงรวด there's a beast and we all feed it > trouble town > seen it all และ me & you
แสงสีส้มถ้าจำไม่ผิดเพลง me & you
อันนี้ two fingers จขกท.โดนแก๊งสาวๆทางซ้ายมือเบียดจนมอยู่ตรงกลางเวทีในที่สุดค่ะ แต่อึดอัดมาก โดนบีบซ้ายขวาหน้าหลัง
ballad of mr.Jones
เพลง broken คือสุดยอดความพีคของคอนค่ะ เสียงยานคาง ช้าๆเนิบๆของน้องเจค ไฟมืดทั้งฮอล มีแสงส่องมาด้านหลัง แม่ยกน้องเจคแทบจะเป็นลม
Green man
ส่วนอันนี้เพลงโปรดของ จขกท.อีกเพลง taste it
เล่นไปสักชั่วโมงน้องเจคก็หลบไปข้างหลังค่ะ รอให้คนเรียก encore ออกมาอีกรอบ สังเกตเห็นว่าน้องเจคไม่พูด ไม่อะไรเลยค่ะ ร้องเพลงอย่างเดียว แล้วร้องต่อๆกันด้วย เอิ่ม ไม่เอนเตอร์เทรนคนดูเล้ยยยยยย แต่สำหรับจขกท.แค่เห็นน้องเจคใกล้ๆแค่นี้ก็ฟินแล้วค่ะ
พอ encore ก็ออกมาร้องต่อ อีก 3 เพลง รูปนี้คือเพลงปิดท้าย lighting bolt ค่ะ
คหสต.คิดว่า lighting bolt ไม่เหมาะกับการปิดท้ายสักเท่าไร เพราะเพลงจบอารมณ์ไม่จบ 5555555 กีตาร์มันชวนดิ้นต่อ ไม่ชวนแยกย้ายกลับบ้านจริงๆ
จบแล้ว มีพูดขอบคุณแฟนๆนิดนึง แล้วค่อยพาหน้ามึนๆกลับไปหลังเวที
และแน่นอนว่าตามธรรมเนียมศิลปินก็มีโยนปิ๊คกีตาร์แจกตามเรื่องตามราว น้องเจคก็โยนปิ๊กแจกค่ะ และนี่คืออีกอย่างที่จขกท.โชคดีมากๆๆๆๆคือได้ปิ๊กของน้องเจคกลับมาด้วย
ปิ๊กธรรมดาหน้าตาสามัญที่ไปตบตีแย่งชิงมา (เวอร์) ด้านหน้าปิ๊กเขียนไว้ว่า Jim Dunlop อีกด้านเขียนว่า USA Nylon .46 MM เสียดายนึกว่าจะเซ็นชื่อรึว่าอะไรไว้บนปิ๊กซะอีก
อันที่จริงเจคโยนปิ๊กไปสามอันค่ะ โยนให้ทางขวาของเวที 2 อัน กับทางซ้าย ไม่โยนตรงกลาง (เราอยู่ตรงกลางพอดี) แล้วอันที่โยนไปทางขวาของเวทีมันไปกระทบรั้วกั้น แล้วมันตกลงมาตรงหน้าจขกท.พอดี เพิ่งมาสังเกตเห็นตอนก้มหยิบกระเป๋า เลยเรียกการ์ดให้หยิบให้ ตอนแรกเค้าหยิบมาแล้วทำหน้ายิ้มๆแบบจะไม่ให้ ตอนที่จขกท.อ้อนวอนขอปิ๊ก แถวๆนั้นมีคู่วัยรุ่นคนจีนที่หาปิ๊กเหมือนกัน ท่าทางเค้าอยากได้เหมือนกัน จขกท.ก็อ้อนวอนการ์ดไปว่า เนี่ยเราเห็นมันคนแรกนะ ให้เราเถอะ พอเค้าทำท่าเหมือนจะยกมาส่อง จขกท.เลยคว้าปิ๊กมาเลยค่ะ แล้ววิ่งหนีออกจากคอนให้ไวที่สุด 555555555555 เหมือนขโมยเลย แต่การ์ดเค้าตั้งใจให้เราแต่แรกแล้ว ทำลีลาไปงั้นแหละ
บรรยากาศตอนคอนเลิกค่ะ
จบแล้วกับการรีวิว? รูปกากและเบลอหน่อยนะคะ จขกท.ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ถ่ายจริงมาเยอะมากๆๆๆๆ แต่ไม่ชัดทั้งนั้นเลย เป็นประสบการณ์ดีๆที่จขกท.อยากหาคนร่วมแชร์ค่ะ เพราะกลับจากคอนไปเม้ากับเพื่อนเพื่อนก็ไม่อิน เพื่อนออกความเห็นเดียวเกี่ยวกับคอนคือ น้องเจคหน้าเด็กเหมือนเด็กม.ปลาย 5555555 (เพราะใส่เสื้อยืด กางเกงยีน ตัวเตี้ย) ท่านใดเคยมีประสบการณ์ดูคอนต่างประเทศมาเม้ามอย แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น