เนื้อหาทั้งหมดนี้ มีการ สปอยด์ เนื้อเรื่องในภาค 1-4  
และ สปอยด์ โครงเรื่องดั้งเดิมของ ทรานส์ฟอเมอร์ ต้นฉบับ
ใครไม่เคยดูไม่เคยอ่าน ไม่แนะนำให้อ่านต่อนะครับ


























เมื่อรับทราบแล้ว ก็ไปดูกันเลย








เอาละครับ หลังโดนลบไปทีนึง เพราะ หัวกะทู้ที่ตั้ง ทำให้หลายท่านเข้าใจผิด
ต้องขออภัย ที่ตั้งชื่อทำให้เข้าใจผิด
ขอบคุณ เพื่อนสมาชิกที่ เซฟแคชมาให้กันมากมาย
ผมก็หาแคชไม่เป็นครับ โมโหตอนที่ลบกะทู้แล้วไม่มีเนื้อหาที่เขียนไว้นี่แหละ





[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาค 4 ออฟติมัส ไม่ตายนะครับ











จากภาค 1-4  ใน ภาพยนตร์

ในภาค 2 มีฉากให้ไพร์มตาย แล้วฟื้นหลอกคนดูไปแล้ว 1 ครั้ง

ในภาค 3 มีตายหลอกคนดู อีก 1 ครั้ง


ผมบอกตรงๆ ในฐานะแฟนตัวยง

ผมใจหายใจคว่ำทุกครั้ง




เพราะอะไร ?


ตามเนื้อเรื่องเดิมของ ทรานส์ฟอเมอร์ นั้น

ออฟติมัส ผู้นำออโตบอท รุ่นแรก "ตาย"  จริงๆ ในภาค มูฟวี่ ปี 1986




ในตอนนั้นถือว่า เป็น "ความผิดพลาด" อย่างแท้จริง สำหรับแฟนๆ


ท้าวความก่อน

ต้นกำเนิดของ Transformers เกิดปี ค.ศ. 1972 บริษัท Takara  เริ่มออกของเล่นชุด ไมโครแมน ในญี่ปุ่น

ของเล่นในชุดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหุ่นฟิกเกอร์และก็ได้รับความนิยมอย่างมาก
(ในไทยก็มีกระแสกับเขาด้วย แต่ตามหลังกัน 10 ปีได้)


จนในปี 1980 Takara
ได้พัฒนาของเล่นชุดนี้เป็น New Microman พร้อมทั้งออกของเล่นชุดใหม่คือชุด DIACLONE  ที่จะเน้นไปที่หุ่นยนต์อย่างเดียว
และ ออฟติมัส ก็ได้ถือกำเนิดครั้งแรกอยู่ในชุด DIACLONE นี้


จนกระทั่งปี 1982 Takara จึงเริ่มออกของเล่นหุ่นยนต์แปลงร่างจากยานพาหนะในโลกของความเป็นจริงออกมา ทั้งชุด ไมโครแมน และชุด Diaclone พร้อมๆกัน


หลังจากนั้นบริษัท Hasbro ของสหรัฐอเมริกาก็ได้ทำการนำ Diaclone ไปขายในสหรัฐอเมริกาในชื่อ Transformers และกลับมาขายในญี่ปุ่น


จนเกิดคดีความฟ้องร้องขึ้นมาเรื่องการมีสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายและเจ้าของลิขสิทธิ์ของทรานส์ฟอร์มเมอร์สขึ้นมา
เนื่องจาก Hasbro ได้ทำการช่วงชิงการจดลิขสิทธิ์ ทรานส์ฟอร์มเมอร์สไปก่อนผู้ให้กำเนิดอย่างTAKARA ทำให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นมา
โดยสุดท้ายแล้ว สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายของทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ในญี่ปุ่น คือ TAKARA ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงและบิดาผู้ให้กำเนิดทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ส่วนHasbro ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายทรานส์ฟอร์มเมอร์สทั่วโลก (ยกเว้นญี่ปุ่น)


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฟังดูอาจคล้ายกรณี อุลตร้าแมน ที่มีคนไทย ฟ้องขอลิขสิทธิ์กันนะครับ แต่ไม่เหมือนครับ
กรณีนี้ คือ HASBRO ขโมย ผลงาน ของ TAKARA โดยการ จดลิขสิทธิ์ ที่อเมริกา
ดื้อๆ แบบกรณีข้าวหอมมะลิไทย ที่เราขายกันมา 100 ปี จู่ๆ อเมริกาจดซะงั้น



ในระหว่างนั้นทีมการตลาดของ Hasbro ผู้ถือสิทธิ ได้ประกาศให้ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ทำเป็นแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์
โดยร่วมมือบริษัท มาร์เวล คอมมิค (ซึ่งเป็นเจ้าแรกในการทำหนังสือการ์ตูนชุดนี้) และบริษัท โตเอะ แอนิเมชัน ของญี่ปุ่น ฉายครั้งแรกในปี 1983
ที่อเมริกาทั้งหมด 13 ตอน จุดประสงค์ที่ทำเป็นแอนิเมชั่น คือ เพื่อให้ตัวละครมีชีวิต และแปลงร่างให้เด็กอยากได้
หรือโฆษณาขายของเล่นนั่นเอง   แต่ตอนแรกไม่ประสบความสำเร็จ


จากนั้น วางแผนทำซีซั่น 2 โดยมอบหมายให้ ส่วนแอนิเมชันถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท Sunbow และ ทีมงานญี่ปุ่นโดยบริษัท Toei
และทีมเกาหลีโดยบริษัทแอนิเมชันโนเนม (ซึ่ง บ. โนเนม ของเกาหลี ก็สร้างชื่อให้ทรานสฟอเมอร์ ในการเผางานอย่างสุดๆ หลายๆตอน ส่วนตอนที่ภาพสวยแอดชั่นดี เป็นตอนที่เขียนจาก Toei ล้วนๆ )


ซึ่งทีมการตลาดคิดไปไกลว่า ในการจะไปขึ้น ซีซั่น 2-3  นั้น ต้องมีแรกดึงดูด หรือแรงกระตุ้นที่จะทำให้
คนหันมาดู เพราะภาคแรกถือว่าล้มเหลว (ในตอนนั้น)


สิ่งที่ทีมงานคิดขึ้นมาได้คือ


"ออฟติมัสต้องตาย"

เหตุผลที่งี่เง่าที่สุด มาจากเหตุผล ที่ว่า

"พระเอกควรเปลี่ยนเป็น รถสปอร์ตอเมริกัน เร็วและแรง ไม่ใช่ สิงห์รถบรรทุกคะนองนา
เด็กๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย น่าจะชอบ รถสปอร์ตแรงๆ มากกว่า รถบรรทุก"


เมื่อสุมหัวกันจนควันขึ้นแล้ว มันก็เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งภายหลัง เสียงก่นด่าจึงตามมาในภายหลังซึ่งก็สายไปแล้ว (ในตอนนั้น)
ในเมื่อ ทีมงานต้องการขายหุ่นตัวใหม่ๆ เรื่อยๆ พระเอกจึงต้อง "เปลี่ยน"




ใน ภาค -Fight! Super Robot Lifeform Transformers [Movie] (1986)


ทีมงานก็สมหวังในการฆ่า ออฟติมัส




โดย การตายของ ออฟติมัส เกิดขึ้นในการ ดวลกับ เมกาทรอนส์ ในภาค THE MOVIE (1986)

ที่ตั้งใจสร้างมาเพื่อ "เปลี่ยน" ผู้นำคนใหม่จริงๆ




ในฉากดังกล่าว ออฟติมัส ดวลกับ ศัตรู ฟ้าประทาน เมกาทรอนส์


ออฟติมัสชนะในการต่อสู้ แต่ว่า
ความเป็นผู้นำที่ใจดี คิดถึงแต่ลูกน้อง
"ฆ่าออฟติมัส" เสียเอง

ซีนในตำนาน



ตอนเด็กๆ ผมดูแล้ว โกรธ ฮอทรอด มาก
ถ้าเอ็งไม่เข้ามาออฟติมัสก็ไม่ตายแล้ววววววววววว


ซึ่ง หลักจากฉากนี้ ออฟติมัส ได้มอบ เมทริกแห่งผู้นำ ให้ กับ
ULTRA MAGNUS

ULTRA MAGNUS
ผู้นำคนใหม่ ที่ มีความแข๊งแกร่ง (แต่รูปร่าง)




ส่วน เมกาทรอนส์ ที่พ่ายแพ้ ได้รับพลัง จาก ยูนิครอนส์ ทำให้กลายร่างใหม่เป็น


กัลวาทรอนส์


และ กัลวาทรอนส์ได้ สู้กับ ผู้นำใหม่ของ AUTO BOTS
ULTRA MAGNUS  



ภาคประกอบ เหมือนจะดุเดือด นะครับ แต่ ในภาค 1986 นั้น
ผลคือ MAGNUS เละเทะ ครับ



เนื่องจากจะใช้พลังจาก แมกทริกส์ แต่ แมกทริกส์ ไม่ยอมรับความเป็นผู้นำ ของ MAGNUS (ไม่มีความเป็นผู้นำ)
MAGNUS เลยถูกกัลวาทรอนส์ฆ่าตาย


ในตอนสุดท้าย ฮอทรอด ได้บุกเดี่ยวไปตัวๆ กับ กัลวาทรอนส์ ที่ขโมย แมกทริกส์แห่งผู้นำ
ไปแขวนคอไว้เท่ๆ

ระหว่างสู้กัน บังเอิญ ฮอทรอด ได้จับไปที่แมกทริกส์ และ แมกทริกส์ได้ตอบรับ
"ฮอทรอด ชั้นเลือกนาย"  เฮ้ย ไม่ใช่โปเกมอน


พลังเลยตกเป็นของ "ฮอทรอด"  ไอ้หนุ่มรถซิ่ง (ตัวปั้นให้เด่น เน้นยอดขาย จากทีมการตลาด HASBRO)




พอได้พลัง พี่แกเปลี่ยนชื่อซะงั้น อัพเกรดเป็น
"ท่านโรดิมัสไพร์ม"  แถม จากรถซิ่งกลายเป็น รถบ้านซะงั้น
พลังไพร์ม นี่มัน ใครได้ไป ต้องมี "พ่วง" สินะ



ซีน ฮอทรอด รับพลัง อัพเกรด

กัลวาทรอนส์ : เข้ามาเลยไอ้หนู คน(หุ่น)เราต้องตายสักวันอยู่แล้ว
ฮอทรอด : ไม่ใช่วันนี้ กัลวาทรอนส์


ฉากได้พลังของฮอทรอด  พร้อมเพลง ที่ขึ้นมาว่า YOU GOT THE POWER ยังเท่เหมือนเดิม  
ตอนเด็ก กรอกวีดีโอดูตั้งหลายรอบ

นาทีที่ 2.08
YOU GOT THE POWER YOU GOT THE POWER YOU GOT THE POWER



เล่าเท่านี้พอ

ใครอยากหาดูภาคนี้ ลองหาซื้อ DVD ได้ สนุกมาก




เอาล่ะ เป็นอันจบ ตอน เดอะมูฟวี่ 1986 แบบคร่าวๆ



เกริ่นมานานละ ในเมื่อเนื้อเรื่องหลักเป็นแบบนี้
และสำหรับคนดูภาค 1- 4 มาแล้ว

จะเห็นได้ว่า ทีมสร้าง และไมเคิล เบย์ ไม่ได้เดินตามเนื้อเรื่องเดิม
ซึ่งก็ ไม่แปลกใจ เพราะ ทรานส์ฟอเมอร์ นั้น สร้างมาจากของเล่น
และเนื้อเรื่องเดิมก็ น้ำหนักเบาหวิว เพราะ เน้นออกหุ่นใหม่ขายของ
ดังนั้น ใน ภาค 1-3 จึงมีการวางโครงเรื่อง ตามใจผู้สร้างหนัง

ซึ่ง ขัดใจแฟน ทรานส์ฟอเมอร์อย่างผมมาตลอดดดดด (แต่ก็ดูนะ)


ตั้งแต่การเปิดตัว หุ่นแต่ละตัว ที่ไม่เรียงกัน

ไม่งั้นเราคงได้ดู เดวาสเตเตอร์ อัดกับ ไดโนบอท กันไปแล้ว



และเจทไฟร์ สุดเท่

คงออกมาหงำเหงือก ขนาดนี้



โชคดีที่ใน TF4 วางโครงให้ กัลวาทรอนส์ กำเนิดจากมนุษย์ ซึ่งทำให้โอกาส ตาย
ของ ออฟติมัส เป็นไปได้ยากแล้ว

ยิ่งการวางบท ไม่ได้วาง รอดิมัส หรือ ฮอทรอด ไว้เลย (ไม่วางตัวแทนไว้) แถมทุกภาค
หุ่นในสังกัดทยอยตาย ไม่ก็หมดบทไปเอง
มีแต่ บัมเบิ้ลบี เฮียเบย์ ไม่น่าใจกล้า ฆ่าออฟติมัสแล้วให้
หุ่นหน้าใหม่โนเนม นำทัพ หรือดัน บัมเบิ้ลบี เป็น ไพร์มแทนแน่ๆ

เพราะ จากภาค 1986 นั้น ทีมงาน HASBRO ก้ได้รู้ซึ้งแล้วว่า  ความผิดพลาดที่ให้ ออฟติมัส ไพร์ม ตาย
และไม่สามารถปั้น ผู้นำคนใหม่มาให้ติดตลาด และแฟนๆยอมรับได้
ขนาด ออฟติมัสตายในหนัง ของเล่นออกมายังขายดี
ในเวลาต่อมา ออฟติมัสจึงได้ คืนชีพ หรือ รีเซทจักรวาลกันใหม่ ในภาคอื่นๆ และในภาคของเล่น
ดังนี้
Transformers: Generation 1
Transformers: Generation 2
Beast Wars
Machine Wars
Robot Masters
Transformers: Titanium
Transformers: Alternators
Transformers: Classics
Transformers: Universe
Smallest Transformers
Transformers: Masterpiece
Transformers: Music Label
Transformers: Sports Label
Transformers: Alternity
Transformers: Reveal the Shield

ซึ่งทำให้เห็นว่า TRANSFORMER ขาด ออฟติมัส ไพร์ม ไม่ได้จริงๆ





และเมื่อ ตอนจบ TF4 ขอสรุปส่วนสำคัญในการคาดเดา เนื้อเรื่องภาค 5 ไว้ดังนี้
- กัลวาทรอนส์ พร้อมพวก ยังรอ จะครองโลก หรือล้มล้างออโต้บอทอยู่
- ไดโนบอท ทั้ง 4 เป็นพวก ออโต้บอท
- ออฟติมัส  บินไปหาผู้สร้าง ที่ส่ง ล๊อคดาวน์ มาจับ ออฟติมัส
- ตอนนึง ล๊อคดาวน์ บอกนัยๆ ว่า ท่านผู้สร้าง สร้าง หุ่นระดับขุนพล (ไพร์ม) ไว้สำรวจดาวต่างๆ


เมื่อ มีการวางเนื้อเรื่องแบบนี้ ผมเลยเดาแบบมั่นใจเลยว่า ถ้าไม่มีการสร้างตัวละครใหม่
ในภาค TF5
บทต่อไปต้องเป็น ของ

ผู้กลืนกินดวงดาว

ยูนิครอนส์




แน่ๆเลย

โดยถ้าเป็นไปตามนั้น ก็ไม่น่าพลาด เพราะตอนจบ TF4 ไพร์มเดินทางไปอวกาศแล้ว
และในเมื่อ ทีมสร้างไม่ได้อิงตามเนื้อเรื่องเดิมเลย โดดข้ามไปข้ามมา ตามความเหมาะสมของหนังแล้ว



บอส อาจจะมา แพคคู่ ถ้า ยูนิครอนส์ออกมา
ก็อดคิดไม่ได้ว่า
อีกท่านจะ มีบท ด้วยไหม ?

ท่าน ไพร์มมัส หรือ พรีมัส


ผู้ซึ่งเป็นดั่ง เทพเจ้าของเหล่า ออโต้บอท

แต่คงยากเพราะ จะเอา ระดับล้างจักรวาล ออกมาทีเดียว ออฟติมัส จืดพอดี
น่าจะมาท่านเดียว คือ ยูนิครอนส์นั่นแหละ

ถ้ามาคู่ จริงก็ไม่ต้องมีบทที่โลกแล้วคร๊าบบบบบบบบ สงครามอวกาศไปเลย
เบื่อบทของ มนุษย์ที่กินเนื้อเรื่องเต็มทีแล้วคราบบบบบบบบ



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และ ถ้าเป็นแบบนั้น ภาค 6 ก็คง




ท่านอื่นคิดว่าไง ?


ขอบคุณข้อมูล จาก วิกิพีเดีย
ภาพประกอบจากกูเกิ้ล
และความทรงจำวัยเด็กของผมเอง